ภท.ฟ้องเศรษฐา ชัชชาติชี้ไม่เกี่ยว ลูกช่วยเพื่อไทย ตู่คึกรุกสุราษฎร์ อู๊ดด้าบุกพิจิตร

‘อุ๊งอิ๊ง’ควงสามีแถลงที่มาของชื่อลูกชาย ‘พฤจ์ธาษิณ’ ตามชื่อตายาย ปัดไม่ได้คุย ‘ทักษิณ’ เรื่องขอกลับไทย เตรียมกลับคืนสนามเลือกตั้งขึ้นปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค.นี้ พร้อมเป็นนายกฯ โปรโมตสารคดี ‘The Candidate’ สู้ศึกเลือกตั้ง ‘ศุภชัย’แถลงโต้‘เศรษฐา’ ยกมติสภายัน เพื่อไทยหนุนปลดล็อกกัญชา เผยสมาชิก ภูมิใจไทยทยอยฟ้องปราศรัยบิดเบือน ‘พิธา’ขอบคุณประชาชนหลังผลนิด้าโพลชู เป็นนายกฯ ย้ำโค้งท้ายลุยฝ่าวิชามารสู่ชัยชนะ ‘ตู่’ปลื้มคนสุราษฎร์ฯ กว่า 2 หมื่นแห่ฟังปราศรัย ยืนยันไม่ท้อ ลั่นสู้เพื่อคนไทยและประเทศชาติ ‘จุรินทร์’นำทัพบุกอ่างทอง-พิจิตร อ้อนเลือกปชป.พาชาติรอด ขณะที่ พปชร.มั่นใจซิว 10 ที่นั่งโคราช

‘บิ๊กตู่’ขนทัพหาเสียงสุราษฎร์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) สวมเสื้อพรรคเบอร์ 22 ลาราชการ ออกเดินทางด้วย เที่ยวบิน WE251 สายการบินไทยสมายล์ เพื่อลงพื้นที่หาเสียงจ.สุราษฎร์ธานีให้ผู้สมัคร ส.ส.ของรทสช.ทั้ง 7 เขต พร้อมด้วย นาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นาย เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค

เวลา 10.45 น. ที่อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบเขตชุมชนเทศบาลเมืองท่าข้าม ช่วยหาเสียงให้ นายพันธ์ศักดิ์ บุญแทน ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ ธานี เขต 4 เบอร์ 3 มีประชาชนมอบพวงมาลัย ดอกไม้ให้กำลังใจ มอบสะตอ และขอถ่ายภาพเป็นระยะ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมเยือน ขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนผู้สมัครของพรรค ซึ่งรทสช.ยินดีรับหน้าที่ดูแลคนไทยให้มี ความสุข ถ้าเราได้คะแนนเสียงมากก็จะมีบทบาทมากขึ้นในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสภาผู้แทนราษฎร เพราะบางอย่างเป็นบทบาทในประชาธิปไตย ขอบคุณมากๆ คิดถึงจังฮู้ ทุกคนคือคะแนนเสียงทำให้ประเทศไทยเดินหน้าได้ ขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติ 1 เสียง 1 สิทธิ์ อย่าทิ้งสิทธิ์ทุกคน และตนไม่ต้องการให้มีความแตกแยก ขัดข้องหมองใจกับใครทั้งสิ้น

เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น คนเข้ามาเที่ยว มากขึ้น ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย เลือกตั้งด้วยความสงบเรียบร้อย ถ้าสงบคือเลือกรทสช. สงบแน่นอน เราไม่ขัดแย้ง กับใคร ทำอะไรต้องยั่งยืน ถ้าไม่ยั่งยืนก็จะทะเลาะกันอีก ทุกคนต้องร่วมมือกันทำเพื่อชาติบ้านเมือง ตนไม่รังเกียจใคร ไม่ขัดแย้งกับใคร ขอบคุณทุกคน หวังว่าทุกคนคงเข้าใจว่าเจตนารมณ์ตนคืออะไร ต้องการให้ทุกอย่างดีขึ้น ประเทศสงบเรียบร้อยมาหลายปี ทุกคนเป็นคนกำหนดชะตาบ้านเมือง ไม่ใช่ตนคนเดียว ฝากเขต 4 เบอร์ 3 และตนเบอร์ 22 อย่าลืมเลือกบัตรสองใบ ต้องไปด้วยกัน

“คนใต้จริงใจ รักใครรักจริงใช่ไหม รักใครไม่ทิ้งขว้าง ผมรักทุกคน ต้องสู้ไปด้วยกันเพื่อบ้านเมืองของเรา เราต้องการรัฐบาลที่ทำตามระบบระเบียบที่ดีขึ้น ไม่ใช่พูดปากเปล่ามันทำไม่ได้ ขอฝากหัวใจไว้กับพวกเราทุกคน วันเลือกตั้งออกมาให้หมด ออกมาใช้สิทธิ์ เราคือคนกำหนดชะตาของบ้านเมือง ผมพูดจนเจ็บท้อง แต่ไม่เคยท้อแท้ ขอฝากหัวใจของผมไว้ด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว








Advertisement

พร้อมทำงานหนัก-สู้เพื่อทุกคน

เวลา 12.15 น. ที่ชุมชนตลาดพระแสง ต.ท่าดินแดง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ. ประยุทธ์ และคณะ ขึ้นรถแห่หาเสียง โดยมี นายชุมพล กาญจนะ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี หลายสมัย ร่วมขึ้นรถแห่ เชิญชวนประชาชน เลือกรทสช. ตลอดเส้นทางท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าไม่กลัวร้อน แต่พร้อมที่จะมาพบปะทำความเข้าใจกับประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี พร้อมนำเสนอนโยบายที่จะเดินหน้าทำต่อ โดยย้ำถึงการให้ความเท่าเทียมกับประชาชนทุกกลุ่มทุกพื้นที่ ขอบคุณทุกกำลังใจและผู้ที่สนับสนุนตนและรทสช. อีกทั้งตลอดเส้นทางพล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอโทษที่ใช้เสียงดังในการหาเสียง รวมทั้งบางช่วงอาจทำให้การจราจรติดขัดบ้างก็ต้องขออภัย

“แรงเชียร์ให้ลุงตู่สู้ๆ ขอบอกได้เลยว่าถ้าไม่สู้จะมายืนอยู่ตรงนี้หรือ สัญญาว่าจะสู้ต่อไปและสู้เพื่อพวกเราทุกคน ที่ผ่านมาไม่เคยรังเกียจใคร รักและพร้อมดูแลทุกคน เพียงแต่บางเรื่องต้องใช้เวลาหลายปี เราจะต้องร่วมมือกันทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปให้ได้ ประเทศ ไทยจะล่มสลายไม่ได้ ผมพร้อมทำงานหนัก พร้อมที่จะดูแลประชาชนทุกช่วงวัยทุกคน และคงจะเห็นแล้วว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมาผมได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง วันนี้เราจะกลับมาพัฒนาสู่ฐานรากให้มากยิ่งขึ้น แต่ผมคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้จะต้องมี ส.ส. เข้ามาช่วย จึงต้องขอฝากกับทุกคนนะจ๊ะ วันนี้ทุกคน ต้องรวมไทยสร้างชาติ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลจะสานงานต่อได้ทันที โดยไม่ต้องรออะไรอีก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมแกนนำ รทสช.เดินทางต่อไปที่อ.เวียงสระ อ.กาญจน ดิษฐ์ และอ.เมือง ขึ้นรถแห่ปราศรัยขอคะแนนเสียงจากประชาชน และเวลา 18.00 น. ขึ้นเวทีเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามข้างโรงแรมวังใต้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

เวลา 13.30 น. ที่สถานีรถไฟบ้านส้อง ต.บ้านส้อง เขตเทศบาลเมืองเวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ ไปให้กำลังใจ นายฐิติพงศ์ พิริพล นายสถานีรถไฟบ้านส้อง อ.เวียงสระ ที่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยหญิงสูงอายุที่พิการทางการได้ยินและเป็นใบ้ ขณะเดินข้ามตัดหน้าขบวนรถไฟล่องใต้ ขบวนที่ 85 กรุงเทพอภิวัฒน์-นครศรีธรรมราช ที่กำลังแล่นเข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟบ้านส้อง จนรอดชีวิตจากการถูกชนอย่างหวุดหวิด เหตุเกิดเมื่อ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา

เยือนอุบลฯ – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อม แกนนำหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ที่หอประชุมโดมใหญ่ วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 3 พ.ค.

คนนับหมื่นแห่ฟังปราศรัย

เวลา 15.17 น. ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ ธานี พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นรถแห่หาเสียงช่วย นายธานินท์ นวลวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ ธานี เขต 7 ที่บริเวณเขตชุมชนเทศบาลกาญจนดิษฐ์ มีประชาชนตลอด 2 ข้างทางมาต้อนรับ โบกมือทักทาย ตะโกนเชียร์ ลุงตู่สู้ๆ

พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับ ขอเบอร์ 2 ให้ผู้สมัครเขต 7 และเบอร์ 22 ประยุทธ์ด้วย กา 2 เบอร์เลย

ต้องช่วยให้ รทสช.เข้าสภาให้มากที่สุด ขอบคุณที่ให้ความรักระหว่างกัน ลูกหลานต้องตั้งใจเรียนหนังสือ รักษาตัวให้ดี อย่าให้ใครมาปลุกให้เกลียดชังประเทศตัวเอง เกลียดชังกันเองไม่ได้อีกแล้ว ประเทศไทยโอกาสที่ดีจะหายไปหมดทุกอย่าง ขอรักกันให้มากที่สุด ขอบคุณนะจ๊ะ อย่าลืม ส.ส.ของท่าน อย่าลืม รทสช. ผมทำเพื่อทุกคน เราสู้เพื่อใคร สู้เพื่อชาติ

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ตะโกนคำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” 3 ครั้ง พร้อมกล่าวว่า ด้วยหัวใจของความเป็นคนไทย เราจะเป็นประเทศที่เจริญอย่างมีคุณภาพ อย่าทำลายซึ่งกันและกัน ทุกคนอาจจะมีความเห็นต่างอยู่บ้าง แต่อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน สิ่งสำคัญคือความเรียบร้อยของบ้านเมือง จะทำให้โอกาสหายไปเลยในประเทศไทย

เวลา 16.10 น. ที่เขตเทศบาลสุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นรถแห่หาเสียงให้น.ส. กานสินี โอภาสรังสรรค์ ผู้สมัครเขต 1 และเข้าสักการะศาลหลักเมือง โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอพรว่า ขอประเทศชาติเจริญเติบโตก้าวหน้า ขอให้การทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองสำเร็จทุกประการ ประเทศชาติและประชาชนเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน จากนั้นปิดทองที่องค์พระหลักเมือง ผูกผ้าแพรที่องค์พระหลักเมืองจำลองทั้ง 4 ด้าน และตีฆ้องพร้อมกล่าวว่า ขอให้สำเร็จทุกประการ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

เวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ และแกนนำพรรค เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานปราศรัย ข้างโรงแรมวังใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีผู้มาฟังปราศรัยกว่า 20,000 คน

พปชร.มั่นใจซิว 10 ที่นั่งโคราช

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่หอประชุมวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายสุกฤษณ์ หรือป้อม วัชรมาลีกุล ผู้สมัครส.ส.เขต 13 หมายเลข 7 หาเสียง โดยมีประชาชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษตรกรรมและปศุสัตว์ร่วม 3,000 คนรับฟังการชี้แจงนโยบายลดราคาพลังงานเชื้อเพลิง น้ำมันเบนซิน ก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือนและบัตรประชารัฐ “ลุงป้อม” เพิ่มให้เป็น 700 บาท ดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุเพิ่มเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได พร้อมเน้นย้ำหมายเลขผู้สมัครและรัก “ลุงป้อม” กาเบอร์ 37

นายวิรัชกล่าวว่า ยุทธศาสตร์การหาเสียงโค้งสุดท้ายเน้นย้ำให้ผู้สมัครเกาะติดพื้นที่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 13 พ.ค. ส่วนตนจะตระเวนลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครให้มากที่สุดโดยไม่เดินทางไปนอกพื้นที่ ประเมินว่า พปชร.ได้ส.ส.นครราชสีมาไม่ต่ำกว่า 10 เขต จากทั้งหมด 16 เขต เป็นแชมป์ส.ส.เขตโคราช อีกสมัย

คึกคัก – นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ พร้อมด้วยนายไพฑูรย์ และนาย นราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ เปิดเวทีใหญ่ที่จ.พิจิตร โดยมีประชาชนหลายหมื่นคนมาฟังการปราศรัย เมื่อ 3 พ.ค.

‘อู๊ดด้า’ชี้เลือกปชป.พาชาติรอด

เวลา 12.00 น. ที่จ.อ่างทอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ขึ้นรถแห่หาเสียง รอบเมืองตั้งแต่ศาลหลักเมืองอ่างทอง กล่าวฝากผู้สมัครส.ส.อ่างทอง ทั้งนายชวลิต ประสิทธิ์สมบัติ ผู้สมัครเขต 1 เบอร์ 4 และน.ส.ภัทรสุดา บุษรานันท์ ผู้สมัครเขต 2 เบอร์ 7 และช่วยสนับสนุน ปชป.เบอร์ 26 ในบัตรสีเขียว

เวลา 17.30 น. ที่บริเวณโรงเรียนตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นายจุรินทร์ พล.อ. บุญเลิศ นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตส.ส.และรัฐมนตรีหลายกระทรวง นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคดูแลภาคเหนือ และผู้สมัครส.ส.พิจิตรทั้ง 3 เขต ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ มีประชาชนมาร่วมฟังจนล้นสนามกีฬาโรงเรียน และยังเข้ามาขอถ่ายรูป มอบพวงมาลัย ดอกกุหลาบ เป็นกำลังใจให้นายจุรินทร์ด้วย

นายจุรินทร์ปราศรัยว่า ขอให้เลือกปชป.ทั้ง 2 ใบ การเลือกตั้งครั้งนี้มีโอกาสแลนด์สไลด์ยากตามที่มีนักวิเคราะห์ รวมทั้งผลโพลบอกตรงกันจะไม่มีแลนด์สไลด์เลยแม้แต่พรรคเดียว แปลว่าไม่มีพรรคไหนจะสามารถรวมเสียงข้างมากเพื่อตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน เท่ากับทุกพรรคจะมีโอกาสตั้งรัฐบาลได้พอๆ กัน ทุกเสียงจึงมีความหมายสำหรับปชป. ถ้าพี่น้องช่วยกันสนับสนุนปชป.ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ปชป.ก็พร้อมฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ รวมทั้งนำพาประเทศฝ่าวิกฤตประชาธิปไตย เราจะไม่เป็นรัฐบาลที่พาประเทศไปสุ่มเสี่ยงต่อการถูกยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารอีก

นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ว่า ในจ.พิจิตร เราสู้ทั้ง 3 เขต และหวังคะแนนจากบัตรทั้ง 2 ใบ สำหรับในภาคเหนือเชื่อว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้จะได้หลายที่นั่ง คราวที่แล้วได้คนเดียว แต่เที่ยวนี้เชื่อว่าดีขึ้นเยอะ “ผมมั่นใจว่าปชป.ตอบโจทย์ในทิศทางที่ดี และพร้อมตั้งรัฐบาลถ้าประชาชนให้โอกาสและได้เสียงมากพอ เราพาประเทศรอด รอดทั้งเศรษฐกิจ รอดทั้งการเมือง รอดทั้งระบอบประชาธิปไตย เพราะปชป.ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติยึดอำนาจอีก”

ขอเสียง – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม แกนนำพรรคเดินสายหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.อ่างทอง ต่อด้วยยกทัพใหญ่เปิดเวที ปราศรัยที่จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 3 พ.ค.

‘ศุภชัย’โต้พท.ปมกัญชา

ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค แถลงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค เพื่อไทย (พท.) ปราศรัยที่ จ.นครพนม โจมตีนโยบายกัญชาว่าเป็นการมอมเมาเยาวชน รวมทั้งบอกว่าหากเลือก ภท.จะได้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกรอบ และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพท. ระบุ พท.ไม่มีส่วนกับการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดว่า การกล่าวหาของทั้งคู่ไม่เป็นความจริง กรณีของนายเศรษฐา มีความผิดใส่ร้ายตาม พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 73(5) ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ทั้งที่ข้อเท็จจริง ภท.สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ ไม่เคยสนับสนุนให้มอมเมาเยาวชน รวมทั้ง ภท.หาเสียงชูนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ เพียงคนเดียว ไม่เคยบอกว่าเลือก ภท.แล้วจะไปเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

ส่วนกรณีนายประเสริฐนั้น ยืนยันว่า พท.มีส่วนปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ก่อนที่รมว.สาธารณสุขจะออกประกาศควบคุม กล่าวคือมีการปลดล็อกกัญชาโดยผ่านรัฐสภาลงมติเอกฉันท์ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ไม่ระบุกัญชาเป็นยาเสพติด กระทั่งราชกิจจานุเบกษาประกาศ และก่อนหน้ามีการตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางปัญหาเกี่ยวกับกัญชา กัญชงและกระท่อม นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พท.เป็นประธาน เสนอรายงาน 367 หน้า ยกเลิกกัญชา กัญชงและกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ อย่างน้อย 2 ส่วนนี้ ไม่มีส.ส.พท.คัดค้านเลย ฉะนั้น พรรคที่ทำให้เกิดกัญชาเสรีคือพท.

นายศุภชัยกล่าวว่า นายเศรษฐาเป็นเพียงสมาชิกพรรค ตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าเพื่อไทยเป็นเพียงการบัญญัติศัพท์ กรณีปราศรัยบิดเบือนให้ความเท็จ นายเศรษฐาจะมีความผิดมาตรา 73(5) แล้วคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ไม่ควบคุมสมาชิกพรรคก็เข้าข่ายความผิดพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 101 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าเป็นกรณีพรรคการเมืองระวางโทษเป็น 2 เท่า และให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพิกถอนสิทธิหัวหน้า และกก.บห.

ภท.ฟ้อง‘เศรษฐา’-เย้ยตัวแสดงแทน

ทราบว่าขณะนี้มีสมาชิก ภท.ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าวได้ดำเนินคดีแล้ว เช่น นายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้สมัคร ส.ส. นครพนม และทราบว่ามีผู้ประสงค์จะดำเนินการทางกฎหมายในแต่ละพื้นที่อยู่ พรรคยืนยันการดำเนินการทั้งหมดเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกใส่ร้าย นายเศรษฐาต้องพร้อมรับสิ่งที่พูดออกไป เราต้องแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของท่าน ซึ่งวันนี้เราไม่ยอม

ผู้สื่อข่าวถามว่าการฟ้องนายเศรษฐา และพท.จะเป็นการปิดประตูจับมือตั้งรัฐบาลกันหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า เราไม่เคยวิจารณ์นโยบายพรรคใด แต่ดูเหมือนว่าวันนี้การปราศรัยของท่านเกิดจากความกลัว ทำให้เสื่อม ขาดสติ ขอให้ทบทวนตัวเอง และขอเรียกร้อง พท. หากเห็นว่ากัญชามีปัญหาให้ประกาศเลยว่าจะเอากลับไปเป็นยาเสพติด อย่ามาพูดคลุมเครือว่าเอาเฉพาะนโยบายทางการแพทย์ ภท.เองก็ไม่เคยสนับสนุนเรื่องสันทนาการ พี้ มอมเมา

ต่อข้อถามว่าการออกมาแจ้งข้อกล่าวหานายเศรษฐา จะเป็นเงื่อนไขให้ ภท.ไม่ยกมือโหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ หรือควรเปลี่ยนเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือนายชัยเกษม นิติสิริ แทน นายศุภชัยกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลานั้น วันนี้หากนายเศรษฐาถูกดำเนินคดีท่านจะมีคุณสมบัติอยู่หรือไม่

เมื่อถามว่านายเศรษฐาตั้งกำแพงทางการเมืองไม่เอา พล.อ.ประวิตร และไม่เอาพรรคกัญชา หากภายหลังจัดตั้งรัฐบาลไม่เป็นเช่นนั้น ต้องรับผิดชอบทางการเมืองหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ไม่อยากมีความเห็น “คิดว่านายเศรษฐาไม่น่าจะมีอำนาจในการตัดสินใจ ท่านเป็นเพียงตัวแสดงคนหนึ่ง เข้ามาก็มาช็อปปิ้งตำแหน่งนายกฯ พอไม่ได้ก็กลับไปขายบ้านจัดสรรของท่านเหมือนเดิม ดูแล้วท่านก็ประเมินถูก ท่านอาจจะมีความสามารถเรื่องการบริหารธุรกิจ แต่ในเรื่องการเมืองท่านต้องเรียนรู้มากกว่านี้”

‘หนู’คุยนโยบายภท.-รางวัลที่ 1

ที่หน้าเทศบาล อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าภท. ลงพื้นที่ช่วย หาเสียงให้นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 มีประชาชนรับฟังกว่า 10,000 คน

นายอนุทินกล่าวว่า ภท.มุ่งทำงานไม่สร้างความขัดแย้ง ที่ผ่านมาสิ่งที่เราทำ ประชาชนได้รับประโยชน์ไว้มากมาย เช่น การฟอกไตฟรี ในอนาคตเรามีนโยบายให้ทุกอำเภอมีศูนย์ไตเทียม นโยบายของภท.ที่ให้ไว้กับประชาชนนั้นมีคุณค่า มีประโยชน์ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกท่านไม่ต่างจากการถูกรางวัลที่ 1 ถ้าภท.ได้ส.ส.มากพอ ได้เข้าไปทำงาน รับรองว่าทำได้แน่นอน ไม่ต้องลุ้น

นโยบายด้านการสาธารณสุขที่สำคัญอีก 1 เรื่อง คือ ให้ทุกจังหวัดต้องมีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ช่วยลดระยะเวลาการรอคิว เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เพิ่มโอกาสรอดชีวิต นอกจากนั้น จะออกกรมธรรม์ประกันชีวิตมูลค่า 100,000 บาท แก่ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หากเสียชีวิตเงินจำนวนนี้เป็นมรดกให้ลูกหลาน และยังนำมาใช้ก่อนได้ด้วย 20,000 บาท ขณะที่นโยบายพักหนี้ 3 ปี พักหนี้ทั้งต้น และดอก ขอเพียงเป็นหนี้ถูกกฎหมาย นโยบายเงินฉุกเฉิน 50,000 บาท ใช้บัตรประชาชนกู้ได้เลย แต่เดือนที่ 2 ต้องจ่ายคืนวันละ 150 บาท ทั้งต้นทั้งดอกอยู่ในนั้น เท่ากับจ่ายดอกเบี้ย 8.5% ต่อปี ผลักดันเรื่องค่าตอบแทน อสม. ต้องเพิ่มเป็น 2,000 บาทต่อเดือน และมีกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้ลูกหลาน ได้รับเงิน 500,000 บาท หลังอสม.เสียชีวิต

“เรื่องกัญชา ภท.เน้นใช้เพื่อการแพทย์ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ เราไม่มีเป้าหมายให้ไปใช้เพื่อความบันเทิง ใช้เพื่อการสันทนาการเลย อย่าลืมว่าเราเป็นคนสนับสนุนให้ออกกฎหมายมาควบคุมด้วยซ้ำ แต่การเมืองเล่นกันหนัก ขอให้ประชาชนเข้าใจข้อเท็จจริง” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กรณีศึกวิวาทะกับนายเศรษฐาจะมีปัญหาในการจับขั้วรัฐบาลหรือไม่ว่า ตนเคยบอกไปแล้วว่าแต่ละพรรครู้ว่าคนไหนคือคนที่เคาะ เราจบประเด็นนี้ได้แล้ว การที่ตนตอบโต้นายเศรษฐา เพราะเขามาโจมตีภท.ก่อนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ส่วนที่ลูกพรรคไปแจ้งความดำเนินคดี ตนจะไปบังคับได้อย่างไร ภท.ไม่ได้เสียหายอย่างเดียว ผู้สมัครก็เสียหายด้วย อย่าทำอะไรที่จะกระทบต่อคะแนนที่ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะจะผิดไม่รู้กี่กระทง

‘อิ๊ง’เผยที่มาชื่อลูก-แจง‘แม้ว’ขอกลับ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดติ นายกฯ พท. และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี แถลงข่าวการคลอดบุตรชายคนที่ 2 ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ชื่อเล่น ‘ธาษิณ’ ก่อนแถลง น.ส.แพทองธาร นายปิฎก พร้อมคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นำน้องธาษิณที่อยู่ในตู้อบ มาให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ผ่าคลอดตอน 06.00 น. วันที่ 1 พ.ค. โดยไม่ได้ดูฤกษ์ดูยามอะไร ส่วนที่มาของชื่อ พฤจ์ธาษิณ เป็นชื่อที่ตนตั้งขึ้นเอง ให้มี จ์ ที่เหมือนคุณยาย และธาษิณ เหมือนคุณตา ไม่ได้ซีเรียสเรื่องความหมาย แต่อยากให้มีความผูกพันกับคนในบ้านเป็นหลัก เพราะฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น ส่วนจะพาน้องธาษิณไปพบนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อไรนั้น คุณยายบอกว่าถ้าให้ดีก็รอ 4-5 เดือนก่อน

ผู้สื่อข่าวถามกรณีนายทักษิณโพสต์เฟซบุ๊ก อยากกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คุณพ่อตื่นเต้นมาก หวังอยากเห็นโมเมนต์หน้าห้องคลอด ตอนคลอดลูกคนแรกเคยคิดวางแผนไปคลอดต่างประเทศเพื่อให้ คุณตาได้มาเห็น แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสาร ส่วนคุณพ่อจะกลับมาเมื่อไรนั้นท่านพูดหลายโอกาส ถือเป็นโอกาสที่น่าหวังมากกว่า เมื่อมีหลานคนใหม่ก็อยากกลับ เขามีความหวัง สิ่งที่พูดมีเอฟเฟ็กต์ทางการเมือง แต่ในมุมของครอบครัวไม่ผิดที่จะหวังเช่นนั้น โดยเฉพาะในวันที่บ้านเมืองดีๆ “ส่วนความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเมื่อไรไม่ได้คุยกับคุณพ่อ สิ่งที่คุยกับคุณพ่อทุกวันเป็นเรื่องลูก ท่านมีการวางแผนชีวิตของท่านเอง”

ต่อข้อถามว่าการออกมาของนายทักษิณ กระทบกับคะแนนเสียงหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ที่นายทักษิณจะกลับบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับ พท. หรือกระทบกับสิ่งที่ตนกำลังหาเสียงอยู่ แต่ยอมรับแยกยาก เพราะนายทักษิณก่อตั้งพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ตนก็เป็นลูกไม่สามารถตัดขาดได้ แต่สิ่งที่เขาพูดคืออยากกลับมาเลี้ยงหลาน ไม่เคยบอกอยากกลับมาเป็นนายกฯ ความจริงไม่เกี่ยวกันเลย แต่คนชอบคิดว่าเกี่ยวกันก็ไม่แปลก

พร้อมหน้า – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยครอบครัว เปิดแถลงหลังคลอด ‘น้องธาษิณ’ บุตรชายคนที่ 2 โดยพร้อมกลับคืนสู่สนามเลือกตั้งและเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ร.พ. พระรามเก้า เมื่อ 3 พ.ค.

 

เตรียมขึ้นปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค.

ผู้สื่อข่าวถามว่านายทักษิณจะกลับมาปีนี้หรืออีกกี่ปี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การที่คนเราไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ถ้าพูดว่าไม่ได้กลับจิตใจจะเป็นอย่างไร ขอให้เข้าใจจิตใจพื้นฐานความเป็นมนุษย์ ที่ต้องมีความหวัง ตนดีใจที่ท่านหวังและพูดแบบนี้ จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง เวลาพาหลานไปหาท่านก็จะมีพลังเป็นหนึ่งในความหวัง คนที่เชียร์ครอบครัวเราก็เป็นความหวังไปด้วย

ต่อข้อถามว่าจะกลับไปเดินสายหาเสียงเมื่อใด น.ส.แพทองธารกล่าวว่า บอกทีมงานไปว่ามีอะไรก็ส่งมา ตนพร้อมมาก จะไปร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี นนทบุรี วันที่ 12 พ.ค. แน่นอน ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไปร่วมเวทีดีเบตหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตนยินดี ตอนนี้นับถอยหลัง เลือกตั้ง ทุกคนทำงานหนัก ตนก็ยินดีไปร่วมเวทีดีเบต สำหรับยุทธศาสตร์โค้งสุดท้าย พท.จะย้ำนโยบายที่ปล่อยไปแล้วเพื่อให้ประชาชนเห็นภาพชัดเพื่อให้คนตัดสินใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าบางโพล พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กระแสสูงขึ้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า โพลบางอันเชื่อถือได้และเชื่อถือไม่ได้ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ อยากให้ดูภาพรวมว่าพรรคไหนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตประชาชนได้จริงๆ เราลำบากมาหลายปีแล้ว ต้องไม่รอ เราต้องเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยน เลือกตั้งให้ พท.ชนะถล่มทลาย ไม่อยากให้เหมือน ปี 2562 ที่เราได้เสียงข้างมากแต่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แคนดิเดตนายกฯ ของพท. 3 คน พร้อมเป็นนายกฯ ตนก็พร้อมเป็นนายกฯ นายเศรษฐาก็ประกาศว่าพร้อมเช่นกัน ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือประชาชนเป็นคนเลือก

เมื่อถามว่านายเศรษฐาระบุได้พูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร ไม่จับมือกับรทสช. และพปชร. ถือเป็นมติพรรคหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า หากมติที่ถามคือมติ กก.บห. เรื่องนี้ยังไม่มีการประชุม แต่เป็นเรื่องที่คนทั้งพรรคต้องเห็นพร้อมเพรียงกัน เรื่องนี้ทุกคนใน พท.พูดตรงกันมาตลอด สงสัยทำไมยังเป็นกระแส เพราะพรรคคู่แข่งหรือไม่ที่บอกเราไม่ชัดเจน คิดว่าเป็นเทคนิคทางการเมือง หลังจากตนยืนยันในวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหายสงสัยกันหรือยัง

พร้อมเป็นนายกฯ

ต่อมาเวลา 16.50 น. น.ส.แพทองธารได้ลงโปรโมตโปสเตอร์ ‘The Candidate’ สารคดีตั้งแต่การเข้าสู่การเมืองวันที่ 28 ต.ค.2564 จนถึงวันนี้ บนเฟซบุ๊กส่วนตัว

น.ส.แพทองธาร เขียนอธิบายว่า ‘The Candidate Paetongtarn’ คือโปรเจ็กต์พิเศษที่ แพทองธารทำงานร่วมกับทีมงานพรรคเพื่อไทย เป็นสารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางทางการเมืองตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ จากภาคธุรกิจสู่ภาคการเมือง จากทักษิณ ชินวัตร สู่แพทองธาร คู่ขนานไปกับการเดินทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยตลอด 1 ปี 6 เดือน ผ่านคำบอกเล่าของหลายบุคคลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ภูมิธรรม เวชยชัย, ชลน่าน ศรีแก้ว, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และพี่น้องที่ทำงานร่วมกันในภาคธุรกิจ รวมถึงปากคำสัมภาษณ์จากตัวแพทองธารเอง

สารคดีตัวนี้คือตัวตนและกระจกสะท้อนความตัวตนของแพทองธารในบริบทการเมืองที่ถูกย่อมาให้เหลือแค่ 18 นาที จากตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เป็นการเดินทางที่ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นบททดสอบที่ยากและอยากชวนทุกคนมารู้จักกันให้มากขึ้น

‘The Candidate Paetongtarn’ สารคดีนี้จะเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กและยูทูบของแพทองธาร (https://youtube.com/@ingshinawatra) ในวันเสาร์ที่ 6 พ.ค.2566 เวลา 19.00 น.

ขอเสียงฝั่งธนฯ – นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อม แกนนำพรรค จัดปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส.กทม. ฝั่งธนบุรี โดยมีประชาชนให้การต้อนรับจำนวนมาก ที่ลานตรงข้ามตลาดบางแค กทม. เมื่อวันที่ 3 พ.ค.

 

‘เสี่ยนิด’ปลุกเปลี่ยนขั้ว-‘เจ’หนุน

เวลา 18.00 น. ที่ลานตรงข้ามตลาดบางแค (ห้างองค์วิศิษฐ์เดิม) เขตบางแค พท. จัดปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.กทม.ฝั่งธนบุรี หาเสียง นำโดย นายเศรษฐา นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค มีประชาชนรอรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก

นายเศรษฐาปราศรัยย้ำนโยบายพรรคทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พร้อมระบุ พรรคที่บอกว่ากัญชาเสรี มอมเมาประชาชน บอกทำกัญชาแล้วจะรวยไม่มี เพราะเมื่อกัญชาถูกกฎหมายทุกคนทำหมด ราคาถูกลง อย่าให้เขามอมเมาประชาชนว่าทำกัญชาแล้วจะรวย อย่าให้เขาเอานโยบายนี้มาหลอกขาย ต้องกัญชาเพื่อการแพทย์โดย พท.เท่านั้น และถ้าเลือกพรรคอื่นที่เคยเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เขาอยู่กินกันมา แม้จะมีแคนดิเดตนายกฯเป็นคนของพรรค แต่ถ้าพรรคเขาคะแนนไม่พอ เขาจะเสนอใคร พล.อ.ประยุทธ์กลับมาแน่นอน ถ้าไม่เอา ต้องไม่เอาพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ทางเปลี่ยนประเทศมีทางเดียวคือเข้าคูหากา พท.ทั้ง 2 ใบ ให้แลนด์สไลด์

วันเดียวกัน นายชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ เจ นักฟุตบอลชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี ที่ได้รู้จักคุณเศรษฐามา ตั้งแต่วันแรกที่เอ็นดูผมยังไง วันนี้ก็ยังเอ็นดูผมเหมือนเดิม คุณเศรษฐาเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือมาก ซึ่งผมสามารถขอคำปรึกษาได้ทุกเรื่อง เพราะคุณเศรษฐามีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมีแนวคิดทันสมัย ผมเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่จะคอยสนับสนุนคุณเศรษฐาครับ”

‘ชัชชาติ’ปัดเอี่ยว‘แสนดี’

ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบุตรชาย แสนดี-นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ สมัครเป็นผู้ช่วยหาเสียง พท.ว่า ไม่ได้คุยกัน ตัวใครตัวมัน เพราะเขาอายุ 23 ปี ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแสนดี ในเรื่องการเมือง เพราะเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว ถ้าไปถามมากเขาจะบ่นว่ามายุ่งอะไรกับเขา เขาโตแล้ว จึงเตือนด้วยความห่วงใยในฐานะพ่อว่าให้ระมัดระวัง เพราะเขาฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ต้องดูว่าเข้าใจในสิ่งที่พูดให้ดี ขอให้ยิ้มก็พอ ไม่ต้องไปพูดอะไรมาก ช่วยอะไรได้ก็ช่วย แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเลย เป็นคนละบุคคล เขาก็มีสิทธิทางการเมือง ไม่ได้ผิดหลักประชาธิปไตย โตแล้วก็รับผิดชอบตัวเอง ให้ระวัง ให้รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

เขาดูสนใจการเมือง เพราะเรียนประวัติ ศาสตร์ แต่เตือนให้ระวัง เขาเป็นคนทั่วไปก็มีสิทธิ์ แต่ตนไม่ได้บอกให้ไปสมัคร นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะเด็กอยากไปมีส่วนร่วมก็ให้ไปจะได้รู้ว่ากระบวนการเป็นอย่างไร ข้อดีข้อเสียเป็นอย่างไร ส่วนเจ้าหน้าที่ทุกคนของ กทม.ไม่ต้องสนใจแสนดี ทำเหมือนประชาชนคนนึง หน้าที่เราต้องเป็นกลาง เลือกใครก็อยู่ในใจเรา ไม่ต้องบอกคนอื่น

‘ทิม’ขอบคุณผลโพล-ฝ่าวิชามาร

ภายหลังนิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ครั้งที่ 3 พบว่าบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ในครั้งนี้ อันดับ 1 คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าก.ก. โดยคะแนนเพิ่มจาก 20.25% ในการสำรวจครั้งที่ 2 พุ่งขึ้นเป็น 35.44% เช่นเดียวกับคะแนนนิยมพรรคที่เพิ่มขึ้น

นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุน เชื่อว่าความนิยมใน ก.ก.ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง มาจากจุดยืนของเราที่ ‘ชัดและพร้อม’ คือชัดในจุดยืน ‘มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง’ ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคทหารจำแลง ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพปชร. และความพร้อมในการเป็นรัฐบาล จากการเสนอ 300 นโยบายพร้อมแผนงานขับเคลื่อนให้เป็นจริงภายใน 100 วัน ภายในหนึ่งปี และภายในหนึ่งสมัย เชื่อว่า ทั้งสองเหตุผลนี้ ทำให้ประชาชนเห็นถึงความ มุ่งมั่น ความตรงไปตรงมา และความใส่ใจในปัญหา จนเกิดความมั่นใจว่า ก.ก.จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นรัฐบาล ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

แม้โพลเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง สิ่งที่สำคัญกว่าคือการพบปะประชาชนที่เวทีปราศรัยในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยให้มากที่สุด โดยในช่วงโค้งสุดท้าย ก.ก.จะสู้อย่างเต็มที่ แม้รู้ว่าการเมืองแบบเก่าพยายามสาดโคลนสกปรก เล่นวิชามารใส่เรา อย่างที่เขาเคยทำกับพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แต่ ก.ก.ยืนยันจะสู้ด้วยความจริงใจ ด้วยความสร้างสรรค์ ด้วยการเมืองแห่งความหวัง

“โคลนสาดโคลนไม่ช่วยอะไร ความมืดสู้ความมืดไม่ได้ ต้องใช้ความสว่างเข้าสู้ เราต้องไม่หลงกลและมีสมาธิกับการทำงานในช่วงโค้งสุดท้าย เดินหน้าหาเสียงเต็มที่ เหลือเวลาอีกเพียง 11 วัน ขอให้ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ทีมงานจังหวัด อาสาสมัคร และหัวคะแนนธรรมชาติ จับมือกันเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้ ทุกคนขับเคลื่อนด้วยความหวังดีต่อประเทศ ที่เรารัก ชัยชนะของ ก.ก.จะเป็นชัยชนะของพวกเราทุกคน เป็นชัยชนะที่รัฐบาล ก.ก.จะนำพาสังคมไทยออกจากอดีตเพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคต” นายพิธากล่าว

กกต.คาดไม่เกิน4ทุ่มรู้ผล

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดสาธิตการใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในและนอกเขต ทั้งบุคคลทั่วไป ผู้พิการ ทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ รวมถึงแนวทางการอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือกลุ่มคนดังกล่าวในการใช้สิทธิเลือกตั้ง

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ในหน่วยเลือกตั้งทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. และการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. จะประกอบไปด้วยกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) 9 คน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน ผู้แทนพรรคการเมือง ป้ายปิดประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะป้าย ไวนิลผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อติดไว้บริเวณ 2 จุดสำคัญคือ หน้าหน่วยเลือกตั้ง และภายในหน่วย ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งในช่วงเวลา 17.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ซึ่งจะมีการนับแบบเปิดเผยในหน่วยเลือกตั้ง โดยใช้วิธีในลักษณะแบบเดิมคือ ขีดคะแนนลงบนกระดาน 2 กระดาน ซึ่งจะแบ่งเป็นผลการเลือกตั้ง ส.สแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ผ่านการขานคะแนน กกต.ได้ซักซ้อมกับ กปน. ในเรื่องการจัดเตรียมสถานที่ การขานคะแนนให้เสียงดังฟังชัด พร้อมโชว์บัตรลงคะแนนให้ชัดเจน โดยพรรคการเมืองและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าสังเกตการณ์การนับคะแนนได้ หากเกิดความผิดพลาดทั้งการขานคะแนนและการขีดคะแนนบนกระดาน ผู้สังเกตการณ์สามารถทักท้วงได้ทันที กปน.จะบันทึกเหตุการณ์ไว้ โดยสามารถร้องเรียนต่อกกต.ได้ หลังจากนับคะแนนในแต่ละหน่วยเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งผลคะแนนทั้งหมดมายังสำนักงาน กกต.ทราบว่าจะรู้ผลอย่าง ไม่เป็นทางการในเวลา 22.00 น.

นายแสวงยังได้กำชับการทำโพลสำรวจในช่วงที่มีการเลือกตั้งว่า สามารถทำได้ แต่ต้องทำโดยสุจริต ไม่ใช่จูงใจ ย้ำว่าในช่วงระยะเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้งสามารถทำโพลได้ แต่ห้ามเปิดเผยโพล โดยจะสามารถเปิดเผยได้อีกครั้งหลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน