กทม.เตรียมรับ พายุลูกเห็บถล่ม

ไทยร้อนระอุ หลายจว.อุณหภูมิทะลุ 41 องศา อุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม ลูกเห็บตกทั่วทุกภาค กรุงเทพฯ ปริมณฑลโดนด้วย ด้านเหนือยังเจอวิกฤตฝุ่นพิษต่อเนื่อง แม่สาย เชียงรายฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ปกคลุมทั้งเมือง เครือข่ายภาคเอกชนและชาวบ้านแม่สายยื่นหนังสือนายอำเภอ จี้แก้ไขด่วน แนะถกประเทศเพื่อนบ้านที่เผาป่า ปล่อยควันพิษข้ามมาไทย เผยค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 พุ่งเกิน 600 มคก./ลบ.ม. ชาวบ้านป่วยแล้วเกิน 3 พัน เชียงใหม่คุณภาพอากาศแย่ที่ 1 โลก 3 วันซ้อน ส่วนจุดความร้อนภาคเหนือ 5.5 พัน ทุบสถิติสูงสุดรอบ 5 ปี

เหนือวิกฤตหนัก-ฝุ่นพิษพุ่ง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 มี.ค. ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ทั่วประเทศ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบค่าฝุ่นระหว่าง 10-551 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.

ภาคเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 37-551 มคก./ลบ.ม. พบเกินมาตรฐานรวม 29 พื้นที่ โดยเป็นพื้นที่สีแดง (กระทบต่อสุขภาพ) 19 พื้นที่ ได้แก่ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ค่าฝุ่น 551 มคก./ลบ.ม. ซึ่งมีค่าฝุ่นสูงสุดในไทย, ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ค่าฝุ่น 279 มคก./ลบ.ม., ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ค่าฝุ่น 243 มคก./ลบ.ม., ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 113 มคก./ลบ.ม., ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 105 มคก./ลบ.ม., ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 95 มคก./ลบ.ม., ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 128 มคก./ลบ.ม., ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 293 มคก./ลบ.ม., ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ค่าฝุ่น 113 มคก./ลบ.ม.,

ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน ค่าฝุ่น 110 มคก./ลบ.ม., ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ค่าฝุ่น 97 มคก./ลบ.ม., ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่น 232 มคก./ลบ.ม., ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่น 305 มคก./ลบ.ม., ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่น 148 มคก./ลบ.ม., ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน ค่าฝุ่น 207 มคก./ลบ.ม., ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ค่าฝุ่น 267 มคก./ลบ.ม., ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ ค่าฝุ่น 130 มคก./ลบ.ม., ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา ค่าฝุ่น 151 มคก./ลบ.ม. และ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ค่าฝุ่น 93 มคก./ลบ.ม.

4จว.อีสานก็สำลักฝุ่น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 32ึ221 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 8 พื้นที่ โดยเป็นพื้นที่สีแดง 4 พื้นที่ ได้แก่ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย ค่าฝุ่น 96 มคก./ลบ.ม., ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ค่าฝุ่น 131 มคก./ลบ.ม., ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม ค่าฝุ่น 95 มคก./ลบ.ม. และต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ค่าฝุ่น 221 มคก./ลบ.ม.

สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงคุณภาพปานกลาง

กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 28 มี.ค.-3 เม.ย. 66 อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. 66 สถานการณ์อาจบรรเทาลงได้บ้างเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น

ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่ สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

สามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK

จุดร้อน5.5พันสูงสุดรอบ5ปี
ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศหรือภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า (GISTDA) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี เมื่อ วันที่ 26 มี.ค. ไทยพบจุดความร้อนมากที่สุด 5,572 จุด สูงสุดในรอบ 5 ปี จากการเก็บสถิติที่ผ่านมา ขณะที่เมียนมายังครองแชมป์สูงสุดถึง 10,563 จุด ตามด้วย สปป.ลาว 9,652 บาท กัมพูชา 1,342 จุด เวียดนาม 870 จุด และมาเลเซีย 22 จุด

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์ 2,982 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,785 จุด พื้นที่เกษตร 376 จุด พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 207 จุด พื้นที่เขตส.ป.ก. 202 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 20 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ จ.น่าน 638 จุด จ.แม่ฮ่องสอน 558 จุด และ จ.อุตรดิตถ์ 430 จุด

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th หรือติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html และ ควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอพ พลิเคชั่น “เช็คฝุ่น”

ขั้นวิกฤต – สภาพอากาศขมุกขมัวในอ.แม่สาย จ.เชียงราย อยู่ในขั้นวิกฤตวัดระดับ PM2.5 สูงกว่า 600 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.สูงกว่าค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. มีประชาชน ล้มป่วยจากมลพิษแล้วกว่า 3 พันราย เมื่อวันที่ 27 มี.ค.

‘แม่สาย’ฝุ่นพิษฟุ้งเกิน 600
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย พบว่าฝุ่นละออกขนาดเล็กหรือ PM2.5 หนาแน่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นประมาณ 1 ก.ม. โดยช่วงเช้า ประชาชนที่ต้องออกนอกบ้านไปทำงาน หรือทำธุระต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แย่ ทำให้แสบตา และจมูกเป็นอย่างมาก โดยค่าฝุ่นละอองในอากาศเช้านี้ในพื้นที่ จ.เชียงราย กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศ PM 2.5 อยู่ที่ 232 มคก./ลบ.ม. ส่วนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 542 มคก./ลบ.ม.

ต่อมาเวลา 12.30 น. สภาพอากาศในพื้นที่อ.แม่สาย ซึ่งอยู่ในขั้นวิกฤติ วัดค่าฝุ่น PM2.5 พบสูงกว่า 600 มคก./ลบ.ม. ทัศนวิสัยมองเห็นได้ต่ำกว่า 1 ก.ม. ประชาชนประสบปัญหาเรื่องหายใจและการมองเห็น

ขณะเดียวกัน ร.พ.แม่สาย เปิดคลินิกมลพิษเพื่อรองรับประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยทางเดินทางหายใจ และกลุ่มเสี่ยง

นพ.วัชพงศ์ คำหล้า นายแพทย์สาธาณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยสถิติผู้ป่วยทางเดินหายใจว่า ผู้ป่วยทางเดินหายใจในจ.เชียงรายมีที่เข้ามารับการบริการ ระหว่างวันที่ 19-26 มี.ค.66 จำนวน 3,478 ราย โดยในอ.แม่สาย ตั้งแต่วันที่ 19-26 มี.ค. จำนวน 372 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีอาการแสบจมูก เจ็บคอ พบว่าเป็นผู้ป่วยนอกที่เข้ามารับการตรวจและรับยาไปรักษาตามอาการต่อที่บ้าน และอีกส่วนหนึ่งคือการรักษาในระบบออนไลน์ ขณะนี้ยังมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยทางเดินทางหายใจ ทางแพทย์เตรียมความพร้อมรับมือตลอด 24 ชั่วโมง

“อยากฝากถึงประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้ รวมถึงให้อยู่แต่ในพื้นที่ปลอดภัยเช่นภายในบ้าน หรืออาคารที่เป็นพื้นที่ปิด หากมีเครื่องฟอกอากาศควรจะเปิดเอาไว้ตลอด นอกจากการป้องกันและการตรวจรักษาแล้ว ทางโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลหรือ รพ.สต. ทุกแห่งมีห้องปลอดฝุ่นไว้ให้บริการกับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องการเข้ามาใช้บริการหากสงสัยว่าอาการจะกำเริบสามารถมาใช้บริการ แต่ห้องปลอดฝุ่นเปิดให้บริการเฉพาะในเวลาราชการเท่านั้น ส่วนเด็กแรกคลอดที่หลายคนเป็นห่วงว่าจะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 นั้น ห้องคลอดของโรงพยาบาลเป็นห้องควบคุมอุณหภูมิ เครื่องปรับอากาศสามารถกรองได้ในระดับหนึ่ง และทาง โรงพยาบาลยังได้เพิ่มเครื่องกรองอากาศเข้า ไปอีก เชื่อว่าน่าจะลดจำนวนฝุ่น PM2.5 ได้พอสมควร” นพ.วัชพงศ์กล่าว

แม่สายฮือจี้แก้ฝุ่นควันเพื่อนบ้าน
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ลานหน้าที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เครือข่ายภาคเอกชนและประชาชนชาวอ.แม่สาย ประมาณ 200 คน นำโดยนายเศวตยนต์ ศรีสมุทร รองประธานหอการค้าจ.เชียงราย นายรชต ไชยวรรณ์ และนายตระสัก ศรีธิพรรณ์ ตัวแทนเครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน อ.แม่สาย เดินทางมารวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมเรียกร้องให้แก้ไขไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน โดยมีการ รับบริจาคอุปกรณ์ น้ำดื่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่ และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เพื่อให้แก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยต้องการให้ภาครัฐเจรจาหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน ผลักดันให้เป็นวาระของอาเซียน รวมทั้งผลักดันให้ภาคเอกชนที่ไปส่งเสริมทำการเกษตรได้แก้ไขปัญหาเพื่อลดการเผาป่าจนเกิดเป็นฝุ่นละอองพิษ ซึ่งการเกิดฝุ่นละออง PM2.5 ปีช่วงนี้หนักที่สุดในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่เกิดปรากฏการณ์ฝุ่นหนาแน่นเมื่อปี 2554 ทำให้ชาวแม่สายไม่อาจจะทนอยู่ได้อีกต่อไป

นายสมยศกล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีนี้ปัญหาหมอกควันหนักมาก อยากให้รัฐเข้ามาแก้ไขแบบถาวร ไม่ใช่ว่ามาแก้เฉพาะหน้า แล้วปีหน้ามีอีก สถานการณ์แม่สายหลายวันมานี้หมอกควันหนามาก อยากให้รัฐบาลช่วยมาแก้ไขอย่างจริงจัง และถ้าไม่ถาวร ปีหน้าเราก็ออกมาเรียกร้องแบบนี้อีก ทุกวันนี้ชาวแม่สายอยู่อย่างทรมาน ทั้งเด็กและคนชราอยู่อย่างยากลำบาก

เชียงใหม่ที่ 1โลกอากาศแย่ 3วันติด
ส่วนที่จ.เชียงใหม่ เกิดวิกฤตของคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง พบจุดความร้อนช่วง 5 วันที่ผ่านมาเกิดขึ้นเกือบ 1 พันจุด เมื่อวานพบจุดความร้อนรวม 260 จุด ส่วนวันนี้ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จ.เชียงใหม่ รายงานข้อมูลจากจิสด้า รอบเช้า จ.เชียงใหม่ พบจุดความร้อน 229 จุด เกิดมากที่สุด อ.เชียงดาว 43 จุด ยอดจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงปัจจุบัน จำนวน 4,985 จุด

นอกจากนี้ จ.เชียงใหม่ ยังขึ้นอันดับ 1 เมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก 3 วันติดต่อกัน โดยช่วงเวลา 08.00 น. มีค่า 193 มคก./ลบ.ม.

ดับไฟป่า – เจ้าหน้าที่ชุดเดินเท้าดับไฟป่า ระดมเข้าพื้นที่สกัดกั้นและทำแนวกันไฟ ไม่ให้ไฟป่าไหม้ลุกลามในเขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังหมอกควันเข้าปกคลุมหนาแน่นทั่วพื้นที่และคุณภาพอากาศเลวร้ายต่อเนื่องกัน เมื่อวันที่ 27 มี.ค.

พะเยาไฟป่าไหม้ต่อเนื่อง
วันเดียวกัน ที่จ.พะเยา หลายพื้นที่ยังคงเกิดไฟป่าขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าหมอกควันเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง โดยค่า PM2.5 อยู่ที่ 154 มคก./ลบ.ม. ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ PM10 อยู่ที่ 175 มคก./ลบ.ม. และ AQI อยู่ที่ 254 ไมโครกรัม ขณะที่สถานการณ์ไฟไหม้ป่า ตั้งแต่เวลา 00.00-09.00 น. พบว่ามีไฟป่า เกิดขึ้น 139 ครั้ง

ด้านศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานข้อมูลจาก GISTDA ถึงจุดความร้อน ประจำวันที่ 27 มี.ค. รอบบ่าย พบจุดความร้อน 66 จุด พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตส.ป.ก. จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 5,048 จุด

เชียงใหม่ลุ้นพายุร้อนช่วยลดฝุ่น
ด้านน.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ฉบับที่ 1 เรื่อง “พายุฤดูร้อนบริเวณภาคเหนือ” มีผลกระทบช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. โดยระบุว่า ช่วงวันที่ 27-29 มี.ค.2566 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความขึ้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณ ดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน สำหรับภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค.2566 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบดังนี้จ.พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และ เพชรบูรณ์

เลยวิกฤตสำลักควันทั้งเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ.นาแห้ว จ.เลย เกิดไฟไหม้ป่าลุกลามไปทั้งภูเขา ไหม้เป็นแนวยาว ลุกลามอย่างรวดเร็ว เกือบรอบทุกผืนป่าของอ.นาแห้ว ทำให้เหม็นกลิ่นควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กล่องลอยหนาแน่น คุณภาพอากาศย่ำแย่ ขมุกขมัวทั่วท้องฟ้า มองเห็นแต่หมอกควัน

นายจักรภัทร พรมคล้าย ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทน นายอำเภอนาแห้ว กล่าวว่า ล่าสุดไฟป่าไหม้เข้าไปในพื้นที่ภูเขาด้านในลึกๆ อย่างต่อเนื่อง มีควัน มองไม่เห็นตั้งแต่วานนี้ ตอนนี้ยังหนัก สั่งการให้ควบคุมในพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้ วันนี้ค่าของ PM 2.5 ลดลงเหลือ 115 มคก./ลบ.ม. จากช่วง 2-3 วันพุ่งสูงถึง 200 มคก./ลบ.ม. ขณะนี้ขอกำลังของทหารจากมทบ.28 ทำแนวกันไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามเข้าไปในเขตป่า

หนองคายวิกฤตฝุ่น 3 วันติด
ที่จ.หนองคาย เกิดปัญหาฝุ่นควันปกคลุมทั้งเมืองเป็นวันที่ 3 ติดกัน โดยสถานีตรวจสอบคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศได้ 245 AQI ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก วัดได้ 135 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเป็นปริมาณสูงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีอาการ แสบตา แสบจมูก ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน และลดกิจกรรมกลางแจ้ง

สาเหตุหลักของฝุ่นควัน เกิดจากไฟไหม้ภูเขาควายในประเทศลาว ทำให้ลมพัดเอาฝุ่นควันลอยคลุ้งในอากาศ มีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนสองฝั่งแม่น้ำโขง ที่หนองคาย บึงกาฬ และนครหลวงเวียงจันทน์ รวมถึงเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับภูเขาควายของประเทศลาวด้วย ยังไม่มีท่าทีว่าไฟป่าจะยุติลง

โคราชร้อนปรอทแตก 40 องศา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.นครราชสีมา อากาศร้อนระอุเกือบทะลุ 40 องศาเซลเซียส ส่งผล ให้เกิดไฟไหม้หลายพื้นที่ โดยที่อ.ห้วยแถลง เจ้าหน้าที่อบต.หลุ่งตะเคียนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุไฟไหม้หญ้าลามทุ่งเป็นบริเวณกว้าง ที่ทุ่งนาบ้านกระทุ่ม ม.8 ต.หลุ่งตะเคียน อ.ห้วยแถลง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถ ดับเพลิง 1 คันเข้าฉีดพ่นน้ำดับเพลิง โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมไฟไว้ได้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีชาวบ้านลักลอบเผาหญ้า หรือเกิดจากความร้อนทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นเอง

3จว.ร้อนจัดทะลุ 41 องศา
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศ ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 26-29 มี.ค. 2566 โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป

โดยจังหวัดที่มีอากาศร้อนที่สุดได้แก่ 1.อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.มุกดาหาร อุณหภูมิ 41.3 องศาเซลเซียส 2.อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ อุณหภูมิ 41.2 องศา 3.ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี อุณหภูมิ 40.2 องศา 4.อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อุณหภูมิ 39.8 องศา 5.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อุณหภูมิ 38.5 องศา 6.ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบ คีรีขันธ์ อุณหภูมิ 38 องศา และ7.อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ อุณหภูมิ 37.6 องศา

เตือนพายุฤดูร้อนถล่มทั่วปท.
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค.2566) ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศลาวและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะต่อไป

ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค. 2566 โดย มีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผล กระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุ ฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น

โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้ วันที่ 27 มี.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี, ภาคตะวันออก จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 28 มี.ค. ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง จ.ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล, ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 29 มี.ค. ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

สธ.เผยป่วยจากฝุ่นพุ่ง
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 หลังพบอ.แม่สาย จ.เชียงราย ค่าฝุ่นสูงสุดมานานหลายวัน และหลายจังหวัดในภาคเหนือและอีสานค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานเช่นกันว่า วันนี้ตนเดินทางมาลงพื้นที่จ.ลำปาง เท่าที่ติดตามสถานการณ์ ในพื้นที่ วันนี้ค่าฝุ่นจะสูง แต่ยังไม่ค่อยเยอะ สธ.เราดูปลายเหตุ ดูแลผู้ได้รับผลกระทบ แพทย์ที่ดูห้องฉุกเฉินบอกมีผู้ป่วยทางเดินหายใจมากขึ้น แต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นผิดสังเกต ส่วนเชียงรายต้องรอผอ.ร.พ.ประเมินสถานการณ์ ทั้งนี้ให้แต่ละจังหวัดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ และผู้สูงอายุ

“ตอนนี้ตัวเลขฝุ่นภาคเหนือสูงขึ้น เราเปิดระบบเฝ้าระวังจะดูผลกระทบอีก 1-2 วัน ค่อยประเมินอีกครั้ง ถ้าเป็นแค่ระยะสั้น ผลกระทบอาจไม่มาก ถ้าระยะยาวอาจมี ผลกระทบมากขึ้นกว่านี้ หาก 1-2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ต้องประสานผู้ว่าฯ ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจและทำแผนเผชิญเหตุ เราคงไม่ถึงขั้นให้ ปิดอาคารกั้นฝุ่นทั้งหมด ช่วงระยะสั้นนี้ หากมีเครื่องฟอกอากาศก็คงให้เอามาใช้ โดยเฉพาะที่รักษาคนไข้กลุ่มเปราะบาง” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนกรณีหลายจังหวัดรายงานว่าค่าฝุ่นสูงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ต้องใช้กลไกพูดคุย ทั้งนี้คนที่อยู่ใกล้พรมแดนให้ดูตามสถานการณ์ว่าฝุ่นเพิ่มมากขนาดไหน แนวโน้มจะเป็นอย่างไร หากค่าฝุ่นเยอะก็งดออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรอยู่ในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว

นพ.ภุชงค์ ชื่นชม รองนายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า วันนี้จุดฮอตสปอตจากประเทศเพื่อนบ้านมีการเผาทั้งในเมียนมาและลาว ทำให้พื้นที่อ.แม่สายได้รับผลกระทบมาก ขณะนี้ค่า AQI อยู่ที่ 300 มคก./ลบ.ม. โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางมีอาการกำเริบ แต่ก็ไม่พบจำนวนมาก ทั้งคนป่วยปอดอุดกั้น หอบหืด ภูมิแพ้ เบื้องต้นวันนี้ให้อสม.เยี่ยมบ้านประชาชนและแจกหน้ากาก พร้อมให้ความรู้ประชาชนงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดฝุ่นก็ต้องยอมรับการทำช่วยลดฝุ่นได้ชั่วคราว แต่หากจะลดฝุ่นได้จริงต้องให้มีฝนตกลงมา

‘บิ๊กตู่’กำชับเร่งแก้ไฟป่า-ฝุ่นพิษ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามและไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือที่วิกฤต ส่งผลให้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพของประชาชนในขณะนี้ โดยนายกฯ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนเป็นวงกว้างอย่างเร่งด่วนให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายลงโทษผู้กระทำความผิดในการเผาป่าหรือการกระทำใดๆ ที่ทำให้เกิดไฟป่าอย่างไม่ละเว้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน