จนท.บุกค้นบ้านรอง สสจ.นครราชสีมา พัวพันจัดอบรมทิพย์จนท.สาธารณสุข 32 อำเภอ ‘ปปง.-ปปท.-ปปป.’สนธิกำลังตรวจสอบโครงการอบรมควบคุมป้องกันโรค ปี 62 ทำเรื่องเบิกงบประมาณ เช่าสถานที่ราชการ ค่าอาหาร มุบมิบสอดไส้รายชื่อชาวบ้านโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่อง บางพื้นที่มีรายชื่อคนตายเข้าอบรมด้วย สอบถามสถานที่ราชการที่ถูกอ้างถึงก็ยืนยันไม่มีใครมาขอใช้สถานที่ จนท.เร่งสืบหาหลักฐานเพิ่มเติม ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ก่อนอายัดทรัพย์สินทั้งแก๊ง เผยมีอีก 3 รายร่วมแก๊งที่อยู่ในเมืองนครราชสีมา ถูกตรวจค้นด้วย
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 15 มี.ค. นายปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการกองคดี 2 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสันติ ทวยมีฤทธิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ 999/46 หมู่บ้านภูรินารา หมู่ 2 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จุดที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ส่วนอีก 3 จุดที่เข้าตรวจค้นอยู่ในเมืองนครราชสีมาเช่นกัน ประกอบด้วย บ้านพักของนายสันติ ทวยมีฤทธิ์ เลขที่ 119 หมู่ 1 ต.สุรนารี, บ้านพักของนายสามารถ คงแก้ว เลขที่ 194 หมู่ 1 ต.หนองกระทุ่ม และบ้านพักของนางนันทนา ประสิทธิ์ เลขที่ 118/1 ถนนเซนต์เมรี่ ต.ในเมือง
สัมมนาทิพย์ – เจ้าหน้าที่ป.ป.ง., ป.ป.ท. และป.ป.ป. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านนายสันติ ทวยมีฤทธิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ที่หมู่บ้านภูรินารา ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อหาหลักฐานกรณีเบิกงบประมาณจัดอบรมสัมมนา แต่ไม่ได้จัดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 15 มี.ค.
ทั้งนี้ จากข้อมูลการตรวจสอบโครงการการจัดอบรมควบคุมป้องกันโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา พบว่า ช่วงตั้งแต่ปี 2562 ได้มีโครงการจัดอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ 32 อำเภอของจ.นครราชสีมา แต่กลับไม่มีการจัดอบรมจริง เป็นลักษณะของการจัดอบรมสัมมนาทิพย์ มีแต่เอกสารโครงการที่เขียนระบุการจัดอบรมเพื่อเบิกเงินงบประมาณค่าสถานที่อบรม และค่าอาหาร โดยมีรายชื่อชาวบ้านในแต่ละพื้นที่เข้าร่วมอบรม
เมื่อสอบถามไปยังชาวบ้านผู้มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสาร และไม่ได้เข้าร่วมโครงการ และในบางพื้นที่มีรายชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ในผู้ร่วมอบรมด้วย ส่วนสถานที่ใช้จัดอบรมส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นสถานที่ราชการ แต่เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่ระบุไว้ในโครงการก็ยืนยันว่าไม่มีการจัดโครงการ และไม่พบว่ามีหนังสือขอใช้สถานที่อบรมแต่อย่างใด จากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจค้นหาหลักฐาน เส้นทางการเงิน เพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์สินต่อไป
