รมต.สั่งสอบ‘กล้อนผม’นร.

ครูมือกรรไกร ผอ.รร.โดนด้วย

รมว.ศึกษาฯสั่งสอบครูมัธยมใช้กรรไกรไล่กล้อนผมนักเรียน ผอ.ร.ร.อ้างหลังเคารพธงชาติสั่งตรวจผมและการแต่งกายพบหลายคนไว้ผมยาวผิดระเบียบ ครูจึงใช้กรรไกรตัดผมให้แหว่งเป็นสัญลักษณ์ไปรอเข้าคิวตัดผมที่ร.ร.หาช่างมา 4-5 คน รวมทั้งครูช่วยกันตัดผมให้เป็นไปตามระเบียบร.ร. ยันไม่คิดกลั่นแกล้งเด็ก ‘ตรีนุช’ ย้ำกฎระเบียบศธ.ให้ลงโทษน.ร.ที่ทำผิดระเบียบได้ 4 กรณีคือ ว่ากล่าวตักเตือน-ทำทัณฑ์บน-ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรมให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เร่งยกร่างแนวนโยบายการไว้ทรงผมน.ร. หลังยกเลิกระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียนไปแล้ว

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “นักเรียนเลว” ได้โพสต์ข้อความว่า “ครูทิ้งหนังสือ ลุกขึ้นจับกรรไกร ไล่กล้อนผมเด็กเกือบทั้งโรงเรียน”

ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้กรรไกรเดินไล่กล้อนผมเด็กกว่าร้อยรายจนแหว่งเละไม่เป็นทรงในระหว่างกำลังเข้าแถวตอนเช้า พบสภาพเศษผมปลิวว่อนทั่วโรงเรียน หลังจากนั้นครูก็ได้เรียกนักเรียนทั้งหมดที่ถูกกล้อนผมแหว่งให้มารวมตัวกัน และเปลี่ยนโรงเรียนให้เป็นร้านตัดผม จับนักเรียนทุกคนมาแก้ทรงผมให้กลายเป็นทรงเกรียนขาวสามด้าน แม้กฎทรงผมของโรงเรียนจะไม่ได้บังคับให้ต้องตัดทรงผมเกรียนก็ตาม

มีรายงานว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนแห่งนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน แต่เมื่อมี ผอ.คนใหม่ย้ายเข้ามา ครูรายดังกล่าวได้ไปขออนุญาตจาก ผอ. เพื่อจะกล้อนผมนักเรียนที่ ไม่ตัดผมให้ถูกระเบียบ ซึ่ง ผอ.ได้อนุญาต จึงเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น

พร้อมกันนี้ ได้โพสต์คลิปและภาพครูใส่เสื้อเหลืองกำลังใช้กรรไกตัดผมนักเรียนที่นั่งอยู่ลานหน้าเสาธง จากนั้นได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย บางรายก็ตำหนิถึงการ กระทำของครู ขณะที่บางรายก็เห็นด้วย เช่น

ทำไมถึงทำร้ายจิตใจเด็กได้ขนาดนี้ ทรงผม ไม่ได้มีผลต่อการเรียน, เด็กที่เขาเรียนเก่งและตั้งใจเรียนเขาจะเสียความรู้สึกขนาดไหน ทำไมไม่ทำบรรยากาศให้เขาไปเรียนอย่างมีความสุข, ทำไมครูบางคนเขาหมกมุ่นกับผมบนหัวเด็กจังเลยคะ การหมกมุ่นกับอะไรมากเกินไปมันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตนะคะ, ผมบนหัวเด็ก เป็นสมบัติส่วนตัวของเขา ครูควรไปพบจิตแพทย์นะ, จริงๆ ไม่ควรละเมิดสิทธิของนักเรียนทรงผมมีผลกระทบต่อจิตใจเนอะอย่าตลก

ขณะที่ผู้เห็นด้วยกับการกระทำของครู ก็สนับสนุนว่า อยู่ทีมครู นักเรียนควรผมเรียบร้อยอย่าไว้ผมยาว

กล้อนผม – เพจเฟซบุ๊กนักเรียนเลว เผยแพร่ภาพครูใช้กรรไกรไล่กล้อนผมเด็กนักเรียนจนเศษผมหล่นเกลื่อนพื้น ล่าสุด รมว.ศึกษาธิการสั่งตั้งกรรมการสอบครูมือกรรไกรและ ผอ.โรงเรียน เมื่อวันที่ 8 ก.พ.

ต่อมาทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียนบึงสามพันวิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในอ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยนายมานะ มะสิน ผอ.โรงเรียนเผยว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ก.พ. 2566 โดยหลังจากทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จแล้วได้ตรวจทรงผมและการแต่งกายของนักเรียน และได้มีนักเรียนหลายคนที่ผมยาวผิดระเบียบของโรงเรียน นายเสถียรพงษ์ อติจรรยานุรักษ์ ครูชำนาญการพิเศษ จึงได้ใช้กรรไกตัดผมนักเรียนชายที่ผิดระเบียบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ไปรอเข้าคิวตัดผม ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดหาช่างตัดผม รวมทั้งครู 4-5 คน มาตัดผมให้กับนักเรียนชายเพื่อให้ ถูกระเบียบ เนื่องจากผมยาวจริงๆ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งแต่อย่างใด อีกทั้ง เป็นนโยบายของทางโรงเรียน เพราะรู้ว่าเด็กหลายคนไม่มีเงิน บ้านอยู่ห่างไกล ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ก็เข้าใจ แต่อาจจะมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจ ส่วนภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชี่ยลนั้นเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด จึงทำให้กลายเป็นประเด็นดราม่า ขึ้นมา

ด้านน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 พ.ศ.2566 เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2566 และเตรียมยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา ซึ่งการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

“การลงโทษนักเรียนนับเป็นอีกเรื่องจากระเบียบทรงผม แต่การกล้อนผมเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม โดย ศธ.มีแนวทางการลงโทษนักเรียนตามระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548 เพียง 4 อย่างเท่านั้น ได้แก่ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การกระทำของครูชายรายดังกล่าว แม้จะได้รับอนุญาตจากผอ.โรงเรียนแล้ว แต่ขัดกับแนวทางการลงโทษนักเรียน จึงเป็นสิ่งที่ ไม่ถูกต้อง ซึ่งตนได้สั่งการให้สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการกระทำของ ผอ.โรงเรียนและครูชายรายดังกล่าว หากพบว่าไม่ถูกต้อง ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป