เสพยาก่อนลงมือ แค้นผู้ตายตีจาก
จับได้แล้ว ‘ไอ้บอย’ รปภ.ฆ่าโหด ‘ดี้’ มัดมือ-เท้า ผ้าห่มนวมห่อศพทิ้งบ่อขยะศรีมหาโพธิ จนมุมที่บางไทรอยุธยา ญาติเกรงถูกจับตาย โทร.ติดต่อให้มอบตัว สารภาพก่อนก่อเหตุเสพยาบ้า ใช้มือบีบคอ อ้างแค้นผู้ตายขอเลิกคบเป็นแฟน ตร.แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝังซ่อนเร้นเคลื่อนย้าย ทำลายศพ แม่เหยื่ออยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่ให้คนร้ายมาขอขมาศพ
จากกรณีตำรวจสภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหา โพธิ จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งพบศพสภาพถูกมัดมือมัดเท้า ห่อด้วยผ้าห่มนวม นำมาโยนทิ้งที่บ่อขยะ ท้ายหมู่บ้านระเบาะนา หมู่ 4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ หลัง เกิดเหตุ พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี, พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ จนทราบผู้ตายคือน.ส.กตชภรณ์ กุ่มประสิทธิ์ หรือแอ๋ว อายุ 37 ปี ส่วนคนร้ายคือนาย พิษณุ หรือ บอย โมหจิตร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 498 หมู่ 8 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ทำงานเป็นรปภ.ในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.ศรีมหาโพธิ หลังก่อเหตุหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติจากศาลจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา ตามที่เสนอแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางไทร จ.พระนครศรี อยุธยา สามารถจับกุมนายพิษณุ โมหจิตรได้เมื่อกลางดึกวันที่ 3 ก.พ. ระหว่างหลบหนี พร้อมรถจักรยานยนต์ และประสานมาที่สภ.ระเบาะไผ่ จึงจัดชุดสอบสวนมารับตัว พร้อมรถจยย.ฮอนด้าสีส้มไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของผู้ต้องหา มาสอบสวนที่ห้องสืบสวน สภ.ระเบาะไผ่ เบื้องต้นหลังถูกจับกุมระหว่างหลบหนี ญาติพบข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อสารมวลชน เป็นห่วงเกรงจะถูกจับตาย จึงโทร.ติดต่อสอบถามผู้ต้องหา เมื่อทราบอยู่พื้นที่เขตสอบสวน สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงขอให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว และติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ. จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ พร้อมทีมสืบสวนสภ.ระเบาะไผ่, ทีมสืบตำรวจภูธรภ.จว.ปราจีนบุรี-ภาค 2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายพิษณุ หรือบอย โมหจิตร ผู้ต้องหาคดีนี้
พล.ต.ต.วินัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ม.ค.66 เวลาประมาณ 16.00 น. พนักงานสอบสวนสภ.ระเบาะไผ่ ได้รับแจ้งจากน.ส.ปิยวรรณ พรมสอน อายุ 38 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ 61 หมู่ที่ 5 ต.ผาสุข อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ว่า น.ส.กตชภรณ์ กุ่มประสิทธิ์ อายุ 37 ปี ซึ่งได้อยู่กิน กันฉันสามีภรรยา ออกจากบ้านในวันที่ 26 ม.ค.66 บอกว่าจะออกมานอนกับลูกสาวที่ห้องพัก ใกล้โรงแรมประสพโชค อ.ศรีมหาโพธิ โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นฟีโน่สีเขียว-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กค4767 ปราจีนบุรี โดยไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ตำรวจติด ตามตัว
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.66 เวลา 10.00 น. รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพถูกมัดมือมัดเท้าห่อด้วยผ้านวมสีเหลือง ถูกทิ้งไว้ในบ่อขยะบ้านระเบาะนา หมู่ที่ 4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ตำรวจพร้อมแพทย์เวรและหน่วยกู้ภัยตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการชันสูตรพลิกศพว่าเป็นผู้หญิง น.ส. ปิยวรรณ พรมสอน ผู้แจ้งได้มาดูศพแล้วยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือน.ส.กตชภรณ์ กุ่มประสิทธิ์ ซึ่งคบหาเป็นแฟนกันมา 12 ปี
น.ส.ปิยวรรณให้ข้อมูลว่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุคือนายพิษณุ หรือบอย โมหจิตร ซึ่งคบหาเป็นแฟนอีกคนหนึ่งมาประมาณ 1 ปี ช่วงหลังทราบจากผู้ตายว่า ผู้ตายจะขอเลิกคบกับนายพิษณุ แต่ถูกนายวิษณุขู่ว่า ถ้าเลิกจะฆ่าให้ตาย ชุดสืบสวนจึงไปตรวจค้นที่ห้องเช่าของนายพิษณุ พบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1กด 4767 ปราจีนบุรี ของผู้ตาย จอดอยู่ในห้องโดยไม่พบตัวนายพิษณุ คาดว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทางเข้าห้องเช่าพบว่าเมื่อวันที่ 27 ม.ค.66 เวลาประมาณ 04.30 น.รถ จยย.หมายเลขทะเบียน กวค564 ปราจีนบุรี ของนายบอย ออกจากห้องเช่า โดยมีศพของนส.กตชภรณ์ ห่อด้วยผ้านวมนั่งคร่อมอยู่ด้านหน้ารถจักรยานยนต์
จากการค้นประวัติคดีอาชญากรรมทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุฆ่าคนตายในพื้นที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ้นโทษออกมาเมื่อเดือนส.ค. 63 จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดปราจีนบุรี และได้รับอนุมัติหมายจับที่ จ11/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ.66 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝังซ่อนเร้นเคลื่อนย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบัง ขณะเดียวกันชุดสืบสวนระเบาะไผ่ สืบจังหวัดปราจีนบุรี ภาค 2 ประสานกับทีมสืบสวนในพื้นที่ต่างๆ ที่คาดว่าจะ หนีไป กระทั่งได้ควบคุมตัวนายพิษณุได้ที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กลางดึกวันที่ 3 ก.พ.
จากการตรวจปัสสาวะ นายพิษณุยอมรับว่าติดยาบ้า และเพิ่งเสพ ก่อนก่อเหตุลงมือฆ่าบีบคอแฟนสาวจนแน่นิ่ง ตาย คามือ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังจำนนด้วยหลักฐานกล้องวงจรปิดที่มัดตัว หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์อย่างหนาแน่น ทั้งที่ก่อนหน้าให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
โดยนายพิษณุยอมรับสารภาพ ในวันเกิดเหตุอยู่กับผู้ตาย 2 คน และนอนอยู่ ด้วยกัน คุยกันเรื่องที่ผู้ตายขอแยกทางกัน ทำให้นายวิษณุไม่พอใจ เกรงว่าจะนอกใจ จึงใช้มือบีบที่ลำคอ จนน.ส.กตชภรณ์ถึง แก่ความตาย
จากนั้นมัดมือมัดขาใช้ผ้าห่มนวม ดังกล่าวคลุมร่างออกไปทิ้งบ่อขยะร้างดังกล่าว และหลบหนีไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ของกลาง และถูกจับกุม ตนรู้สึกเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้นเคลื่อนย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุการตาย
หลังแถลงข่าวเสร็จ เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนฯ เพื่อประกอบคำรับสารภาพ โดยนำขึ้นรถตู้ไปตามจุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จุดแรกบริเวณที่เกิดเหตุที่ห้องเช่าของผู้ต้องหาที่ลงมือสังหารแฟนสาว ให้แสดงวิธีการ-การซ่อนใส่ผ้าห่มนวม-ขนย้ายศพโดยรถ จยย. ก่อนนำไปต่อที่จุดทิ้งโยนศพที่บ่อขยะร้าง ห่างจากห้องเช่าไกลกว่า 5 ก.ม.เศษ โดยมีญาติผู้เสียชีวิตและบรรดาไทยมุง 30 คน มาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จนหวิดถูกญาติผู้เสียชีวิตรุมประชาทัณฑ์ ตำรวจจึงรีบนำตัวขึ้นรถตู้แล้วเดินทางกลับ
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่วัดเนินผาสุกผลาราม (วัดหนองกาน้ำ) ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของน.ส.กตชภรณ์ พบแม่ หลาน ญาติๆ ของผู้ตาย
นางวันดี กุ่มประสิทธิ์ อายุ 82 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างรวดเร็ว รัดกุมจนจับกุมคนร้ายได้ ทำทำไมกับลูกผู้หญิง มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย อยากให้ตำรวจดำเนินคดีติดคุกตลอดชีวิตไปเลย หรือให้ตายตกไปตามกัน หากจะมาขอขมาศพ เป็นไปได้จะไม่ให้มาใกล้เลย เพราะเขาใจดำ ไม่อยากให้มาขอขมา หลังตายวิญญาณลูกสาวมาเข้าฝันลูกสะใภ้ ลูกสะใภ้บอกว่า ลูกสาวแต่งตัวสวย โดยจะเผาวันที่ 5 ก.พ. ที่วัดเนินผาสุกผลาราม (วัดหนองกาน้ำ) ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ
ด้านพี่ชายกล่าวว่า เบื้องต้นดีใจที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ แต่ก็ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องคดีอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด อย่าให้มีการลดโทษ เพื่อไม่ให้ไปก่อคดีกับใครอีก ซึ่งนับว่าเป็นบุคคลอันตรายคนหนึ่ง ส่วนตัวไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาไปขอขมาศพเพราะรับไม่ได้กับคนคนนี้ เพราะฆ่าน้องสาวอย่างทรมานมาก