‘โบ้’สุดช้ำ-แฉติดยาหนัก วอนตร.นำตัวไปบำบัด

‘โบ้-รัตนพล ส.วรพิน’ อดีตแชมป์มวยโลกชื่อดังสุดช้ำ ถูกลูกชายติดยาต่อยจนน่วม เผยอยากให้นำตัวลูกไปบำบัด โอดคงเป็นเวรกรรมที่ตนเองเคยทำกับพ่อไว้ ตร.เตรียมพูดคุยกับลูก จะยอมไปบำบัด หรือไม่ ระบุหากยอดแชมป์โลกต้องการดำเนินคดีลูกชายข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี ก็จะจับกุมทันที

จากกรณีเพจสายไหมต้องรอด โพสต์ เรื่องราวระบุว่า “โบ้” รัตนพล ส.วรพิน อายุ 50 ปี อดีตแชมป์โลกมวยสากล รุ่น 105 ปอนด์ สหพันธ์มวยนานาชาติ หรือไอบีเอฟ ถูกลูกชายซึ่งติดยาเสพติดทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ซ้ำยังขู่จะฆ่า แต่แจ้งความกับตำรวจสน. ชนะสงคราม แล้วยังไม่มีความคืบหน้านั้น

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. รัตนพล ส.วรพิน เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าไม่ต้องการดำเนินคดีกับลูกชาย ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้น เกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างลูกชาย ก่อนจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนใบหน้าตนครูดไปกับพื้นปูนบาดเจ็บ เนื่องจากตนตัวเล็กกว่าลูกมากและมีน้ำหนักเพียง 50 ก.ก. ส่วนลูกชายมีน้ำหนักกว่า 100 ก.ก. ตอนนี้รู้สึกสงสารลูกชายมาก อยากให้ได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้องและหายขาด กลับมาเป็น คนดีของสังคม และพร้อมให้อภัยในสิ่งที่กระทำไป

“เรื่องที่เกิดขึ้นผมจะถือว่าเป็นเวรกรรม เนื่องจากสมัยวัยรุ่น เคยพูดจากระโชกโฮกฮากใส่พ่อ จนทำให้เขาเสียใจมาแล้ว” รัตนพล กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ลูกทำร้าย – ‘โบ้’ รัตนพล ส.วรพิน อดีตแชมป์มวยโลกชื่อดัง ในสภาพใบหน้ามีริ้วรอยบวมช้ำ เปิดใจมีปัญหากับลูกชายที่ติดยาเสพติดอย่างหนักไม่ต้องการดำเนินคดีลูก แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำไปบำบัดรักษา เมื่อวันที่ 27 ก.พ.

ด้านพ.ต.ท.ศรายุทธ บุญธรรม รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม กล่าวว่า รัตนพลมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวในย่านตรอกข้าวสาร รู้จักและสนิทสนมกับตำรวจสน.ชนะสงครามเป็นอย่างดี และเมื่อ 2-3 วันก่อน เจ้าตัวเข้ามาปรึกษาตำรวจว่า อยากพาลูกชายไปบำบัดเลิกยาเสพติด หลังจากเคยพาลูกไปบำบัดด้วยตนเองแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่หายขาด ซึ่งช่วงที่ตำรวจกำลังประสานให้การช่วยเหลือนั้น ลูกชายคิดว่าพ่อมาแจ้งความจับกุมตนเอง จึงเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันที่บ้าน ทำให้รัตนพลซึ่งตัวเล็กกว่าถูกลูกชายทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้ รัตนพลได้มาลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว แต่เจ้าตัวยืนยันไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับลูกชายตนเอง เพียงแต่ต้องการลงบันทึกเป็นข้อมูลไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวลูกชายไปบำบัด

พ.ต.ท.ศรายุทธกล่าวอีกว่า จากนี้จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยเจรจากับฝ่ายลูกชายให้เข้าใจ พร้อมถามความสมัครใจว่าจะยินยอมรับการบำบัดหรือไม่ เนื่องจากหากเข้าจับกุมดำเนินคดีฐานเสพยา และส่งตัวไปบำบัดด้วยความไม่สมัครใจนั้น เกรงว่าเหตุการณ์ภายในครอบครัวอาจบานปลายมากขึ้น แต่หาก รัตนพลเปลี่ยนใจ จะดำเนินคดีลูกชายในข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี ตำรวจก็พร้อมจับกุม มาดำเนินการตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน