2โจ๋แช็ตไลน์ ชวนปล้นเซเว่น

มีดบุกจี้ตอนตี3 กลางเมืองชลฯ

2 โจ๋ชวนกันทางไลน์ บุกปล้นร้านสะดวกซื้อกลางเมืองชลบุรี ได้เงิน 1.7 หมื่น มือถืออีก 4 เครื่อง สุดท้ายหนีไม่รอด ชุดสืบสวนตำรวจภาค 2 ร่วมกับสภ.เสม็ด ตามแกะรอยจากวงจรปิด ลงพื้นที่หาข้อมูล ประสานผู้นำชุมชน จนตามรวบตัวได้คาคอนโดมิเนียมที่พัก รับสารภาพรุ่นพี่ทักแช็ตไลน์บอกอยากรวยมีเงินเป็นล้านไปปล้นกัน อ้างครอบครัวแตกแยก ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ แถมมีหนี้สิน อื้อ ขอโทษผู้เสียหาย เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ จนท.คุมตัวไปทำแผน นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค2 (รองผบช. ภาค 2) รักษาการแทน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และพ.ต.อ.ชนะไชย เกษมวงศ์ ผกก.สภ.เสม็ด ร่วมกันแถลงการจับกุมคนร้าย จี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถนนข้าวหลาม หมู่ 4 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี จำนวน 2 รายคือ นายนราศักดิ์ แสงภารา อายุ 22 ปี และนายสกลกฤษ อุปพงษ์ อายุ 20 ปี พร้อมของกลาง เงินสด 7,400 บาท จากทั้งหมด 17,000 บาท รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน 3 กณ-7095 ชลบุรี และเสื้อผ้า ที่สวมใส่ลงมือก่อเหตุ ในวันที่ 8 ม.ค.2566 เวลา 03.30 น.

จากภาพกล้องวงจรปิดจับภาพมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน แต่งกายมิดชิด ปิดบังใบหน้า โดยคนร้ายใช้มีดข่มขู่พนักงาน จากนั้นรื้อค้น เอาทรัพย์ โทรศัพท์ไป 4 เครื่อง เป็นธนบัตรและเงินเหรียญของทางร้าน รวม 17,000 บาท หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี ร่วมกับชุดสืบสวนสภ.เสม็ด สืบสวนติดตามคนร้ายตามเส้นทางที่หลบหนี ไปในซอยห้วยกะปี 15 จึงสืบสวนในพื้นที่กับผู้ที่อาศัยในชุมชน ตลอดจนผู้นำชุมชน จนทราบว่าคนร้ายพักภายในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ห้วยกะปิ จึงเข้ารวบตัวได้ พร้อมของกลางดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันใช้อาวุธชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันรับของโจร

ไลน์ชวนปล้น – นายนราศักดิ์ แสงภารา และนายสกลกฤษ อุปพงษ์ ทำแผนฯ ปล้นร้านสะดวกซื้อในต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้เงินหมื่นกว่าบาท โดยชักชวนกันผ่านไลน์มาก่อเหตุ สารภาพตกงานต้องการหาเงินใช้ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.

พล.ต.ต.นันทวุฒิกล่าวว่า ก่อนก่อเหตุ นายนราศักดิ์ชักชวนนายสกลกฤษ ผ่านไลน์ โดยมีข้อความว่า “เอ็งอยากรวยไปปล้นกันมั้ย พี่อยากรวยมีเงินเป็นล้าน” และได้เลือกสถานที่ ที่ไม่ค่อยมีคน และมีแสงสว่างน้อย ส่วนสาเหตุ ที่ก่อเหตุ คนร้ายอ้างว่า เนื่องจากชีวิตครอบครัว ล้มเหลว ไม่มีคนเข้าใจ ประกอบกับไม่มีงานประจำทำ เพื่อให้เกิดรายได้ขึ้นในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ด้านนายสกลกฤษให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่ามีปัญหาในครอบครัว พ่อแม่แยกทางกัน อีกทั้งเงินไม่พอใช้ จึงลงมือก่อเหตุเพื่อหาเงินไปใช้หนี้ และนำเงินจ่ายค่าเช่าห้อง อยากขอโทษกับผู้เสียหาย ไม่ได้ตั้งใจ เกิดจาก อารมณ์ชั่ววูบ หลังจากพ้นโทษออกมา จะกลับตัวเป็นคนดี ไม่ทำตัวแบบนี้อีก

หลังจากแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวคนร้ายไปทำแผนรับสารภาพที่ร้านสะดวกซื้อที่ก่อเหตุ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด ดำเนินคดีตามกฎหมาย