เตือนอีก22จว. ลมฝนกระโชก

กรมอุตุฯ เตือนอีก 20-22 มี.ค.นี้ ภาคเหนือ-อีสานตอนบนเสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อนและมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมทั้งลมกระโชกแรง-ฟ้าผ่าด้วย พะเยาอ่วมโดนพายุลูกเห็บพัดถล่มกลางดึก ชาวบ้านใน อ.ปงเล่านาทีระทึก ลมหอบหลังคาหายไปทั้งหลัง ก่อนลูกเห็บตกใส่ข้าวของเสียหายหลายอย่าง ทอ.ร่วมกับกรมฝนหลวงฯ เปิดปฏิบัติการบินใช้เจ็ตยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ใส่ก้อนเมฆ ยับยั้งพายุ ลูกเห็บอ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ‘นายกฯ’สั่ง ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือประชาชน ส่วนที่ราชบุรีหอไตรเสาเดียวอายุ 100 ปี วัดโพธิโสภารามแห่งเดียวในลุ่มน้ำแม่กลองถูกพายุซัดเสาหักโค่นพังทลายทั้งหลัง วัด-ชาวบ้านตั้งใจบูรณะอนุรักษ์สถาปัตยกรรมเดิม วอนกรมศิลปากรเข้าช่วย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 มี.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางตอนบนของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน รวมถึงระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 20-22 มี.ค.นี้ คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ฝุ่นละอองในระยะนี้

ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีแนวโน้มการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม

ด้านกองทัพอากาศร่วมปฏิบัติการบินยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบน โดยได้ส่งอากาศยานแบบอัลฟา เจ็ต (Alpha Jet) จากฝูงบิน 231 กองบิน 23 วางกำลัง ณ กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ และขึ้นบินเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บอย่างต่อเนื่อง 3 วันที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มี.ค. กองทัพอากาศใช้เครื่องบินอัลฟา เจ็ต ขึ้นบินปฏิบัติการยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของลูกเห็บเหนือพื้นที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนปฏิบัติการพบกลุ่มเมฆคิวมูลัสที่กำลังพัฒนาตัว มีความคมชัดระดับ Hard-Medium โดยกลุ่มที่ 1 ยอดเมฆเป้าหมายสูง 23,000 ฟุต เครื่องบินอัลฟา เจ็ต ยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ จำนวน 4 นัด กลุ่มที่ 2 พบกลุ่มเมฆคิวมูลัสขนาดใหญ่ พัฒนาตัวอย่างรวดเร็ว ยอดเมฆเป้าหมายสูงมากกว่า 30,000 ฟุต เครื่องบินอัลฟา เจ็ต ยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ จำนวน 10 นัด








Advertisement

หลังปฏิบัติการพบความคมชัดของเมฆลดลงในระดับ Medium Soft ยุบตัวและฟุ้งกระจาย แต่บางส่วนยังคงมีการพัฒนาตัว ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับรายงานการตกของลูกเห็บในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการ แต่พบว่าฝนตกลงมาเป็นเม็ดน้ำปกติ

โดยฝนหลวง หนึ่งในโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งนอกจากการทำฝนเพื่อเติมน้ำในเขื่อน ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งแล้ว การทำฝนเพื่อยับยั้งและบรรเทาความเสียหายจากลูกเห็บก็เป็นภารกิจหนึ่งที่จำเป็น เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วยเช่นกัน

ปกตินักบินจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่บินเข้าไปในเมฆฝน เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการหลงสภาพการบิน รวมทั้งอาจเกิดความเสียหายกับเครื่องบินได้ แต่การยับยั้งลูกเห็บนั้นนักบินจำเป็นต้องนำเครื่องบินเข้าไปในเมฆเป้าหมายเพื่อยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์เข้าสลายหยดน้ำที่กำลังจับตัวเป็นลูกเห็บให้ตกลงมาเป็นฝนแทน

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเกิดเหตุพายุฤดูร้อนที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีลูกเห็บตก เกิดความ เสียหายจำนวนมากในพื้นที่ว่า ได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ให้หน่วยงานหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลให้ดีที่สุด

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงเกิดเหตุพายุฤดูร้อนที่ จ.เชียงใหม่และทำให้มีลูกเห็บตก เกิดความเสียหายจำนวนมากในพื้นที่ว่า ในการดำเนินการคงเป็นไปตามที่ได้สั่งการไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะร่วมกับท้องถิ่นในพื้นที่เข้าไปดูแลประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้ได้เตือนภัยล่วงหน้าแล้วในช่วงเดือนมี.ค.และเดือนเม.ย.จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นเป็นประจำ โดยได้เตรียมการและสั่งการให้ท้องถิ่นดูแล ตรวจตราพื้นที่ต่างๆ ที่อาจเกิดอันตรายได้ แล้วนำไปแจ้งเตือนกับพี่น้องประชาชน ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นทางพื้นที่ยังสามารถรับมือได้ และขณะนี้ได้เข้าไปดูแลอยู่แล้ว

ส่วนที่พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 18 มี.ค.เกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่จ.พะเยา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนที่บ้านวังบง ม.7 ต.ขุนควน และหมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่อ.ปง ได้รับความเสียหาย หลังคากระเบื้องและสังกะสีมุงหลังคาถูกลมพัดเสียหายหลุดปลิวไปกับสายลม

นางเลย สุริโย อายุ 60 ปี กล่าวว่า ตอนกลางคืนเกิดลมฝนลูกเห็บพัดหลังคาบ้านปลิวหายไป รวมถึงสิ่งของทรัพย์สินในบ้านถูกลูกเห็บตกใส่เสียหายหมด โดยได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง

สำหรับความเสียหายของบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่ อ.ปง จ.พะเยา มีหมู่บ้านวังบง ม.7 และหมู่บ้านใกล้เคียงเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนต่อไป

ฤทธิ์พายุ – หอพระไตรปิฎกเสาเดียวอายุกว่า 100 ปี ภายในวัดโพธิโสภาราม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หักโค่นพังเสียหายทั้งหลัง จากพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรง ชาวบ้านวอนกรมศิลปากรช่วยบูรณะให้ใหม่ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.

ส่วนที่จ.ราชบุรี ที่วัดโพธิโสภาราม ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง ชาวบ้านแจ้งว่าหอไตรเสาเดียวอายุกว่า 100 ปี แห่งเดียวในลุ่มน้ำแม่กลอง ถูกพายุพัดถล่มจนเสาหักโค่น พังทลายลงมาทั้งหลัง

นายอำนาจ กมศิลป์ ชาวบ้าน ม.9 บ้านโพธิ์ พาไปดูหอไตรดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณด้านข้างศาลาการเปรียญ ที่ฐานมีการก่อสร้างสระน้ำล้อมรอบ โดยพบว่าตัวเรือนไม้ของหอไตรที่ทำจากไม้สักทอง รวมไปถึงหลังคามณฑป 7 ชั้น พังเสียหายทั้งหลัง ยอดปราสาทที่ทำจากไม้สักประดับด้วยกระจกสีหัก 3 ท่อน ส่วนโคนเสาไม้หอไตรมีสภาพถูกปลวกกัดกินจนผุกลวง

นายอำนาจเล่าว่า ช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดพายุลมกระโชกแรงในพื้นที่จนเป็นเหตุให้หอไตรเสาเดียวพังถล่มลงมาเสียงดังสนั่น ขนาดบ้านตนอยู่ห่างจากวัดกว่า 200 เมตรยังได้ยินเสียงถล่มชัดเจน

สำหรับหอพระไตรปิฎก เรือนฝาปะกน หลังคามณฑป 7 ชั้น ยอดปราสาท ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2460 โดยฝีมือของช่างพื้นบ้านชาวไทยเชื้อสายมอญร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มีลักษณะสถาปัตยกรรมโบราณอันเป็นเอกลักษณ์ คือ มีเสาเดียว และสระน้ำล้อมรอบ ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านที่ต้องการป้องกันคัมภีร์ใบลานพังเสียหายจากการถูกมดกัดกินและทำรัง ส่วนความสูงจากฐานถึงยอดหลังคาประมาณ 15 เมตร รวมไปถึงการฉลุลวดลายไม้ประดับชายหลังคาที่สวยงาม ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ที่วัดโพธิโสภารามเพียงแห่งเดียวในเขตลุ่มน้ำแม่กลอง แต่เนื่องด้วยกาลเวลาทำให้หอไตรเริ่มชำรุดทรุดโทรม วัดและชาวบ้านได้ช่วยกันบูรณะซ่อมแซมในปี 2533 และปี 2562 ส่วนคัมภีร์ใบลานอายุกว่า 100 ปี ทางวัดได้นำขึ้นไปเก็บรักษายังหอไตรหลังใหญ่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้หอไตรดังกล่าวต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป ซึ่งเสี่ยงจะพังลงมา

“ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ผมและชาวบ้านสังเกตเห็นว่าหอไตรมีลักษณะเอียงผิดปกติ จึงได้แจ้งกับพระมหานุศาสตร์ ธัมมัชโชโต เจ้าอาวาสโพธิโสภาราม และตกลงกันว่าหลังจากช่วงทำนาปลูกข้าวแล้วเสร็จ ชาวบ้านจะกลับมาช่วยกันซ่อมหอไตร แต่ก็ไม่ทันได้ทำเพราะพายุพัดถล่มลงมาเสียก่อน” นายอำนาจกล่าวและว่า ทางวัดและชาวบ้านตั้งใจจะบูรณะหอไตรดังกล่าวให้มีลักษณะสถาปัตยกรรมเช่นเดิม แต่ยังหาช่างพื้นบ้านที่มีความชำนาญในเรื่องของงานไม้ลักษณะนี้ไม่ได้ จึงอยากได้ช่างไม้ระดับช่างของกรมศิลปากรมาช่วยก่อสร้างหอไตรขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน