‘น้ำเพชร’ซึม-เข้าเรือนจำ วืดประกันอุ้มหนุ่มจีนเทา

นางงาม ‘น้ำเพชร’ กับ 4 ชาวแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่เศรษฐีจีน ซีดเข้าเรือนจำ ศาลไม่ให้ประกัน ชี้ร่วมกันทำเป็นขบวนการและโทษสูงหากปล่อยตัวชั่วคราวเชื่อว่าหลบหนี แฟนหนุ่มยืนกรานแฟนนางงามไม่เกี่ยวข้องด้วย เผยรับงานมาอุ้มจีนเทาที่หนีคดีฉ้อโกงจากเมืองนอก แต่ปิดปากแน่นไม่ยอมซัดทอดคนจ้างวาน ส่วนคดีอุ้มรีดครูสอนภาษาชาวจีน จับได้อีก 4 รวม 7 คนร้าย จากทั้งหมด 11 ราย ผบช.น.-ผบก.สส.นครบาลสอบเค้นเอง เร่งตามจับผู้ต้องหาร่วมแก๊งที่เหลือ

จากกรณี 6 คนร้ายบุกอุ้มนายหวัง ชาวจีนวัย 33 ปี ถูกจับจากอาคารสินธรเรสซิเดนซ์ ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กทม. ยัดกล่องนำไปกักขังที่รีสอร์ต ในจ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 3.93 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนตามจับตัวไปยกแก๊ง รวม 6 คน ประกอบด้วย 1.นายณัฐภัทร หรือกบ สวัสดี อายุ 27 ปี 2.นายณัฐพงศ์ หรือจูน ฆ้องคำอยู่ อายุ 24 ปี 3.น.ส.เพชรลดา หรือ น้ำเพชร แสงสกุล อายุ 24 ปี อดีตผู้สมัครประกวดนางงามเวทีชื่อดัง 4.นายศุภพล หรือบอส หรือกาย ฮาลมัน อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มของน.ส.น้ำเพชร, น.ส.สริตา ดอนม่วง อายุ 28 ปี เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงิน และนายธนายุทธ หรือโจ พลนาคู อายุ 30 ปี

ฝากขัง – ตำรวจคุมตัวน.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร พร้อมพวกรวม 5 คน จากสน. ลุมพินี ส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขออำนาจฝากขังผัดแรก คดีร่วมกันอุ้มเศรษฐีจีน ไปเรียกค่าไถ่เกือบ 4 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 เม.ย.

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 19 เม.ย. พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 5 ราย ในคดี 6 ชาวไทย อดีตผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดังร่วมกันอุ้มคนจีนไปเรียกค่าไถ่กว่า 3.9 ล้านบาท ส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขออำนาจฝากขังผัดแรก โดยช่วงที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา นายศุภพล ฮาลมัน อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มของน.ส.เพชรลดากล่าวยืนยันว่า น.ส.เพชรลดา กับน.ส.สริตา ไม่เกี่ยวข้องด้วย

นายศุภพลกล่าวว่า ทำเองจริงและยอมรับได้ใบสั่งมาให้ดำเนินการกับนายหวังซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามประเทศ เป็นจีนสีเทามีคดีฉ้อโกงติดตัวมาจากต่างประเทศ ส่วนคนจีนที่ว่าจ้างให้ดำเนินการกับนายหวังนั้นไม่ขอตอบ สิ่งที่อยากจะพูดคือรู้ว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกต้องเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้น.ส.เพชรลดากับน.ส.สริตา มาเกี่ยวข้องด้วย เพราะเขาทั้งคู่ไม่เกี่ยวจริงๆ ส่วนผู้ต้องหารายอื่นไม่ได้พูดอะไร ก่อนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีจะพาผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยพนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าทางผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเป็นคดีอุกฉกรรจ์สำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายณัฐภัทร สวัสดี หรือกบ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาถูกคุมตัวไปฝากขังก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา และศาลพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า ทางพนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าทางผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเป็นคดีอุกฉกรรจ์สำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ กอปรกับเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ศาลจะพิจารณาเห็นควรอนุญาตให้ฝากขังได้ โดยไม่มีการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวแต่อย่างใด

ต่อมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ส่งฝากขังต่อศาลคดีร่วมกันเรียกค่าไถ่โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายฯ, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสอง, มาตรา 310, มาตรา 365(2)(3), มาตรา 340 วรรคสอง, มาตรา 309 วรรคสอง, มาตรา 335(1)(8), มาตรา 337, มาตรา 269/5 และ 269/7, มาตรา 371

กรณี นายหวาง หนาน เฟิง อายุ 33 ปี ผู้เสียหายชาวจีน ถูกคนร้ายจับยัดใส่กล่องพลาสติกลงจากห้องพัก อาคารสินธรเรสซิเดนซ์ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. แล้วนำไปกักขังที่รีสอร์ตในพื้นที่ จ.ประจวบ คีรีขันธ์ เพื่อเรียกค่าไถ่จากเพื่อนและญาติๆ เป็นเงิน 3.93 ล้านบาท เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 6 ปากและรอผลลายนิ้วมือผู้ต้องหา กับผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ศาลพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาทั้งห้ายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งห้าร่วมกันกระทำผิดลักษณะเป็นขบวนการ คดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าน่าจะหลบหนี จึงให้ยกคำร้อง

ส่วนจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุกรณีนายหวง ติ่ง ซ่วน อายุ 30 ปี อาชีพครูสอนภาษาชาวจีน ถูกแก๊งคนจีนและคนไทยควบคุมตัวอยู่ที่บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ พร้อมเรียกให้จ่ายค่าไถ่ตัวเป็นเงิน 1,800,000 บาท ผู้เสียหายติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนไทยจึงได้มาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบที่โรงแรมตามที่ได้รับแจ้ง และสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้อย่างปลอดภัยนั้น

ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง ติดตามผู้ต้องหาเพิ่มออกหมายจับเพิ่มอีก 6 ราย สามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่ม 4 ราย จากการที่จับกุมไปได้ 3 รายก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะ 2 คนสามีภรรยาที่สืบนครบาลจับกุม เป็นหัวแก๊งอุ้มรีดไถผู้เสียหายดังกล่าวเป็นผู้หาคนคุ้มกันระหว่างก่อเหตุ ทั้งนี้ ทางพล.ต.ท.ธิติจะเดินทางไปสอบปากคำด้วยตัวเองช่วงบ่ายที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ร่วมประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าวร่วมกับพล.ต.ต.ธีรเดช พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางโพงพาง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเผยหลังการประชุมว่า กรณีนี้เป็นจีนอุ้มจีนที่มีคนไทยเป็นลูกมือเท่านั้น เนื่องจากนายหวง ติ่ง ซ่วน ยืมเงินนายเว่ย เหวิน เถา จำนวน 1.8 ล้านบาท เมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่มีการชดใช้เงิน จึงร่วมกับคนไทยอุ้มรีดเงินไปจำนวน 9 แสนบาท ก่อนเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้

“จากการตรวจสอบวงจรปิดพบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 11 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวน เบื้องต้น สามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด 3 ราย คือ นายเว่ย เหวิน เถา ชาวจีน อายุ 35 ปี นายเอกราช วงษ์สุวรรณ 35 ปี นายสุรชัย เลี่ยมมณี อายุ 40 ปี และออกหมายจับอีก 3 ราย ที่ยังหลบหนี จีน 2 คน ไทย 1 คน ส่วนอีก 5 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร” พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าว

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้า วันเดียวกัน พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนครบาล พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 และชุดสืบสวน บก.น.5 และพ.ต.อ.อนันต์ชัย กมลรัตน์ ผกก.สน.บางโพงพาง และชุดสืบสวน สน.บางโพงพาง ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้

1.นายอดิศร แซ่ย้าง อายุ 36 ปี ชาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 2.นายโลว ลู่อิน (LOU LUIN) อายุ 46 ปี สัญชาติจีน ภายในบ้านพักเลขที่ 36/1 หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 3.นางหวัง เสี่ยวเล่ย (Ms.Wang Xiaolei) อายุ 26 ปี และ 4.นายหลิว จื้อหมิน (Mr.Liu Zemin) หรือนาย อาหมิง อายุ 33 ปี บริเวณคอนโดมิเนียมชื่อดัง ใน ซ.สุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เบื้องต้น นางเสี่ยวเล่ย ผู้ต้องหาที่ 3 และนายอาหมิง ผู้ต้องหาที่ 4 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาในชั้นจับกุม

พฤติการณ์ในคดี กล่าวคือ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่ม ผู้ต้องหากับพวกได้พาตัวผู้เสียหายจากย่านเตาปูนไปยังโรงแรมหรูย่านสาทร เรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 1,800,000 บาท จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาในที่สุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว ผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย และยังคงไล่ล่าติดตาม สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ ซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป