ศาลรธน.สั่งศักดิ์สยาม พักหน้าที่ ซุกหุ้นบ.รับเหมา

คำนวณสส.เขตไม่นับต่างด้าว ตู่ไหว้พระ5วัด ‘เศรษฐา’นำถกหอค้าไทย-จีน

ศาลรธน.มีมติเอกฉันท์ รับคำร้องกรณี ‘ศักดิ์สยาม’ ถือหุ้น หจก.บุรีเจริญคอน สตรัคชั่นส่อขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ไว้ก่อนทันที จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ยังมีมติเอกฉันท์ชี้ขาดไม่นับรวมต่างด้าวใช้คำนวณส.ส.เขต เผย 8 จังหวัดต้องแบ่งเขตใหม่ มีทั้งเพิ่ม ทั้งลด ‘สมชัย’แนะนายกฯ ยุบสภา 22 มี.ค. ให้ กกต.มีเวลาทำงาน ‘บิ๊กตู่’ตรวจราชการอยุธยา ไหว้พระขอพร 5 วัด ลั่นไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น เพื่อไทยตั้งดรีมทีมเศรษฐกิจ ‘หมอมิ้ง’นั่งเป็นประธาน ‘เศรษฐา’ประเดิมนำทีมถกหอการค้าไทย-จีน นายกสมาคม อบต.ขอบคุณรัฐบาล เพิ่มค่าตอบแทน ระบุใครมีบุญคุณต้องทดแทน

ศาลชี้‘ราษฎร’ไม่รวมต่างด้าว
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีการประชุมแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ คำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจในการประกาศจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ซึ่ง กกต.คิดคำนวณจำนวนส.ส.เขตที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี โดยนำจำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ตามที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณ วันที่ 31 ธ.ค.ของปีที่ล่วงมามาใช้คิดคำนวณจำนวน ส.ส.เขตของแต่ละจังหวัด ต่อมามีผู้โต้แย้งและขอให้ผู้ร้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกำหนดจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตที่แต่ละจังหวัดพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีเลือกตั้งนั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย คำวินิจฉัยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา

ต้องแบ่งเขตใหม่ 8 จังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการคำนวณจำนวนส.ส.พึงมีแต่ละจังหวัดต้องไม่นำผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ ดังนั้น จากจำนวนราษฎรที่ไม่รวม ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ณ วันที่ 31 ธ.ค.2565 ตามประกาศสำนักทะเบียนกลางลงวันที่ 5 ม.ค.2566 มีทั้งสิ้น 65,106,481 คน เมื่อนำมาคำนวณกับจำนวนส.ส. 400 คน ค่าเฉลี่ยราษฎร 162,766 คน ต่อส.ส. 1 คน ซึ่งมีผลให้มีการเพิ่มลดจำนวนส.ส.ใน 8 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีส.ส.เพิ่ม 1 คน มี 4 จังหวัด ประกอบด้วย อุดรธานี ลพบุรี นครศรีธรรมราช ปัตตานี และจังหวัดที่มีส.ส.ลดลง 1 คน มี 4 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย ตาก และสมุทรสาคร

สำหรับรายละเอียดส.ส.ทั้ง 77 จังหวัด เมื่อคำนวณจากจำนวนราษฎรที่ไม่นับรวมผู้ไม่มีสัญชาติไทย จังหวัดที่มีส.ส.มากที่สุดยังคงเป็นกรุงเทพฯ 33 คน ตามมาด้วยนครราชสีมา 16 คน

ส่วนที่มีส.ส. 11 คน มี 2 จังหวัด คือ ขอนแก่น และอุบลราชธานี

มีส.ส. 10 คน 5 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช ชลบุรี เชียงใหม่ อุดรธานี และบุรีรัมย์

มีส.ส. 9 คน 2 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ และสงขลา

มีส.ส. 8 คน 4 จังหวัด คือ นนทบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ และสุรินทร์

มีส.ส 7 คน 5 จังหวัด คือ เชียงราย ชัยภูมิ ปทุมธานี สกลนคร และสุราษฎร์ธานี

มีส.ส. 6 คน 5 จังหวัด คือ กาฬสินธุ์ นครปฐม นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ และมหาสารคาม

มีส.ส. 5 คน 9 จังหวัด คือ ปัตตานี ลพบุรี กาญจนบุรี นราธิวาส พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก ระยอง ราชบุรี และสุพรรณบุรี

มีส.ส. 4 คน 8 จังหวัด คือ กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ตรัง นครพนม ลำปาง เลย สระบุรี และสุโขทัย

มีส.ส. 3 คน 21 จังหวัด คือ ตาก กระบี่ จันทบุรี ชุมพร น่าน บึงกาฬ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พะเยา พัทลุง พิจิตร เพชรบุรี แพร่ ภูเก็ต ยโสธร ยะลา สระแก้ว หนองคาย หนองบัวลำภู สมุทรสาคร และอุตรดิตถ์

มีส.ส. 2 คน 10 จังหวัด คือ ชัยนาท นครนายก พังงา มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ลำพูน สตูล อ่างทอง อำนาจเจริญ และอุทัยธานี

มีส.ส. 1 คน 4 จังหวัด คือ ตราด ระนอง สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี

หากคิดจำนวนส.ส.เป็นรายภาค ตามประกาศ กกต.เรื่องบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัด ปี 2560 ภาคกลาง กรุงเทพฯ และ 26 จังหวัด จะมีส.ส. 122 คน ภาคใต้ 14 จังหวัด มีส.ส. 60 คน ภาคเหนือ 16 จังหวัด มีส.ส. 37 คน ภาคอีสาน 20 จังหวัด มีส.ส. 133 คน ภาคตะวันออก มีส.ส. 29 คน และภาคตะวันตก มีส.ส. 19 คน

‘สมชัย’ชงนายกฯ ยุบสภา 22 มี.ค.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเสรีรวมไทย (สร.) ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่ กกต.ต้องเร่งดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้ทันภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด คือกรณีสภาครบวาระ (23 มี.ค. 2566) ต้องเลือกตั้งวันที่ 7 พ.ค. แต่ถ้ายุบสภาต้องเลือกตั้งภายในกรอบระยะเวลา 45 วัน ไม่เกิน 60 วัน ตนขอเรียกร้องไปยังกกต.ต้องประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อสั่งการให้มีการคำนวณจำนวน ส.ส.ของแต่ละจังหวัดใหม่ทั้งประเทศ เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน

โดยมี 69 จังหวัดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ควรประกาศในราชกิจจานุเบกษาทันที เพื่อให้พรรคการเมืองทำไพรมารีโหวตไปพลางก่อน ส่วน 8 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบขอให้ กกต.จัดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตใหม่อย่างน้อย 3 รูปแบบให้ประชาชน พรรคการเมือง แสดงความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ขอให้ กกต.มีมติลดระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นจาก 10 วัน เหลือ 5 วัน สมมติหากมีการประกาศรูปแบบการแบ่งเขตในวันที่ 4 มี.ค. และรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่ 8 มี.ค.ก็เพียงพอแล้ว โดยวันที่ 9 มี.ค.สรุปความเห็นส่งให้ กกต.ในวันที่ 10 มี.ค. เพื่อออกมติรูปแบบการแบ่งเขตได้ จากนั้นให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาในคืน วันเดียวกัน แล้วให้พรรคการเมืองไปเก็บตกในส่วนที่เหลือ จะใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน พรรคการเมืองสามารถทำไพรมารีโหวตแล้วเสร็จ หากจะยุบสภา 15 มี.ค.ก็ยังทัน

ถ้าอยากจะไม่ตึงเกินไป อยากเสนอนายกฯ ว่าอาจจะต้องรอ กกต.สักนิด ส่วนตัวเห็นว่าที่เหมาะในการยุบสภาคือวันที่ 22 มี.ค. และวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 21 พ.ค. ซึ่งอาจจะดีที่สุด แม้อาจจะไม่ตรงกับวันธงชัยของใครก็แล้วแต่ แต่เป็นกรอบเวลาที่เป็นไปได้ที่ทำให้ทุกฝ่ายทำงานได้อย่างรอบคอบครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนวันยุบสภา วันที่ 21 อย่าเอาเลย ตรงกับวันเกิดใครไม่ทราบ

พปชร.ยันมีแผนพร้อมแล้ว
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชี รายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า พปชร.เตรียมแผนไว้รองรับอยู่แล้ว ไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาอย่างไร เราสามารถดำเนินการต่อไปได้ ตอนนี้ต้องรอกกต.จะประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จสิ้นเมื่อใด พปชร.จะได้ส่งชื่อส.ส.หรือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตให้ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และตัวแทนสาขาพรรค เพื่อประชุมรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะเริ่มนับหนึ่ง ในวันที่กกต.ประกาศแบ่งเขต ทุกอย่างพร้อมแล้วไม่มีปัญหา

การจัดตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 77 จังหวัด จะใช้สาขาพรรค 4 สาขา และใช้ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ขณะนี้มี 3 เรื่องที่ต้องทำคือ การเตรียมเอกสารผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อให้เรียบร้อย เตรียมรายชื่อสำหรับบุคคลที่พรรคจะเสนอเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีชื่อเดียวคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพปชร.

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้กระทบกับไทม์ไลน์เลือกตั้งหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า กกต.บอกว่าไม่กระทบ ดังนั้นต้องรอฟังจาก กกต.เป็นหลัก ส่วนเรื่องวันยุบสภา พปชร.พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่ว่ายุบวันไหน และเชื่อว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าจะไม่มีอุปสรรคในด้านกฎหมายสำหรับการเลือกตั้ง

‘นิกร’เชื่อปฏิทินเลือกตั้งคงเดิม
นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ประเด็น ดังกล่าวมีผลกระทบกับพรรคการเมืองแน่นอน เพราะไม่สามารถคัดสรรผู้สมัครที่จะส่งลงรับเลือกตั้งส.ส.ได้ ต้องรอการประกาศเขตเลือกตั้งจากกกต.อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ดังนั้นเมื่อในพื้นที่ 8 จังหวัด ที่มีปัญหาต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้ต้องมีเวลารับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ ตามระเบียบกกต. ประมาณ 10 วัน

ตนมองว่า กกต.มีอำนาจที่จะลดเวลาการรับฟังความคิดเห็นได้ แต่อาจถูกตั้งประเด็นร้องเรียนการทำหน้าที่ได้ จึงเชื่อว่า การประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการนั้น กกต. จะรอให้ครบทั้ง 400 เขต โดยไม่ทยอยการประกาศรับรองในเขตที่ไม่มีปัญหาไปก่อนตามข้อเสนอของบางฝ่ายได้ เพื่อให้ระเบียบและกฎหมายของตนเองคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง

เมื่อถามว่า จะกระทบปฏิทินยุบสภาตามที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 15 มี.ค.นี้หรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีอำนาจยุบสภาได้ทุกวันนับจากนี้ แต่หากนายกฯ จะรอให้กกต.ดำเนินการตามขั้นตอนให้พร้อม เชื่อว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นไม่เกินวันที่ 22 มี.ค. เพราะไม่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวันเลือกตั้ง ที่กกต.วางปฏิทินไว้ 7 พ.ค. เนื่องจากกรอบการเลือกตั้งหลังยุบสภา จะอยู่ในช่วงไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน

ก้าวไกลข้องใจทำไมเพิ่งทำ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนสงสัยว่า เหตุใดเมื่อปี 2562 กกต. และผู้ที่ยกร่างรัฐธรรมนูญในขณะนั้น หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ผ่านกฎหมายลูก จึงไม่หยิบยกขึ้นมาดำเนินการตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยและความคลางแคลงใจว่าตกลงแล้วการมายื่นและตีความในครั้งนี้ เป็นเพราะจะทำให้ก่อเกิดประโยชน์ และส่วนได้เสียกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่ ซึ่งต่อมาได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ให้แบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน การที่ศาลเขียนว่าให้มีผลบังคับในวันที่ 3 มี.ค.2566 และไม่ให้ท้าวความหรือย้อนความว่าเกิดการกระทำความผิดพลาดอย่างใด เพราะไม่เช่นนั้นจะมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบในทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาขึ้นมาอีก

เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมาเช่นนี้ก็ต้องแบ่งเขตเลือกตั้งให้ถูกต้องโดยเร็ว เพราะแต่ละพรรคการเมืองได้คัดว่าที่ผู้สมัครส.ส.กันไปเกือบหมดแล้ว จากนี้จะมีผลต่อกระบวนการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัครส.ส. ซึ่งทราบว่ากกต. ได้นัดถกด่วนเรื่องการแบ่งเขต ก็หวังว่าจะถกด่วนจริง ไม่ใช่ว่าติดวันเสาร์อาทิตย์แล้วอ้างว่าให้ไปรอสัปดาห์หน้าอีก ก็จะก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับพรรคการเมืองที่รอคอยความชัดเจนเรื่องการแบ่งเขต

ชพก.ทวงถามแบ่งเขตกทม.
ที่สำนักงาน กกต. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) เข้ายื่นหนังสือทวงถามกกต. กรณีกกต.กทม.ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งเพิ่มเติมแบบที่ 6-8 ใน กทม. ที่จะขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ลำบากใจมากกับการทำงานของกกต. ตอนนี้สับสนมาก ทั้งการแบ่งเขตและการแบ่งจำนวนประชากร ล่าสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยวันนี้ ซึ่งย้ำกับ กกต.ว่าการแบ่งเขตทั้ง 8 แบบ ในแบบที่ 6-8 เป็นการแบ่งโดยผิดกฎหมาย กลัวจะมีปัญหาเหมือนเรื่องจำนวนราษฎรอีก เพราะการแบ่งเขตที่ถูกต้องต้องออกเป็นมติ กกต.แล้วประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แต่แบบ 6-8 ไม่ได้มีลงประกาศ จึงไปขัดมาตรา 5 พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.

วิธีการคิดที่เอาเขตมาระเบิดทิ้ง แล้วเอาแขวงแต่ละแขวงแยกไปอยู่ในแต่ละเขต มันพิสดารมาก ตามพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 27(1)(2) ระบุหลักการไว้ 2 เรื่อง 1.ให้เป็นชุมชนเดียวกันมาก่อน ฉะนั้นอะไรที่เป็นเขตเป็นก้อนเดียวกันมาก่อนอย่าไปหั่นไปแยก 2.ให้คำนึงถึงการเป็นเขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน ขณะนี้การเลือกตั้งส.ส.เขตแบบ 400 คน ไปเหมือนปี 2557 ก็เอาเกณฑ์ปี 2557 เป็นเกณฑ์เท่านี้ก็จบแล้ว ถ้ายังทำแบบนี้พรรคการเมือง ประชาชนสับสน

ถวายดาบ – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถวายดาบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรฯ แต่ดาบหล่นจากแท่นตกใส่แขน สร้างความตกใจให้เจ้าตัว ที่วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 3 มี.ค.

‘บิ๊กตู่’ถวายดาบพระนเรศวรหล่น
เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และคณะ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ลงพื้นที่ตรวจ ราชการจ.พระนครศรีอยุธยา โดยเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กทม.ไปยังจุดจอด ฮ. สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต.ไผ่ลิง อ.พระนคร ศรีอยุธยา แล้วนั่งรถต่อไปวัดใหญ่ชัยมงคล เข้ากราบสักการะพระประธาน นมัสการ เจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งเจ้าอาวาสมอบรูปหล่อสมเด็จพระนเรศวรหน้าตัก 5 นิ้ว ให้ นายกฯเพื่อเป็นสิริมงคลในการสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เสร็จแล้วไหว้พระพุทธชินราช

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินไปยังเจดีย์ชัยมงคล ระหว่างทางแวะทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถ่ายภาพร่วมกัน แล้วเข้าสักการะพระเจดีย์ชัยมงคล อนุสรณ์แห่งชัยชนะอัน ยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำพิธีห่มผ้าพระเจดีย์ฯ และขึ้นบันไดไปชมกรุด้านบน สักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์ สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ถวายดาบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยกแท่นวางดาบที่อยู่ ในฝัก ให้นายกฯนำไปถวาย ปรากฏว่าดาบหล่นจากแท่นลงมาใส่ที่ท้องแขนของนายกฯ สร้างความตกใจเล็กน้อย

การเดินทางมาของ พล.อ.ประยุทธ์ มีผู้ว่าฯอยุธยา และคณะต้อนรับ และมีประชาชนประมาณ 10 คน ถือป้ายให้กำลังใจ อาทิ นายกฯ ประยุทธ์สู้สู้นะจ๊ะ, เชียร์นายกฯลุงตู่เป็นนายกฯคนต่อไป, โดนัทยังมีรูลุงตู่ยังมีเรา อยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯนานๆ รักนะจุ๊บๆ พร้อมตะโกน นายกฯสู้สู้ โดยแม่ค้าที่บริเวณวัดชื่นชมนายกฯว่า รูปหล่อ ส่วนนายกฯทักทายประชาชนและย้ำว่า มาตรวจราชการ

รับพรเจ้าคุณธงชัย
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังกราบ ไหว้สักการะพระพุทธชินราชและสมเด็จ พระนเรศวรมหาราชว่า อธิษฐานทุกครั้งให้ชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ ให้บ้านเมืองปลอดภัย มั่นคง แข็งแรง เรายังต้องพัฒนาประเทศชาติไปอีกไกลมาก ถ้าไม่ทำวันนี้ก็ไปไม่ได้ ไม่สามารถทำอะไรได้เสร็จภายในวันสองวัน สมเด็จพระนเรศวร ก็ทำมาตั้งนานแล้ว ตนมากราบสักการะสมเด็จพระนเรศวร พระองค์กู้บ้านสร้างเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ เราต้องรักษาให้ได้ด้วยความสงบสุข เดินหน้าต่อไปด้วยความมั่งคั่ง เป็นความมั่งคั่งที่ยั่งยืนและแข็งแรง ลดความขัดแย้งกันได้แล้ว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ต.ประตูชัย ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดง เครื่องทองอยุธยา การจัดแสดงเครื่องทองอยุธยาและพระบรมสารีริกธาตุ และเวลา 12.00 น. เดินทางมาด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กม 789 พระนครศรีอยุธยา มายัง วัดศาลาปูนวรวิหาร เข้าสักการะพระประธาน หลวงพ่อแขนลาย พระนาคปรกที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยสร้างถวายให้วัด เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นพระประจำวันเกิดของพล.อ.ประยุทธ์ และกราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือเจ้าคุณธงชัยเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ที่มารออยู่ในอุโบสถ

เจ้าคุณธงชัยได้สวดชยันโต โดยมีเพียงพล.อ.ประยุทธ์และคณะ อยู่ในพิธีเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 15 นาที แล้วเดินออกมาพร้อมกับเจ้าคุณธงชัย หยุดยืนที่บริเวณหน้าซุ้มกำแพงโบสถ์ ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์สิงห์ ในรัชกาลที่ 5 คล้ายตราสัญลักษณ์ของทำเนียบรัฐบาล และเจ้าคุณธงชัย ได้เรียกให้ทุกคนมายืนถ่ายรูปด้วยกัน พร้อมกล่าวว่า ใครจะเป็นส.ส. ใครจะเข้าทำเนียบมายืนถ่ายรูปกัน

พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน ได้ให้พรว่า “ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อยู่เย็นเป็นสุข โดยไม่ได้ให้พรเรื่องอะไรเพิ่มเติม เพราะเรื่องสุขภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด คนเราหากสุขภาพดีแล้วจะทำอะไรก็ได้ และหากสุขภาพไม่ดีทำอะไรก็แย่ ดังนั้น สุขภาพดี มีเงินใช้ ร่างกายแข็งแรง เป็นสิ่งสำคัญ”

ปล่อยมุขนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น
หลังจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ และเจ้าคุณธงชัย เดินทางไปยังวัดหน้าพระเมรุ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ไหว้พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์ บรมไตรโลกนาถ พระประธานในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปในสมัยอยุธยา ทรงเครื่องพระมหากษัตริย์ เป็นและมีความเชื่อกันว่า ทำให้ข้าศึกเกิดความเกรงกลัวไม่เข้ามาทำลายวัดนี้ ซึ่งจุดนี้ไม่ได้อยู่ในหมายกำหนดของนายกฯ

เวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงวัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เข้าสักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร ในวิหารพระมงคลบพิตร และติดตามความคืบหน้าในการบูรณปฏิสังขรณ์ พร้อมทักทายและถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างอารมณ์ดี และได้กล่าวติดตลกผ่านล่ามกับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เกี่ยวกับการที่คนไทยนิยมอาหารญี่ปุ่นประเภทปลา ว่าวันหน้าปลาจะไม่เหลือแล้วนะ คนไทยกินหมด ทำให้ วันหน้าจะต้องมากินอาหารญี่ปุ่นที่ประเทศไทย เรียกเสียงหัวเราะให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นอย่างครื้นเครง

นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนอื่นๆ มาขอถ่ายรูปกับพล.อ.ประยุทธ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวบางคนเห็นพล.อ.ประยุทธ์แสดงอาการร้อน จึงนำพัดมาพัดเพื่อแก้ร้อนให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ยกมือไหว้ขอบคุณ

ลั่นไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น
เวลา 15.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาวัดใหม่หญ้าไทร กราบสักการะพระประธาน และนมัสการเจ้าอาวาสวัดใหม่หญ้าไทร ก่อนตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก และขึ้นเวทีเพื่อพบปะประชาชนประมาณ 1,500 คน ซึ่งการมา จ.พระนครศรีอยุธยาครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าวัด ไหว้พระ ขอพร รวมทั้งหมด 5 วัด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนจะทำให้ถึงวันสุดท้ายจะทำให้ได้ ยืนยันว่าเวลานี้เหลือไม่มาก แต่พยายามจะทำให้ดีที่สุด “วันนี้เป็นอะไรไม่รู้เจ็บมือ แต่ไม่เจ็บใจ ปลื้มใจ เพราะมาเห็นหน้าทุกคน และทุกวันนี้ไปไหนมาไหนก็คิดทุกวันว่าจะได้เจออะไร แต่สู้ ผมสู้ทุกอย่าง นี่คือผม ไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผมต้องดูแลให้ดีที่สุด เพราะผมเป็นนายกฯ ของประเทศนี้”

ส่วนเรื่องหนี้สิน คือสิ่งที่รัฐบาลจะทำ ต่อไป แต่จะทำอย่างไรไม่บอก จะลดหนี้กันด้วยวิธีไหน ลดอย่างไร เอาไว้แล้วจะบอก ขอให้รออีกนิดหนึ่ง เพราะนี่เป็นเรื่องที่ยังพูดไม่ได้ แต่รับรองว่าทำได้ ขอให้ทุกคนปลอดภัย มีรายได้ที่สูงขึ้น ขอให้รออีกนิด รออีกนิดนะ อย่าลืม รอได้ไหม ในเมื่อทุกอย่างเป็นอย่างนี้มานานก็ต้องแก้ แก้แล้วทำต่อให้สำเร็จนะจ๊ะ ดีใจที่ได้เจอกันวันนี้ มีความสุข อยุธยาเป็นเมืองพระ เมืองโบราณ บรรพบุรุษ พระมหากษัตริย์ไทยทรงพลีชีพไปมาก กว่าจะได้ แผ่นดินผืนนี้มา เราปฏิเสธไม่ได้คนเลวมีทุกระยะ อย่าไปส่งเสริมคนเลว คนเลวคือคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่อย่างนายกฯ ยังไม่รู้ว่าดีหรือเลว แต่ตนจะพยายามทำให้ ทุกคนถูกใจให้มากที่สุด

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พบปะประชาชนที่นำดอกไม้มามอบให้ โดยพล.อ.ประยุทธ์แสดงอาการเจ็บมือข้างขวาบ่อยครั้ง และเป็นที่สังเกตเห็นได้ชัดว่า มือข้างขวาของยังมีอาการบวมมาก และมีบางช่วง พล.อ.ประยุทธ์รับดอกกุหลาบแล้วทำดอกกุหลาบหล่นจากมือ พร้อมบอกกับประชาชนว่า รับไม่ได้เป็นเพราะมือเจ็บ ก่อนที่จะนำมือข้างขวามาซุกที่ข้างตัวด้านซ้ายเพื่อไม่ให้สัมผัสกับสิ่งต่างๆ หรือสลับไปใช้ถือไมโครโฟนแทน

‘บิ๊กป้อม’ลงพื้นที่ปากน้ำคึกคัก
เวลา 15.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมคณะลงพื้นที่เป็นประธานในพิธีเปิดตลาดเชิงท่องเที่ยวศูนย์กลางจำหน่ายผลผลิตทางการประมงและศูนย์ ส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดสมุทรปราการ ถ.ท้ายบ้าน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มี นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าฯสมุทรปราการ กล่าวต้อนรับ โดยมี นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าสมุทรปราการ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายยงยุทธ สุวรรณบุตร นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ และว่าที่ผู้สมัครส.ส. พปชร. น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ นางประภาพร อัศวเหม นายกเทศบาลนครสมุทรปราการ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้าประชาชน ต้อนรับ

พล.อ.ประวิตรอ้อนขอคะแนนเสียงกับ ชาวบ้านที่มารอต้อนรับอย่างหนาแน่น พร้อมนั่งรถกอล์ฟโดยมี นายชนม์สวัสดิ์เป็นผู้ขับไปพบกับมวลชลนับพันคนที่มาต้อนรับแน่นตลาด ตลอดทางมีชาวบ้านมอบดอกไม้ กอด หอม พร้อมตะโกน รักลุงป้อม, ลุงป้อมสู้ๆ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนกลับ

‘ชุมพล’เผย‘ชวน’เคลียร์แล้ว
นายชุมพล กาญจนะ ที่ปรึกษาของนายกฯ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในปชป.มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายต่างคนต่างอยู่ คนมาใหม่ไม่กี่วันก็มาเป็นใหญ่ อย่างที่รู้ๆ กัน ต่างคนต่างอยู่ พรรคดี แต่คนในฝ่ายบริหารแก่งแย่งกัน ที่ตนมาอยู่ รทสช.ยืนยันว่าไม่ได้รับเงินแน่นอน อยู่ในปชป.ก็มีแต่ให้ ไม่เคยได้อะไรจากพรรคแม้แต่น้อย พวกที่เป็นรัฐบาลอยู่ถือว่ากินบุญจากพวกตนด้วย เพราะการเลือกตั้งปี 2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค ตนก็ช่วยอย่างเต็มที่ แต่เชื่อว่านายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าปชป.ไม่มีเจตนาว่าตน แต่เอา2 เรื่องมารวมกัน พูดเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้เข้าใจผิด

เมื่อคืนวันที่ 2 มี.ค. นายชวนฝากให้คนสนิทโทร.มาหาตน บอกว่ายังรักกัน นับถือกันเหมือนเดิม ท่านไม่มีเจตนาเช่นนั้นและเข้าใจเหมือนเดิม ส่วนตัวไม่ได้กลัวว่านายชวนคิดเช่นนั้น แต่กลัวคนอื่นเข้าใจไปในทางที่ไม่ดี หรือรับเงิน เพราะเป็นเรื่องบาปกรรม ขอย้ำว่ายังนับถือนายชวนเหมือนพ่อ เหมือนพี่ ที่อยู่กันมาหลายสิบปี

ไม่มีตัวเลข 200 ล้านบาทแลกกับหาก กวาดส.ส.ได้ทั้งจังหวัด มีแต่ช่วยกัน เพราะลูกสาวตนมาอยู่ที่รทสช. ส่วนตนไม่เคยมีประวัติเช่นนั้น นายกฯ ชวนมาเป็นที่ปรึกษา มาช่วยบ้านเมือง ไม่ใช่ช่วยตัวเอง ไม่มีให้เงิน ค่าเดินทางกับค่าตั๋วตนยังจ่ายเอง และตนเห็นว่านายกฯ เป็นคนซื่อสัตย์ เป็นคนดี ใครเป็นผู้นำซื่อสัตย์ตนจะไปอยู่ตรงนั้น

พท.ตั้งดรีมทีมศก.-‘หมอมิ้ง’ปธ.
วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงนามคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ มี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นประธาน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจเป็นรองประธาน นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นที่ปรึกษา พร้อมผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้แก่ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบาย 3 นายกฯ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ นายปานปรีย์ มหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้า และที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจของไทยหลังโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนสงครามเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ ส่งผลให้ประชาชนไทยทุกข์ยากต่อเนื่องมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา การต่อสู้สงครามเศรษฐกิจครั้งนี้ต้องเข้าใจปัญหา เท่าทันสถานการณ์ และภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลก พรรคจึงเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชั้นนำมาให้คำปรึกษาและร่วมเป็นกรรมการ

คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจจะเป็นแกนกลางระดมความรู้ ความสามารถ และความร่วมมือในการกอบกู้และบริหารให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น หากพท.เป็นรัฐบาล เราจะกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศไทยให้ฟื้นแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง เพราะเราเคยทำมาแล้ว

‘เศรษฐา’ประเดิมงานแรก
เวลา 10.30 น. ที่สมาคมหอการค้าไทย-จีน เขตสาทร พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัว เพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พท. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค นายวิชาญ มีนชัยนันท์ กลุ่มงานบริหารพื้นที่ กทม.ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งส.ส. นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. เข้าพบนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีนและคณะ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ

นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้ถือเป็นงานแรกอย่างเป็นทางการหลังได้รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไทยและจีนมีความสัมพันธ์กันยาวนานในเชิงพาณิชย์ สร้างมูลค่าการค้าระหว่างกันมหาศาล การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นจุดเปลี่ยนของไทย นโยบายที่ออกมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพท.โดนใจประชาชนมาตลอด เราจะให้ความสำคัญกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศสูงสุด ปัญหา 5-6 ปีที่ผ่านมาตนไม่อยากพูดถึง แต่มั่นใจว่าหากเราได้เป็นรัฐบาล เราทำได้ดีและทำได้มากขึ้น หาก พท.ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเข้ามาบริหาร จีนจะเป็นประเทศที่เราให้ความสำคัญในการเปิดตลาดทุกมิติ

กร้าวขอเป็นนายกฯ เท่านั้น
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กรณีระบุจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทางการเมืองหากไม่ได้เป็น นายกฯ ว่า มันไม่ใช่ความต้องการ วันนี้ตนเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขั้นตอนจากนี้ต้องได้รับเลือกเป็น แคนดิเดตนายกฯ และเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ย้ำว่า พท.ส่งแคนดิเดตนายกฯ ครบ 3 รายชื่อ คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ต้องเลือกว่าใครจะได้รับความไว้วางใจตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าไม่ใช่ตำแหน่งนายกฯ ก็ไม่เอาใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ก็คือไม่เอา แต่อาจไปให้คำแนะนำอยู่ข้างหลัง หรือยังเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอยู่ต่อก็ได้ ผมก็ยังเป็นสมาชิก พท.อยู่ ทำงานให้คำแนะนำด้านเศรษฐกิจโดยไม่มีตำแหน่งก็ได้ ตรงนี้สามารถทำได้” ในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่ง สามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้เหมือนกัน ถ้าต้องขับเคลื่อนอะไรจริงๆ แล้ว ตำแหน่ง นายกฯ เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจ สามารถทำได้จริง ต่อข้อถามว่าถ้าไม่ได้ตำแหน่งนายกฯ แสดงว่าตำแหน่งอื่นๆ อย่างรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจก็ไม่เอาใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ไม่เอาครับ” ผู้สื่อข่าวถามว่าเท่ากับว่าตำแหน่งนายกฯ จะมีอำนาจ ทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องมีภาคส่วนที่เข้ามาตรวจกัน มีระบบรัฐสภา และมีอะไรหลายๆ อย่าง ตนไม่ได้อยากจะเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องการเบ็ดเสร็จในเรื่องของอำนาจ มันไม่ใช่

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการกดดัน พท. หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มี เรารู้จักกันมานาน เรารู้ตัวตนของตัวเองมานาน เรื่องการกดดันหรือเรื่องการอ้อมค้อมไม่มีแน่นอน ไม่ใช่เป็นนิสัยของตนเองอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ในพรรคก็รู้ดีว่าตนเป็นคนอย่างไร ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีแน่นอน เมื่อถามว่าการดีลเข้ามาในพท.เป็นการดีลในตำแหน่งนายกฯ ใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้ดีลแบบนั้น แต่ดีลเข้ามาอย่างเดียวคือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยชวนเข้ามาทำงาน เข้ามาช่วยให้คำปรึกษา ตนก็น้อมรับด้วยความเต็มใจและรู้สึกเป็นเกียรติ

นายกอบต.ขอบคุณรัฐบาล
นายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกอบต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในฐานะนายก สมาคมอบต.แห่งประเทศไทย เผยว่า สมาชิกสมาคมอบต.ขอบคุณรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ที่มีส่วนผลักดันให้การขึ้นค่าตอบแทนสมาชิกของสมาคมประสบความสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่ง สิ่งที่ได้มากกว่าการขึ้นค่าตอบแทนให้สมาชิก อบต.คือการยกฐานะ อบต.ทั่วประเทศเป็นเทศบาล ถือว่าเหนือความคาดหมายเหมือน ถูกหวย 2 เด้ง ทั้งหมดถือเป็นความจริงใจของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์

การที่รัฐบาลเพิ่มค่าตอบแทนให้ครั้งนี้ขอความกรุณาอย่ามองเป็นเรื่องการเมืองหรือหาเสียง พวกตนดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว เมื่อมีความคืบหน้าก็ต้องออกมาประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าใครจริงใจ ไม่จริงใจ

“พวกผมใครมีบุญคุณก็ต้องจดจำและทดแทน ใครคัดค้านก็ต้องจดจำเช่นกัน โดยเฉพาะบางพรรคที่เคยไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ พวกผมซึ่งมีสมาชิกเกือบ 4 แสนคนทั่วประเทศผมจำได้ขึ้นใจ ส่วนการทดแทนคงทำได้ตอนลงคะแนนเลือกตั้ง ผมได้ยินเพื่อนสมาชิกพูดกันว่า เลือกตั้งส.ส.ตัวบุคคลแต่ละคนคงมีคนอยู่ในใจแล้ว บังคับกันไม่ได้ แต่ถ้าเลือกพรรคพวกเขาพูดกันว่าจะตอบแทนเลือกพรรคที่ไม่ทิ้งกัน” นายวิระศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับขึ้นค่าตอบแทนสมาชิกอบต. คาดว่าจันทร์ที่ 6 มี.ค.จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลช่วงต.ค. โดยหลักการจะคำนวณจากรายได้ที่จะมีหลักเกณฑ์อยู่ ส่วนการยกอบต.เป็นเทศบาล เรื่องอยู่ในขั้นตอนการตราในประมวลกฎหมายท้องถิ่น ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว

สภาตั้งกก.สอบปมส.ส.เล่นพนัน
ที่รัฐสภา ว่าที่เรือตรี ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภา เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ส.ส.กรณีพบเล่นการพนันในพื้นที่อาคารรัฐสภา บริเวณห้องทำงานของ ส.ส.เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2566 ว่า ในการเข้าใช้ห้องทำงานของ ส.ส. มีระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ.2565 เกี่ยวกับ ข้อปฏิบัติทั่วไปในการใช้พื้นที่และอาคารรัฐสภา ข้อ 8 (2) ที่ห้ามมิให้มีการกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดี

เมื่อปรากฏตามข้อร้องเรียนว่า มีส.ส.เล่นการพนันภายในพื้นที่รัฐสภา ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.การพนัน พุทธศักราช 2478 อันเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา และฝ่าฝืน ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ.2563 ที่กำหนดให้สมาชิกต้องรักษาไว้และปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่กระทำการใดๆ อันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของประเทศชาติและสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานฯ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ระเบียบ และประมวลจริยธรรมฯ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

คาดสรุปไม่ทันสมัยนี้
นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ชทพ. กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันที่ 8 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น. คณะกรรมการจริยธรรมฯ จะประชุมเรื่องที่ได้ผ่านการพิจารณาแล้วหรือพิจารณาใหม่ที่ผ่านอนุคณะกรรมการกลั่นกรองแล้วด้วย ฉะนั้นคาดว่าเรื่องนี้อาจเข้าไม่ทันสภาชุดนี้ เพราะยังไม่ผ่านอนุคณะกรรมการกลั่นกรองตามระเบียบ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะมีการยุบสภาเมื่อไร

เมื่อถามว่า เมื่อมีสภาชุดใหม่เข้ามา และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรมชุดใหม่ จะสามารถหยิบเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาได้หรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า เมื่อสภาหมดอายุ คณะกรรมการจริยธรรมฯ และอนุคณะกรรมการกลั่นกรอง ต้องสิ้นสภาพด้วย หากส.ส.รายนี้ กลับเข้ามาเป็นส.ส. อีกครั้ง ผู้ร้องสามารถยื่นเรื่องอีกครั้งได้เพื่อพิจารณากันใหม่ นอกจากนี้ ผู้ร้องยังสามารถยื่นไปยังหน่วยงานอื่นๆ เพื่อแจ้งข้อหาความผิดได้ด้วย

งาบ – นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อ้าปากงาบเค้กรูปที่ดินบ้านเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ แถลงเปิดโปงขบวนการทุจริตเกี่ยวข้องกับนักการเมืองรายใหญ่ และสวดมนต์สาปแช่งผู้กระทำผิดต่อบ้านเมือง ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิงค์ กทม. เมื่อวันที่ 3 มี.ค.

‘ชูวิทย์’บี้ขบวนการส่อทุจริต
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิงค์ สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมล วิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองแถลงเปิดโปงขบวนการส่อทุจริต ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองรายใหญ่ ทั้งในกระทรวงคมนาคม เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม, ที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์, การรถไฟแห่งประเทศไทยตั้งบริษัทลูกแยกทรัพย์สินและที่ดิน, กระทรวงสาธารณสุข เรื่องวัคซีนกับกัญชา และกระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องสนามกีฬาแข่งรถ สนามฟุตบอล

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่ จากการถือหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น นั้น มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ควรแต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มาเป็นรัฐมนตรีรักษาการกระทรวงคมนาคม เหตุใดจึงไม่ให้รมช.คมนาคม แทน หากนายกฯ ไม่เกรงกลัวต่อพรรคร่วมรัฐบาล และทำงานชัดเจน นายศักดิ์สยามจะหมดอนาคตทางการเมืองแน่นอน

ศาลรธน.สั่ง‘ศักดิ์สยาม’พักหน้าที่
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเรื่องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องจากส.ส.ฝ่ายค้าน รวม 54 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ว่า นายศักดิ์สยามผู้ถูกร้องยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็น ผู้ถือหุ้นและเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือกิจการของ หจก. เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7 (9) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้รับคำร้องไว้วินิจฉัย และให้นายศักดิ์สยาม ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี จนกว่าจะวินิจฉัยแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามเอกสารคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ตั้งแต่ 3 มี.ค.2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย แจ้งให้คู่กรณีและนายกฯ ทราบ

นายศักดิ์สยามให้สัมภาษณ์ว่า หลังได้รับคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการแล้วตนจะชี้แจง ข้อกล่าวหาไปตามกรอบเวลาภายใน 15 วัน ตนเตรียมคำชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้ว ยืนยันได้ถอนหุ้นจากบริษัทดังกล่าวก่อนเป็นรัฐมนตรี ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติหน้าที่แทน

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ได้คุยกับนายศักดิ์สยาม เลขาธิการ ภท. ยืนยันสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด ส่วนสมาชิก ภท.ทุกคน มีกำลังใจดี และไม่มีผลกระทบอะไรต่อพรรค ยังมุ่งหน้าทำงานและลงพื้นที่หาเสียงต่อไป

ที่จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีผลต่อการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะงานทำกันไปตามนโยบายอยู่แล้ว นโยบายก็ได้วางไว้มากพอสมควร ถึงรัฐมนตรีไม่อยู่ยังมีปลัดกระทรวงและรองนายกรัฐมนตรี ในระหว่างนี้อาจต้องมีการตั้งผู้แทนชั่วคราว

แอ่วเหนือ – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย คล้องพวงมาลัยแคบหมูที่ชาวบ้านมอบให้ ระหว่างนำว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคออกพบปะชาวบ้านที่วัดสันดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.