จากอำนาจเจริญจะเข้ากรุงเทพ ตร.คาดหลับใน-อัดการ์ดเรล รอด 1-ชี้บารมีท้าวเวสสุวรรณ
สยองสีคิ้ว รถตู้โดยสารพุ่งชน การ์ดเรล ไฟท่วมย่างสด 11 ศพ หนุ่มวัย 20 หนีรอดได้เพียงคนเดียว เชื่อบารมีท้าวเวสสุวรรณช่วยชีวิต เผยรับผู้โดยสารจากอำนาจเจริญ เข้ากทม.ก่อนเกิดเหตุทุกคนในรถหลับได้ยินเสียงชนแล้ว ตะโกนวุ่น ปีนกระจกหนีสำเร็จ แต่ช่วยคนอื่นไม่ได้ ตร.เร่งสอบสวนหาสาเหตุ พบจีพีเอสขับความเร็ว 80 กว่าก.ม.ต่อชั่วโมง ส่วนถังก๊าซเอ็นจีวีไม่ชำรุด คาดเกิดจากหลับใน ด้านครอบครัวผู้สูญเสียรุดรับศพสลด
วันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 21.30 น. สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา รับแจ้งเกิดเหตุ รถตู้โดยสารประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ ตอนบ่อทอง- มอจะบก บริเวณบ้านมอจะบก หมู่ 6 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ เสียหลักชนราวเหล็กกั้นทางเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักก.ม.ที่ 100-99 บ้านมอจะบก จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 11 ราย และมีผู้รอดชีวิตหวุดหวิดคลานหนีออกมาจากรถได้ทันอีก1รายเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยระดมช่วยเหลือนำร่างผู้เสียชีวิต ส่งร.พ. สีคิ้ว ร.พ.สูงเนิน และร.พ.เทพรัตน์ อ.เมืองนครราชสีมา
สอบถามนายธนชิต กิ่งแก้ว อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 11 ต.ดงบัง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ผู้โดยสารที่รอดตายเพียงรายเดียว โดยบาดเจ็บเป็นแผลถลอกเล็กน้อยที่บริเวณขาขวาเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ รถตู้ตระเวนไปรับผู้โดยสารในแต่ละหมู่บ้านที่อำนาจ เจริญ ส่วนใหญ่เคยใช้บริการจึงมีความคุ้นเคย ตนนั่งอยู่เบาะกลางและนั่งหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทาง ได้ยินเสียงรถกระแทกทำให้สะดุ้งตื่น พร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือจาก ผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนจึงปีนออกมาจากรถทางช่องหน้าต่างด้านขวา ทำให้รอดตายหวุดหวิด แต่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าเล็กน้อย และเส้นผมมีรอยไหม้ เล็กน้อย
นายชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา กล่าวว่า รับแจ้งขอความช่วยเหลือจึงระดมอาสาสมัครที่อยู่ใกล้เคียงรีบรุดไปช่วยเหลือ สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากรถตู้ติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี 3 ถัง หากเพลิงไม่ลุกไหม้คาดจะไม่มีผู้เสียชีวิต
พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า รถตู้คันเกิดเหตุเป็นรถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ รับผู้โดยสารเดินทางมาจากจ.อำนาจเจริญมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพฯ หลังเกิดอุบัติเหตุสภาพตะแคงอยู่ร่องกลางของถนน ถูกไฟลุกไหม้ท่วมวอดทั้งคันรถ มี ผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกอยู่ภายในรถ รวมทั้งคนขับ 11 ราย และมีผู้รอดชีวิต 1 ราย คือนายธนชิต กิ่งแก้ว อายุ 20 ปี
เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการขับรถเร็ว ความประมาท หรือคนขับอาจหลับใน ทั้งนี้ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานจากปากคำพยาน และกล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 11 ราย เป็นหญิง 7 ราย และชาย 4 ราย เป็นเด็ก 1 ราย โดยสามารถยืนยันรายชื่อเบื้องต้นได้แล้วดังนี้ 1.นายวันชัย เสวาภพ เป็นผู้ขับรถ บ้านดุมใหญ่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี 2.น.ส.อุทัย อุตราช อายุ 49 ปี ภรรยาคนขับ บ้านเลขที่ 1 ม.9 ต.นาผือ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ 3.ด.ช.กิติเดช สาตะสิน อายุ 6 ขวบ บ้านเลขที่ 1 ม.9 ต.นาผือ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ หลานชายของน.ส.อุทัย อุตราช 4.นายวีระ สุวะชัย 63 ปี บ.น้ำท่วม ต.เปือย อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ 5.นางดวงนภา จารุไชย อายุ 41 ปี บ้านหนองหิ้ง หมู่ 9 ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ 6.ด.ญ.พลอยชมภู จารุไชย (น้องขิง) อายุ 7 ขวบ บ้านเลข ที่ 89 ม.9 ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ 7.นายรังสรรค์ บุญนันต์ อายุ 53 ปี บ้าน จอก ม.7 ต.ดงบัง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ
ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 22 ม.ค. พ.ต.อ.ยงยศ มอบหมายให้ร.ต.อ.นันทพงศ์ ดวงแก้ว พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วย กู้ภัยฮุก 31 จุดสีคิ้ว ร่วมกันนำซากรถตู้ คันดังกล่าวจากที่เกิดเหตุมาไว้ที่สภ.สีคิ้ว เพื่อรอเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่ แท้จริงต่อไป
ย่าง11ศพ – เหตุรถตู้โดยสารพลิกคว่ำ ตกร่องถนนไฟท่วมทั้งคัน คลอกผู้โดยสารเสียชีวิต 11 ศพ เจ็บ 1 ราย ระหว่างทางจาก จ.อำนาจเจริญ มุ่งหน้าเข้า กทม. ถึงบริเวณถนนมิตรภาพ บ้านมอจะบก ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา คาดสาเหตุคนขับหลับใน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.
พ.ต.อ.ยงยศให้สัมภาษณ์ว่า ตรวจสอบเป็นรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ของหจก.มนตรีทรัพย์เจริญ ที่อยู่ 50 หมู่ 12ต.ดงบัง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ มีนายวันชัย เป็นผู้ขับและเสียชีวิตคาซากรถซึ่งรถคัน ดังกล่าวติดตั้งจีพีเอส จากการตรวจสอบพบว่าก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา 21.18.49 น. ความเร็ว 84 ก.ม.ต่อช.ม. ภายในรถมีจำนวนผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 12 คน ขณะแล่นมุ่งหน้าเข้าภาคกลาง โดยมีปลายทางจ.นครปฐม รถเกิดเสียหลักตกลงกลางถนนแล้วเฉี่ยวชนการ์ดเรล ทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกรวม 11 ศพ
นางศิริจันทร์ อัศวภูมิ อายุ 40 ปี แม่ของนายธนชิต กิ่งแก้ว ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ เดินทางมาเยี่ยมอาการลูกชายที่โรงพยาบาลสีคิ้ว โดยนางศิริจันทร์เล่าว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากหลานชายแจ้งว่ารถตู้ที่ลูกชายนั่งมาประสบอุบัติเหตุที่อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ลูกชายรอดชีวิตเพียงคนเดียว
ขณะนั้นตนเองรู้สึกตกใจมาก ไม่รู้ว่าลูกชายที่รอดชีวิตจะได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน จึงเหมารถแท็กซี่มาจาก จ.นครปฐม เพื่อมาเยี่ยมอาการลูกชาย ระหว่างทางที่นั่งรถมาก็โทรศัพท์สอบถามกับโรงพยาบาลสีคิ้ว และได้คุยกับลูกชาย ทราบว่าอาการบาดเจ็บไม่หนักมาก จึงรู้สึกโล่งใจ โดยลูกชายเล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้ ได้ยินเสียงคนในรถทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร้องโหยหวนด้วย ความเจ็บปวด แต่ตนเองไม่สามารถ ช่วยอะไรได้ เพราะต้องรีบมุดหน้าต่างออกมาเอาตัวรอดก่อน ซึ่งลูกชายรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ลูกชายก็จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสีย ชีวิตที่นั่งรถตู้มาด้วยกัน พร้อมทั้งเป็นการบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์ที่รอดชีวิตใน ครั้งนี้ด้วย
ที่สภ.สีคิ้ว นายธนชิตให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ตนโดยสารรถตู้คันดังกล่าวมาจากจ.อำนาจเจริญ เพื่อเดินทางไปที่กรุงเทพฯ โดยตนนั่งหลับมาตลอดทาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถกระแทกเสียงดังสนั่น ตนตกใจตื่น จากนั้นรถก็พลิกคว่ำ ตนมองเห็นเปลวไฟกำลัง ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และได้ยินเสียงเพื่อน ผู้โดยสารร้องขอความช่วยเหลือดังไปหมด ชุลมุนไปหมด ก็ไม่คิดว่ารถจะระเบิดตนจึงใช้เท้าถีบกระจกแล้วรีบคลานออกมา รอดตายอย่างหวุดหวิด
เมื่อถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ห้อยติดคอไว้ขณะเกิดเหตุ นายธนชิตกล่าวว่า ท้าวเวสสุวรรณ เชื่อว่าช่วยคุ้มครองให้รอดชีวิตมาได้ส่วนหนึ่ง และดวงไม่ถึงฆาตด้วย ผมนึกว่าผมตายแล้วฝัน ผมหลับมา ได้ยินเสียงร้อง ตื่นขึ้นมาไฟก็ลุกเลย ทั้งนี้พร้อมบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตทั้งหมดด้วย
ต่อมาช่วงบ่าย ญาติของผู้เสียชีวิต ทยอยเดินทางมาที่สภ.สีคิ้ว เพื่อยื่นเอกสารระบุตัวตนผู้เสียชีวิตเพื่อที่จะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา ซึ่งบรรยากาศ เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของญาติ ที่ต่างพากันร้องไห้ยืนมองดูซากรถตู้ที่ประสบเหตุ โดยภายในซากรถตู้ยังคงมี ร่องรอยของสัมภาระที่ถูกไฟเผาจนเป็น ตอตะโก ทั้งเสื้อผ้าและข้าวสารที่หล่นเกลื่อนอยู่เต็มพื้นรถตู้ ส่วนของการติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 11 รายนั้นยังไม่สามารถทำได้ได้เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้ง 11 รายพร้อมเอกสารนั้นถูกไฟเผาจน ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยเบื้องต้นทราบว่าน่าจะเกิดจากที่รถตู้เสียหลักจากพลิกคว่ำแล้วมีน้ำมันรั่วไหลออกมา ประกอบกับรถตู้เดินทางมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความร้อนจนเกิดประกายไฟ เป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟลุกท่วมรถตู้คันดังกล่าว สำหรับรถตู้ที่เกิดเหตุนั้นเป็นรถตู้ที่จดทะเบียนถูกต้องจากกรมการขนส่งทางบก และมีจีพีเอสในการวัดความเร็วของรถตู้คันดังกล่าวอยู่เป็นระยะ ซึ่งจากการตรวจสอบจากจีพีเอสพบว่าขณะเกิดเหตุรถตู้คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วประมาณ 82 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่จากสำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบกได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซากรถตู้คันที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจนทำให้เกิดเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถตู้คันดังกล่าวนั้นเป็นรถตู้โดยสารที่ติดตั้งระบบก๊าซ เอ็นจีวีทั้งหมด 3 ถัง จากการตรวจสอบ พบว่าถังก๊าซดังกล่าวไม่มีความผิดปกติไม่มีรอยแตกร้าว นอกจากนี้รถตู้คันที่เกิดเหตุยังผ่านการตรวจสอบสภาพมาแล้วก่อนที่จะต่อทะเบียนรถพร้อมกับมีใบรับรองการติดตั้งก๊าซจากวิศวกรแล้วเรียบร้อย ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ทางกรมการขนส่งทางบกจะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์พร้อมกับวางมาตรการในการป้องกันเพื่อไม่เกิดเหตุซ้ำรอยกับเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
ด้านนางสาวมณี ไวยภาค ผอ.คปภ.นครราชสีมา กล่าวว่า ในส่วนสิทธิการประกันภัย คุ้มครอง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ในกรณีของผู้บาดเจ็บถ้าเป็นผู้โดยสารความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 80,000 บาท และความคุ้มครองของ 3+ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ 100,000 บาท ในส่วนของผู้บาดเจ็บวงเงินค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 180,000 บาท ในกรณีของผู้โดยที่เสียชีวิต พ.ร.บ. ความคุ้มครองเต็มจำนวน 500,000 บาท ต่อราย และมีความคุ้มครองของ 3+ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจซื้ออยู่ 500,000 บาทต่อราย และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PersonalAccident Insurance หรือ PA) ของผู้โดยสารที่ เสียชีวิต 11 ราย รายละ 100,000 บาท ส่วนของผู้ขับขี่ความคุ้มครองจะน้อยกว่า ผู้โดยสาร เพราะถ้า เกิดจากการขับขี่โดยประมาทพ.ร.บ.จะจ่ายค่าปลงศพ 30,000 บาท และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident Insurance หรือ PA) ของคนขับ 100,000 บาท และในกรณีคนขับเสียชีวิตความคุ้มครองอยู่ที่ 135,000 บาทผู้โดยสารเสียชีวิต 1,110,000 บาท ต่อคน แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจระบุยืนยันตัวบุคคลจากทางสถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจก่อนถึงจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาได้
