เยาวชน-นักศึกษาแห่ฟังเวทีเลือกตั้งเครือมติชน

‘9 นิวเจน’คนรุ่นใหม่ตัวแทนจาก 9 พรรคการเมือง ร่วมเวทีดีเบตสนุก เยาวชน-นิสิตนักศึกษากรี๊ดสนั่นแห่ฟังแน่นลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 9 คนต่างปล่อยของทีเด็ดนโยบายของพรรคที่จะใช้รณรงค์หาเสียงพร้อมความคิดเห็นส่วนตัวในหัวข้อ ‘ฟังเสียง NEW GEN บทใหม่ประเทศไทย’ ‘น้ำ-พท.’ กับ ‘ผึ้ง-ก้าวไกล’ ประสานยืนยันยกเลิกเกณฑ์ทหาร คืนเสรีภาพให้คนรุ่นใหม่ ‘เอิร์ธ’ชูนมโรงเรียนฟรี 365 วัน-เรียนฟรี 15 ปี ขณะที่เด็กบิ๊กป้อมมั่นใจนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง

เครือมติชนจัดดีเบตลานโพธิ์
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. เวลา 13.30 น. ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือมติชน ประกอบด้วย มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ มติชนทีวี และมติชนสุดสัปดาห์ จับมืออีก 5 พันธมิตร จัดเวทีที่สาม “ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย” มีตัวแทนนักการเมืองรุ่นใหม่ จาก 9 พรรค การเมืองร่วมขึ้นเวทีประชัน

นิวเจน – ตัวแทนนักการเมืองรุ่นใหม่จาก 9 พรรค ร่วมเวทีดีเบต ‘ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย’ จัดโดยเครือมติชน-ข่าวสด โดยดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มธ., ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ คณบดี วิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ มธ. ร่วมสังเกตการณ์ มี น.ส.ปานบัว บุนปาน กก.ผจก.มติชน นายปราปต์ บุนปาน รองกก. ผจก.มติชน ให้การต้อนรับ ที่ลานโพธิ์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ท่ามกลางคน รุ่นใหม่จำนวนมากมาร่วมกิจกรรมและส่งเสียงเชียร์ อย่างคึกคัก เมื่อวันที่ 31 มี.ค.

ประกอบด้วย น.ส.จิราพร (น้ำ) สินธุไพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย, น.ส.พนิดา (ผึ้ง) มงคลสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคก้าวไกล, นายพงศ์พล (ลอรี่) ยอดเมืองเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร กทม. เขตสวนหลวง พรรครวมไทยสร้างชาติ, ร.ต.อ.พงศกร (เอิร์ธ) ขวัญเมือง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คลองเตย และวัฒนา พรรคประชาธิปัตย์, น.ส.อิสราพร (อุ้ม) บูรณอรรจน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย, น.ส.บุณณดา (เอ๋) สุปิยพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ, นายเสมอกัน (ป๊อบ) เที่ยงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา, น.ส.ธิดารัตน์ (ธิดา) ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย และน.ส.เยาวภา (วิว) บุรพลชัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคชาติพัฒนากล้า

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนเปิดเวที มีนักศึกษามหาวิทยาลยธรรมศาสตร์ โดยมีประชาชนเข้ามารอร่วมฟังนับร้อยคน โดยนั่งรายล้อมรอบลานโพธิ์ ท่ามกลางบุคคลสำคัญทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาทิ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย พร้อมผู้บริหารเครือมติชนให้การต้อนรับ

ชี้สถานที่เริ่มจิตวิญญาณปชต.
ก่อนเริ่มงาน ผศ.อัครพงษ์กล่าวทักทาย ว่า “ร้อนหน่อยนะ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต้องอดทน” จากนั้นกล่าวว่า ลานโพธิ์ คือจุดเริ่มต้นของจิตวิญญาณประชาธิปไตย ท่านอาจารย์ปรีดี อยากเห็นเสรีภาพ และความสันติสุขของประเทศไทย 14 พฤษภาคม อย่าลืม เราแสวงหาทางออกให้สังคม ด้วยสิทธิ และเสียงเต็มร้อย ไม่ว่าจะเจนไหน ขอให้มีจิตรักประชาธิปไตย เสรีภาพ และสร้างความสันติ กินดี อยู่ดี ให้กับสังคม ขอให้งานวันนี้ประสบความสำเร็จ ขอให้ประชาธิปไตย จงเจริญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนสูงวัย ที่มาร่วมฟังการดีเบต ต่างพูดคุยถึงลานโพธิ์เช่นกันด้วยว่า เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย








Advertisement

สำหรับการจัดดีเบตครั้งนี้ ยังถ่ายทอดสดให้ทุกคนได้รับชมผ่านทางเฟซบุ๊ก Matichon Online, Matichon tv, The Politics, Khaosod, Prachachat, มติชนสุดสัปดาห์ ช่องทางยูทูบ Matichon tv, Khaosod Tv, Matichon Online, ประชาชาติธุรกิจ, มติชนสุดสัปดาห์ ห้ามพลาดเด็ดขาด

ทั้งนี้ เวทีที่ 3 ของมติชน ไม่ใช่เพียงการนำเสนอนโยบายสำหรับคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่จะเปิดฟรีไมค์ ให้ประชันความคิดเห็น ถึง 3 รอบ ซึ่งมีพิธีกรชื่อดัง อั๋น ภูวนาท คุนผลิน เป็น ผู้ดำเนินรายการ โดยรอบแรก ช่วง “ปล่อยของ” ตัวแทนแต่ละพรรคการเมือง ได้แนะนำตัว และ “ขาย” นโยบายเพื่อคนรุ่นใหม่

กก.ย้ำเลิกไล่ทหาร-คืนเสรีภาพ
เริ่มจาก น.ส.พนิดากล่าวว่า พรรคก้าวไกลมี 300 นโยบายที่จะออกแบบมาเพื่อตอบสนองและแก้ไขปัญหาของประชาชน ในคอนเซ็ปต์ของการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต เพราะการเมืองคือพื้นฐานของทุกอย่าง หากการเมืองไม่นิ่งเราจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้าอยู่ได้แน่นอน พรรคก้าวไกลเสนอให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ หากเราได้เป็นรัฐบาล ช่วง 100 วันแรกเราจะจัดทำประชาชนมติเพื่อสอบถามพี่น้องประชาชนทุกคนว่าเราต้องการประชาธิปไตยอันใหม่หรือไม่ หากใช่ เราจะทำให้เสร็จภายใน 4 ปี

“หลายคนในคืนนี้จะนอนไม่หลับเพราะวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่จับใบดำใบแดง เราไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้ไป 2 ปีข้างหน้าจะใช้ชีวิตอย่างไรและจะเป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลจึงเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อคืนเวลาและเสรีภาพในการประกอบอาชีพให้กับคนรุ่นใหม่ทุกคน มั่นใจเลยว่าหากพรรค ก.ก. ได้เป็นรัฐบาล ในปี 2567 จะไม่มีการจับใบดำใบแดงอีกต่อไป จึงอยากขอความเชื่อมั่นในการทำงานของเรา โดยกาพรรคก้าวไกลทั้งสองใบ เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” น.ส.พนิดากล่าว

ชพก.เน้นมีงานทำ-มีเงินใช้
น.ส.เยาวภากล่าวว่า สำหรับพรรค ชาติพัฒนากล้า เป็นพรรคที่ผนึกกำลังรวมกันระหว่างนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายกรณ์ จาติกวณิช เน้นในเรื่องของปากท้องประชาชน โดยได้คิดนโนบายที่ออกมาเป็นคำสั้นๆ ว่า ต้องการให้พี่น้องประชาชนมีงานทำที่ดี มีเงินในกระเป๋าใช้ ราคาสินค้าในประเทศไม่แพง ทางพรรคมีนโยบายที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศ 5 ล้านล้านบาท จะมีสายอาชีพใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน ภายใต้เศรษฐกิจเฉดสี เฉดแรก คือ สายมู เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ สีเหลือง เป็นเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ เป็นในเรื่องของกีฬา ดนตรี ศิลปะที่เกี่ยวกับประเทศ มีกองทุนซอฟต์เพาเวอร์ รายละ 1 ล้านบาท สำหรับเยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับซอฟต์เพาเวอร์ เฉดที่ 3 เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดยนำขึ้นมาเก็บภาษีให้ถูกต้อง เฉดที่ 4 เป็นเรื่องของ LGBTQ ซึ่งได้สนับสนุนให้มีกิจกรรม LGBTQ ในประเทศไทยเพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้น เฉดถัดมา Government Technology สร้างความโปร่งใส ลดเวลาและขั้นตอนเพื่อประหยัดทรัพยากร ทำให้ประชาชนเข้าถึงราชการได้ง่ายขึ้น

“เรื่องของการนโยบายลดภาษี 4 หมื่นบาทแรก ไม่เสียภาษี หากเราสามารถเข้าไปทำนโยบายนี้ ประชาชน 4 ล้านคนจะได้ประโยชน์ทันที นโยบยต่อไป นโยบายหั่นค่า FT ของไฟฟ้า ขณะนี้รัฐบาลเพิ่มค่า FT กับประชาชน แต่ลดให้กับภาคอุตสาหกรรม ถ้าพรรคชาติพัฒนากล้าได้เข้ามาทำ ค่าไฟจะต้องลดลงแน่นอน รื้อระบบโครงสร้างพลังงาน”

ชทพ.ชูแก้รธน.-ใช้โมเดลปี 2540
นายเสมอกันกล่าวว่า พรรคมองเห็นปัญหาแรกคือรัฐธรรมนูญ นี่คือปัญหาหลักที่เราต้องเริ่มแก้ หลังการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนำรัฐธรรมนูญ 40 มาเป็นแบบอย่างการแก้ไขกฎหมาย เราอยากให้ประเทศมีความยั่งยืน สำหรับคนทุกรุ่นทุกวัย การที่จะยั่งยืนได้ ประชาชนต้องมีความมั่นคงในชีวิต มีทรัพย์สิน มีความมั่งคั่งทางรายได้ มีโอกาสความเท่าเทียม และมีสวัสดิการที่ดี เราไม่เชื่อว่า ระบบประชานิยมจะแก้ปัญหาในระยะยาวได้ ประเทศจะยั่งยืนได้ต้องมีสวัสดิการที่ดี ทั้งนี้ นักการเมืองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ถ้าประชาชนไมให้ความร่วมมือ

น.ส.ธิดารัตน์กล่าวว่า เจตนารมณ์หนึ่งของพรรค คือการต่อสู้เพื่อคนตัวเล็ก เราประกาศนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ ส่วนน้องๆ ในวัยเรียน เราจะปล่อยนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี พรรคเรากล้าประกาศว่าต้องทำให้ได้ ที่จะยกเลิกหนี้กยศ. และให้เรียนฟรีได้จนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร่นระยะเวลาเรียนไม่ให้หนักเกินไป

ปชป.ยืนยันนโยบายเรียนฟรี 15 ปี
ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า นโยบายคนรุ่นใหม่ ให้มีต้นทุนลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ต้นทุนสำคัญคือต้นทุนชีวิต พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ริเริ่มนโยบายเรียนฟรี 15 ปี วันนี้เราต้องการขยายวงเงินกยศ. และการเรียนฟรี การหารายได้ระหว่างเรียนจับคู่ภาคเอกชนสร้างงาน 1 ล้านงาน และการลดรายจ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ที่มีปัญหาอยู่คือด้านกฎหมาย เราต้องการทำกฎหมายตั๋วรวมที่เดินทางได้ทั้งหมด นอกจากนี้ อินเตอร์เน็ตในการบริการ เราต้องการขยายอินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุดทั่วประเทศ และการสร้างรายได้ โดยสามารถเริ่มธุรกิจได้จากกองทุนเอสเอ็มอี 3 แสนล้านบาท เพื่อสนับสนุนตรงนี้

น.ส.บุณณดากล่าวว่า พรรคมีนโยบาย สวัสดิการประชารัฐ เศรษกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ แต่สำหรับเวทีนี้ อยากพูดเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อไปสู่การพัฒนาร่วมกัน เราอยากจะฟังเสียงของนิวเจนจริงๆ อยากฟังสิ่งที่นิวเจนต้องการ เพื่อนำเสนอให้ฝ่ายนโยบายของพรรค รวมถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ใจดี ใจกว้าง อยากให้มีอะไรก็มาพูดคุยกัน ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็คล้ายทุกพรรค

พท.มุ่งเพิ่มรายได้-สร้างงานให้
น.ส.จิราพรกล่าวว่า ภายใต้การนำของพรรค พท. ประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศแห่งโอกาสของคนทุกเพศทุกวัย ความหลากหลายจะยังคงอยู่แต่ความเหลื่อมล้ำต้องหมดไป คนรุ่นใหม่ไม่ต้องย้ายประเทศแล้ว เพราะสามารถถือพาสปอร์ตไทยแค่เล่มเดียว เดินทางไปนานาอารยประเทศ สามารถเข้าออกได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี คนไทยต้องมีที่ยืนในเวทีโลก ภายในปี 2570 พรรค พท.จะปฏิรูปโครงสร้างประเทศด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากประชาชน เราจะเห็นประชาธิปไตยที่กินได้ เราจะเป็นประเทศทุนนิยมที่มีหัวใจ คนรุ่นใหม่จะเรียนรู้ได้ฟรีตลอดชีวิตผ่านโครงการ เลิร์นทูเอิร์น และระหว่างเรียนจะมีรายได้ด้วยค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน นิสิตนักษาเรียนจบมาต้องมีงานทำ เงินเดือนขั้นต่ำ 2.5 หมื่นบาท

น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ใช้ระบบสมัครใจ และสนับสนุนสิทธิความหลากหลายทางเพศ ทุกความฝันของคนไทยจะถูกสานต่อด้วยโครงการ หนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์ เพาเวอร์ สร้างงาน 20 ล้านต่ำแหน่งการันตีรายได้ขั้นต่ำต่อปี 2 แสนบาท วัฒนธรรมจะไม่ถูกตีกรอบอีกต่หอไป แต่จะเป็นวัฒนธรรมที่กินได้ สร้างงานสร้างรายได้ให้ทุกครอบครัว พรรคพท. จะพาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เราจะไม่ทำเพียงแค่ฟรีไวไฟทุกหมู่บ้านหรือโครงการฟรีแท็บเล็ตเท่านั้น แต่เราจะมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถใช้เงินสกุลเหรียญดิจิทัลใช้จ่ายในชุมชน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และเตรียมประเทศไทยเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจดิจิทัลพรรคเพื่อไทย

เอิร์ธต่อยอดนมร.ร.ฟรี 365 วัน
ในรอบที่สอง ช่วง ‘เดอะ แบตเทิล’ ร.ต.อ.พงศกรได้คำถาม การมีส่วนร่วมบริหารราชการแผ่นดิน ในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่มีนโยบายอย่างไรบ้างในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ตั้งแต่การศึกษา และสาธารณสุขอย่างไรให้เด็กและเยาวชน

ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า ในส่วนของเงินที่ใช้จับจ่ายใช้สอยประจำวัน ไม่ใช่ว่าเรียนไม่มีค่าเทอมอย่างเดียวไม่เพียงพอ เด็กๆ บางครั้งต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ตรงนี้เราต้องการที่จะขยายเรื่อง กยศ.ให้สามารถกู้ยืมได้จาก 3,000 บาท เป็น 6,000 บาท เพื่อที่จะสามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยได้ อีกส่วนคือเด็กโรงเรียนธรรมดา เด็กเล็กจนถึงเด็กโต บางครั้งในโรงเรียนที่มีฐานะดี เรื่องอาหารเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ แต่โรงเรียนในเขตเลือกตั้งของตน โดยเฉพาะในชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำคัญมาก ถ้าเรียนโรงเรียนกทม. กินข้าวฟรี จนถึงม.3 เรียนโรงเรียน สพฐ. กินข้าวฟรีถึงป.6 ซึ่งจะะเห็นว่าโรงเรียนในกทม.ยังแตกต่างกันเลย ดังนั้น เราต้องการมีสวัสดิการอาหารให้เด็กนักเรียนตั้งแต่เด็กจนจบม.6 ไม่ให้มีความเหลื่อมล้ำเพียงแค่อยู่ท้องถิ่นกับ สพฐ. ดังนั้น ตรงนี้จะต้องเท่าเทียมกันในเรื่องสวัสดิการอาหาร ส่วนสวัสดิการนม บางคนบอกว่านมไม่สำคัญ แต่โรงเรียนในชุมชนในช่วงปิดเทอมเด็กอยากไปโรงเรียน เพราะไม่มีเงินที่จะจ่ายค่านม หรืออาหาร ดังนั้น ปชป.ต้องการที่จะขยายเรื่องของนมฟรี 365 วันให้เด็กมีสวัสดิการตรงนี้

พปชร.ลั่นขจัดอำนาจนิยมในร.ร.
จากนั้นรอบที่สอง ช่วง “เดอะ แบตเทิล” น.ส.บุณณดาได้คำถาม อำนาจนิยมในโรงเรียนไทยคืออะไร หากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมอย่างไร

น.ส.บุณณดากล่าวว่า ปัจจุบันนี้วาทกรรมต่างๆ ที่สร้างความขัดแย้งมีอยู่ ซึ่งพรรค พลังประชารัฐมักถูกหลายคนแบ่งแยก เรื่องอำนาจและความขัดแย้งนั้นตอนนี้มีการแบ่งพรรคประชาธิปไตยกับพรรคเผด็จการ ตนไม่อยากให้เกิดวาทกรรมนี้ พรรคพลังประชารัฐผ่านการเลือกตั้งมาเมื่อปี 62 และอีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่การเลือกตั้ง ตนอยากขอร้องให้ทุกคนเข้าใจพรรคพลังประชารัฐมากยิ่งขึ้น

น.ส.บุณณดากล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำหรับอำนาจนิยมที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ตนเชื่อว่าไม่ใช่อำนาจ แต่สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนไม่ว่าจะคุณครูหรือรุ่นพี่ ทุกคนมีความหวังดีต่อกัน แต่อาจมีวิธีนำเสนอที่แตกต่างกัน บางครั้งคำพูดของคนรุ่นเก๋าอาจใช้เสียงดังหรือเป็นคำสั่ง ซึ่งคล้ายกับการใช้อำนาจ แต่สิ่งที่เขามีคือความหวังดี เหมือนเช่นในครอบครัวของเรา เวลาทำอะไรผิด พ่อแม่ ปู่ย่าตายายดุเราด้วยวิธีการของท่าน แต่เราอาจไม่เข้าใจ เราจึงมองว่าทำไมต้องใช้อำนาจแบบนี้ แต่ความจริงแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่อำนาจ แต่คือความหวังดี

“พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกมิติและทุกพื้นที่ อยากบอกว่าตอนนี้อำนาจไม่มีอยู่แล้วในประเทศไทย ตอนนี้ทุกคนอยู่ในเส้นทางประชาธิปไตย จึงอยากให้พูดคุยกัน” น.ส.บุณณดากล่าว

ด้าน น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ใช้สิทธิ โต้แย้ง โดยกล่าวว่า ถ้าเราไม่เห็นปัญหาอำนาจนิยมภายในโรงเรียน เท่ากับมองข้ามเด็กๆ หลายคนที่ถูกบูลลี่และตัดสินใจจบชีวิตใช่หรือไม่ พรรคก้าวไกลนำเสนอว่า อำนาจนิยมในโรงเรียนเกิดจากครูลงมาที่เด็ก จากรุ่นพี่ลงมาที่รุ่นน้อง โดยพรรคมีนโยบายเราจะไม่ให้ครูละเมิดสิทธิเด็กอีกต่อไป ถ้าครูละเมิดสิทธิเด็กไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง การทำร้ายร่างกาย หรือล่วงละเมิดทางเพศ เราจะพักใบประกอบอนุญาตทันที

น.ส.พนิดากล่าวต่อว่า เราอาจได้ยินบ่อยๆ ว่า โรงเรียนไม่ใช่เซฟโซน พ่อแม่ไม่ใช่ เซฟโซน พรรคก้าวไกลมีนโยบายศูนย์เยาวชนที่จะให้การดูแลด้านจิตใจเยาวชน โดยไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกผู้ปกครองหรือโรงเรียน ซึ่งอาจเกิดเป็นภาวะที่ย่ำแย่ของสภาพจิตใจได้

จิราพรโชว์ตอบคำถามป๋าเต็ด
คู่ที่ 4 ได้รับคำถามจากนายยุทธนา บุญอ้อม หรือ ป๋าเต็ด ซึ่งถามว่ามีแนวคิดและนโยบายแบบไหน อย่างไร ที่จะปรับลดหรือปฏิรูปทหารและตำรวจ

นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ว่าที่ผู้สมัครส.ส. สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ถ้าให้ตอบสั้นและกระชับคือต้องเลิกให้ ถ้าคุณไม่ผิดไม่ต้องให้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทุกคนคงมองว่าปัญหาการทุจริตมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงกระทรวงที่พรรคชาติไทยพัฒนาดูแลก็มีปัญหา แต่ได้จัดการตามกฎหมายไปเรียบร้อย ซึ่งตอนนี้ผู้ที่ทำผิดก็ได้ถูกออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งที่จัดการอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องและผู้ถูกร้องด้วย ตนเชื่อว่าทุกพรรคต้องมีนโยบายปราบคอร์รัปชั่น แต่ทำไมถึงมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะมีการให้และรับมากขึ้น ซึ่งเกิดจากช่องโหว่ของกฎหมาย และอำนาจรัฐบางส่วน ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้พรรคชาติไทยพัฒนาบอกว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดความเท่าเทียม

ด้านน.ส.จิราพรกล่าวว่า ทหารและตำรวจเป็นระบบราชการหนึ่งที่สามารถพูดถึงได้ในสังคมไทย เพราะเป็นหนึ่งในระบบราชการทั่วไป ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยคือการปฏิรูปกองทัพ โดยให้มีการยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ จูงใจโดยให้สวัสดิการเข้ามาแทนการบังคับ ในส่วนที่ 2 ควรจะยกระดับค่ายทหารเป็นศูนย์ฝึกอาชีพ เมื่อปลดประจำการสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานทันที เป็นการสร้างอาชีพทหารและกันออกจากการเมือง และที่เราคิดว่าต้องเสนอกฎหมายป้องกัน ต่อต้านการทำรัฐประหาร ทหารอยากเข้าการเมืองต้องเข้าผ่านการเลือกตั้ง ไม่ใช่ใช้ปืน รถถัง มาจี้ประชาชน และเราจะปฏิรูปกองทัพทั้งระบบให้โปร่งใสและตรวจสอบได้

ห้ามขายเหล้าวันพระ-ป้อมนายกฯ
ช่วงที่ 3 เป็นช่วง “NEW GENSOUND” โดยคำถามแรกถามว่า คิดอย่างไรที่ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนา แต่ห้ามจำหน่ายสุราในวันพระใหญ่

นายเสมอกันกล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วย แต่เรื่องนี้ตนได้พูดในพรรคว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เฉพาะแค่วันพระใหญ่แต่รวมถึงการจำกัดเวลาซื้อขาย ตนเป็นส.ส.ต่างจังหวัด วัด โรงเรียน ห้ามนำแอลกอฮอล์เข้า ทำให้บุคลากรในสถานที่ดังกล่าวขาดรายได้ รวมไปถึงการจำกัดรัศมีการขายแอลกอฮอล์ ตนมองว่าประเทศไทยแปลกส่งเสริมให้เยาวชนบริโภคแอลกอฮอล์ไกลที่พัก ต้องเดินทางไปบริโภค เสี่ยงต่อการเมาแล้วขับ การเกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงการโดนล่วงละเมิดทางเพศ ทำไมถึงไม่จับกลุ่มของคนเหล่านั้นมา บริโภคกันในที่ที่เหมาะสม เช่น ในมหาวิทยาลัย เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและดูแล ในส่วนพ.ร.บ.สุรา ตนเห็นด้วยแต่ไม่สุดโต่ง อย่างน้อยต้องเปิดโอกาสให้ชุมชนสามารถผลิตและจำหน่ายแบบบรรจุภัณฑ์แอลกอฮอล์ในระดับชุมชนได้

ช่วง ‘นิวเจนซาวด์’ ให้ตอบคำถามสดจากนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมเวที “ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย” คำถามที่ 2 ถามพรรคพลังประชารัฐ คิดอย่างไรกับการเลือกลุงป้อมเป็นแคนดิเดต นายกฯ ของพรรค

น.ส.บุณณดากล่าวว่า เป็นคำถามที่ถูกใจมาก พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นเพียงคนเดียวที่มีความเหมาะสมที่สุด ที่พปชร.เสนอลุงป้อมเป็นนายกฯ ต้องบอกว่าลุงป้อมเป็นคนใจดี เป็นคนมีความเป็นกลาง และเป็นคนที่รับฟังความคิดเห็นของทุกคน

“สมัยก่อนคนมักจะแซวกันว่าไม่ว่าเวลาลุงป้อมตอบอะไร ก็มักจะบอกว่า “ไม่รู้ ไม่รู้” แต่ตอนนี้ลุงป้อม รู้ทุกเรื่อง จริงแล้วสมัยก่อนที่บอกว่าไม่รู้เป็นเพราะว่าบางข้อไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่าน ตอบแล้วอาจจะกระทบกระเทือนใครก็ตาม ซึ่งตามธรรมชาติของลุงป้อม ต้องบอกว่า เป็นคนที่เปิดใจและรับฟังความคิดเห็นของทุกคน รวมถึงเคารพทุกคนด้วยเช่นเดียวกัน” บุณณดากล่าว

วิว-ชพก.พร้อมดันเซ็กซ์เวิร์กเกอร์
ช่วงที่ 3 เป็นช่วง “NEW GENSOUND” เป็นการตั้งคำถาม ถามตัวแทนพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่บอกว่าจะสนับสนุนกิจกรรมของ LGBTQ+ จะเป็นกิจกรรมลักษณะอย่างไร และพรรคมีนโยบายขับเคลื่อนกฎหมายสมรสเท่าเทียมหรือไม่

น.ส.เยาวภากล่าวว่า การส่งเสริม LGBTQ เป็นหนึ่งในนโยบายเฉดสีของพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อต้องการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกเหนือจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่พรรคเห็นด้วย และกำลังผลักดัน แต่เนื่องจากพรรคเน้นเรื่องเศรษฐกิจ และปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น นอกเหนือจากเรื่องสมรสเท่าเทียมแล้ว เราอยากจะใช้จุดนี้เรื่องความหลากหลายทางเพศ ในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ในประเทศไทย

ส่วนเรื่อง Sex worker พรรคชาติพัฒนากล้าก็มีนโยบายการเปลี่ยนสถานะจากสิ่งที่อยู่ใต้ดิน และผิดกฎหมาย เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสนำขึ้นมาอยู่ในระบบ เอาขึ้นมาจัดเก็บภาษี เพื่อคุ้มครองดูแลสวัสดิภาพของผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กรุ่นใหม่จำนวนมาก ประกอบอาชีพโอนลี่แฟนส์ ไซด์ไลน์ ทุกวันนี้มันมีอยู่จริง ดังนั้น การสนับสนุนให้ถูกกฎหมายจะเป็นการส่งเสริมทั้งหมด รวมถึง LGBTQ ด้วย

ผึ้ง-ก้าวไกลกับแนวทางแก้ 112
รอบที่สาม ช่วง ‘นิวเจนซาวด์’ ให้ตอบคำถามสดจากนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมเวที “ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย” สำหรับคำถามที่ว่าขอทราบแนวทางในการแก้ไข มาตรา 112 จากพรรคก้าวไกล

น.ส.พนิดากล่าวว่า เหมือนโดนเก็งข้อสอบมาแล้ว และในทุกเวทีที่ก้าวไกลได้มีโอกาสพูดถึงกฎหมายข้อนี้ เราใช้อย่างเต็มที่เพื่อที่จะบอกกับทุกคนว่าความตั้งใจของพรรคก้าวไกลคือทำให้เรื่องนี้ถูกพูดได้อย่างเป็นปกติธรรมดา ซึ่งรูปธรรมของการแก้ไข มาตรา 112 คือการบังคับใช้กฎหมายและผู้มีอำนาจฟ้อง เพราะตัวกฎหมายมีโทษที่หนักเกินไป หนักกว่าหลายๆ ประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และการพิจารณาคดีก็เขียนไว้อย่างคลุมเครือ ไม่ได้เขียนเฉพาะเจาะจงไปอย่างชัดเจนว่าแบบไหนที่เรียกว่าหมิ่นประมาท แบบไหนที่ให้การคุ้มครองการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต

น.ส.พนิดากล่าวต่อว่า เนื่องจากกฎหมายข้อนี้อยู่ในหมวดความมั่นคง เลยทำให้ไม่ว่าใครก็ร้องทุกข์กล่าวโทษได้ เราจึงนำเสนอวิธีการที่ง่ายกว่านั้น ถือการให้สำนักพระราชวัง เป็นตัวแทนในการสั่งฟ้อง เพื่อไม่ให้นำมาตรา 112 มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองใช้โจมตีคนที่มีความเชื่อ และความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับตนเอง เมื่อพรรคก้าวไกล ได้เป็นรัฐบาลเราจะทำให้พูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาในสภาและจะผลักดันแก้ไขมาตรา 112 ให้ได้

น.ส.พนิดากล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยมีหลัก 3 ข้อคือ 1.การปิดช่องรัฐประหาร 2.ปกป้องเสียงของพี่น้องประชาชน ด้วยการรื้อถอนกลไกการสืบทอดอำนาจทั้งหมดของ คสช. ปิดสวิตช์ 3 ป. ให้สำเร็จ และ 3.การปลดล็อกท้องถิ่นเพื่อคืนอำนาจในการกำหนดอนาคตชีวิตทุกคน ตลอด 90 ปีที่ผ่านมา อำนาจนำที่แทรกแซงการเมืองไทยและบั่นทอนกระบวนการประชาธิปไตยคือทหาร และกองทัพ เราจึงเสนอปฏิรูปกองทัพ และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เอาทหารออกจากการเมืองและเปลี่ยนโครงสร้างเชิงอำนาจให้ทหารอยู่ใต้พลเรือนอย่างแท้จริง เราไม่เคยเดินไปข้างหน้าเลยเพราะการกินข้าวทีละคำ พรรคก้าวไกล จึงเสนอให้ทุกคนในประเทศเท่าเทียมผ่านกลไกรัฐสภา ถ้ารอบนี้เรามีส.ส.มากขึ้น เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันแน่นอน

ให้เสรีภาพแสดงความคิดเห็น
คำถามที่ 5 นักการเมืองรุ่นใหม่มีแนวทางการปฏิบัติที่จะจัดการอย่างไรกับเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ประชาชนทั่วไป การคอมเมนต์บนโซเชี่ยลฯ หรือแม้กระทั่งการภาพยนตร์ การทำซีรีส์ ที่ถูกจำกัด จะแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง

น.ส.อิสราพรกล่าวว่า เสรีภาพในการพูดคือการทำศิลปะในการทำภาพยนตร์ ดนตรี อย่างอิสรเสรี เห็นด้วยเรื่องของความเหมาะสมในเมื่อความเหมาะสม ไม่ได้มีคำจำกัดความว่าอะไรดีอะไรไม่ดี บางอย่างก็เทาๆ เราไม่มีสิทธิไปกำหนด ตนคิดว่าสื่อบันเทิง หรือการพูดที่ไม่เหมาะสมควรเป็นแค่การกำหนดว่าสื่อประเภทนี้เหมาะกับอายุเท่าไหร่ก็พอ ส่วนเรื่องของซอฟต์เพาเวอร์ ตนมองว่าการที่จะไปดูเรื่องของปลายทางจะผลักดันอย่างไร ความคิดสร้างสรรค์อย่างไรให้ไประดับโลก เราต้องกลับมาดูที่มูลค่า และความคิดสร้างสรรค์ต้องเกิดจากการไม่กดดัน ซึ่งวันนี้เราอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสังคมและสภาพแวดล้อมที่จำกัดมาก จะออกไปไหนก็ไม่ได้เพราะฝุ่นเต็มท้องฟ้า ซึ่งนโยบายของภูมิใจไทยทุกชุดเราต้องการเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ทุกคนได้มีความคิดสร้างสรรค์ มีพื้นที่ในการแสดงออก

น.ส.อิสราพรกล่าวต่อว่า อีกประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของตะวันและแบม ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงออก ซึ่งมีการประกันตัวมาสู้โดยที่ยังไม่มีการตัดสิน เขาก็มีสิทธิที่จะออกมาได้ ดังนั้นนโยบายของภูมิใจไทย ที่ได้ผลักดันไปแล้วทุกชุดล้วนแล้วแต่ตอบสนองความคิดสร้างสรรค์และการไม่จำกัดกรอบ

อย่างไรก็ตามคำถามนี้ไม่มีใครมาแบตเทิล ด้วย

รทสช.-พปชร.ยันพรรคมีทุกเจน
คำถามที่ 7 ถามว่าถ้าเป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง แล้วไปเจอกับการเมืองระบบเก่าจะมีวิธีเสนอไอเดีย และต่อสู้เพื่อประชาชนอย่างไร นายพงศ์พลกล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติรวมคนทุกเจน มีผู้สมัคร ส.ส.อายุ 25 ที่ลงสมัครได้ มีทีมงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือทำงานเพื่อแก้ปัญหา แต่ทุกการทำงานย่อมมีปัญหา และมีความเห็นต่าง ทุกคนอาจมองว่าเป็นพรรคอนุรักษนิยมสุดๆ เก่ามากๆ แต่วันนี้ถ้าท่านเห็นป้ายหาเสียงของพรรคจะเห็นว่า เป็นพรรคเดียวที่ฟรีสปีช ทุกๆ เขตอยากเขียนอะไร พรรคให้เวทีกับผู้สมัคร ผู้ใหญ่ในพรรคให้พื้นที่ให้อิสระในการทำงาน แต่แน่นอนว่ามีเรื่องที่เสนอไปแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ก็พูดคุยกันได้ และเป็นศิลปะในการอยู่ร่วมกันในสังคม และจากการที่เราเป็นคนรุ่นใหม่ ก็มีความคล่องตัวในการใช้เทคโนโลยี ถ้าเอาความรู้ของคนทุกวัยมารวมกันจะเกิดนวัตกรรมทางการเมือง

ขณะที่ น.ส.บุณณดากล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐก็มีทั้งคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ รวมถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งเชื่อว่า วันนี้ทุกพรรคผสมผสานกันระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีการประชุมกันทุกๆ วัน มีคนทุกรุ่นเข้ามาระดมความเห็นกัน และสามารถโต้แย้งในสิ่งที่เห็นแตกต่างได้

‘วิว-เอิร์ธ’เปิดใจสิ่งอยากผลักดัน
คำถามที่ 8 ถามถึงความชัดเจนของนักการเมืองรุ่นใหม่ว่าต้องการเข้ามาทำงานการเมือง เพื่อที่จะเข้ามาทำอะไร ขอให้พูดให้ชัดๆ โดย น.ส.เยาวภากล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า กล้าที่จะเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องประชาชน งานดี มีเงิน ของในประเทศไม่แพง การรื้อระบบโครงสร้างพลังงาน โดยจะลดค่าเอฟทีลงหลังจากรัฐบาลประกาศเพิ่มค่าเอฟทีภาคประชาชน แต่ลดให้ภาคอุตสาหกรรม เหมือนช่วยเหลือนายทุน นี่คือนโยบายหลักๆ ที่พรรคชาติพัฒนากล้าต้องการเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน

ขณะที่ ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า คนรุ่นใหม่ในพรรคประชาธิปัตย์สามารถพูดได้ทุกอย่าง แสดงความเห็นได้ทุกอย่างเช่นกัน ไม่มีลุงคนไหนเป็นเจ้าของ ตนสามารถพูดและอธิบายสิ่งต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอในพรรคได้ ทำนโยบายให้เป็นจริงได้ พรรคประชาธิปไตยให้โอกาสตน โดยไม่มีการมาควบคุมไม่มีการควบคุม

พท.ชูค่าแรงขั้นต่ำ-เป๋าดิจิทัล
คำถามที่ 9 ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะมีนโยบายเพิ่มรายได้ให้ประเทศได้อย่างไร และจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างไร น.ส.จิราพรกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะลดความเหลื่อมล้ำโดยการสร้างรายได้ให้ประชาชน ปัจจุบันคนไทยรายได้ไม่พอรายจ่าย มีหนี้ทั้งในและนอกระบบ เราจะกระชากค่าครองชีพประชาชนให้ลดลง ครอบครัวที่รายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาทต่อเดือน เราจะไปเพิ่มรายได้ให้ทันที จะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน การให้เงินสกุลดิจิทัลบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ให้ได้ใช้จ่ายในชุมชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศครั้งใหญ่ การสร้างรายได้ยั่งยืน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์ เอาวัฒนธรรมประเพณีมาสร้างรายได้ให้ทุกครอบครัว ภาคเกษตรจะมีการเติมเงิน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่สำคัญคือการศึกษาที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ และความเหลื่อมล้ำอย่างแยกกันไม่ออก เราจะปฏิรูปการศึกษาโดยการกระจายอำนาจ และใช้เทคโนโลยีเข้ามาลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงนโยบายฟรีอินเตอร์เน็ตทุกหมู่บ้าน ทั้งหมดเพื่อที่เราจะได้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยการรดน้ำที่ราก เป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

ด้าน น.ส.อิสราพรกล่าวว่า การลดรายจ่ายพรรคภูมิใจไทยมีนโยบายที่ชัดเจน ด้วยการลดค่าไฟฟ้า 450 บาทต่อครัวเรือน จากแผงโซลาร์เซลล์ ส่วนการสร้างรายได้ประเทศไทยมีความใฝ่ฝันจากนักลงทุน และเศรษฐกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่เราไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่นำไปสู่ตรงนั้น วันนี้พรรคภูมิใจไทยเสนอโครงการแลนด์บริด เชื่อมอันดามันกับอ่าวไทย เพิ่มระบบการคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นรูปธรรมที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น ส่วนการเกษตรจะแก้ปัญหาจากต้นเหตุ ที่ให้รู้ราคาล่วงหน้าก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน

ขณะที่ น.ส.ธิดารัตน์กล่าวว่า พรรคพูดมาตลอดว่าการหารายได้เข้าประเทศ ประเทศไทยต้องแข่งขันในสิ่งที่เก่งอยู่แล้ว อย่าไปหยิบในสิ่งที่เราไม่เก่งไปแข่งขัน ฉะนั้น เราต้องส่งเสริมด้านอาหาร สุขภาพ และท่องเที่ยว ประเทศไทยมีโครงสร้างสาธารณสุขที่เข้มแข็ง หลายคนเดินทางมาเพื่อใช้บริการสุขภาพที่ประเทศไทย

ไม่เห็นด้วยยุบพรรคการเมือง
ช่วงที่ 3 เป็นช่วง “NEW GENSOUND” โดยคำถามที่ 9 ซึ่งเป็นคำถามสุดท้าย ถามว่า ถ้ามีการยุบพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ทุกพรรคการเมืองที่เหลือจะคัดค้านหรือไม่

น.ส.ธิดารัตน์กล่าวว่า ถ้าดูจากหลายครั้งที่ผ่านมาการยุบพรรคการเมืองอาจจะมีด้วยพื้นฐานของเหตุผลโดยการใช้อำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม หากถามว่าถ้ามีการทำเช่นนี้พรรคไทยสร้างไทยไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่หากยุบพรรคด้วยเหตุผลว่าพรรคนั้นทำผิดจริง ผิดหลักประชาธิปไตย แต่ฐานะที่เราเข้ามาเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นคนที่เคารพหลักการประชาธิปไตย ซึ่งเราก็เห็นควรว่าให้เป็นไปตามกฎหมาย และสิ่งที่เกิดขึ้น หากดูให้แง่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ที่เรามองเห็นคุณค่าในประชาธิปไตยจึงอยากให้ประชาธิปไตยอยู่กับเราไปให้นานที่สุด

“เราอยากจะฝากสารไปถึงผู้มีอำนาจในตอนนี้ ว่าถ้าเกิดจะมีการใช้วิธีการที่ไม่เป็นธรรมในการที่จะเข้ามาควบคุมการเลือกตั้ง ควบคุมการหาเสียง ควบคุมการดำเนินการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ก่อนการเลือกตั้ง เราไม่อยากจะให้เกิดขึ้นในวิธีการใดๆ ทั้งปวง ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เห็นมาในหลายๆ อย่างแล้ว” น.ส.ธิดารัตน์กล่าว

น.ส.ธิดารัตน์กล่าวว่า ส่วนในเรื่องที่กกต.ประกาศว่าหากเลือกตั้งเสร็จจะใช้เวลา 5 วัน ในการที่จะประกาศตัวเลข ความจริงในสังคมประชาธิปไตย ควรใช้เวลาแบบเรียลไทม์ ซึ่งในเวลา 5 วันอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนจับจ้องและจับตาดูให้ได้มากที่สุด ในทุกกระบวนการที่จะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวทีดีเบตที่จัดขึ้นในครั้งนี้ มีกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ นิสิตนักศึกษา เข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก บางกลุ่มก็เป็น แฟนคลับนักการเมือง มีการตบมือส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่นเมื่อผู้ดีเบตพูดในสิ่งที่ถูกใจ ขณะเดียวกันก็มีเสียงโห่ฮาเมื่อตัวแทนที่ขึ้นพูดกล่าวถึงผู้นำบางคนด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน