คาดทั้งปีมาไทย10ล้าน สธ.เลิกดู-รับรองวัคซีน

มาแล้วทัวร์จีน ประเดิมถึงไทยวันแรก 15 ไฟลต์-3,465 คน คาดตลอดปี 7-10 ล้าน ชาติอื่นก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยันรับทุกชาติไม่มีแบ่งแยก ‘อนุทิน’ยันเข้มโควิดนักท่องเที่ยวทุกชาติ ล่าสุดยกเลิกตรวจใบรับรองวัคซีน ส่วนกรณีมีประกันสุขภาพก็เฉพาะชาติที่ต้องตรวจ RT-PCR

เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยผู้บริหารทั้ง 3 กระทรวง และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย หลังจีนประกาศเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2566

นายอนุทินกล่าวว่า ผู้บริหารทั้ง 3 กระทรวง การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้มาร่วมต้อนรับและมาดูสถานการณ์นักท่องเที่ยวชาวจีนไฟลต์แรกที่เดินทางเข้ามาวันนี้ โดยวันนี้เที่ยวบินแรกคือ Xiamen Airlines MF833 มีผู้โดยสาร 269 คน มีขาเข้าจากจีน 15 เที่ยวบิน ผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,465 คน คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางผ่านอากาศยาน 7-10 ล้านคน จากเดิมก่อนการมีโรคโควิดเรามี 20 ล้านคน ส่วนผู้เดินทางจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ ทำให้คนมีงานทำ มีโอกาส ทำให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากเสียหายจากสถานการณ์โควิดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา

นายอนุทินกล่าวต่อว่า มาตรการรองรับ ผู้เดินทางจากต่างประเทศปี 2566 เป็นไปตามมาตรการที่สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุขที่มีมาตรฐานของโลก มีความเหมาะสม เน้นให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านสุขภาพตามมาตรฐานของการป้องกันโรคโควิด-19 และมีการอำนวยความสะดวก เตรียมความพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว มั่นใจว่าไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางจากทุกแห่งทั่วโลก โดยใช้ข้อกำหนดเดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยกจนกว่าจะมีสถานการณ์ที่จำเป็น” นายอนุทินกล่าว

รับทัวร์จีน – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกฯ และรมว.สาธารณสุข พร้อมรมต.พรรคภูมิใจไทย ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาถึงไทยเที่ยวแรก ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งบินมาเที่ยวไทยแล้วกว่า 3 พันคน เมื่อวันที่ 9 ม.ค.

นายอนุทินกล่าวอีกว่า วันนี้มีการคณะกรรมการวิชาการภายใต้ พ.ร.บ.โรติดต่อ พ.ศ.2558 มีมติว่าให้ยกเลิกมาตรการตรวจใบรับรองวัคซีนโควิดของผู้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากเห็นว่ามีการฉีดวัคซีนในคนไทยจำนวนมากแล้ว จีนก็ฉีดมากแล้ว ประเทศอื่นๆ ก็ฉีดแล้ว มีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่ง หากทุกคนต้องแสดงหลักฐานฉีดวัคซีน จะทำให้เกิดความไม่คล่องตัวไม่สะดวก ซึ่งไม่ได้ตัดสินใจบนพื้นฐานเศรษฐกิจ แต่ใช้หลักวิชาการทางการแพทย์ เมื่อแจ้งมติมายัง สธ. เราก็ร่วมมือกับ ก.คมนาคมและก.การท่องเที่ยว ชี้แจงออก Notice to Airmen (NOTAM) หรือกฎระเบียบก่อนการเข้าประเทศไทย โดยมาตรการเหลือการซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโควิดสำหรับผู้มาจากประเทศที่กำหนดให้ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศ เพื่อว่าหากติดเชื้อจะได้ไม่เป็นภาระงบประมาณ ส่วนเรื่องวงเงินไม่ได้กำหนด เพราะคนซื้อประกันมาคงไม่ได้ซื้อมาเพื่อเข้าประเทศไทยเท่านั้น และที่ผ่านมาไม่เคยเป็นปัญหาเรื่องการเบิกค่ารักษาพยาบาล ส่วนนักท่องเที่ยวที่สมัครใจมารับวัคซีนโควิดที่ไทย จะมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าวัคซีนและค่าบริการ โดยสธ.จะหารือ ร.พ.เอกชนเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าวัคซีน

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า ทางวิชาการทางการแพทย์ยืนยันว่า คนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน ทั้งคนไทยหรือนักท่องเที่ยวเราสามารถเฝ้าระวังได้ มีเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ ยารักษาโรค และวัคซีนดูแลผู้ป่วย ซึ่งอัตราการครองเตียงอยู่ที่ 5% ที่สำคัญตอนนี้คนมีภูมิคุ้มกัน ผู้ติดเชื้อมากกว่า 95% ไม่มีอาการ เรารักษาตามอาการ ปอดไม่อักเสบก็ไม่ต้องให้ยาที่รุนแรง หรือใช้เครื่องช่วยหายใจหรือต้องเข้า ร.พ. ให้ยาตามอาการยกเว้นโรคพัฒนาไปปานกลางหรือรุนแรง แพทย์จะใช้การรักษาตามความรุนแรงของโรคต่อไป เป็นระเบียบปฏิบัติทางการแพทย์อยู่แล้ว

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากขึ้น กระทรวงคมนาคมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกท่าอากาศยาน มีขีดสามารถรับผู้โดยสารเพียงพอ เน้นย้ำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินและ ผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น คำนึงถึงความสะดวก รวดเร็วและความปลอดภัย ปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้าและการให้บริการรถสาธารณะที่พบมาก่อนหน้านี้ ก.คมนาคมเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วนพบว่า เวลาเฉลี่ยในการลำเลียงกระเป๋าจากเครื่องบินถึงผู้โดยสารเฉลี่ย 27 นาทีสำหรับเฟิร์สต์แบ๊ก และ 44 นาทีสำหรับ Last Bag มีความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น การให้บริการขนส่งสาธารณะได้เพิ่มให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ จัดระเบียบขยายพื้นที่ลดความแออัด และให้มีการปรับปรุงระยะเวลารอคิวขึ้นรถขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด ตั้งเป้าหมายไม่ให้เกิน 10 นาทีต่อคน

ด้านนายศักดิ์สยามกล่าวว่า สำหรับปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า และการให้บริการรถสาธารณะ ที่พบก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ปัจจุบันพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร โดยกระเป๋าใบแรกลำเลียง ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และกระเป๋าใบสุดท้าย ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที ซึ่งมีความรวดเร็วขึ้น ส่วนระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนการให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และจัดระเบียบ ขยายพื้นที่ เพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งผู้โดยสารใช้เวลารอคิวใช้บริการประมาณ 10 นาทีต่อคน โดยปัจจุบันกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยั่งยืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณผู้โดยสารท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท. อยู่ที่ประมาณวันละ 3 แสนคน โดยก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2562 อยู่ที่ประมาณวันละ 4 แสนคน ซึ่งผู้โดยสารภายในประเทศกลับมา 100% แล้ว ขณะที่ผู้โดยสารระหว่างประเทศกลับมาแล้วประมาณ 80% ไม่รวมผู้โดยสารจีน ขณะนี้ ทอท. มีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารจากทั่วโลก โดยในส่วนของจีนนั้น ปัจจุบันมีสายการบินจากจีนขอจองตารางบิน (สล็อต) เข้าไทยช่วงเทศกาลตรุษจีน (18-21 ม.ค. 2566) รวม 4 วัน มาแล้วประมาณ 386-388 เที่ยวบิน ผู้โดยสารจีนรวมประมาณ 1 แสนคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน