ที่ร่วมชุมนุมประท้วง แบม-ตะวันย้ำเจตนา

แอมเนสตี้จี้รัฐบาลไทย ยุติดำเนินคดีเด็กและเยาวชนประท้วงทางการเมือง ซัดรัฐบาลเล่นงานจับกุมดำเนินคดี สอดแนม ข่มขู่เด็ก เผยรายงาน‘สิทธิเด็กที่จะชุมนุมประท้วงโดยสงบในประเทศไทย’ความยาว 55 หน้า ด้านทนายกังวล‘ตะวัน-แบม’ขีดเส้น 3 วันจะออกจากร.พ.ไปอดอาหารที่อื่นต่อ เผยยังย้ำเจตนารมณ์เดิมต้องปล่อย 8 ผู้ต้องหาคดีการเมืองที่ยังอยู่ในเรือนจำ ศาลฎีกาอนุญาตประกันตัว‘สมบัติ ทองย้อย’อดีตการ์ดเสื้อเเดงในคดี 112 เเต่ยังติดคดีดูหมิ่นประยุทธ์ ด้านทนายเตรียมยื่นใหม่ คาดได้ปล่อยตัวชั่วคราว

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านคำสั่งศาลฎีกาในคำร้องขอปล่อยชั่วคราว หมายเลขคดีดำ อ 940 / 2564 ที่หมายเลขคดีแดงที่ อ 657 / 2565 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอาญากรุงเทพใต้ มีความเห็นสั่งฟ้องนายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ด เสื้อแดง ในความผิดฐานหมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3)

คดีสืบเนื่องจากนายศรายุทธ สังวาลย์ทอง ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อให้ดําเนินคดีกับนายสมบัติ จากการโพสต์ข้อความสาธารณะลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “สมบัติ ทองย้อย” จำนวน 3 ข้อความ โดยกล่าวหาว่าข้อความเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอม พิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) (3) การกระทำ ของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็น กระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นสถาบันฯกับฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี โดยก่อนหน้านี้ทางจำเลยยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาลชั้นต้นเเละศาลอุทธรณ์จำนวนหลายครั้ง เเต่ไม่ได้รับการอนุญาตประกันตัว

โดยครั้งนี้จำเลยยื่นอุทธรณ์ คำสั่งศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์โดยอ้างขอให้ติดอีเอ็ม

โดยวันนี้ศาลฎีกามีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้วจำเลยเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ตีราคาประกัน 300,000 บาทร่วมกับใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และห้ามจำเลยกระทำหรือห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่จะกระทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันหรือในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในคดีนี้ ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น แจ้งสำนักงาน ตรวจคนเข้าเมืองก่อนปล่อยตัว ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและดำเนินต่อไป

นอกจากนี้ ทนายความยังได้ยื่นคำร้อง ขอปล่อยชั่วคราวในคดีหมายเลขคดีดำที่ อ1574/2564 หมายเลขคดีแดงที่ อ148/2566 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายสมบัติ กล่าวหาว่าได้โพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กมีเนื้อหา ดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ เจ้าพนักงาน จำนวน 2 โพสต์ (ในช่วงเดือน มิ.ย. 2562 และ ส.ค. 2563) คดีนี้เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาในคดี จำคุก 1 ปี 1 เดือน ก่อนลดเหลือ 8 เดือน 20 วัน โดยจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์

โดยศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในวันนี้ว่าพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก นอกจากนี้จำเลยยังเป็นบุคคลเดียวกันกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 657 / 2565 (คดี 112) ของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์มาหลายครั้งแล้ว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง

โดยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า คดีนายสมบัติวันนี้ศาลฎีกาอนุญาตปล่อยในคดี 112 เเต่คดี ดูหมิ่นพล.อ.ประยุทธ์ ศาลอุทธรณ์ยังไม่อนุญาตซึ่งก็ได้ให้เหตุผลไว้ส่วนหนึ่งว่า นายสมบัติยังถูกไม่อนุญาตให้ประกันตัวในคดี 112 อยู่ เเต่เมื่อวันนี้ศาลฎีกาให้ประกันคดี 112 เเล้ว ทางทีมทนายความก็จะยื่นประกันนายสมบัติใหม่อีกครั้ง เเละคาดว่าคงได้รับการประกันตัว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าองค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่รายงาน “ขอทวงคืนอนาคตของพวกเรา” มีความยาวทั้งสิ้น 55 หน้า ระบุถึงทางการไทยได้จับกุม ดำเนินคดี สอดแนมข้อมูล และข่มขู่เด็กที่ร่วมการ ชุมนุมประท้วงซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ พร้อมย้ำถึงสิทธิของเด็กที่จะชุมนุมประท้วงโดยสงบในประเทศไทย พร้อมเรียกร้องรัฐบาลไทยให้ยกเลิกการดำเนินคดีอาญาต่อผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นเด็ก ยุติการข่มขู่และติดตามสอดแนมในทุกรูปแบบ ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อควบคุมสิทธิในการชุมนุมประท้วงของเด็กให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เด็กและเยาวชนไทยกว่า 200 คนในประเทศไทย กำลังเผชิญกับข้อหาอุกฉกรรจ์ในคดีอาญา อาทิ การยุยงปลุกปั่น จากการชุมนุมประท้วงทางด้านประชาธิปไตยที่โดยส่วนใหญ่นั้นดำเนินไปอย่างสงบ เพื่อเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปทางการเมืองและสถาบัน มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมหลายหมื่นคนบนท้องถนนของกรุงเทพฯ เมื่อช่วงปลายปี 2563

องค์กรนิรโทษกรรมสากลกล่าวหาทางการไทยว่า “จับกุม ดำเนินคดี สอดแนมข้อมูล และข่มขู่” เด็กที่เข้าร่วมการประท้วง พร้อมเรียกร้องให้ยุติการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาอายุต่ำกว่า 18 ปี ขณะที่นาย ชนาธิป ตติยการุณวงศ์ นักวิจัยขององค์กรนิรโทษกรรมสากล กล่าวว่า เด็กที่ยังมีอนาคตอีกยาวไกลกำลังเผชิญหน้ากับผลสะท้อนที่รุนแรงจากการเข้าร่วมการประท้วงโดยสงบ

รายงานระบุว่า ปัจจุบันมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนเกือบ 300 คน เผชิญกับข้อหาในคดีอาญาเกี่ยวเนื่องกับการประท้วง ในจำนวนนี้กว่า 200 คนกำลังถูกดำเนินคดี โดยส่วนใหญ่มีความผิดฝ่าฝืนมาตรการห้ามชุมนุมที่ประกาศใช้ช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 และมีอย่างน้อย 17 คน ที่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นสถาบันซึ่งมีโทษจำคุกนาน นอก จากนี้ เอเอฟพีระบุด้วยว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในชาติที่มีกฎหมายห้ามหมิ่นสถาบันรุนแรงที่สุดในโลก โดยมีโทษสูงสุดจำคุกถึง 15 ปีต่อข้อหา

รายงานระบุอีกว่า เด็กที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมระหว่างการประท้วงมีอายุน้อยที่สุด 11 ขวบ และอีกกรณีหนึ่งเป็นการจับกุมเด็กอายุ 12 ปี ที่เจ้าหน้าที่ใช้สายเคเบิลมัดเมื่อเดือนก.ค. 2565 ผู้วิจัยได้รับทราบข้อมูลจากเด็กๆ ว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม และกดดันด้วยการขอให้ผู้ปกครองและครูอาจารย์ให้คอยโน้มน้าวพวกตนไม่ให้เข้าร่วมการประท้วง

นายชนาธิประบุด้วยว่า นอกเหนือไปจากข้อหาจากทางการแล้ว เด็กบางคนยังเผชิญกับบทลงโทษเพิ่มขึ้นอีกจากครอบครัวของ ตัวเอง อาทิ การถูกขับไล่ออกจากครอบครัวเนื่องมาจากแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ต่อ ผู้ปกครองของเด็ก โดยบางกรณีนั้นนำไปสู่การทะเลาะวิวาทรุนแรง การทำร้ายร่างกาย และทำให้เด็กกลายเป็นบุคคลไร้บ้านด้วย

องค์กรนิรโทษกรรมสากลขอเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกข้อหาต่อผู้ประท้วงอย่างสงบที่เป็นเด็ก และเปิดทางให้เด็กสามารถประท้วงได้อย่างเสรีโดยปราศจากการขัดขวางใดๆ สำหรับผู้สนใจอ่านรายงานฉบับเต็มสามารถดาวน์โหลดได้จากแถลงการณ์ขององค์กรนิรโทษกรรมสากลตามลิงก์ https://www.amnesty.or.th/latest/news/1084/

ที่หอผู้ป่วยพิเศษ ยูงทอง 2 โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า วานนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งให้ออกหมายปล่อยแบม ส่วนศาลอาญา ถ.รัชดา ออกหมายปล่อยตะวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำหมายปล่อยเข้ามาที่โรงพยาบาลในช่วงค่ำ ทั้งนี้ ศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใด ไม่มีหลักประกัน ไม่สั่งติดกำไลอีเอ็ม ไม่ห้ามออกจากบ้าน เพียงแต่ให้ตะวันไปรายงานตัวต่อศาลหลังครบกำหนด 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ขอชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้รับการประกันตัวไปแล้วและขอถอนประกันตัวเอง ก่อนประท้วงด้วยการอดอาหาร เพื่อให้ศาลปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง 7-8 รายที่ถูกขังมาปีเศษ

นายกฤษฎางค์กล่าวอีกว่า วานนี้ผอ.ร.พ. ธรรมศาสตร์เป็นผู้ทำหนังสือยื่นคำร้องต่อศาลให้ปล่อยตัวตะวันและแบม โดยแนบ รายละเอียดทางการแพทย์และระบุว่าร.พ. ธรรมศาสตร์ฯ ได้รับผู้ป่วยทั้งคู่มาจากร.พ. ราชทัณฑ์ ซึ่งทั้งคู่มีอาการวิกฤตอาจเสียชีวิตได้ จึงขอให้ศาลยึดหลักว่าผู้ต้องหายังเป็น ผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสิน เพราะการรักษาพยาบาลภายใต้เงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์มีผลต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วย โดยศาลได้อนุมัติหมายปล่อย พร้อมให้เหตุผลเห็นพ้องตามที่โรงพยาบาลร้องขอ ดังนั้น จากนี้กรมราชทัณฑ์จะไม่สามารถมาควบคุมตัวทั้งคู่ได้นอกจากจะมีหมายจับ

นายกฤษฎางค์กล่าวว่า ขณะนี้ตะวันกับแบม ยังยืนยันจะอดน้ำและอาหาร หากภายใน 3 วันยังไม่มีการตอบรับจากศาลในเรื่องการขอยื่นประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมืองอื่นๆ จะขอออกจากร.พ.ธรรมศาสตร์ เพื่อไปอดน้ำและอาหารในสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป เนื่องจากทั้งคู่มองว่าศาลอาจเข้าใจถึงเจตนารมณ์การอดอาหารของทั้งคู่ผิด เพราะไม่ได้ทำเพื่อขอประกันตัวเอง แต่ขอให้ปล่อยผู้ต้องหาคดีการเมืองรายอื่น ยอมรับว่าตนเองเป็นห่วงทั้งสองหลังอดอาหารมา 18 วันแล้ว

ขณะที่ ร.พ.ธรรมศาสตร์ฯ ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงอาการป่วยของตะวันและแบม โดยระบุว่าทั้งคู่ยังคงไม่รับประทานอาหาร แต่จิบน้ำ รู้สึกตัวดี แสบร้อนลิ้นปี่ สัญญาณชีพปกติ ได้รับสารน้ำและแร่ธาตุ วิตามิน สำหรับตะวันยังคงมีเลือดออกตามไรฟัน ไม่มีเลือดออกผิดปกติหรือจุดจ้ำเลือดออกบริเวณอื่น กรรมการแพทย์ผู้ดูแลเฝ้าระวังความเสี่ยงจากภาวะกลุ่มอาการจากการเริ่มรับสารอาหาร หลังอดอาหารเป็นเวลานาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน