เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ร.ต.อ.หญิง ชนานันท์ ชัยกาวิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตจมน้ำในแม่น้ำน่านบริเวณสะพานนเรศวร หน้าวัดราชบูรณะ ต.ในเมือง จึงนำกำลังรุดตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ร.พ.มหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ที่เกิดเหตุพบสภาพผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวสภาพ นอนคว่ำหน้า เนื้อตัวเริ่มซีดขาว สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว มีตะขอเบ็ดเกี่ยวติดอยู่ที่เสื้อผ้า ทราบชื่อน.ส.สุนิตย์ เดชประพฤติ อายุ 21 ปี ชาว จ.พิจิตร เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม คาดว่าจมน้ำเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
นายนเรศ แสนหารสิริกุล อายุ 58 ปี ผู้พบศพคนแรกเผยว่า ไปนั่งตกปลาบริเวณสะพานนเรศวร จากนั้นได้ขว้างเบ็ดไปกลางแม่น้ำน่านก่อนจะกระตุกกลับมาที่ฝั่ง แต่เบ็ดคล้ายไปติดวัตถุสิ่งของใต้น้ำ พยายามกระชากดึงกลับริมฝั่ง แต่ต้องตกใจสุดขีดเพราะว่าตะขอเบ็ดได้ไปเกี่ยวติดกับศพมาด้วย หลังตั้งสติได้จึงเดินไปแจ้งกับตำรวจ ที่อยู่ใกล้เคียงให้ทราบ และแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบดังกล่าว
สลดน.ศ.สาว – เจ้าหน้าที่นำร่างน.ศ.สาววัย 21 ปี ป่วยโรคซึมเศร้ากระโดดแม่น้ำน่านฆ่าตัวตาย บริเวณสะพานนเรศวร หน้าวัดราชบูรณะ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ช่วงกลางดึก กระทั่งมีคนหาปลาตกเบ็ดไปเกี่ยวศพขึ้นมาได้ในช่วงเช้าวันที่ 3 ม.ค.
ต่อมาครอบครัวของ น.ส.สุนิตย์ เดินทางมาจาก จ.พิจิตร เพื่อขอตรวจสอบศพยืนยัน โดยค่ำคืนที่ผ่านมา มีเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้โทร.ไปบอกครอบครัว ว่าหลังจากได้พากันไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก จนกระทั่งผับปิดต่างพาขึ้น รถกระบะเพื่อกลับหอพัก ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตบอกจอดรถกลางสะพานนเรศวร โดยบอกว่าจะรอแฟนหนุ่มที่กำลังจะมารับ เพื่อนจึงตัดสินใจจอดรถให้ลง แต่น.ส.สุนิตย์ พูดเอ่ยลาก่อนจะพุ่งกระโดดลงไปในแม่น้ำน่านทันที ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนๆ ทุกคนได้ลงไปค้นหาใต้เชิงสะพานนเรศวร พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาตรวจสอบค้นหา แต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งคนตกปลามาพบศพดังกล่าว
เบื้องต้นสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องส่วนตัว เพราะผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและกำลังรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.พุทธชินราช จนมาก่อเหตุสลดใจครั้งนี้ สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวและเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำ ผู้ใกล้ชิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง โดยทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ก่อนจะมอบศพให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป
