ทำงานเกาหลีหาเลี้ยง รวยหวย12ล.-ก็ตีจาก

หนุ่มผีน้อยร่ำไห้ร้องขอความช่วยเหลือทนายความคนดัง ลักลอบทำงานในเกาหลีเก็บส่งเลี้ยงลูกเมียที่ชัยภูมิตั้งแต่ปี 57 – ปี 64 ลูกสาวคนโตโทร.บอกว่าแม่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน หวังว่าเมียจะเรียกกลับไทย สุดท้ายเงียบกริบไม่ติดต่อ แต่ยังคิดบวกมุ่งมั่นทำงานหาเงินต่อจนถูกทางการเกาหลีกวาดล้างส่งตัวกลับเมื่อต้นเดือน เจอข่าวช็อกเมียหนีไปแต่งงานใหม่กับตำรวจ ทนายรณณรงค์ชี้ต่อให้ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินกันและมีคนรับรู้ในหมู่บ้านว่าเป็นผัวเมียกัน ผัวใหม่โดนร้องเอาผิดทางวินัยได้ และฟ้องเมียขอแบ่งคนละครึ่ง ตามกรรมสิทธิ์ร่วมจากเงินรางวัลลอตเตอรี่ เพราะซื้อด้วยเงินที่ผัวส่งเสียให้

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายนรินทร์ หาญคำจันทร์ อายุ 47 ปี ชาวชัยภูมิ พร้อมน้องสาว เดินทางเข้าพบ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจากก่อนหน้านี้ได้เขียนจดหมายมาปรึกษาขอความช่วยเหลือ โดยเขียนระบายความในใจที่สุดจะอัดอั้น มาให้ทางทนายรณณรงค์ทราบ

นายนรินทร์กล่าวว่า อยู่กินกับภรรยา มาประมาณ 20 ปี จนมีลูกด้วยกัน 3 คน ต่อมาในปี 2557 ตัดสินใจพร้อมภรรยา ไปทำงานที่เกาหลีด้วยกัน เนื่องจากต้องการหาเงินเลี้ยงลูกและใช้หนี้ที่มีอยู่ราว 2 ล้านบาท จากการลงทุนซื้อรถเกี่ยวข้าว หลังจากที่เราเดินทางไปทำงานที่เกาหลีได้ 2 ปี ภรรยาตั้งท้องลูกคนที่ 3 ก็ได้รับข่าวร้ายว่าแม่เสียชีวิต ความลำบากใจก็เกิดขึ้น เพราะภรรยาให้เลือกว่า ตนจะกลับเมืองไทยเพื่อมางานศพแม่และไม่มีโอกาสกลับไปทำงานที่เกาหลีเพื่อครอบครัวอีก หรือทำงานต่อที่เกาหลีเพื่อภรรยาและลูก สุดท้ายเลือกที่จะทำงานต่อที่เกาหลีเพื่อครอบครัว

ต่อมาเมื่อภรรยาตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน จึงตัดสินใจให้ภรรยาเดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อคลอดลูกและเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน ส่วนตนยังทำงานที่เกาหลีและส่งเงินมาให้ภรรยา ทุกเดือนหลังจากลูกคนเล็กอายุได้ 2 ขวบกว่าๆ ก็ปรึกษากับภรรยาว่าจะเก็บเงินซื้อรถสักคันใช้ในครอบครัวเพราะไม่อยากให้ลำบาก หลังจากนั้นไม่นานเก็บเงินได้ประมาณ 200,000 บาท นำไปดาวน์รถออกมา

“หลังจากที่ภรรยามีรถ เริ่มเข้าสังคมมากขึ้น มีเพื่อนฝูงมากขึ้นไม่มีเวลาให้ลูก ทำให้เรา เริ่มมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก เนื่องจาก ผมโทร.ไปภรรยาไม่ค่อยรับโทรศัพท์ และ ได้ข่าวว่ามีมือที่สามเข้ามาในครอบครัว เราทะเลาะกันมากขึ้น จนถึงขั้นภรรยาผม ขอเลิก ทำให้เริ่มมั่นใจเรื่องข่าวลือมือที่สามเป็นเป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าผมกับภรรยาจะมีปัญหากันมากเพียงใดก็ส่งเงินให้ลูกและให้ภรรยาเหมือนเดิม แต่จำนวนจะลดลงเนื่องจากเราเริ่มไม่มั่นใจในตัวเขา ทำให้ผมกับภรรยาเริ่มห่างกันมากขึ้น แต่ผมจะโทร.หาลูกคนเล็กเกือบทุกวัน เพราะคิดถึงมาก ตั้งแต่เขาเกิดมา ยังไม่เคยเจอหน้าพ่อเลย จะเห็นหน้าก็เวลาคุยกันผ่านวิดีโอคอลเท่านั้น” นายนรินทร์กล่าว

ร้องเมีย – นายนรินทร์ หรือเอก หาญคำจันทร์ ชาว จ.ชัยภูมิ ร้องทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ระบุหลังไปทำงานที่เกาหลีใต้ ส่งเงินกลับมาให้เมีย-ลูกทุกเดือน แต่เมียปิดเรื่องถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 12 ล้าน แถมยังมีสามีใหม่ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.

นายนรินทร์กล่าวอีกว่า ต่อมาในปี 2564 ลูกสาวคนโตโทร.มาบอกว่าแม่ถูกหวยรางวัลที่ 1 ได้เงินมา 12 ล้าน ในใจมีความหวังว่าเขาจะบอกให้กลับเมืองไทยเพราะว่าครอบครัวของเราจะไม่ลำบากอีกต่อไป แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดเขาไม่เคยติดต่อมาเลย จนกระทั่งทางการเกาหลีกวาดล้างพวกผีน้อยที่แอบเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย จนถูกส่งกลับมาประเทศไทยในวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อมาถึงเมืองไทย ได้รับข่าวร้ายที่สุดอีกเรื่องในชีวิต ทางน้องสาวบอกว่าภรรยาแต่งงานใหม่ไปแล้วกับ นายตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เมื่อช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

“หลังทราบข่าวทำให้ช็อกความรู้สึก แทบพังทลาย สิ่งที่ทำเพื่อครอบครัวมันสูญเปล่า ทุ่มเทที่ทำงานในเกาหลีเพื่อครอบครัวไม่มีความหมายอะไรเลย เสียใจมาก ผมกลับมาเมืองไทยไม่มีเงินเก็บเลย ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ เนื่องจากเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากว่า 20 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาวทั้งหมด คนโตอายุ 20 ปี คนกลางอายุ 17 ปี และคนเล็กอายุ 7 ขวบ” นายนรินทร์เล่าทั้งน้ำตา

ด้านนายรณณรงค์กล่าวว่า ถ้าเขาไม่ได้ อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ฝ่ายชายไม่จำเป็น ต้องส่งเงินให้ เดือนละเกือบ 30,000 บาท แสดงว่าเขายังอยู่กินกัน ขณะที่เขาซื้อลอตเตอรี่ ต้องแบ่งคนละครึ่งตามกรรมสิทธิ์ร่วม ที่มาแต่งงาน เป็นตำรวจ น่าจะรู้ว่าเขายังไม่เลิกกัน ถ้าเขาเลิกกันแล้วทางนี้จะส่งเงินให้ทำไม ผู้ชาย เขาส่งเงินให้ไปเลี้ยงดูครอบครัวไม่ใช่แค่ไปเลี้ยงลูกแล้วคุณไม่แจ้งเขา ผู้ชายสามารถ ยื่นเอาผิดทางวินัยได้ โทษหนักสุด ออกจากราชการตำรวจได้ ต่อให้เขาจะไม่ได้จดทะเบียน สมรสกัน แต่อยู่กินกันและมีคนรับรู้ในหมู่บ้าน ว่าเป็นผัวเมียกัน ผัวไปทำงานที่เกาหลี เมียเลี้ยงลูกอยู่ชัยภูมิ ลองคุยกันดูว่าจะเอายังไง

“ต้องแบ่งทรัพย์สินเพราะผู้ชายบอกไม่เหลือ อะไรเลย ผู้ชายส่งเงินมาให้เมียปีละเกือบ 340,000-350,000 บาท ทุกปีตั้งแต่ทำงานที่เกาหลี ลูกบอกว่าพ่อมีเงินแค่ 60,000 บาท ตัวพ่อมีแค่นี้ไม่เหลืออะไรเลย ส่วนในด้านคดีต้องไปฟ้องศาล เพื่อขอแบ่งกรรมสิทธิ์คนละครึ่ง คนละ 6 ล้านบาท” นายรณณรงค์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน