เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ญาติจัดเตรีมศาลาธรรมสังเวช วัดสายตรี ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศล ด.ช.เจษฎา พรมมา อายุ 9 ขวบ หลังจากนายอุดร พ่อของด.ช.เจษฎาและญาติเดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์รังสิต นำศพออกมาช่วงเวลา 12.00 น. และนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดสายตรี บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมทุกคืน ยังไม่กำหนดวันเผา
ต่อมาเวลา 16.00 น. ขณะที่รถกู้ชีพนำร่างของน้องเจษฎามาถึงบริเวณวัด โดยมีนายอุดรและพร้อมด้วยญาติๆ ที่เดินทางไปรับศพของน้องเจษ ซึ่งนายบอย อยู่ในอาการที่เศร้าโศกเสียใจจนเป็นลมล้มพับ ญาติต้องช่วยกันประคองไปนั่ง และช่วยปฐมพยาบาลให้ จากนั้นนำศพของน้องเจษมาประกอบพิธีรดน้ำศพ
นางจันทร์ บุญชำนิ อายุ 61 ปี แม่ของนางอารียา กล่าวว่า ตอนนี้อาการของลูกสาวยังทรงตัวอยู่ อาการโดยรวมมีความหวังเพียง 5 เปอร์ซ็นต์ โดยส่วนตัวแล้วไม่ติดใจ ในการเสียชีวิตของลูก ลูกเขยก็เป็นคนดี เสมอต้นเสมอปลาย คิดว่าลูกสาวตนเป็นคนทำเอง ถ้าเป็นลูกเขยก็ไม่น่าจะใช่เนื่องจากว่าดูเขาก็รักกันดี
พ.ต.อ.วีระวุฒิ ดำสุวรรณ ผกก.สภ.พระพุทธบาท เผยว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบคนใกล้ชิดกับเหตุการณ์ คือสามี พร้อมด้วย ปู่ ย่า และบ้านใกล้เคียงที่เป็น พยานแวดล้อม เท่าที่รวบรวมพยานหลักฐานได้ทราบว่าตัวแม่ของเด็กป่วย และระยะหลังค่อนข้างจะเครียด มีการทานยา และไปหาหมอบ่อย มีการกังวลกับอาการที่ป่วย และไปพบแพทย์เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านา ส่วนเรื่องการก่อเหตุยังคงต้องดูทางพิสูจน์หลักฐาน และผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีนั้นขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร เท่าที่ดูแนวโน้มว่าแม่เด็กน่าจะเป็นคนก่อเหตุเอง จากการสอบปากคำทาง สามี และญาติๆ มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ก่อเหตุเอง ซึ่งที่ออกมาข้างนอกเนื่องจากว่าเกรงว่าออกมาแล้วกลัวความผิด แต่ทางเจ้าหน้าที่พบอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นผู้ใช้ ถ้าได้รับการยืนยันทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง น่าจะชัดเจนยิ่งขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจทุกอย่างจนครบประเด็น ส่วนผลตรวจยังคงอยู่ในสำนวน
