เร่งเคลียร์พื้นที่วอด ฮ.บินโปรยน้ำเขื่อน 20จว.PM2.5ฟุ้งอีก

นครนายกพ้นวิกฤต ได้ฝนเทช่วยดับไฟป่าเขาแหลม-เขาชะพลู หลังพยายามบินทำฝนเทียม 5 ครั้งจนสำเร็จฮ.บินสำรวจพบไฟสงบลงแล้ว ด้านเขานางดำที่บ้านนา จนท.ส่งโดรนบินตรวจพบไฟยังลุกไหม้ เร่งมาร์กจุดให้ฮ.ขึ้นโปรยน้ำ อธิบดีกรมฝนหลวงแจง ส่งฮ.ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง 10 หน่วย ช่วยเหลือพื้นที่หมอกควัน-ไฟ ตั้งแต่ภาคเหนือถึงภาคกลาง และภาคใต้ ช่วยเติมน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนรัชชประภา รวมถึงอ่างเก็บน้ำ กรมมลพิษเตือน 20 จังหวัดเหนือ-อีสาน จมฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ซ้ำ

ไฟป่ายังวอดเขานางดำ
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าไฟไหม้ป่า ที่จ.นครนายก ว่าเวลา 06.00 น. สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติใช้โดรนบินตรวจสอบและมาร์กจุดที่พบกลุ่มไฟ เพื่อถ่ายภาพและให้ทีมบินเฮลิคอปเตอร์ โปรยน้ำเพื่อความแม่นยำในการดับไฟ โดยทีมสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยังพบไฟที่ยังลุกไหม้อยู่ที่เขานางดำ อ.บ้านนา โดยมีไฟอยู่ในหุบเขา ที่มีกอไผ่และต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเชื้อไฟได้เป็นอย่างดี และคาดว่าภายในวันเดียวกันจะสามารถดับไฟหรือควบคุมไฟให้อยู่ในวงที่จำกัดได้

คุมไฟเขาแหลมได้แล้ว
ส่วนสถานการณ์ไฟป่า ที่เขาชะพลู-เขาแหลม เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่า ไฟป่านั้นดับแล้วทุกจุด ยังคงเหลือแต่กลุ่มควันบางส่วน ที่เผาไหม้ตามตอไม้ และช่วงเวลา 12.00 น. ทางกองอำนวยการควบคุมสถานการณ์ ได้ส่งทีมชุดเดินเท้าขึ้นไปบนเขาเพื่อตรวจสอบ ว่ายังคงมีไฟหรือจุดเสี่ยงตรงไหนอยู่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บางส่วนได้ถอนกำลังกลับที่ตั้งของแต่ละหน่วยงานแล้ว คงเหลือแต่ชุดเดินเท้าที่ส่งขึ้นไปด้านบนเขา ในส่วนของทางอากาศเฮลิคอปเตอร์ ได้หยุดการบินดับไฟแล้ว แต่ยังคงมีทีมตอบโต้ภัยพิบัติ ยังคงใช้โดรนจับความร้อน บินสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบ เพื่อตรวจสอบว่ายังมีจุดความร้อนที่ยังเป็นกลุ่มไฟหรือไม่

ต่อมา เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินนำน้ำไปโปรยน้ำอีกครั้ง จากนั้นเวลา 13.30 น. จุดไฟป่าทุกจุด เริ่มมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ ต่างพากันแสดงความดีใจ ที่ ฝนหลวงประสบความสำเร็จ หลังจากพยายามทำมาถึง 4 วัน จนมาสำเร็จในวันที่ 5 ถึงแม้จะควบคุมไฟได้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา แต่ฝนนั้นได้มาช่วยทำให้พื้นที่ที่ยังมีกลุ่มควันจากตอไม้นั้นเริ่มสงบลง และยังช่วยลดฝุ่นควันต่างๆ ในพื้นที่ ที่ส่งผล กระทบต่อประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า พื้นที่ที่เสียหายจากไฟไหม้ครั้งนี้มีประมาณ 1,800 ไร่ ซึ่ง กินเนื้อที่กว้างมาก ซึ่งหลังจากนี้ทาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสรุปรายละเอียดความเสียหายต่างๆ รวมถึงแนวทางการฟื้นฟูป่าที่สูญเสียไป

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรม ฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าและช่วงบ่ายวันเดียวกัน หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ไฟไหม้ป่าบริเวณเขาชะพลูและเขาแหลม จ.นครนายก ซึ่งเป็นการทำงาน ทุกวันอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงและหมอกควันจากสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเมื่อช่วงเวลา 15.30 น. ตรวจสอบจากเรดาร์ฝนหลวงพบว่ามีกลุ่มฝนเคลื่อนตัวเข้าไปยังบริเวณพื้นที่เกิดไฟป่าเขาแหลม เขาพระ และเขาตะแบก พร้ไอมกับได้รับรายงานจากอาสาสมัครฝนหลวงและอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่จังหวัดนครนายก พบว่า มีปริมาณฝนตกปริมาณเล็กน้อย-ปานกลาง เป็นเวลานาน 30 นาที ซึ่งทางกรมฝน หลวงฯ ได้มอบหมายให้หน่วย จันทบุรีติดตามสภาพอากาศทุกวันอย่างต่อเนื่อง ต่อไปเพื่อช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์ ไฟไหม้ป่าในพื้นที่จะคลี่คลายลง

บินโปรยฝน-เติมน้ำเขื่อน
นายสุพิศกล่าวต่อว่า นอกจากการช่วยเหลือพื้นที่ไฟไหม้ป่าที่จ.นครนายก ด้านการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่มีการร้องขอฝนหลวงเข้ามาทั่วทุกภูมิภาคในขณะนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศปฏิบัติการฝนหลวงเชิงรุก ช่วงชิงสภาพอากาศปฏิบัติภารกิจทุกวันไม่มีวันหยุดราชการ โดยตั้งแต่เช้าของวันเดียวกัน ได้มีการขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วย เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา ตาก แพร่ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณจ.พะเยา ขอนแก่น ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี พังงา ชุมพร ระนอง เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี และเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนรัชชประภา รวมถึงอ่างเก็บน้ำน้ำก้อ








Advertisement

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีความต้องการน้ำหรือพื้นที่ใดประสบปัญหาหมอกควันไฟป่า ขอฝนหลวงเข้ามาได้เป็นประจำทุกวันผ่านทางอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ หน่วยงานอำเภอ จังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ หรือ ช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และติ๊กต็อก @drraa_pr หรือโทร.0-2109-5100 ต่อ 410 ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรพร้อมช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถทันที

ส่วนที่จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีดา ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์และเครื่องส่ง-เครื่องรับสัญญาณโทรศัพท์ของบริษัทค่ายดังรายหนึ่ง ซึ่งตั้งกลางทุ่งนาในตำบลสีดา อ.สีดา ได้รับความเสียหาย จึงประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลสีดา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าไฟโหมไหม้ห้อง ส่งสัญญาณโทรศัพท์อย่างรุนแรง จึงรีบช่วยกันฉีดน้ำดับสกัดเพลิงเอาไว้ ใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ไฟได้ลุกไหม้ห้องส่งสัญญาณโทรศัพท์ได้รับความเสียหายทั้งหมด ไม่สามารถรับส่งสัญญาณได้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุไฟไหม้น่าจะเกิดจากมีคนลักลอบจุดไฟเผาหญ้าข้างทาง หรือลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าว เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกใหม่ ซึ่งในช่วงนี้สภาพอากาศร้อนจัด หญ้าและตอซังข้าวจะแห้งตายจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกลามไปทั่วบริเวณได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของการเกิด ไฟไหม้ที่ชัดเจนต่อไป

ครบุรีลูกเห็บตก-ชัยภูมิพายุซัด
ด้านอ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ในพื้นที่ ต.อรพิมพ์ และต.ครบุรี เกิดฝนตกหนัก และมีลูกเห็บตก กับมีลมกระโชกแรง นานกว่า 15 นาที

นายอุทัย หนูวุ่น เกษตรอำเภอครบุรี ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาในช่วงหลายวันนี้ จะทำให้การแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืชอย่างเพลี้ยไฟและไรแดงหยุดการระบาดได้ชะงักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ถือว่าส่งผลดีต่อผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดมานานหลายเดือน

ขณะที่จ.ชัยภูมิ สภาพอากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิพุ่งสูงตั้งแต่ 39 องศา กล้องวงจรปิดของร้านขนมเค้ก ในบ้านหนองแวง พื้นที่หมู่ 10 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ เมื่อเวลา 17.12 น. วันที่ 1 เม.ย. ได้จับภาพได้เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรงซัดถล่มเข้ามาภายในร้าน ต่อมาเกิดฝนตกลงมาพร้อมกับลมกระโชกแรง เข้ามาทางด้านหน้าของประตูร้านค้า

นายรัทธ์เกียรติ ถาวรวัฒนยงค์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน เผยว่า หลังจาก พายุฝนตกลงมาอย่างหนัก ตนและลูกน้องได้ช่วยกันพยายามปิดประตูร้าน แต่ ไม่สามารถทนความแรงของลมได้ ลมพายุ ได้ซัดประตูเหล็กของร้านจนพัง ส่วนคนภายในบ้านต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันโกลาหล 10 นาที ทั้งลมและฝนได้หยุดลง ทั้งเจ้าของร้านและลูกน้องได้มาตรวจสอบสิ่งของภายในบ้าน พบ ตู้เย็น ตู้โชว์ กระจกและของภายในบ้าน พังเสียหายเป็น จำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100,000 บาท

จี้จับแชร์ข่าวไหม้ดอยสุเทพ
ส่วนที่จ.เชียงใหม่ จากที่โลกออนไลน์แห่แชร์ เฟกนิวส์ และภาพเก่า ที่อ้างว่าเกิดไฟป่าในพื้นที่ดอยสุเทพใกล้เมืองด้านหลังบ้านป่าแหว่ง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพเก่าเมื่อปี 2559 ที่เกิดไฟป่ารุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของพื้นที่ป่ารอยต่อใกล้กับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยทำให้ชาวบ้านสับสน ทำให้ชาวบ้านต่างตรวจสอบข่าวกันวุ่น สร้างความเสียหายให้กับชาวเชียงใหม่ และบั่นทอนกำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานกันอย่างหนัก ซ้ำเติมสถานการณ์หมอกควัน และไฟป่าในตอนนี้ แม้แต่ ส.ส.เชียงใหม่ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคการเมืองหนึ่ง ก็ยังแชร์ภาพเก่านี้ออกมา แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ลบภาพออกไป แต่มีคนแคปภาพไว้ทัน ชาวเชียงใหม่จึงขอวอนให้หยุดแชร์เรื่องนี้ซึ่งไม่ได้ก่อผลดีต่อชาวเชียงใหม่เลย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ไม่หวงดีที่แชร์เฟกนิวส์นี้ออกมาด้วย เพื่อเป็นตัวอย่างให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะมีการแชร์ โดยเฉพาะสื่อท้องถิ่นที่เป็นผู้โพสต์แชร์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักจรรยาบรรณในการทำงาน

ด้านสถานการณ์ไฟป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เมื่อคืนวันที่ 1 เม.ย. พบไฟลุกไหม้หลายจุดยังต้องเร่งดับไฟจนหลายจุดคลี่คลายลงแล้ว

ส่วนสถานการณ์ไฟป่าของพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีแนวโน้มดีขึ้น หลายจุดควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว โดยเช้าวันเดียวกัน นายกริชสยาม คงสตรี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 รายงานสถานการณ์ไฟป่าล่าสุดว่า จุดหลักเขตรอยต่อของตำบลบ้านปง อ.หางดง กับต.แม่เหียะ อ.เมือง คืนที่ผ่านมาพบ 13 จุดจนถึงเช้าวันเดียวกัน สามารถเข้าดับไฟแล้วเหลือเพียง 2 จุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ ที่ บริเวณน้ำตาดหมาไห้ ผาฆ้อง-ผากลอง บ้านแม่สาใหม่ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม และดอยผาเจดีย์ ต.บ้างปง อำเภอหางดง ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ด้านหลังดอยปุย หากเกิดไฟป่าจุดนี้จะลุกลามขึ้นไปถึงยอดดอยปุยได้ จึงต้องวางกำลังเข้มข้นดูแลจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้จะนำเฮลิคอปเตอร์ KA-32 บินโปรยน้ำ สนับสนุนการปฏิบัติภาคพื้น ควบคู่ไปกับการส่งเจ้าหน้าที่ดับไฟไปเสริมหากไม่ เพียงพอ

ไฟป่า – ภาพ มุมสูงสถานการณ์ ไฟป่าไหม้เป็นทางยาวในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักตลอด 24 ช.ม. ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตชุมชนใกล้เคียง เมื่อวันที่ 2 เม.ย.

คุมไฟ 4 อุทยานเชียงใหม่
ขณะที่ภาพรวมพื้นที่ยังมีไฟป่าหนักที่สุดของเชียงใหม่คือ อุทยานห่งชาติ ศรีลานนา ยังพบไฟป่ากลุ่มใหญ่ 9 จุด ด้วยกัน แต่ตอนนี้ได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมไว้ทุกจุดแล้ว รองลงมาอุทยาน แห่งชาติผาแดง อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ และอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผาง สอดคล้องกับข้อมูลจากดาวเทียมจิสด้า ที่รายงานว่า เช้าวันเดียวกัน จุดความร้อนของจ.เชียงใหม่ พุ่งสูง 308 จุด โดยเฉพาะอำเภอทางตอนบนของจังหวัด โดยที่ อ.เชียงดาว พบ 52 จุด, ฝาง 46 จุด, แม่แตง 43 จุด, พร้าว 38 จุด และแม่อาย 28 จุด

โดยภาพรวมแล้วสถานการณ์ดีขึ้น ตามลำดับ ยังไม่พบจุดที่มีไฟป่าวิกฤต และจะมีทีมเสือไฟจากจ.สกลนคร และ จ.อุบลราชธานีมาเสริมอีก 30 นาย เบื้องต้นจะให้มาช่วยในพื้นที่อุทยานแห่ชาติดอย สุเทพ-ปุยก่อน

ขณะที่ไฟป่าในพื้นที่ใกล้กับวีรันดา รีสอร์ท หมู่ที่ 2 ต.บ้างปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ในช่วงค่ำวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนต้องเร่งเข้าทำแนวกันไฟ และช่วยกันดับไฟป่า เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามเข้าใกล้พื้นที่อยู่อาศัย และโรงแรม และต้องเฝ้าระวังกันต่อเนื่องทั้งคืน จน เมื่อเวลา 19.40 น. ภาพจากทีมโดรนอาสา ยังพบแนวไฟลุกไหม้เป็นแนวยาว โดยจุดที่เกิดไฟอยู่ห่างจากถนนดอยกอม-แม่ เหียะใน ราว 200 เมตร ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บ้านปง อ.หางดง โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และอาสาดับไฟ รวม 3 คน นำเครื่องเป่าลมเร่งทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง และเฝ้าระวัง จนดับไฟได้ในที่สุด

ด้านนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยมีอำเภอทุกอำเภอ เข้าประชุมผ่านระบบซูม พร้อมเน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่เฝ้าระวังตั้งจุดตรวจ จุดสกัดผู้ที่จะเข้าไปในพื้นที่ป่า หลังจากที่ได้ประกาศปิดป่าไปแล้ว รวมทั้งจัดชุดลาดตระเวน เพื่อป้องกันการลักลอบเผาป่าอีกทางหนึ่ง โดยขณะนี้ มีการดำเนินคดี ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับป่าไปแล้วจำนวน 11 คดี พื้นที่เสียหายมากกว่า 50 ไร่

เตือนฝนถล่มไร่-นา
ส่วนของการลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนนั้น ทางศูนย์ได้ขอให้ ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์เกี่ยวการบรรเทาผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนตามมาตรการต่างๆ ที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขแนะนำ อาทิ การงดจัดกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ การงดกิจกรรมหน้าเสาธงของสถานศึกษา งดการกำลังกายในช่วงเวลาเช้าและเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงเวลาอื่น หรือหากมีความจำเป็นให้จัดการทำงานแบบ เวิร์ก ฟรอมโฮม และประชาชนขอรับหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น ได้ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบลทุกแห่ง

ในที่ประชุมได้ให้อำเภอรอบเขตเมือง โดยเฉพาะอ.ดอยสะเก็ด สันกำแพง แม่ริม และแม่แตง ยกระดับการดำเนินงานให้เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เนื่องจากมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และในช่วง วันที่ 8-9 เม.ย. จากรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จะมีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ ให้แจ้งเตือนประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่เกษตร อาจทำให้พืชผลเสียหายได้

เร่งดับ – เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง เข้าดับไฟป่าลุกไหม้ในพื้นที่หมู่บ้านห้วยโผ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ขณะที่ในปีนี้จ.แม่ฮ่องสอนพบจุดความร้อนสะสมทั้งหมด 7,283 จุด

ไฟป่ายังโหมแม่ฮ่องสอน
ด้านศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง จ.แม่ฮ่องสอน รายงานสถานการณ์ไฟป่าว่า พบจุดไฟป่าของวันที่ 1 เม.ย. จำนวน 574 จุด ค่ามลพิษในอากาศ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน วัดได้ 214 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)โดยที่อ.ปาย วัดได้ 234 มคก. เกินมาตรฐานต่อเนื่องมาแล้ว 50 วัน ส่วนในตัวเมือง เกินค่ามาตรฐาน ต่อเนื่องมาแล้ว 42 วัน โดยทางจังหวัดได้สั่งการเพิ่ม ความเข้มข้น ป้องกันและแก้ไขปัญหา ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง โดย ขอความร่วมมือประชาชน และทุก หน่วยงาน ชะลอมาตรการบริหารจัดการเชื้อเพลิงลดพื้นที่เผาไหม้ และปริมาณ ฝุ่นพีเอ็ม 2.5

จากการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ในที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-29 มี.ค.2566 พบว่ามีจุดความร้อนสะสมทั้งหมด 7,283 จุด คิดเป็นร้อยละ 77.66 ของค่าเป้าหมายปี 2566 โดยปีนี้จ.แม่ฮ่องสอนตั้งค่าเป้าหมายไม่เกิน 9,378 จุด ขณะที่พบจุดความร้อนมากที่สุดในขณะนี้ ได้แก่ อ.แม่สะเรียง เมือง และสบเมย ส่วนค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 39 วัน

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจังหวัด หลังจากนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งจุดความร้อนและพื้นที่เผาไหม้ ดังนั้นจึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น ทุกมาตรการ โดยงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในระยะนี้ การจัดทำห้องปลอดฝุ่นของหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก เพื่อให้บริการประชาชน และการรณรงค์ประชา สัมพันธ์การดูแลตนเองของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

ด้านนายกู้ชาติ สง่าศรี หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง เปิดเผยว่า ทางสถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง ได้มีการจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปดับไฟป่าอย่างต่อเนื่องทุกคืนทุกวัน เนื่องจากมีการเกิดไฟป่าเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังได้จัดส่ง เจ้าหน้าที่ของสถานี ออกประชาสัมพันธ์ พร้อมกับประชุมชี้แจง ทำความรู้ความเข้าใจกับชาวบ้าน ขอความร่วมมือในการงดเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่การเกษตร การ ชิงเผาแบบเชิงวิชาการ

20 จว.เหนือ-อีสานจมฝุ่นพิษ
วันเดียวกัน ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ภาพรวมปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน 20 จังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, แม่ฮ่องสอน, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก, ตาก, กำแพงเพชร, พิจิตร ,หนองคาย, เลย, อุดรธานี, นครพนม, หนองบัวลำภู และอุบลราชธานี

โดยภาคเหนือ ฝุ่นเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 40 – 328 มคก./ลบ.ม. โดยต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 328 มคก. เป็นพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงสุดในไทย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 6 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 25 – 82 มคก.

สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลางและตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก

กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 3 – 9 เม.ย. อย่างไรก็ตามระหว่างวันที่ 3- 4 เม.ย. สถานการณ์อาจบรรเทาลงได้บ้างเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น แต่ช่วงวันที่ 5-6 เม.ย. 66 ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะอากาศค่อนข้างปิด จึงขอแนะนำให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง

ทั้งนี้ ติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน