แม่โผล่-ขอโจทก์ร่วมงัดคลิปหลักฐานใหม่
กู้จากกล้องหน้ารถลูกจ่อฟ้องแพ่งเรียก40ล.
‘ปอ-โรเบิร์ต’กลับคำกลางศาลสารภาพทุกข้อหาคดีแตงโม นัดฟังคำพิพากษา 17 พ.ค.นี้ ส่อไม่จบง่ายๆ‘คุณแม๊’ โผล่พร้อมทีมทนายความ หอบวัตถุพยานหลักฐานใหม่ ยื่นขอเป็นโจทก์ร่วมฟ้องกับอัยการในคดีใหม่ เผยเป็นคลิปหน้ารถของลูกสาวในวันเกิดเหตุตกน้ำที่กู้มาได้ และมีบางคนพยายามลบออกไป ขณะเดียวกันก็เตรียมฟ้องแพ่งกับกลุ่มที่ทำแตงโมเสียชีวิต เรียกค่าเสียหาย 40.8 ล้าน
วันที่ 2 มี.ค. ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 6 ผู้ต้องหาในคดีการ เสียชีวิตของดารานักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ประกอบด้วย ประกอบด้วย นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์, นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์, น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก จุฑาสุขสวัสดิ์, นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์, นายนิทัศน์ หรือ จ๊อบ กีรติสุทธิสาทร และนายภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี ได้ทยอยเดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ตามที่ศาลได้นัดพร้อมกับฝ่ายผู้เสียหายคือ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ผู้เป็นมารดาของดารานักแสดง เพื่อนัดตรวจพยานหลักฐานก่อนจะมีคำสั่งนัดหมายพิจารณาคดีต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมายและทีมทนายความ โดยนางภนิดา ได้เปิดเผยก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีว่า ในวันนี้ทีมทนายได้นำพยานวัตถุซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ในคดีนี้ มายื่นต่อศาลเพื่อประสงค์ใช้เป็นพยานวัตถุใหม่นำสืบพยานในการพิจารณาคดี ซึ่งเป็นหลักฐานทางนิติ วิทยาศาสตร์ที่เป็นชิ้นเป็นอัน มีประโยชน์ ต่อรูปคดี ส่วนเรื่องค่าชดเชยเยียวยากับทางฝ่ายจำเลยที่เหลือ ทางตนจะขอพูดคุยกับฝ่ายจำเลยทั้งหมดก่อนในวันเดียวกันนี้
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า คุณแม่ยังมีสิทธิ์ เรียกร้องค่าเสียหายตามสิทธิในคดีแพ่งอยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอในส่วนของคดีอาญา ซึ่งทางทีมทนายจะได้นำวัตถุพยานหลักฐานชิ้นใหม่ยื่นประกอบการพิจารณากับทางศาลและพร้อมที่เตรียมจะแถลงต่อศาลด้วย เนื่องจากพยานวัตถุซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ มีความสำคัญในคดีมาก ทางทีมทนายเห็นว่าควรจะร่วมเป็นโจทก์กับทางอัยการในการยื่นฟ้องคดีใหม่ ส่วนเรื่องการเรียกค่าเสียหายนั้นทางคุณแม่ภนิดามีสิทธิที่จะเรียกร้องได้ตลอดเวลาและไม่จำกัดจำนวน ตามประมวลกฎหมายมาตรา 44/1 แม้จะทำสัญญาประนีประนอมกับทางฝ่ายจำเลยไปแล้ว บางส่วนก็ตาม แต่คดีนี้ยังไม่ถึงการพิพากษาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำให้สัญญายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อพบกับพยานวัตถุใหม่ที่สำคัญในคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พยานวัตถุใหม่ที่ทีมทนายความของนางภนิดา เตรียมยื่นต่อศาลจังหวัดนนทบุรีในการนำสืบพยานนั้น เป็นภาพจากกล้องหน้ารถและอุปกรณ์หน่วยบันทึกความทรงจำหรือเมมโมรี่การ์ด ที่ติดตั้งไว้ในรถยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน ฒว 13 กรุงเทพมหานคร ของดารานักแสดงสาวแตงโม นิดา โดยทีมทนายความได้มาจากการกู้ข้อมูลของบริษัทผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ จนพบว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีบางคนได้ลบล้างข้อมูลบางส่วนในหน่วยบันทึกความทรงจำออกไป ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ในวันที่ 24 ก.พ 2565 ในวันที่เกิดเหตุ พร้อมกับหนังสือคำร้องอีก 2 ฉบับเพื่อใช้สิทธิ์ของผู้เสียหายที่ยังติดใจในคดี ร่วมกับหนังสืออีก 2 ฉบับที่ทีมทนายความจะยื่นร้องต่อศาลขอร่วมเป็นโจทก์กับทางอัยการเพื่อฟ้องร้องในคดีนี้ใหม่อีกครั้ง
ต่อมา นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่าระหว่างที่นัดตรวจความพร้อมพยานหลักฐานเพื่อนำสืบในคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา ปรากฏว่า นายตนุภัทรหรือปอและนายไพบูลย์หรือ โรเบิร์ต จำเลยคนที่ 1 และ 2 ในคดีนี้ ได้แถลงยอมรับเปลี่ยนแปลงคำให้การในชั้นศาลแล้ว โดยจำเลยที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพทุกข้อหา ทำให้ศาลจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งให้นางภนิดาเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการจังหวัดนนทบุรียื่นฟ้องจำเลยที่เหลือทั้ง 4 คน ที่ให้การปฏิเสธทุกข้อหาเป็นคดีใหม่ในความผิดฐานร่วมกันประมาท
คุณแม่ – นาง ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม นำหลักฐานใหม่เมมโมรี่การ์ดกล้องหน้ารถแตงโมยื่นต่อศาล ขณะที่ ‘ปอ’ และ ‘โรเบิร์ต’ กลับคำยอมรับสารภาพทุกข้อหา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 2 มี.ค.
ทั้งนี้ นายตนุภัทรหรือปอ ถูกอัยการ ยื่นฟ้องในความผิดรวมกัน 6 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตร รับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ, ทิ้งของปฏิกูลลงแม่น้ำ, ไม่ติดชื่อเรือเป็นอักษรไทยและภาษาอังกฤษที่หัวเรือ และแจ้งความเท็จ
ส่วนนายไพบูลย์หรือโรเบิร์ต ถูกแจ้ง 4 ข้อหา คือกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ และทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงแม่น้ำ
ด้านนางภนิดากล่าวภายหลังจากศาลนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายในวันนี้ว่า ตนรู้สึกเซอร์ไพรส์ รู้สึกดีใจและพอใจที่ปอกับ โรเบิร์ตให้การรับสารภาพทุกข้อหา โดยที่ตนไม่คิดมาก่อนว่าทั้งสองจะรับสารภาพ เพราะตั้งแต่รับเป็นลูกมาปีนึงแล้วเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ตนมองว่าทั้งสองคนมาถูกทางแล้วที่รับสารภาพ เพราะถ้าสู้ต่อไปอาจจะแย่กว่าเดิมจากพยานหลักฐานที่ตนได้เป็นเสียงบันทึกในรถของคนที่อยู่ในเหตุการณ์บนเรือ ส่วนฝ่ายจำเลยที่เหลืออีก 4 คน อยู่ที่ตัวเขาเลยว่าจะรับสารภาพหรือไม่ ซึ่งทางตนก็ยังคงยืนยันที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 40.8 ล้านบาท ต่อไปตามเดิมจากจำเลยทั้ง 4 คนที่เหลือ ซึ่งยังไม่ได้มีการเจรจาพูดถึงในเรื่องการชดเชย
นางภนิดากล่าวอีกว่า หลักฐานใหม่ที่ยื่นต่อศาลในวันนี้เพื่อขอร่วมเป็นโจทก์ร่วมในคดี เป็นคลิปกล้องหน้าและเสียงสนทนาในรถของน้องแตงโม ที่มีคนบนเรือได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทั้งหมด โดยหลักฐานสำคัญ ชิ้นนี้ ทางทนายความได้ไปยื่นขอของกลางจากตำรวจที่เก็บรักษาไว้ร่วมปี มาตรวจสอบดู จึงพบว่ามีข้อมูลบางส่วนถูกลบไป จากนั้นทางทนายความจึงได้ให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ข้อมูลกลับมา จนพบว่าในรถมีการสนทนากันของคนในรถ 2 คน ถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือ ซึ่งแม่เองได้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบรู้สึกมั่นใจกับ หลักฐานชิ้นนี้ และจำเสียงบุคคลในคลิปได้อย่างชัดเจน แต่รายละเอียดหลักฐานชิ้นนี้ขอให้อยู่ในสำนวนคดีเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่แซนจะฟ้องกลับและเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่ากันกับที่แม่ฟ้องนั้น นางภนิดากล่าวว่าตนเพิ่งทราบเพราะในห้องพิจารณาคดีแซนก็เข้ามากอดมาแสดงความรักกับตนอยู่เลย จึงรู้สึกตกใจที่แซนจะฟ้อง แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ตนเองค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐานชิ้นนี้ที่แน่นหนาพอสมควรเชื่อว่าเมื่อศาลได้รับพยานหลักฐานชิ้นนี้ไปพิจารณาแล้วคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโมจะได้รับความเป็นธรรมในที่สุด ซึ่งหลักฐานดังกล่าวเป็นเสียงสนทนาซึ่งมีความยาวร่วมชั่วโมงหลังจากที่มีคนนำรถของแตงโมขับออกมาจากอู่จอดเรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปอกับโรเบิร์ตให้การรับสารภาพในชั้นศาลแล้ว ศาลได้มี คำสั่งนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 พ.ค.2566 ส่วนคดีที่นางภนิดาร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกับอัยการของจำเลยที่ 3-6 จะยื่นฟ้องในวันที่ 17 มี.ค. 2566 และนัดพร้อมตรวจสอบพยาน หลักฐานเป็นคดีใหม่ในวันที่ 28 เม.ย. 2566
ด้านนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัวของแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ในส่วนของนายตนุภัทรและนายไพบูลย์ จำเลยที่ 1 และ 2 กลับคำให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาตามที่อัยการสั่งฟ้องแล้วนั้น ทำให้ในส่วนของจำเลยที่ 3-6 ซึ่งยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหานั้น ศาลได้มีคำสั่งให้พิจารณาใหม่ โดยให้แยกสำนวนสั่งฟ้องเป็นคดีใหม่ เพราะฉะนั้นจึงต้องเริ่มต้นกระบวนการพิจารณาใหม่ทั้งหมด ซึ่งในส่วนตัวแล้วกลับมองว่าการรับสารภาพของจำเลยทั้งสองจะส่งผลดีต่อจำเลยที่เหลือ เนื่องจากจะไม่ได้มีความเกรงใจกันในการต่อสู้คดี ในส่วนของหลักฐานชิ้นใหม่ที่พยานฝ่ายโจทก์ขอยื่นวันนี้ทางทนายฝ่ายจำเลยยังไม่มีใครได้เห็นหลักฐานตามที่กล่าวอ้าง
ทางด้านแซน-วิศาพัช กล่าวว่า ตนรู้สึกแปลกใจมากและไม่รู้มาก่อนเลยว่าปอกับ โรเบิร์ตจะกลับคำรับสารภาพในชั้นศาลวันนี้ เพราะที่ผ่านมาทั้งสองไม่เคยบอกมาก่อนและเพิ่งมารู้วันนี้เช่นเดียวกัน จึงเป็นอะไรที่ค่อยข้างเซอร์ไพรส์สำหรับตน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลังจากนี้ตนก็จะเดินหน้าสู้คดีให้ถึงที่สุดโดยไมต้องเกรงใจกัน มันถึงเวลาที่แซนจะใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ตามกฎหมาย ซึ่งตนเตรียมที่จะฟ้องกลับคุณแม่อย่างแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณแม่กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ฟ้องแซนกับพวกในข้อหาฆาตกรรมมาก่อนทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง โดยมีลายเซ็นของคุณแม่เซ็นไว้ ในเอกสารที่ฟ้องจึงต้องดำเนินการฟ้องกลับและเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 40.8 ล้านบาทเช่นกัน ส่วนจะฟ้องเอาผิดกับคุณแม่ข้อหาอะไรนั้น ขอกลับไปปรึกษากับทีมทนายก่อน
