มาศาลพร้อม6จำเลย ยื่นขออีกเดือน2หมื่น ‘กระติก-แซน’ปฏิเสธ นัดสืบพยานถึงสค.67

แม่‘แตงโม’อดีตดาราสาว กับจำเลยทั้ง 6 มาตามนัดศาลนนทบุรี นัดตรวจพยานคดีแตงโมตกสปีดโบ๊ตเสียชีวิตเมื่อต้นปี แม่ยืนยันเหตุที่ไม่เอาผิด ปอกับโรเบิร์ต เพราะทั้งคู่จ่ายเยียวยาช่วยเหลือจนพอใจแล้ว แต่ยังติดใจ แซน-กระติก-จ๊อบ ที่ไม่เคยติดต่อเลยยื่น ขอเงินชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มอีกเดือนละ 2 หมื่นบาท จากที่ได้รับอยู่ 3 หมื่น ไปจน แม่อายุถึง 80 ปี แต่จำเลยทั้งหมดปฏิเสธ กางสัญญาประนีประนอมที่แม่เซ็นยอมความที่ ทุกคนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จะมาเรียกร้องเพิ่มเติมภายหลังไม่ได้ ศาลนัดสืบพยานคดี ฝ่ายโจทก์ 139 ปาก เป็นฝ่ายจำเลย 40 ปาก รวม 48 นัด เริ่ม 2 มี.ค.ปีหน้า ไปจนถึง 16 ส.ค.67

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดตรวจพยานในคดี แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ อดีตดาราสาวชื่อดัง ที่ตกเรือสปีดโบ๊ต เสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการนัดตรวจพยาน ทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย โดยนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม ได้เข้าร่วมนัดตรวจพยานด้วย

ทั้งนี้ ในการนัดสืบพยาน นางภนิดาได้ชี้แจงว่า เหตุผลที่ไม่ติดใจเอาผิดกับจำเลยที่ 1 และ 2 ซึ่งคือ นายตนุภัทร หรือ ปอ เลิศทวีวิทย์ และนายไพบูลย์ หรือ โรเบิร์ต ตรีกาญจนา นันท์ เนื่องจากได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ จนเป็นที่พอใจแล้ว ส่วนจำเลยที่เหลือยังติดใจอยู่คือ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน นายนิทัศน์ หรือ จ๊อบ กีรติสุทธิสาธร และ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือทนายเอ็ม เนื่องจากยังไม่ได้รับการติดต่อเยียวยาใดๆ จึงขอเพิ่มเงินชดใช้ค่าเสียหายอีกเดือนละ 2 หมื่นบาท รวมเป็น 5 หมื่นบาท

รายงานข่าวระบุว่า จากการที่นางภนิดาเรียกร้องเงินชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติมดังกล่าว ทำให้ทางทนายความส่วนตัวของฝ่ายจำเลย ทั้ง 6 คน ได้นำหนังสือเอกสารสัญญาประนีประนอมยอมความในความเสียหาย แพ่งมาแสดงชี้แจงให้นางภนิดารับทราบว่า ในการเยียวยาครั้งแรกนั้น ทางฝ่ายจำเลยทั้ง 6 คน ได้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้นางภนิดาจนเป็นที่พอใจต่อหน้าศาลแล้ว และนางภนิดาก็เซ็นหนังสือสัญญายินยอมแล้ว การที่ นางภนิดาจะมาเรียกค่าชดเชยรายเดือนเพิ่มเติมจากที่ฝ่ายจำเลยต้องจ่ายให้เดือนละ 3 หมื่นไปจนถึงอายุ 80 ปีแล้วจะมาขอเพิ่มอีกเดือนละ 2 หมื่นบาท เป็น 5 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นการเรียกร้องเพิ่มเติมหลังจากที่ทำหนังสือสัญญาตกลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ทางฝ่ายจำเลยทั้ง 6 คน ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นข้อเรียกร้องเพิ่มเติมที่มาภายหลัง ทำให้นางภนิดาพร้อมทนายความส่วนตัวเดินทางกลับในทันทีหลังจากนัดตรวจพยานในคดีแล้วเสร็จ

ตรวจพยาน – ‘กระติก’ อิจศรินทร์ และ ‘แซน’ วิศาพัช พร้อมจำเลยรวม 6 คน เดินทางมาศาลจังหวัดนนทบุรี ตามนัดตรวจพยานคดี ‘แตงโม’ นิดา พัชรวีระพงษ์ อดีตดาราสาวที่เสียชีวิตจากตกสปีดโบ๊ต เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.

จากนั้น นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความ ส่วนตัวของกระติก เปิดเผยว่า ในคดีนี้จะมีการสืบพยานจำนวน 139 ปาก ซึ่งเป็นพยานฝ่ายโจทก์ทั้งหมด ส่วนฝ่ายจำเลยมีพยานประมาณ 40 ปาก โดยนัดแรกซึ่งเป็นนัดเริ่มต้นวันที่ 2 มี.ค.2566 จากนั้นจะมีสืบพยานทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 16 ส.ค.2567 จำนวน 48 นัด คือฝ่ายโจทก์จำนวน 36 นัด และฝ่ายจำเลย 12 นัด จึงจะจบสิ้นในการนัดสืบพยานคดีนี้ ซึ่งใช้เวลาประมาณปีกว่าๆ

ด้านน.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ และแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ สองจำเลยในคดีได้เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการนัดตรวจพยานที่ศาลจังหวัดนนทบุรี

โดยกระติกกล่าวว่า วันนี้ได้เข้าไปสวัสดีทักทายคุณแม่แตงโมตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ประเด็นที่ว่าคุณแม่ไม่ติดใจจำเลยหนึ่งกับสอง ซึ่งหมายถึงปอและโรเบิร์ต แต่อาจติดใจจำเลยคนอื่นๆ นั้น ตนไม่ทราบ หยั่งถึงเข้าไปในจิตใจของคุณแม่ว่าคิดอะไร ยังไง ซึ่งก็เป็นมุมมองของคุณแม่ ตนไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว เพราะเจอกันก็ทักทายคุยตามปกติ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย

ส่วนความมั่นใจในการต่อสู้คดี กระติกกล่าวว่า มีความมั่นใจและเน้นเอาความจริงมาต่อสู้เป็นหลัก แต่จากการที่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนในคดีนี้ ออกมาให้ข่าวให้สัมภาษณ์ว่ามีความมั่นใจในคดีชนิดที่เรียกว่าขั้นเปิดศึกกับฝ่ายตนนั้น ตนเพิ่งมาเห็นข่าวหลังพิจารณาเสร็จสิ้น ก็เลยรู้สึกแปลกใจมาก เพราะตามปกติเมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้ว ก็ไม่ควรเอาเรื่องในคดีมาพูดต่อสาธารณะอีก แต่บุคคลดังกล่าวเอามาพูดแบบมั่นใจมากคล้ายจะเป็นการเปิดศึกกับฝ่ายตนเต็มที่ เลยรู้สึกสงสัยว่า เกลียดอะไรตนหรือจำเลยหนึ่งใน 6 คนหรือเปล่า ที่ผ่านมาก็เห็นว่าคดีใหญ่ๆ ก็ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่ออกมาพูดอะไรแบบนี้เลย แสดงว่าตอนนี้เราคือศัตรูกันใช่ไหม ทั้งๆ ที่ผู้เสียหายอย่างคุณแม่ของแตงโมก็ยังปกติกับเรา ตนจึงเกิดความสงสัยในกระบวนการยุติธรรมและสงสัยว่า การพูดเช่นนี้เข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ เพราะเคยมีนักกฎหมายผู้ใหญ่บอกกับตนว่า หากคดีก็ยังไม่ถึงที่สุดหรือมีคำพิพากษา เมื่อคดียังอยู่ในศาลก็ไม่ควรออกมาพูดเช่นนี้ ฝ่ายเราก็มีสิทธิต่อสู้คดี พอเจอคำพูดแบบนี้ก็เหมือนรู้สึกว่าฝ่ายตนกำลังถูกข่มขู่ เป็นการใช้อารมณ์ชี้นำ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในคดีใหญ่ๆ มาก่อน

ด้านแซน วิศาพัช กล่าวว่า ตนเห็นจากข่าวก็งงว่า การที่ผู้ใหญ่คนนี้เผยว่ามั่นใจในคดีและพยานหลักฐานที่จะเอาผิดพวกตนมาก ตนงงว่าเอาอะไรมามั่น พยายามขยี้ประเด็นว่ามีพยานหลักฐานพร้อมเอาผิด จนกลายเป็นการชี้นำสังคมให้ประชาชนที่ติดตามข่าวเข้าใจฝั่งตนผิด ทั้งๆ ที่ศาลยังไม่ตัดสินเลย เขาเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ การจะพูดอะไรก็ควรมีสติยับยั้งชั่งใจสักนิด ไม่ใช่ออกมาพูดอะไรจนมีผลกระทบกับคนบนเรือ ที่ผ่านมาพวกตนก็ตกเป็นจำเลยสังคมมามากพอแล้ว การที่ออกมาย้ำว่าพวกเราประมาท เลยขอถามกลับไปว่า คุณอยู่บนเรือเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเลยใช่ไหม ตนรู้สึกว่ามันเกินไป เขาทำแบบนี้เหมือนคนหิวแสง คล้ายดาราบางคนที่ชอบออกมาต่อว่าพวกเราเหรอ ต้องลองถามเขาดูว่าทำเพื่ออะไรกันแน่

ขณะที่พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน กล่าวว่า หลังจากนี้จะนัดพร้อมให้ทั้งสองฝ่ายแถลงความพร้อมเรื่องการสืบพยานหรือแนวทางการต่อสู้คดีในวันที่ 2 มี.ค. เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี และนัดสืบพยานนัดแรกวันที่ 23 ส.ค.2566 เมื่อนัดสืบ ครบถ้วนทั้ง 48 นัดแล้ว ศาลจะพิพากษาตัดสินคดีในชั้นต้นต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน