รวบแก๊งนางงาม-เรียกค่าไถ่เศรษฐีจีน

เป็นนกต่อร่วมแฟนหนุ่ม อุ้มจากคอนโดหรู-รีด4ล.

ตร.บุกรวบ ‘น้ำเพชร’ อดีตนางงามเวทีมิสแกรนด์ร่วมกับผัวอุ้มจีนสีเทารีดเงินร่วม 4 ล้าน เผยเคยคบหากับหนุ่มจีนมา 1 ปี ก่อนเลิกกัน แต่รู้เบื้องหลังว่าหนีคดีฉ้อโกงจากเมืองจีนมีเงินมากมาย เลยวางแผนอุ้มรีด เพราะเชื่อไม่กล้าแจ้งความ ก่อนหว่านเสน่ห์จนเหยื่อหลงงมงายซื้อรถเบนซ์-บีเอ็มฯ ป้ายแดงให้อีก 2 คัน แล้วเปิดทางให้ผัวใช้คีย์การ์ดบุกจับตัวถึงคอนโดฯ หรูริมถนนวิทยุ ยัดใส่กล่องนำไปซ้อมทารุณรีดเงิน ความแตกเพราะเพื่อนกลัวได้รับอันตรายโร่แจ้งความ ‘รองนพศิลป์’ นำทีมสืบจนตามรวบได้เกือบครบ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และพล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 สนธิกำลังตำรวจ บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.5 และสน.ลุมพินี จับนายณัฐภัทร หรือกบ สวัสดี อายุ 27 ปี และนายณัฐพงศ์ หรือจูน ฆ้องคำอยู่ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันเรียกค่าไถ่ โดยขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว พร้อมของกลาง กล่องพลาสติกขนาดใหญ่จำนวน 1 ใบ รถยนต์เบนซ์ สีฟ้า ทะเบียนป้ายแดง น 6987 กรุงเทพมหานคร และเงินสดที่อายึดคืนมาได้อีก 2.3 ล้านบาท โดยติดตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

หลังผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ร่วมกันกับพวกรวม 6 คน ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและอุ้มนายหวัง อายุ 33 ปี ผู้เสียหายชาวจีนยัดใส่กล่องพลาสติกลงจากห้องพัก อาคารสินธรเรสซิเดนซ์ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นำไปกักขังที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกค่าไถ่จากเพื่อนและญาติๆ เป็นเงินจำนวน 3.93 ล้านบาท

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา นายยู อายุประมาณ 30 ปี ชาวจีน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความว่านายหวังเพื่อนสนิทหายตัวไปจากห้องพักอาคารสินธรเรส ซิเดนซ์ ตั้งแต่ 06.00 น. โดยผู้แจ้งสันนิษฐานว่าจะเกิดเหตุร้าย เนื่องจากได้รับการติดต่อจากนายหวังผ่านแอพพลิเคชั่นวีแช็ตในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ขอให้ไม่ต้องติดตามและไม่ต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกลับที่พักเอง

แต่ระหว่างที่นายหวังวิดีโอคอลหาเพื่อนนั้น พบว่าตามใบหน้ามีลักษณะบวมปูดคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่านายหวังทำธุรกรรมการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลต้องสงสัย 2 คน จำนวน 3.93 ล้านบาท จากนั้นกลับไม่ได้รับการติดต่อจากนายหวังอีก จึงตัดสินใจเดินทางแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือในที่สุด

จากการสืบสวนขยายผลและลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด รวมถึงหาข้อมูลภายในคอนโดมิเนียมจุดเกิดเหตุนั้น พบนายหวังเคยคบหากับ น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร แสงสกุล อายุ 24 ปี อดีตผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์จังหวัดสุพรรณบุรี ปี 2020 มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี และเลิกรากันไป 3 เดือน ก่อนที่จะกลับมาคบกันอีกครั้ง โดยกลับมาพักที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ รวมถึงซื้อรถเบนซ์และรถบีเอ็มฯ ป้ายแดงให้น.ส.เพชรลดาไว้ใช้ แต่น.ส.เพชรลดาคบหาดูใจกับนายศุภพล หรือบอส หรือกาย ฮาลมัน อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทยอีกคนอยู่จึงได้ปรึกษากันจัดทีมลงมืออุ้มนายหวังออกจากห้องพักไปเรียกค่าไถ่ เนื่องจากรู้ข้อมูลว่านายหวังเป็นบุคคลมีหมายจับคดีฉ้อโกงจากประเทศจีน ทำให้เชื่อว่าไม่น่าจะกล้าแจ้งความกับตำรวจ

ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เพชรลดามอบคีย์การ์ดของห้องพักเอาไว้ให้กับนายศุภพล จากนั้นนายศุภพลสั่งการให้นายณัฐภัทร ผู้ต้องหาที่ 1 และนายโจ อายุราว 35-40 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามภาพวงจรปิดเอาไว้แล้ว ขึ้นไปบนห้องพักโดยใช้คีย์การ์ดบุกเข้าไปภายในห้องจับนายหวังมัดมือมัดเท้าทำร้ายร่างกาย จากนั้นได้มีการใช้โทรศัพท์ของนายหวังติดต่อพูดคุยกับ รปภ. ข้างล่างขอยืมรถเข็นในการขนของ ก่อนจะออกไปซื้อลังพลาสติกขนาดใหญ่ นำนายหวังยัดใส่กล่องพลาสติก ขนย้ายไปขึ้นท้ายรถเบนซ์ป้ายแดงขับมุ่งหน้าไปรีสอร์ตในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขังไว้ 1 คืน

เมื่อถึงที่บ้านพักกลุ่มผู้ต้องหาข่มขู่และซ้อมทำร้ายร่างกายเหยื่อ ก่อนที่จะวิดีโอคอลไปหาเพื่อนของผู้เสียหายว่าไม่ให้แจ้งความกับตำรวจ จากนั้นบังคับให้นายหวังโอนเงินเข้าบัญชีนายณัฐภัทร ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกจำนวน 2 ล้านบาท ต่อมาครั้งที่สองโอนเพิ่มอีก 9 แสนบาท และโอนครั้งที่3 เป็นบัญชีของน.ส.สริตา ดอนม่วง อายุ 28 ปี จำนวน 1.03 ล้านบาท รวมเป็น 3.93 ล้านบาท ก่อนที่ทางตำรวจจะเข้าช่วยเหลือนายหวังได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในระหว่างที่กลุ่มผู้ต้องหากำลังตัดสินใจปล่อยตัว ส่วนนายณัฐพงศ์ที่ถูกจับกุมมาพร้อมกับนายณัฐภัทร ทำหน้าที่ดูต้นทางและดูลาดเลาขณะที่รีดทรัพย์จากผู้เสียหายภายในรีสอร์ต และตามอายัดเงินของกลางกลับมาได้ 2.3 ล้านบาท

อุ้มจีนเทา – ตำรวจคุมตัวนาย ณัฐภัทร สวัสดี ร่วมกับอดีตนางงามและพวกรวม 6 คน ทำแผนฯ อุ้มนักธุรกิจจีนเทา จากคอนโดฯ หรูย่านถนนวิทยุ กทม. ไปกักขังรีสอร์ต ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกค่าไถ่ 4 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 เม.ย.

ภายหลังจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุเอาไว้ได้ ชุดคลี่คลายคดีรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 4 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร แสงสกุล อายุ 24 ปี 2.นายศุภพล หรือบอส หรือกาย ฮาลมัน อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทย 3.น.ส.สริตา ดอนม่วง อายุ 28 ปี เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจำนวน 1.03 ล้านบาท และ 4.นายโจ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุราว 35-40 ปี ซึ่งปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ขณะร่วมกับนายณัฐภัทรอุ้มตัวผู้เสียหายจากบนห้องพัก ก่อนติดตามตัว ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป

สำหรับนายหวัง เบื้องต้นได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยแล้ว จากการประสานข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงมูลค่า 12 ล้านหยวน หรือราว 60 ล้านบาทไทย ทางการจีนได้ออกหมายจับไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นหมายแดงในระบบตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ทำให้เดินทางเข้าประเทศได้ โดยที่ไม่มีประวัติหมายจับดังกล่าว ขณะนี้ได้กักตัวไว้ ที่ ตม. เตรียมผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

ล่าสุด ช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าตรวจสอบห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ทองหล่อ จับน.ส.เพชรลดาและนายศุภพลแฟนหนุ่มชาวไทย พร้อมรถยนต์ บีเอ็มฯ 1 คัน หลังสืบทราบว่า ทั้งคู่กบดานอยู่ในละแวกห้องพักที่ใช้เป็นจุดซ่อนตัว เบื้องต้นจากการสอบสวน ทั้งสองยอมรับว่าร่วมขบวนการอุ้มนายหวัง

เบื้องต้นน.ส.เพชรลดา ให้การว่า นายหวังให้ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 1 แสนบาท ส่วนแฟนหนุ่มนั้นชอบเล่นการพนันไม่มีงานทำ ส่วนเงินที่ได้มาอ้างว่ากดออกมาแบ่งกับทีมงานแล้ว ขณะนี้ยังเหลือหญิงวัย 28 ผู้ร่วมทีมเป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงินที่อยู่ระหว่างการตามจับกุม