เศรษฐายันพท. ไม่หวั่นก้าวไกล

ชี้กระแสยังแรง2ลุงแข่งนำทัพหาเสียงปักษ์ใต้

‘บิ๊กตู่’ ฟิตเปรี๊ยะ ยันยัง แข็งแรง ไม่ท้อแท้ ที่บ่นเหนื่อย แค่อยากอ้อนสื่อ สองลุงแข่งนำทัพล่องใต้ ‘พี่ป้อม’ ตัดหน้าลุยสงขลา ด้าน ‘อู๊ดด้า’ แอ่วเชียงใหม่ ปลุกพลังเงียบเลือก ปชป. ‘สุดารัตน์’ ปลื้มชาวอุบลฯ เชียร์นั่งนายกฯ ‘เศรษฐา’ มั่นใจเพื่อไทย แรงกว่าก้าวไกล ลั่นไม่ขอเป็นกัปตัน เพราะอาสามาเป็นนายกฯ กกต.คาดรู้ผลเลือกตั้ง ไม่เป็นทางการ ไม่เกิน 5 ทุ่ม วันที่ 14 พ.ค. ‘พิธา’ ไม่หวั่นถูกร้องปมดราม่า มางานศพพ่อไม่ทันช่วงรัฐประหารปี 49

‘บิ๊กตู่’ยันแข็งแรง-ไม่ท้อแท้
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า “เมื่อวันที่ 26 เม.ย. จะสังเกตได้ว่าผมอารมณ์ดีกับสื่อมวลชน ถามว่าทำไมผมถึงผอมลง ผมก็อ้อนไปสักหน่อย แต่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตว่านายกฯ เหนื่อย นายกฯ ท้อแท้ ผมไม่มีท้อแท้ ผมแข็งแรงเหมือนเดิม อ้อนหน่อยก็ไม่ได้กลายเป็นเรื่อง ดุเดือดไปหน่อยก็เป็นราว สรุปเป็นทั้ง 2 เรื่องนั่นแหละไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ผมแข็งแรง ยังไม่แก่ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน แต่พอพูดแบบนี้อย่าหาว่าโม้อีกก็แล้วกัน ขอบคุณทุกคนนะ”

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงจ.ตรัง พัทลุงและสงขลา ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย. ว่า วันที่ 29 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะและผู้สมัครส.ส.จะขึ้นรถแห่หน้าที่ว่าการอำเภอกันตัง จ.ตรัง หาเสียงรอบเทศบาลเมืองกันตัง และปราศรัยเวลา 10.20 น. ที่ ลานเฉลิมพระเกียรติ หน้าธนาคารกรุงไทย จากนั้น เดินทางไปวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง กราบสักการะพระสมเด็จวัด กะพังสุรินทร์ เสร็จแล้วขึ้นรถแห่รอบเทศบาลเมืองตรัง และปราศรัยที่ศูนย์ประสานงาน รทสช.ตรัง เขต 1 ช่วงบ่ายปราศรัยย่อยหน้าสำนักงานเทศบาลนาโยง

ล่องใต้ 3 จังหวัด-ค้างคืนสงขลา
เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะ ถึงวัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพบปะประชาชน ก่อนขึ้นรถแห่ไปพบประชาชนที่ตลาดควนขนุน ไปสวนเฉลิมพระเกียรติและหาเสียงรอบบริเวณเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เวลา 18.00 น.ปราศรัยที่โดมอเนกประสงค์ โรงเรียนพัทลุง

จากนั้นไปค้างคืนที่โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา ตะพะวง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นการลงพื้นที่แบบค้างคืนครั้งแรกของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนักการเมืองเต็มตัว เช้าวันที่ 30 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นขบวนรถแห่จากที่พักไปหาเสียงที่วัดน้ำกระจาย แล้วไปตลาดทรัพย์สินสงขลา และตลาดนัดวันอาทิตย์ ย่านเทศบาลสงขลา

เวลา 11.00 น. ปราศรัยที่ลานคนเมืองเทศบาลนครสงขลา เวลา 14.00 น. พบประชาชนที่โรงเรียนบ้านเขาพระ อ.รัตภูมิ และเดินทางไปไหว้พระที่วัดโคกเหรียง อ.คลองหอยโข่ง เวลา 18.00 น. ปราศรัยใหญ่ที่ดินแยกสะพานดำ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เสร็จแล้วกลับกทม.

‘ขิง’อ้อนเปิดใจมอง‘ลุงตู่’
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการรทสช. ให้สัมภาษณ์ว่า คำถามที่หลายคนออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ แคนดิเดตนายกฯ ของรทสช. คือการเดินหน้าสู่การเป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัว คอยวิจารณ์กระแหนะกระแหนว่าคนที่เป็นทหารมาตลอดชีวิต ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ แต่ทุกวันนี้การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถตอบคำถามทุกอย่างได้ว่าไม่ใช่คนเข้าถึงยาก พอเปิดตัวทุกคนก็ได้เห็นบุคลิกที่เป็นกันเอง แต่ก่อนหน้านี้เพียงแต่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้ประชาชนในฐานะฝ่ายบริหาร จนบุคลิกด้านนี้ไม่ได้เปิดออกมาให้ประชาชนได้เห็น

ใครได้ติดตามการลงพื้นที่ช่วงนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ จะยิ่งเห็นความเป็นกันเอง เป็นคนธรรมดาเหมือนคนทั่วไป เชื่อว่าหากใครยังตั้งคำถาม ขอแค่เปิดใจก็จะมองเห็นความตั้งใจจริงของพล.อ.ประยุทธ์ ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

ผลงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาหลายอย่างกำลังจะสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมไร้เงินสด การสร้างรถไฟฟ้าทั่ว กทม. คมนาคมขนส่งทั่วประเทศ และความตั้งใจสานงานต่อที่ทำมาแล้วเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน คำถามที่หลายคนออกมาวิจารณ์ว่าทำมาแล้ว 8 ปี อีก 2 ปีจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร อยากให้ลองนึกภาพการสร้างบ้าน ที่วางรากฐานไว้แล้วตอนนี้เหลือเพียงการ ฉาบปูน และตกแต่ง นี่คือสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจเพื่อการทำงานที่ผ่านมาให้สำเร็จ

ย้ำบัตรสวัสดิการพลัสทำได้จริง
สำหรับนโยบายของรทสช. ที่ฝ่ายตรงข้ามมักวิจารณ์คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส หรือบัตรลุงตู่พลัส โครงการนี้รัฐบาลดำเนินการมาแล้วเป็นระยะเวลานาน ตรงไปยังกลุ่มเปราะบางเพื่อทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ การเพิ่มวงเงินสิทธิประโยชน์ที่เป็นไปตามการสำรวจความต้องการของประชาชนกลุ่มนี้ ก็จะยิ่งทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น แตกต่างจากนโยบายของบางพรรค ที่ประกาศจะให้เงินทุกคน โดยใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในคราวเดียว นโยบายเช่นนี้ไม่มีใครมั่นใจว่าจะทำได้จริง แม้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าสามารถดำเนินการได้ แต่หากดูตัวเลขงบประมาณในปี 2567 ซึ่งกำหนดกรอบไว้แล้ว จะเหลืออยู่เพียง 2 แสนล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการดำเนินนโยบายที่ต้องใช้เม็ดเงินถึงมากกว่า 5 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน

“ไม่ต้องให้นักเศรษฐศาสตร์ที่ไหนมาวิเคราะห์ แค่คนทั่วไปก็มองออกว่า โครงการที่ใช้เงินถึงมากกว่า 5 แสนล้านบาท ถ้าไม่กู้เงินไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง อยากให้ประชาชนพิจารณาตัดสินใจเลือกพรรคที่นำเสนอนโยบายที่จับต้องได้จริง และไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง มากกว่าพรรคการเมืองที่ขายฝัน ที่สำคัญยังเป็นฝันที่อาจเข้ามาหาประโยชน์จากโครงการเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะดำเนินโครงการอะไร คนกลุ่มนี้ก็มีช่องทางหาประโชนน์ให้พวกพ้องได้ทุกครั้ง” นายเอกนัฏกล่าว

‘พี่ป้อม’ตัดหน้า‘น้องตู่’บุกสงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 28 เม.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลง พื้นที่ปราศรัยใหญ่ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา ซึ่งเป็นตัดหน้าพล.อ.ประยุทธ์ ที่ไปนอนค้างคืน จ.สงขลา คืนวันที่ 29 เม.ย. และเช้า 30 เม.ย. ลงพื้นที่หาเสียงหลายจุดในจ.สงขลา ส่วน วันที่ 29 เม.ย. พล.อ.ประวิตรปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครศรีธรรมราช

นายอนุมัติ อาหมัด แกนนำพปชร.ภาคใต้ตอนล่าง เปิดเผยว่า พรรคสามารถประเมิน ผู้สมัครส.ส.สงขลาของพรรคจะได้รับการเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่ที่เวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 28 เม.ย. เพราะมีการยกทัพใหญ่ลงมาช่วย ด้วยการเปิดนโยบายใหม่เสริมนโยบายเก่า คาดว่าจะมีแกนนำและผู้สนใจจาก 9 เขตของ จ.สงขลา เข้าร่วมฟังนโยบายพรรค ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน

นายธเนศ ล่องนาวา ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 7 พปชร. กล่าวว่า นโยบายพปชร.กินได้ทุกนโยบาย ที่ทำมาแล้วและที่กำลังจะทำเมื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตรจะผลักดันทุกนโยบายให้เกิดขึ้นแน่นอน ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าถ้าพปชร.เป็นรัฐบาล จ.สงขลาจะได้รับประโยชน์มากกว่าเป็น ฝ่ายค้าน

ปักธง – นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ปลุกพลังเงียบสนับสนุนประชา ธิปัตย์ มั่นใจปักธงได้แน่ ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เมื่อวันที่ 27 เม.ย.

‘อู๊ดด้า’ปลุกพลังเงียบช่วยปชป.
เวลา 11.30 น. ที่จ.เชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ และผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ ทั้ง 5 เขต ลงพื้นที่พบปะชาวเชียงใหม่ บริเวณกาดแม่คือ อ.ดอยสะเก็ด เวลา 13.25 น. พบปะประชาชนบริเวณตลาดสามแยก อ.สันทราย เวลา 14.05 น. พบปะประชาชนบริเวณกาดสันป่าข่อย อ.เมือง (เขต 2) เวลา 14.45 น. พบปะประชาชนบริเวณกาดหลวง อ.เมือง (เขต 1) สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลเจ้าจีน

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่บริเวณลานพลาซ่า สนามกีฬา 700 ปี อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีประชาชนและแฟนคลับของพรรคมาฟังการปราศรัยจำนวนมาก พร้อมส่งเสียงเชียร์ “ประชาธิปัตย์สู้ ประชาธิปัตย์ ซาวหก (26)”

นายจุรินทร์ปราศรัยว่า จากการตระเวนหาเสียงทั่วประเทศ ปชป.ได้รับเสียงตอบรับจากทั่วประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่ว่าจะเป็น กทม. ที่คราวนี้เชื่อว่าปักธงได้แน่นอน ภาคเหนือจากที่ได้ 1 คน เที่ยวนี้ไม่ใช่คนเดียว ต้องได้มากกว่านี้เยอะ อีสาน กลางคราวนี้เชื่อว่าจะได้อีกเยอะ ปักษ์ใต้คราวที่แล้วมี ส.ส. 50 คน เราได้ 22 คน เที่ยวนี้ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 40 คนบวก

พี่น้องชาวเชียงใหม่ ปชป.จะขับเคลื่อนให้ไปสู่ความร่ำรวยด้วยนโยบายเหนือเชื่อมโลก และเชียงใหม่เชื่อมโลก ด้วยการคมนาคม การท่องเที่ยว การค้าชายแดน และด้วยซอฟต์เพาเวอร์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรมชาวเหนือที่จะทำรายได้ให้ประเทศและภาคเหนือ แก้ PM 2.5 ด้วยการออก พ.ร.บ.อากาศสะอาด และเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน อาเซียนร่วมมือกันคลี่คลาย

“ผมขอบคุณพี่น้องชาวเชียงใหม่ ไปตลาดหลายพื้นที่หลายคนบอกว่าเลือกอยู่แล้ว หลายคนบอกฉันเลือกปชป. ไม่ตามกระแส เที่ยวนี้เลือก ขอบคุณพลังเงียบ ขอบคุณพลังปชป. ขอบคุณชาวเชียงใหม่ที่ยังหนักแน่นมั่นคงกับปชป.” นายจุรินทร์กล่าว

‘ท็อป’แนะทางออกค่าไฟ
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม(ทส.) หัวหน้าชทพ. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสของชทพ.ช่วงก่อนโค้งสุดท้าย เลือกตั้งว่า หลายเวทีที่เราไปได้เน้นย้ำนโยบายต่างๆ ที่เป็นประเด็นร้อนของสังคม โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ชทพ.มีแนวทางว่าหากเข้ามาทำงานสิ่งแรกคือ ทำอย่างไรจะลดค่าไฟฟ้าให้เร็วที่สุด สนับสนุนโซลาร์รูฟท็อป ให้ใช้มิเตอร์ไฟฟ้าแบบทูเวย์ ประชาชนสามารถขายไฟฟ้าคืนได้ เพราะระยะหลังขายคืนไม่ได้

อีกทั้งขั้นตอนการทำสัญญากับการไฟฟ้าต้องรวดเร็ว ที่ผ่านมาใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะทำได้ ฉะนั้น ต้องทำให้ประชาชนลดภาระค่าไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด เจรจากับเอกชนที่มีสัญญากับการไฟฟ้า จะสามารถลดกำไรของภาคเอกชนได้มากน้อยเพียงไร แต่การลดกำไรต้องไม่ทำให้เอกชนเสียประโยชน์ด้วย ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลในสายตานานาชาติ ย้ำว่าต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด ส่วนการแก้ไขปัญหาในอนาคตจะต้องดูเรื่องพลังงานทดแทน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ระบุพรรคร่วมรัฐบาลเอาแต่โยนความผิดเรื่องค่าไฟให้นายกฯ นายวราวุธกล่าวว่า กระทรวงที่เกี่ยวข้องน่าจะมาช่วยแบ่งเบาภาระในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล อะไรที่นำเสนอเป็นแนวทางแก้ปัญหาควรจะมานำเสนอกัน การมาต่อว่ากันไม่ได้ทำให้ค่าไฟฟ้าลด ควรหามาตรการและนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นให้ประชาชน

เมื่อถามถึงผลโพลที่ ชทพ.ไม่ติดอยู่ใน ลำดับต้นๆ นายวราวุธกล่าวว่า ไม่กังวล และไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ตนเพิ่งเป็นหัวหน้าพรรคได้ 6-7 เดือน ไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นข้ามคืน และขณะนี้ยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้ง สองขั้วการเมืองจะเป็นแม่เหล็กที่แรงขึ้น คนรอเข้าไปหา ฉะนั้น จะทำให้พรรคเล็กสูญเสียคะแนนความนิยมหากดูจากโพล แต่ขอให้ดูในการเลือกตั้งตนจะเป็นแม่เหล็กอีกขั้ว ให้รอดูว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน

ชาวอุบลฯแห่เชียร์‘เจ๊หน่อย’
วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และแคนดิเดตนายกฯ นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้สมัครส.ส.อุบลราชธานี ทสท.ลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เมื่อถึงสนามบินอุบลราชธานี มีประชาชนมารอรับ พร้อมส่งเสียงเชียร์ “นายกฯ หน่อย” “คุณหญิงสุดารัตน์ นายกฯ คนอีสาน” ก่อนมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ทักทายสวมกอด และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นเวทีปราศรัย 3 เวที ที่อ.นาจะหลวย อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เขตเลือกตั้งที่ 9 ของนางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ เบอร์ 10 มีประชาชนแห่ฟังนโยบายแต่ละเวทีนับหมื่นคน พร้อมกับเสียงสะท้อนจากชาวอุบลฯ ที่มองว่า คุณหญิงสุดารัตน์เหมาะเป็นนายกฯ ของประเทศไทยในเวลานี้มากที่สุด เพราะเป็นคนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานและมีประสบการณ์ทำงานยากๆ สำเร็จมาแล้ว ที่สำคัญสามารถทำงานได้ทันที ไม่ใช่นอมินีใคร จึงไม่ต้องรอฟังคำสั่ง หรือคำสั่งการจากใครคนใดคนหนึ่ง”

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวปราศรัยว่า จะดูแลชาวอุบลฯ และพี่น้องคนอีสาน ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้ยั่งยืนภายใน 3 ปี พร้อมยกระดับราคาสินค้าเกษตร ปรับโครงสร้างการผลิต บริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกพืชเกษตร เพื่อยกระดับราคา เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร พร้อมพัฒนาแหล่งน้ำ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงการกักเก็บน้ำตามลำน้ำ ซึ่งจะมีโครงการ ขุดบ่อน้ำ 1 ล้านบ่อ ขุดน้ำบาดาล 1 แสนบ่อ วางระบบผันน้ำ โขง-เลย-ชี-มูน แม่น้ำสายสำคัญอื่น และจากสปป.ลาว มาเติม ในยามที่ขาดน้ำ รวมทั้งพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอและมีคุณภาพทุกหมู่บ้าน

บุกเมืองคอน – นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยหาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส.นครศรีธรรมราช ประกาศไม่ขอเป็นกัปตัน แต่อาสาเป็นนายกฯ ขอตื๊อคนใต้จนกว่าจะเลือกเพื่อไทย ที่สนามหน้าเมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 27 เม.ย.

‘เศรษฐา’อาสาเป็นนายกฯ
เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ตลาดสดเทศบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อม นายพานทองแท้ ชินวัตร นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองผอ.ศูนย์เลือกตั้ง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ พท. นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช เขต 6 เบอร์ 1 หาเสียง บรรยากาศคึกคัก ระหว่างเดินตลาดนาย เศรษฐาแคะขนมครก นายณัฐวุฒิแซวว่า แคะคะแนนละเอียดไม่ให้มีตกหล่นในหลุมเลย นายเศรษฐาตอบกลับว่า “แคะทุกเม็ดไม่มีตกหล่นครับ” แล้วแวะกินก๋วยจั๊บเครื่องในที่ร้านหมี่เกี๊ยวจันดี มีประชาชนมาพูดกับนายเศรษฐาว่าจะทำให้เบอร์ 1 พท. เกิดขึ้นที่ทุ่งสงให้ได้

จากนั้น เข้าสักการะเจดีย์พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ที่วัดธาตุน้อย อ.ช้างกลาง แล้วพบปะประชาชนที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟจันดี และไปวัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด ต่อด้วยการพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ร้านโกปี๊ อ.เมือง

เวลา 18.30 น. ที่สนามหน้าเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พท.จัดเวทีปราศรัยใหญ่ โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยแคนดิเดตนายกฯ ปราศรัยผ่านระบบซูมฝากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 10 เขต

ด้านนายเศรษฐากล่าวว่า ตนไม่ได้อาสาเป็นกัปตันหรืออะไร แต่วันนี้อาสามาเป็นนายกฯ 8 ปีที่ผ่านมารายได้ลด รายจ่ายสูงขึ้น ราคายาง 3 กิโลร้อย พท.มีนโยบายเพิ่มราคายาง สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม พัฒนาการคมนาคมในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้การเดินทางเข้ากทม. และเชื่อมต่อในพื้นที่ภาคใต้สะดวกขึ้น ตนเคารพความผูกพันกับพรรคเดิม แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไป เราต้องการผู้นำที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง เป็นเหตุผลที่มายืนตรงนี้ มาขอความรัก 14 พ.ค. ขอให้ประชาชนลองคิดดู ลองปันใจให้พท.

โวกระแสพท.ไม่แพ้ก้าวไกล
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กรณีปราศรัยบนเวทีวิงวอนให้ชาวบ้านแบ่งใจให้ เชื่อว่าจะ ปักธงในภาคใต้ได้หรือไม่ว่า ต้องให้เกียรติพี่น้องประชาชน ไม่อยากไปคาดหวังหรือคาดเดา วันนี้ทำให้ดีที่สุด ส่วนกรณีที่ปราศรัยบนเวทีว่าหากครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งต่อไปจะกลับมาอ้อนอีก ตนพูดแทนตัวตนเองและคณะว่าเราไม่ทอดทิ้งพี่น้องภาคใต้ สำหรับเส้นทางการเมืองในอนาคตนั้น วันนี้เอาแค่นี้ก่อน วันนี้ทำให้ดีที่สุด เท่าที่สามารถทำได้ ต้องฟังเสียงตอบรับของประชาชนว่าอนาคตจะอยู่ตรงไหน พี่น้องประชาชนเป็นคนชี้ขาดให้

หวังว่าวันที่ 14 พ.ค.จะได้คะแนนเยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถือว่าน่ากลัวหรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 26 เม.ย. พท.เปิดห้องติวผู้ติวสมัครส.ส.ใช้ยุทธศาสตร์เน้นเรื่องออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นการรุกกลุ่มฐานเสียงของก.ก. นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ใช่ เพราะบางช่วงตน ได้เข้าไปฟังด้วย ไม่ใช่เป็นการแก้เกมก.ก. มีหลายวิธีที่เราสามารถนำมาแก้ไขได้ในช่วงโค้งสุดท้าย

ต่อข้อถามว่าตอนนี้กระแสของก.ก.ถือว่าน่ากลัวหรือไม่ อาจแย่งคะแนนกัน สุดท้ายอาจไม่ได้ทั้งสองพรรค นายเศรษฐากล่าวว่า คงเป็นไปไม่ได้ ตนมั่นใจในสิ่งที่เราทำอยู่ เราตั้งใจที่จะนำสิ่งดีๆ ไปเสนอให้พี่น้องประชาชน จึงมั่นใจว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากประชาชน เชื่อว่ากระแสของเราก็แรง เราก็มีโพลของเรา มั่นใจ เราเดินมาถูกทางแล้ว

โวยบัตรต่างแดนสลับมั่ว
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพท. ให้สัมภาษณ์กรณีเอกสารประกาศรายชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 7 สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ออกโดยเอกอัคร ราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ไม่ถูกต้อง ว่า ขณะนี้พบ 2 กรณี คือใบแนะนำผู้สมัครพร้อมบัตรเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ เขตดุสิต (เฉพาะแขวงนครไชยศรี) ชื่อพท.ไปอยู่ในช่องผู้สมัครพรรคอื่น ขณะที่ผู้สมัครพรรคอื่นก็ ถูกล้อมกรอบภาพ สังกัดพรรคที่ไม่ใช่ของเขาเช่นกัน เมื่อประชาชนสอบถามกับทางสถานทูตได้รับการชี้แจ้งว่าเป็นเทมเพลตสำเร็จรูปจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สถานทูตไม่สามารถแก้ไขได้

นอกจากนี้ ยังพบลักษณะเดียวกันนี้ที่ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในเอกสารประกาศ รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ใบแนะนำตัวผู้สมัคร มีเพียง หมายเลข ชื่อ นามสกุล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 1 น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ชื่อพรรคไม่รวมอยู่ในช่องเดียวกับผู้สมัคร แต่กลับปรากฏเหนือรูปผู้สมัครคนอื่นในหน้า ถัดไป

ฝ่ายกฎหมาย พท.จึงเตรียมยื่นต่อ กกต.ให้ตรวจสอบ และชี้แจงถึงสาเหตุของความผิดพลาดครั้งนี้ รวมทั้งขอให้ตรวจสอบเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครนอกราชอาณาจักรทุกประเทศด้วย เพราะขณะนี้คนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ เริ่มทยอยลงคะแนนแล้ว ถือเป็นความผิดพลาดในการดำเนินการจัดการ เลือกตั้งของ กกต.อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความ ไม่เป็นมืออาชีพอย่างชัดเจน ขอให้ กกต.ดำเนินการอย่างถูกต้อง ยุติธรรมโดยเร็วด้วย

ประธานกกต.แจงแก้ทันทีแล้ว
ที่โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ว่า สำหรับข้อผิดพลาดที่มีอยู่บ้าง กกต.พยายามแก้ไขให้เร็วที่สุดเพื่อให้ไม่ไปกระทบกับประเด็นอื่น ขอเรียนว่าเป็นไปตามแผนงานการปฏิบัติ และกรอบเวลาที่เหลืออยู่ ตอนนี้เป็นช่วงการ เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และจะมีเลือกตั้ง นอกเขตขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. ฉะนั้นตอนนี้มีสิ่งที่ต้องคำนึง และปฏิบัติให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรพบว่าเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ผิดพลาด นายอิทธิพรกล่าวว่า อย่างกรณีที่ กรุงลอนดอนมีการสลับรูปกันจริงและได้แก้ไขให้ถูกต้องและส่งไปยังผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแล้ว ส่วนกรณีที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ว่ามี 2 พรรคอยู่ในรูปผู้สมัครนั้น ถ้าไปดูในแอพ พลิเคชั่นสมาร์ตโหวตจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่เข้าใจว่าเมื่อนำมาปรินต์เพื่อให้ได้เอกสารในรูปแบบนั้น อาจมีการดันส่วนที่ไม่น่าจะเกิด ก็เป็นไปได้ ซึ่งเราได้แก้ไขให้ทันที

ต่อข้อถามว่ามีผู้สมัครจากพท.ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีการสลับรูปกันในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ณ กรุงลอนดอน นายอิทธิพรกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบเรื่อง ผู้สื่อข่าวถามมีแนวทางการเยียวหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า คงไม่ถือว่าเป็นคำร้องที่จะ ขอเยียวยา แต่ถ้าใครเห็นว่าการกระทำของ กกต.ไม่ถูกต้องก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

คาด 14 พ.ค.รู้ผลไม่ทางการ 5 ทุ่ม
ที่สำนักงานกกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. เชิญสื่อมวลชน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ และผู้แทนบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมหารือ และซักซ้อมการเชื่อมต่อระบบผลคะแนนเลือกตั้งส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ หรือ ECT Report เพื่อนำเสนอรายงานผลคะแนนเลือกตั้งส.ส.อย่างไม่เป็นทางการวันที่ 14 พ.ค. ได้อย่างถูกต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไป

นายแสวงกล่าวว่า การนับคะแนนโปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่งจะทราบผลคะแนนเลือกตั้งส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ ครบทุกเขต คาดไม่เกิน 23.00 น. ของวันเลือกตั้ง ผู้ที่รวมคะแนนเป็นเจ้าพนักงานการเลือกตั้งตามกฎหมาย และการแก้ไขคะแนนก็ไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ 9 คน ที่จะทำหน้าที่บันทึกคะแนนลงในระบบ มั่นใจว่า การรายงานผล จะมีความรวดเร็ว มีความถูกต้องแม่นยำกว่าการรายงานผลแบบเดิม

สำหรับกระบวนการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งส.ส. อย่างไม่เป็นทางการจะเริ่มต้น หลังจากปิดหีบบัตรเลือกตั้งและนับคะแนน เมื่อนับคะแนนเสร็จสิ้น ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะถ่ายรูปแบบรายงานผลการเลือกตั้งนับคะแนนส.ส. 5/18 จากนั้นส่งมายังศูนย์รวมคะแนนอำเภอ หรือเขตปกครอง เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ขณะเดียวกันประธานกรรมการประจำหน่วยจะนำแบบ ส.ส.5/18 ติดหน้าหน่วยเลือกตั้ง และเมื่อศูนย์รวมคะแนนประจำอำเภอตรวจสอบเสร็จสิ้น จะส่งมายังระบบรายงานผลกลาง จากนั้น เข้าสู่ระบบของ ECT Report เพื่อนำคะแนนออกมาเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ

‘พิธา’ไม่หวั่นถูกร้องปมดราม่า
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขา ธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องกกต.ในวันที่ 28 เม.ย. ให้ตรวจสอบกรณีนายพิธาพูดใน 2 รายการโทรทัศน์ เกี่ยวกับเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ไม่ตรงกันอาจเป็นการจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมว่า 2-3 ภาพที่โพสต์ไปเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง งานศพพ่อตน 7 วัน 18-24 ก.ย.2549 ตนมาทันวันที่ 22-24 ก.ย. ไม่ทัน 18-20 ก.ย.

ส่วนวันที่ 21 ก.ย.แหล่งข่าวต่างประเทศระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นวันที่เครื่องบินพยายามจะลงที่ดอนเมือง แต่ลงไม่ได้จึงต้องย้ายไปลงที่กองทัพอากาศ และโดนกักตัวต่ออีกหลายชั่วโมง กว่าจะได้ออกมาและมีคนมารับตนถึงบ้านประมาณ 2-3 ทุ่ม ดังนั้นที่คนเอาการสัมภาษณ์ใน 2 รายการมาเทียบกันและบอกว่าไม่ตรงกันถูกทั้งคู่ คือมาทัน 3 วันสุดท้าย ไม่ทันใน 3 วันแรก ที่มีคนมาเคลมว่าเพื่อนพ่อ เจอตนตั้งแต่คืนแรก ในภาพก็เห็นอยู่ว่าคืนแรกคือ 18 ก.ย. แต่เครื่องบินมาถึง 21 ก.ย. ดังนั้น 18 ก.ย. ตนยังอยู่อเมริกาแน่นอน น่าจะเป็นความเข้าใจผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากบุคคลดังกล่าวเป็นอดีตแนวร่วม กปปส. นายพิธากล่าวว่าตนคงยืนยันในข้อเท็จจริงที่เขาเคลมว่าเป็นเพื่อนพ่อและพบตนในงานศพวันแรก เป็นไปไม่ได้ คงจบแค่นั้น ไม่อยากเติมนามสกุลให้ใคร ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เมื่อถามว่าเรื่องนี้เกิดตั้งแต่ปี 2549 ถูกยกขึ้นมาในช่วงที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมือง นายพิธากล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายของการเมืองไทย ขอประชาชนอย่าสับสน เสียสมาธิ ในการเลือกตั้งครั้งนี้กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตนเป็นนักการเมืองพร้อมในการตรวจสอบ ยืนยันไม่หวั่นไหว พร้อมเดินหน้าหาเสียงต่อ ไม่ว่าอีก 2 สัปดาห์นี้จะเจออะไรที่สกปรกขนาดไหนก็พร้อมสู้ต่อ

‘ปานปรีย์’เผยตัวเองไม่โดนอะไร
ที่จ.นครศรีธรรมราช นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ อดีตผู้แทนการค้าไทยสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ปี 2549 กล่าวกรณีนายพิธาอ้างว่า เดินทางกลับจากนิวยอร์กหลังถูกรัฐประหารปี 2549 ซึ่งโดยสารเครื่องบินลำเดียวกับนายปานปรีย์ว่า ก่อนเครื่องขึ้นจากนิวยอร์ก มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งนำนายพิธามาฝากกลับไทยด้วย แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่านายพิธาจะมาเล่นการเมืองอะไรในอนาคต ขณะนั้นเข้าใจเพียงว่าเป็นน้องคนหนึ่ง ที่อาศัยเครื่องบินกลับมา

เมื่อเครื่องมาถึงกทม. ตนไม่คิดว่าจะเจออะไร เพราะได้ส่งนายทักษิณที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้ว แต่เมื่อเครื่องถึงสนามบินดอนเมือง กลับจอดนิ่งประมาณครึ่งชั่วโมง ท่าทางไม่ค่อยดี ตนในฐานะหัวหน้าคณะ เดินทาง จึงเดินไปบอกคนในเครื่องรวมถึง นายพิธา ว่าเราคงไม่ได้ลงที่ดอนเมือง ตอนนี้เครื่องมาจอดที่ บน.6 แล้ว ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะเราไม่ใช่นักการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนั้นนายพิธาขึ้นเครื่องในฐานะเป็นทีมงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ขณะนั้น หรือเป็นแค่คนไทยที่อาศัยเครื่องบินกลับประเทศ นายปานปรีย์กล่าวว่า ทราบเพียงว่าเป็นหลานของนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขาฯ ส่วนตัวนายกฯ ทักษิณ ต่อข้อถามว่าเมื่อลงเครื่องที่ บน.6 ถูกกักตัวหรือคลุมหัวตามที่นายพิธากล่าวอ้างหรือไม่ นายปานปรีย์กล่าวว่า เมื่อเครื่องถึงกทม. มีทหารเดินเข้ามาตรวจ แล้วก็ปล่อยตัวออกไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร สามารถกลับบ้านได้ทันที ส่วนคนอื่นตนไม่ทราบเพราะต่างคนต่างแยกย้าย เมื่อถามถึงกรณีนายพิธาอ้างว่ามีการระงับธุรกรรมทางการเงินของผู้ที่อยู่ บนเครื่องบินลำดังกล่าว นายปานปรีย์กล่าวว่า ไม่ทราบ คงต้องไปถามนายพิธา แต่ตนในฐานะหัวหน้าคณะไม่โดนอะไรเลย

‘ชัยวุฒิ’ซัดเรียกคะแนนสงสาร
ที่จ.ตาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพปชร. กล่าวถึงกระแสโซเชี่ยลกรณีของนายพิธา ระบุการถูกควบคุมตัวในวันรัฐประหารปี 2549 ทำให้เดินทางมางานศพบิดาไม่ทัน ถูกอายัดเงินจนต้องวิ่งหาเงิน จัดงานศพ ต่างจากที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้าว่าถูกกักตัวเพียง 4-5 ชั่วโมง ว่า เป็นเรื่องปกติของนักการเมือง เมื่อถึงเวลาหาเสียง เลือกตั้งมักจะพูดแนวนี้ เพื่อให้มีดราม่าให้คนสงสารเรียกคะแนน แต่ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ

ที่สําคัญวันนี้มีโซเชี่ยลมีเดียทำให้มีการยุยง ปลุกปั่น หรือพูดในทางลบ ให้คนไทยเกลียดชังกัน พูดให้คนเกลียดประเทศ ทําไมไม่โทษตัวเองและควรทําตัวเองให้ดี ช่วยกันทําหน้าที่ให้ดี ตั้งใจเรียน ตั้งใจทํางาน ตั้งใจทํามาหากิน ประเทศชาติก็จะดีเอง ไม่ใช่มาโทษกัน โทษแต่คนอื่น เพราะการเมืองต้องสร้างสรรค์

ขอเสียงกรุง – นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปราศรัยหาเสียงช่วย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตวัฒนาและคลองเตย ที่สวนเบญจสิริ เขตคลองเตย กทม. เมื่อวันที่ 27 เม.ย.