ปลุกแลนด์สไลด์กระหึ่มบิ๊กตู่เมินก้าวไกลฟีเวอร์
อ้อนชาวบ้านอย่าทิ้งกัน‘ป้อม-จุรินทร์’ล่องใต้คึก
เพื่อไทยรุกแคมเปญโค้งท้าย ‘เลือก เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที’ ‘อิ๊ง’ ลั่นใจเกินร้อย ‘เศรษฐา’ ย้ำพร้อมนั่งนายกฯ คนที่ 30 ‘ภูมิธรรม’ ยกฝีมือบริหารเทียบชั้น ‘ทักษิณ’ ขณะที่ ‘ณัฐวุฒิ’ ส่งซิกจับมือก้าวไกล ตั้งรัฐบาล ‘ตู่’ ลุยหาเสียงพระประแดง-บางพลัด อ้อนรักทุกคนอย่าทิ้งกัน เมินผลโพล ให้ชาวบ้าน สนใจตัวจริงดีกว่า ‘ธนกร’ ชี้ผลโพลสะวิงแปลกๆ เชื่ออาจมีไอโอ ‘ป้อม’ ฟิตบุกภูเก็ต ‘อู๊ดด้า’ ลุยกระบี่ ชี้เลือกปชป. พาเศรษฐกิจ-ประชาธิปไตยรอด กกต.พร้อมเลือกตั้งล่วงหน้า วันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.
รทสช.ปล่อยคลิป‘บิ๊กตู่’
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 6.29 นาที พร้อมข้อความ “คุยกับลุง” เรื่องลึกแต่ไม่ลับของลุงตู่ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้! ดูไปต้องยิ้มไปแน่นอน ไม่เชื่อคลิกเลย! แล้วอย่าลืมแชร์ความน่ารักของลุงกันเยอะๆ นะครับ
คลิปวิดีโอดังกล่าวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทาง และยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯ ของรทสช. นั่งให้สัมภาษณ์สบายๆ สวมเสื้อเชิ้ต แขนสั้นลายหัวใจสีเหลือง รองเท้าคัตชูลำลอง ภายในห้องมีโต๊ะที่มีรูปปั้นเซรามิกม้าสีขาวตั้งโชว์
โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนเด็กพ่อเป็น ทหารอยู่ที่โคราชจ.นครราชสีมา และมีการฝึกซ้อมรบในขนาดนั้นพอดี จึงได้ตั้งชื่อตนว่าประลองยุทธ์ จากนั้นหมอพระให้ตัดคำว่า ลอง จึงเหลือเพียงประยุทธ์ วันนั้นจนถึงวันนี้ผมสู้มาตลอดชีวิต
พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดคุยเรื่องความดุของตนเองว่า เราไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ความจริงต้องเห็นใจเรานิดหนึ่งเหมือนกัน แต่เราเข้าใจ ก็ปรับตัวไปเยอะพอสมควร ตอนนี้ก็พูดเล่น พูดจริงอะไรกับเขาบ้าง นักข่าวก็แฮปปี้อยู่ตอนนี้ พอเราเป็นแบบนี้เขาแหย่ เราไม่ขึ้น คำถามพวกนั้นหายไปหมดก็แปลกดี แสดงว่าเขาตั้งใจให้เราโมโห วันนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส นายกฯ จะไปไหนขอไปด้วย
ลุยหาเสียงพระประแดง
เมื่อเวลา 13.50 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วยนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนัก นายกฯ รองหัวหน้ารทสช. และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรคลงพื้นที่หาเสียง ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ด้วยรถเบนซ์ ส่วนตัว หมายเลขทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพ มหานคร ทันทีที่เดินทางถึงพล.อ.ประยุทธ์ ได้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง ตีระฆัง 9 ครั้ง ซึ่งขณะตีระฆังแฟนคลับ ได้ตะโกนว่า “เฮงๆ ลุงตู่ชนะเลือกตั้ง ลุงตู่สู้ๆ” ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์เดินพบปะประชาชน ที่ตลาดพระประแดง โดยกล่าวเน้นย้ำกับประชาชนว่า “ประเทศชาติต้องไปต่อ”
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และกล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า ตนอาจจะไม่ค่อย ได้มาเจอหน้า แต่ได้เห็นตนที่หน้าสื่ออยู่แล้ว ตนได้เห็นความเจริญทุกด้านของพระประแดง เพราะนี่คือประเทศไทย ต้องสามัคคีแตกแยกกันอีกไม่ได้ รัฐบาลใดก็ตามที่แยกแยะประชาชน ใช้ไม่ได้ ตนไม่เคยทำ และขอให้ดูด้วยตา ฟังด้วยหูกันบ้าง ด้วยหัวใจของท่านว่าอะไรเกิดขึ้นแล้ว และตนทำอะไร เพื่อใคร นาทีเดียวไม่ได้อยู่แล้ว มันพังแน่ทั้งประเทศ ตนฝากไว้แค่นี้ และครอบครัวจะต้องแตกแยกไม่ได้
ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ขอให้ไปกาบัตร 2 ใบ ขอให้ช่วยกันดูแลให้เรียบร้อยไม่เช่นนั้นที่ทำมา จะล้มทั้งหมด ตนรักทุกคนรักจากใจและไม่เคย โกหก ไม่เคยหาผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ตนจะไม่ทำลายชาติแบบนั้น ย้ำว่าตนไม่ใช่ คนพูดโกหก ไม่ใช่ทำเพื่อให้ทุกคนรัก แต่ทุกคน อยู่ในหัวใจตนเสมอ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคือหัวใจของรทสช.
ใกล้เลือกตั้งยิ่งร้อน-ไม่สนโพล
“อากาศร้อน เป็นนายกฯ ร้อนยิ่งกว่าเยอะ และยิ่งร้อนใหญ่ในวันที่กำลังเลือกตั้ง เชื่อว่าชาวพระประแดงทั้งจังหวัดรักชาติ รักประชาชน รักครอบครัว นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ สร้างความรักความสามัคคี เป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จทุกอย่างทุกประการ ดังนั้น ขอให้ทุกคน มีความสุข โชคดีทุกคน วันที่ 14 พ.ค.นี้ขอให้ออกมาทุกบ้าน ทุกอายุ ใครไม่มาให้สะกิดออกมาด้วย โพลอย่าไปสนใจ สนใจตัวจริงผมดีกว่า โพลก็เรื่องของโพลไป ไม่ต้องไปท้อแท้ ขอบคุณทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์
เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปที่สำนักงาน รทสช.เขต 7 อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พบปะผู้สมัครส.ส.สมุทรปราการ ทั้ง 8 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายธนชาติ ยังประภากร เบอร์ 1, เขต 2 นายกิตติศักดิ์ ศีลภูษิต เบอร์ 1, เขต 3 นายสำเริง จิตต์อาจหาญ เบอร์ 5, เขต 4 พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ เบอร์ 2, เขต 5 นายปรัชญา สมบูรณ์ เบอร์ 3, เขต 6 ดร.กุลชร มีสัมฤทธิ์ เบอร์ 7, เขต 7 น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ เบอร์ 8, เขต 8 นายพนัส อิ่มใจ เบอร์ 8
ย้ำจะขอทำให้ดีที่สุด
เวลา 16.30 น. ที่วัดสาขลา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์กราบนมัสการ หลวงพ่อโต และนมัสการพระครูสุนทร พัฒนกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดสาขลา พร้อมสนทนาธรรม โดยเจ้าอาวาสเปิดเผยว่าได้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์มีสุขภาพแข็งแรง พักผ่อนบ้างช่วงนี้เดินสายพบประชาชนเยอะ ขอให้ทำงานใหญ่ประสบความสำเร็จ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะทำให้ดีที่สุด ก่อนสักการะพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ห่มผ้า พระปรางค์เอนและเขียนข้อความบนผ้าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักทุกคน ให้บ้านเมือง คนไทยทุกคนต้องไปต่อ และได้ปักธงพระเจดีย์ ทราย
พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ทักทายประชาชนที่มามอบดอกไม้ให้กำลังและชูป้ายข้อความต่างๆ เช่น คนพระสมุทรเจดีย์รักลุงตู่, ชาวพระสมุทรเจดีย์ยินดีต้อนรับ เลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “พี่ตู่” เป็นนายกฯ, รักลุงตู่ทั้งบ้าน เป็นต้น โดยพล.อ.ประยุทธ์ย้ำกับประชาชน ให้เลือก รทสช. เลือกถล่มทลายไปเลย และย้ำว่า จะทำให้ดีที่สุด ขออย่าให้ประเทศไทยเป็นมิคสัญญี ตนไม่ใช่ศัตรูใคร ไม่ให้ร้ายใคร
เป็นที่สังเกตว่า การลงพื้นที่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ สวมแหวนพิรอดหัวราหูที่นิวชี้มือซ้าย ซึ่งเป็นแหวนจากวัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ที่พระอาจารย์ประจวบ หมอด้านคาถาอาคมมอบให้เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่พล.อ.ประยุทธ์ล่องใต้ช่วยผู้สมัครหาเสียง แหวนพิรอดดังกล่าวมีพุทธคุณเรื่องแคล้วคลาด คุ้มกันภัย และเมตตามหานิยม และโบราณว่าหากสวมที่นิ้วชี้จะเป็นการ เพิ่มอำนาจ เพิ่มบารมี ผู้นำ ผู้บริหาร ชี้ชัด จัดการ นำองค์กร ธุรกิจ โตก้าวหน้า
อ้อนอย่าทิ้งกัน-เมินก.ก.ฟีเวิอร์
เวลา 16.30 น. ที่ใต้สะพานพระราม 8 กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติจัดเวทีปราศรัย “รวมพล คนเบอร์ 5” หาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เบอร์ 5 ของพรรค ได้แก่ น.ส.รัดกล้า สุวรรณคีรี เขต 33 นายอิทธิพันธ์ เศรษฐยุกานนท์ เขต 32 และนายประเวช แสวงสุข เขต 31
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง กล่าวปราศรัยคนแรกว่า สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ทำไว้ในพื้นที่กทม. เช่น เรือไฟฟ้าทั้งหมด 12 ลำ เพื่อให้ พี่น้องประชาชนชาวกทม.และปริมณฑลได้ใช้ รถไฟฟ้าชัตเติลบัส และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำเร็จและเป็นพื้นที่ที่สวยงามเพราะรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์
อุโมงค์ลอดท้องสนามหลวงและลอดถนนหน้าพระลาน จากฝั่งกรมศิลปากรมาโผล่ ณ ริมกำแพงวัดพระแก้ว ใกล้ประตูมณีนพรัตน์ ซึ่งเป็นประตูเข้าวัดพระแก้ว เป็นความคิด ของพี่ตู่ที่ให้กรุงเทพมหานครไปจัดสร้าง เพราะเกรงเรื่องปัญหาอุบัติเหตุที่พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวข้ามถนนและเกิดอันตรายขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้ารทสช. กล่าวว่า ประเทศไทยนอกจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจแล้วยังมีปัญหาเรื่องการล้มชาติ ล้มแผ่นดิน ที่แทรกอยู่ในการเมืองขณะนี้ การเมืองเป็นของพี่น้องประชาชนทุกคน ที่จะต้องช่วยกันดูแลและช่วยกันให้ประเทศชาติ เดินไปข้างหน้าเพื่อความมั่นคง
เวลา 18.40 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปราศรัยว่า รทสช.ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ แล้วทำต่อไป พวกเราคนไทย บางวันตนทำหน้า ไม่หล่อก็อย่าโกรธ ตนรักทุกคน อย่าทิ้งตน ตนทำเพื่อทุกคนอยู่ด้วยความจริงใจ ไปไหนตนก็ไหว้ขอพรทุกที่ ให้พี่น้องประชาชนให้อยู่ดีมีสุข บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า มีความรักสามัคคีกันทั้งประเทศชาติ ถึงจะเดินไปข้างหน้า ด้วยความมั่นคง และเจริญรุ่งเรือง ตนทำมาหมดแล้วทางรถ ทางเรือ ขอให้ช่วยกันรักษาให้ลูกหลานได้ใช้ไปนานๆ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะไม่มีความบาดหมาง จะมีความสามัคคี ความบาดหมางจะไม่เกิดขึ้นอีก ในประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณ พี่น้องชาวกทม.ทั้ง 33 เขต วันนี้ตนได้นำ ผู้สมัครส.ส.รทสช.มาพูดคุยกับประชาชน และถือเป็นครั้งแรกที่ตนมาขึ้นเวทีในกทม. ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นกำลังใจที่จะให้ ตนทำงานต่อไป มั่นใจว่าตัวแทนจากพรรค จะได้รับเลือกเป็นส.ส.กทม.และเราจะพยายามทำให้ได้มากที่สุด ขอให้ช่วยกันบอกปากต่อปาก เมื่อถามว่าโค้งสุดท้ายในการหาเสียงจะปรับกลยุทธ์อะไรหรือไม่ เพราะกระแสพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มาแรง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เดี๋ยวเขา คงมีการคุยกัน ส่วนโพลก็เป็นเรื่องของโพล”
‘ธนกร’เชื่อผลโพลอาจมีไอโอ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนัก นายกฯ รองหัวหน้ารทสช. ให้สัมภาษณ์ถึง ผลโพลต่างๆ ที่ออกมาในช่วงนี้ว่า วันนี้ โพลต่างๆ ออกมามากมาย ซึ่งมีโพลที่ทำให้พรรคการเมืองบางพรรคมีกระแสความนิยมสูง ตนเชื่อว่าผลโพลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราต้องมีการปรับกลยุทธ์ในช่วงโค้งสุดท้าย ตนเชื่อในการลงพื้นที่ต่างๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก เช่น ในพื้นที่ ภาคใต้ที่เราขึ้นรถแห่ไป 10 บ้าน มี 9 บ้าน ที่ออกมาเชียร์ ส่วนใหญ่เป็นคนอายุ 40 ปีขึ้นไป วันนี้อยากให้พี่น้องคนไทยที่มีความรักชาติ รักประเทศ แสดงพลังออกมา ช่วยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป เชื่อว่าหากสถานการณ์การเมืองเป็นแบบผลโพลที่ออกมา บ้านเมืองจะไปต่อได้ยาก และถ้ามีบางพรรคการเมืองเป็นรัฐบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะโครงสร้างในการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอันตรายมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเวลาที่เหลือมีวิธีที่จะทำให้ รทสช.ตีตื้นคะแนนขึ้นมาได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ถ้าเราลงพื้นที่จะรู้ว่าคะแนนดีขึ้นเรื่อยๆ ตนไม่เข้าใจผลโพลว่ามีไอโอหรือเปล่า หรือมีอะไรอย่างที่เป็นข่าว โดยเฉพาะในโซเชี่ยล มีเดียที่มีการสะวิงอย่างผิดปกติ สิ่งที่เราลงพื้นที่ เราสัมผัสได้ในความรักของพี่น้องประชาชน ตนอยากให้คนไทยแสดงพลังฝ่าผลโพล ไปให้ได้ ตนเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ ความรักชาติ ความซื่อสัตย์สุจริตของท่าน ในการที่จะพาประเทศเดินไปข้างหน้า โดยในโค้งสุดท้ายได้คุยกับหัวหน้า รทสช.ว่าจะมีการปรับยุทธศาสตร์ในการ เลือกตั้งบ้าง จะมีการปราศรัยในพื้นที่ภาคใต้ และกทม. ซึ่งโค้งสุดท้ายเชื่อว่าเรายังมีโอกาสอยู่
ต่อข้อถามว่า ที่ระบุว่า ผลโพลสะวิงแปลกๆ นั้นแปลกอย่างไร นายธนกรกล่าวว่า จากการที่ตรวจสอบพบว่าสะวิงแบบผิดปกติ ตนไม่แน่ใจ ว่าจะมีกระบวนการในการดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ แต่ของ รทสช.เป็นไทยแท้ เพราะเราลงพื้นที่หาเสียงกับประชาชน
ปลุกคนทุกวัยช่วยลุงตู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวทีปราศรัยของ ก.ก. มีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฟังจำนวนมากจนเกิดกระแส ฟีเวอร์ นายธนกรกล่าวว่าไม่เป็นไร เพราะการบริหารประเทศจะไปยึดติดตามกระแส ไม่ได้ ไม่ใช่เด็กเล่นขายของเราต้องใช้คนที่มีประสบการณ์ในการทำงาน เพราะประเทศชาติสำคัญที่สุด ฉะนั้นอย่าทำให้ นำไปสู่การเปลี่ยน แปลงโครงสร้างของประเทศ หรืออะไรบางอย่าง เราต้องประคับประคองให้ประเทศไปต่อไป ให้ได้ เราเป็นห่วงหากกระแสเป็นเช่นนั้น
ตนอยากให้น้องๆ เยาวชนได้คิดว่ารุ่นเก่า รุ่นกลาง แนะนำเรามานั้นมีแต่สิ่งดีๆ ให้กับประเทศ เราไม่ได้ไปบอกว่าคนรุ่นใหม่ไม่ดี เพราะคนทุกรุ่นมีความสำคัญในการบริหารประเทศ แต่จะต้องผสมผสานกัน สร้างความสมดุลให้ได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่อันตราย อยากให้ทุกคนแสดงพลังผ่านการเลือกตั้งช่วยพี่ตู่ ช่วยลุงตู่
เมื่อถามว่าช่วงโค้งสุดท้ายจะปรับกลยุทธ์อะไรเพื่อดึงคนรุ่นใหม่ให้มาเลือก รทสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร นายธนกรกล่าวว่า ตนอยากให้คนรุ่นใหม่ออกมาช่วย เรามีคุณพ่อ คุณแม่ คุณตาคุณยาย ก็ให้ไปถามเขาว่าประเทศ เดินหน้ามานานแล้ว การที่จะเปลี่ยนแปลง ในช่วงเวลาหนึ่ง ควรที่จะค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า จึงอยากให้ช่วยประคับประคองประเทศ ให้เดินหน้าไปให้ได้ เชื่อว่าทุกคนมีความสุขที่บ้านเมืองมีความสงบ การพัฒนาก็มีความก้าวหน้าไม่ใช่ล้มเหลว ที่ฝ่ายค้านออกมาพูดเป็นตรรกะที่ไม่ใช่เรื่องจริง เราเห็นเรารู้อยู่แก่ใจ ในสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำมาเพื่อประคับประคอง ประเทศให้เดินหน้าไปก่อน อย่าให้มีการเปลี่ยนแปลงในเวลานี้เลย
‘บิ๊กป้อม’ฟิตเดินตลาด-บุกภูเก็ต
เมื่อเวลา 12.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ตลาดบองมาร์เช่ เขตจตุจักร กทม. เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน และนั่งรับประทานอาหารที่ฟู้ดคอร์ต โดยสั่งก๋วยจั๊บร้านคุณต๋อย หมูทอดชาววัง เจ้าเก่าวังหลังศิริราช ก๋วยเตี๋ยวแห้งหมู ข้าวมันไก่ ซั่งไห่ ระหว่างนั้นมีประชาชนและแฟนคลับมาขอถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชียร์ให้ “ลุงป้อมสู้ๆ” แฟนคลับบอกลุงป้อมว่าเลือก พปชร.อยู่แล้ว ขอให้ลุงป้อมได้เป็นนายกฯ คนที่ 30
นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าได้ขอให้ลุงป้อม มาถ่ายรูปกับพ่อค้าแม่ค้าที่หน้าร้านของตนเอง โดยบอกว่าถ้าลุงป้อมมาถ่ายรูปที่หน้าร้าน ของตนเองจะได้ขายดี โดย พล.อ.ประวิตรก็ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้ด้วยความเป็นกันเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และได้ฝากให้เลือก พปชร.
เวลา 17.00 น. พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ปราศรัย ใหญ่ที่อาคารโรงยิม 4,000 ที่นั่ง (สะพานหิน) จ.ภูเก็ต โดยมีแกนนำพรรคคือ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ร่วมปราศรัยหาเสียง ให้ผู้สมัครทั้ง 3 เขตคือ นายจิรายุส ทรงยศ เขต 1 นายสุทา ประทีป ณ ถลาง เขต 2 และนายนัทธี ถิ่นสาคู เขต 3
เวลา 17.00 น. ที่วัดพระทอง ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พล.อ.ประวิตร พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพปชร. มาสักการะหลวงพ่อพระทอง (พระผุด) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชาของชาวภูเก็ต ที่ส่วนใหญ่ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน เมื่อผู้สื่อข่าว ถามว่าได้ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน หรือขอให้เป็นนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ ขอเรื่องสุขภาพแข็งแรงอย่างเดียว ถ้าแข็งแรง ก็เป็นได้อยู่แล้ว”
เวลา 17.35 น. พล.อ.ประวิตรเดินทาง มาที่ถนนถลาง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต พบปะประชาชน นักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้า แล้วแวะสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิม (ไหหลำ) เพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นไปปราศรัยใหญ่ที่อาคาร โรงยิม 4000 ที่นั่ง (สะพานหิน) จ.ภูเก็ต หาเสียง ให้ผู้สมัครทั้ง 3 เขตคือ นายจิรายุส ทรงยศ เขต 1 นายสุทา ประทีป ณ ถลาง เขต 2 และนายนัทธี ถิ่นสาคู เขต 3 ซึ่ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มั่นใจว่ายกทั้ง 3 เขตแน่นอน
ยกจังหวัด – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย แกนนำพรรคเดินสายพบปะประชาชนชาว จ.กระบี่ มั่นใจได้รับเลือกตั้งยกจังหวัดทั้ง 3 เขต เมื่อวันที่ 5 พ.ค.
‘จุรินทร์’ยันพาชาติรอด
เวลา 18.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ร่วมปราศรัยใหญ่ ชู 3 ผู้สมัครส.ส.กระบี่ทั้ง 3 เขต คือ เขต 1 นายธนวัช ภูเก้าล้วน (เคี่ยง) เบอร์ 3 เขต 2 นายสาคร เกี่ยวข้อง เบอร์ 5 และเขต 3 น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล เบอร์ 5 นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อร่วมขึ้นเวที อย่างคับคั่ง อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธาน คณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย
นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่กระบี่เป็นห่วงอย่างเดียว คือเรื่องเงิน แต่บอกไปแล้วว่า “ไม่ต้องห่วง มันมาแน่ หมายถึง มันนี่ มันมาแน่” แต่คนกระบี่บ้านเรามีศักดิ์ศรี อย่าให้ใครซื้อได้ คนกระบี่จะกินเหยื่อแต่ไม่กินเบ็ด การเลือกตั้งเที่ยวนี้คือการเลือกอนาคตของประเทศ ถ้าพี่น้องเลือกปชป.ตนยืนยันว่าพาเศรษฐกิจประเทศรอดแน่นอน ถ้านายจุรินทร์เป็นนายกฯ ตนยืนยันพาส่งออกรอด พาการท่องเที่ยวรอด และพาประเทศรอดทางเศรษฐกิจแน่นอน แต่เก่งเศรษฐกิจอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีข้อ 2 กำกับด้วย คือต้องไม่มีการทุจริต คอร์รัปชั่น บางพรรคแก้เศรษฐกิจเก่งแต่โกง สุดท้าย ยึดอำนาจ ถ้าเลือกปชป.เราพาเศรษฐกิจรอดและพาประชาธิปไตยรอด จะไม่มีการปฏิวัติด้วยเหตุผลอย่างที่ผ่านมา เพราะปชป.ไม่โกง
ปชป.ไม่รบกับใคร แต่รบกับ 2 เรื่อง 1.การทุจริต คอร์รัปชั่น และ 2.รบกับยาเสพติด รบกับกัญชา ปชป.เอากัญชาทางการแพทย์ อ แต่ไม่เอากัญชาเสรี นี่คือจุดยืนที่ชัดเจน ดังนั้น ขอให้พี่น้องเลือกปชป.ยกทีม ทั้งบัตรสีม่วง เลือกผู้สมัครส.ส.ของปชป.ในพื้นที่ และบัตรสีเขียวเลือกเบอร์ 26 ปชป.สัญลักษณ์พระแม่ธรณีฯ
‘องอาจ’ชี้รบ.เสียงข้างน้อยเกิดยาก
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคและทีมโฆษกประจำศูนย์เลือกตั้งปชป.เผยว่า ในวันที่ 6 พ.ค. นายจุรินทร์พร้อมแกนนำ พรรค ลุยหาเสียงที่ จ.นครศรีธรรมราช พบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดสดเทศบาลทุ่งสง อ.ทุ่งสง และเปิดปราศรัยใหญ่ในช่วงเย็น วันเดียวกัน บริเวณสนามหน้าเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พรรคส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 10 เขต และเป็นอีกจังหวัดที่พรรคคาดหวังว่าจะได้ส.ส.ครบทุกเขต
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าปชป. ดูแลกทม. กล่าวถึงความเห็นของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ชี้ช่องว่ามีโอกาส ที่รัฐบาลเสียงข้างน้อย สามารถจัดตั้งได้ว่า ความเห็นของนายวิษณุ น่าจะเป็นในทางทฤษฎี มากกว่า แต่ในทางปฏิบัติจริงหลังการเลือกตั้งพรรคต่างๆ คงพยายามรวบรวมเสียง ส.ส.ให้ได้ เสียงข้างมาก คือมากกว่า 250 เสียง ถ้าพรรคเสียงข้างน้อยพยายามจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยหวังให้ ส.ว. ช่วยออกเสียงให้ได้เป็น นายกฯ แล้วจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่อาจทำหน้าที่รัฐบาลได้ไม่นาน
“พรรคที่พยายามจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ควรคำนึงถึงความชอบธรรมทางการเมือง และกระแสสังคมที่อาจไม่ยอมรับการกระทำของพรรคที่ฝืนความรู้สึกของสังคม จนอาจก่อให้เกิดปัญหาทางการเมืองขึ้นมาได้ ฉะนั้นการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจึงเป็นเรื่อง ที่น่าจะเกิดขึ้นได้ยาก หลังการเลือกตั้งครั้งนี้” นายองอาจกล่าว
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) แคนดิเดตนายกฯ กล่าวว่า มักได้ยินคำถามเสมอว่าเราอยู่ฝั่งไหน ซ้ายหรือ ขวา เราตอบไม่แบบอายว่า เรามองข้ามขั้วการเมือง แต่มาสู้กับเรื่องปัญหาปากท้องประชาชน ไม่ตั้งเงื่อนไขให้สังคม “เรามีจุดยืนชัดเจนว่าไม่พร้อมร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ต้องอาศัยเสียง ส.ว.มาเลือกนายกฯ เราถูกปรามาสเสมอว่าเราพร้อมเสียบ ซึ่งต้องบอกว่า ถ้าเป็นพรรครอเสียบก็ต้องสงวนปากสงวนคำอยู่นิ่งๆ ไม่พูดเรื่องใหญ่ ไม่ท้าทายใคร แต่เราสู้ กับทุนใหญ่ ทุนผูกขาดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่า น้ำมัน ค่าไฟ ที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งสวนทางกับพรรครอเสียบ“
พท.ขู่ฟ้องกลับภูมิใจไทย
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค น.ส.ลิณธิภรณ์ วรินวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค รักษาการโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวแสดงจุดยืนการเมืองไทยต้องไม่เหมือนปี 2562 ประชาชนต้องมีทางออก
นายประเสริฐกล่าวกรณีผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พท.ว่า 1.การพูดของนายเศรษฐาบนเวทีปราศรัยเป็นเรื่องปกติในการหาเสียง วิเคราะห์ว่าต้องเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ ถ้าเลือกพรรคอื่นอาจทำให้ลุงอยู่ต่อ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต 2.เรื่องกัญชา พท.ไม่เอากัญชาเสรี เอากัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น 3.การแจ้งความดำเนินคดีถือเป็นสิทธิ์ แต่ยืนยันว่าสิ่งที่นายเศรษฐาพูด ไม่มีเนื้อหาตอนใดที่ผิดกฎหมายเลย ถ้ามีการไปแจ้งความทั่วประเทศจริงตามข่าว เป็นการแก้เกี้ยวหรือกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ เป็นการใช้สิทธิ์ โดยสุจริตหรือไม่ ผลเสียจะเกิดกับผู้แจ้งเอง และถ้าแจ้งเท็จจะโดนฟ้องกลับแน่
4.ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าภท. พูดว่า ส.ส.ในพท.ส่ายหน้าจากการปราศรัยของนายเศรษฐานั้น ไม่เป็นความจริง เป็นการ ดิสเครดิตโดยไม่มีมูลความจริง ตรงข้าม พท. รวมทั้งผู้สมัคร ส.ส.ยืนเคียงข้างเชื่อมั่น นายเศรษฐา มั่นใจว่าจะพาพท.ชนะแลนด์สไลด์ 5.นายเศรษฐามีบุคลิกนอบน้อมให้เกียรติผู้อื่น หลีกเลี่ยงการโจมตีในทางลบต่อพรรคอื่น
ส่วนกรณีนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ภท.ระบุนายเศรษฐาเป็นแค่นักแสดง มาช็อปปิ้งท้ายที่สุดแล้วอาจไม่ได้เป็นนายกฯ ของพรรคนั้น นายเศรษฐาเข้ามาทำงานใน พท. เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และมีส่วนร่วมในการทำนโยบายของพรรค ไม่ใช่เข้ามาตอนใกล้เลือกตั้ง แคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนของเราพร้อมเป็นนายกฯ ทั้งหมด
ยก‘เสี่ยนิด’ฝีมือเทียบชั้น‘โทนี่’
ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า การวิจารณ์ลักษณะนี้จำเป็นต้องมีข้อมูล ไม่ใช่ตนนั่งคิดไปเองแล้วมาเที่ยววิจารณ์คนอื่นให้เสียหาย การที่บอกว่าแคนดิเดตนายกฯ ของ พท.เป็นแค่หุ่นเชิดนั้น ต้องกลับไปย้อนดูแคนดิเดตของตนเองว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ แล้วค่อยมาดูว่าคนอื่นเขาเป็นอย่างไร
ต่อมานายภูมิธรรมโพสต์เฟซบุ๊กว่า ตลอดเวลา นับตั้งแต่นายเศรษฐาเปิดตัวทำงานร่วมกับพท. ตนได้เห็นความทุ่มเท ความมุ่งมั่นในการลง พื้นที่เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติ ที่สำคัญมากประการหนึ่งของคนที่อาสาเข้ามาเป็นนักการเมือง เมื่อพูดคนจะฟัง เมื่อลงมือทำคนจึงจะเชื่อ นายเศรษฐาพิสูจน์ความเป็นนักการเมืองของตัวเองด้วยการลงมือทำ
การที่นายเศรษฐาวางมือจากธุรกิจเข้ามาอาสาเป็นทีมเพื่อไทยในฐานะแคนดิเดตนายกฯ เป็นความภาคภูมิใจของพรรค และเป็นกำลังใจ ให้กับสมาชิกพรรคที่ได้คนมีความสามารถ มีวิสัยทัศน์อย่างนายเศรษฐามาร่วมเป็น ผู้นำที่เข้มแข็ง ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไปด้วยกัน และคิดว่าเป็นเรื่องดีของการเมืองไทย ที่จะได้คนซึ่งมีทั้งภูมิรู้ ภูมิปัญญา รวมทั้งประสบการณ์ ในการบริหารจัดการเข้ามาร่วมกัน ขับเคลื่อนประเทศไทยให้ขึ้นจากหลุมดำ พร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าเหมือนในอดีตที่เราเคยมีนายกฯ จากนักธุรกิจ อย่างนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้พิสูจน์ฝีมือสร้างคุณูปการให้สังคมไทยมาถึงวันนี้
เปิดแคมเปญโค้งสุดท้าย
ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพท. และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค รักษาการโฆษกพรรคและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ปี 2566 “เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทย เปลี่ยนทันที”
นายประเสริฐกล่าวว่า พท.พร้อมสู่การเลือกตั้ง ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เต็มที่ 100% ทั้งผู้สมัคร ส.ส.เขต และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก่อนการเลือกตั้งในอีก 9 วัน พท.จัดกิจกรรม “เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” ที่ลานพาร์คพารากอนในช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ค. เพื่อตอกย้ำถึงความพร้อมของพรรค ความตั้งใจของผู้สมัคร ส.ส.และ 3 แคนดิเดต นายกฯ จาก พท.ใช้เวลาในการคิดค้น ศึกษา สร้างนโยบายร่วม 70 นโยบาย
ด้าน นายเผ่าภูมิกล่าวว่า โค้งสุดท้ายก่อนการ เลือกตั้ง พท.พร้อมทำประเทศไทยเปลี่ยนทันที ในส่วนของด้านเศรษฐกิจประกอบด้วย 7 ฉากใหม่ประเทศไทยด้วย 70 นโยบาย ได้แก่ 1.ฉากใหม่การลงทุนไทย 2.ฉากใหม่เศรษฐกิจดิจิทัลไทย 3.ฉากใหม่การศึกษาและแรงงานไทย 4.ฉากใหม่คมนาคมไทย 5.ฉากใหม่ ท่องเที่ยวไทย 6.ฉากใหม่การเกษตรไทย 7.ฉากใหม่ความเท่าเทียมไทย
น.ส.ขัตติยากล่าวว่า พท.ยังเปลี่ยนป้ายประชาสัมพันธ์ทุกจุดทั้งแบ๊กดร็อป ห้องแถลงข่าว และสื่อต่างๆ ภายในที่ทำการพรรคเป็นแคมเปญ ใหม่ทั้งหมด พร้อมเปิดตัวคลิป 9 แนวคิด เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เพื่อการเปลี่ยนแปลง ทันทีใน 9 ด้าน นอกจากนี้ แคนดิเดตนายกฯ พท.และผู้สมัคร ส.ส. ยังพร้อมใจกันเปลี่ยนกรอบรูปโปรไฟล์โซเชี่ยลมีเดีย ตอกย้ำเบอร์ 29 โดยพร้อมเพรียงกัน พี่น้องประชาชนสามารถเปลี่ยนกรอบรูปโปรไฟล์ได้ที่ https://twb.nz/votepheuthailandslide
‘อุ๊งอิ๊ง’คุยใจเกินร้อย
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ลานสยามพารากอน พท.จัดกิจกรรม “แลนสไลด์ ไปเปลี่ยนชีวิตคนเมือง : จากการเดินทางสู่การสร้างมหานครเพื่อคนไทย” ให้ผู้สมัครส.ส.กทม.พท.ทั้ง 33 คน และแกนนำพรรคเดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วยขนส่งมวลชนภายในเวลา 1 ชั่วโมง 29 นาที โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พท.เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสมาร่วมกิจกรรม มีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มารอพบเพื่อสอบถามแนวคิดเกี่ยวกับกัญชา ซึ่งได้รับคำยืนยันไม่เอากัญชาเสรีแน่นอน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พท. ปราศรัยผ่านระบบซูมว่า ตนอยากมาร่วมงาน ที่จัดขึ้น วันนี้ร่างกายใกล้เต็มร้อย แต่ใจเกินร้อย ไปแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกำหนดชะตาฝ่ายประชาธิปไตย พท.เสนอทางออกตามระบอบประชาธิปไตย เอาชนะระบอบที่ไม่เป็นธรรม ที่เสนอให้พท.แลนด์สไลด์เพราะต้องการชนะ 250 ส.ว. ให้ส.ส.จากพท.ได้เลือกนายกฯ ที่มาจากพท. นโยบายของเราคิดใหญ่เสมอ เพราะถ้าคิด ไม่ใหญ่เอาไม่อยู่ ปัญหาที่เจอกันทุกวันนี้ทำให้ไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออกในการทำมาหากิน ถ้าพท.แลนด์สไลด์ประเทศเปลี่ยนทันที และกทม.จะเป็นมหานครแห่งโอกาส
เราต้องช่วยกันทำโอกาสและความฝัน ให้เป็นจริงให้ได้ ลูกหลานจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตจากประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้นวันที่ 14 พ.ค. จะไม่เก็บเกี่ยวผลไม้พิษจากรัฐประหารอีกแล้ว เราอยากทำให้ทุกความต้องการของคนไทยเป็นจริงได้ภายใต้รัฐบาลของพท. 14 พ.ค.นี้ ขอให้เลือกพท.ทั้งสองใบ เราพร้อมแล้ว ที่จะรับใช้ประชาชน
นายกฯที่30 – นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีประกาศความพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 ในกิจกรรม ‘เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศ ไทยเปลี่ยนทันที’ ที่ลาน พาร์คพารากอน สยามพารากอน เมื่อวันที่ 5 พ.ค.
‘เศรษฐา’พร้อมนั่งนายกฯ
ด้านนายเศรษฐากล่าวว่า ถ้าพท.ได้เป็นรัฐบาลมีหลายอย่างที่เราจะทำ ผู้นำที่มาจากพท.มีความพร้อม มีความตั้งใจในการแก้ปัญหา ตนเคยถูกถามถ้าได้เป็นนายกฯ อย่างแรกที่จะทำ คืออะไร จะทำอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำหลายอย่าง ปัญหาปากท้องเป็นปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อน 8 ปีที่ผ่านมาเรามีผู้นำที่ไร้หัวใจ ไม่เข้าใจความยาก ลำบากของประชาชน ค่าไฟต้องจัดการทันที ค่าแรงขั้นต่ำจะขึ้นทันที ทุกคนต้องมีสิทธิพื้นฐาน ในการเลือกอาชีพ ลูกหลานของเราต้องไม่ถูกบังคับให้เกณฑ์ทหาร
วันนี้ตนมีความพร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย ตนมายืนตรงนี้ มาที่นี้ อยากเป็นนายกฯ ที่นำซึ่งความเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ไม่เป็นดีกว่า ตนจะเป็นนายกฯ ที่จะนำมาซึ่งอนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานทุกคน ประสบการณ์ 30 ปีในวงการธุรกิจสร้างบริษัทจนเป็นแนวหน้า ของประเทศ ตนมีความพร้อม
“ผมมาอยู่ พท.ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วันนี้ พท.มีทั้งคนที่มีประสบการณ์ มีคนรุ่นใหม่ ที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง 4 ปีที่แล้วเราพลาดไป 17 ที่นั่ง เป็นจุดเปลี่ยนประเทศที่ทำให้ประเทศตกสู่หลุมดำ จนทำให้จนแล้ว จนอยู่ จนอีก วันที่ 14 พ.ค. พท.พร้อมทุกมิติ เป็นวันคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนคนไทย ทุกคน นโยบายดีๆ ที่พูดไปจะเป็นไปไม่ได้ถ้าพท.ไม่ได้รับการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์” นายเศรษฐากล่าว
‘เต้น’ส่งซิกจับมือก.ก.ตั้งรบ.
เวลา 14.30 น. ที่ตลาดอู้ฟู่ ริม ถ.มิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำพรรค ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ของพรรค มีประชาชนรับฟังกว่า 5,000 คน
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ผลโพลล่าสุดวันนี้ระบุชัดเจนแล้วว่า พท.จะได้ส.ส.เขตมากเกือบ 250 คน ถ้าเป็นเช่นนี้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจะได้เพิ่มขึ้นมาอีก แสดงให้เห็นว่า พท.พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ชัดเจนที่สุด รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม มาพูดถึงสูตรการจัดตั้งรัฐบาลแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีการวางแผน ทางการเมืองไว้แล้ว และพยายามที่จะตั้งรัฐบาล เสียงข้างน้อยปี 2562 ที่ผ่านมาเราได้ส.ส.เสียงข้างมากแต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เลือกตั้งครั้งนี้ คนทั้งประเทศต้องเลือกพท.ให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ไปแพ้เสียงส.ว.ที่เขาวางไว้แล้ว
พรรคยืนยันชัดเจนว่าเมื่อได้ส.ส.เยอะที่สุดและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกฯ ต้องเป็นคนของพท.เท่านั้น นโยบายหลักในการบริหาร ประเทศต้องเป็นของพท.เท่านั้น ซึ่งพท.กับก.ก. ทำงานด้วยกันมานาน และอยู่ในฝั่งประชาธิปไตย ที่เหนียวแน่น ดังนั้น พรรคฝั่งประชาธิปไตยจะเป็นแกนนำหลักจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น
“วันนี้คุณทักษิณ ชินวัตร อยากกลับบ้านมาเลี้ยงหลานแล้ว ซึ่งเป็นความต้องการของครอบครัว ท่านเหงาและเป็นความต้องการของผู้สูงอายุที่อยากกลับบ้านมาเลี้ยงหลานที่ มีถึง 7 คน โดยไม่มีนัยยะการเมืองใดๆ และจะมาตอนไหน เวลาใดยังบอกไม่ได้” นายณัฐวุฒิกล่าว
‘ธนาธร’แย้มจอง 4 กระทรวง
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง พรรคก้าวไกล ร่วมหาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.ก.ก. ต่อเนื่องในภาคอีสาน โดยช่วงเช้าเริ่มต้นที่ จ.มหาสารคาม ร่วมเวทีปราศรัยขนาดย่อมที่สวนสุขภาพ อ.เมือง กับผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 6 เขต จากนั้นไปยัง จ.ร้อยเอ็ด ร่วมเวที ปราศรัยที่ อ.โพธิ์ชัย และอ.เมือง
นายธนาธร กล่าวว่าวันนี้บนกระดานการเมืองมีหลายพรรคและหลายข้อเสนอสำหรับประเทศไทย บางพรรคต้องการพาประเทศไทยถอยหลัง บางพรรคไม่ต้องการให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปเลย บางพรรคก็เสนอแค่แก้ปัญหาเรื่องปากท้องก่อน แต่สำหรับก.ก. เสนอว่าเราสามารถแก้ปัญหาการเมืองที่ยากๆ ไปพร้อมกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และนี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำเช่นนั้น
“ถ้านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าก.ก. เป็นนายกฯ รัฐบาลก.ก.จะทำหลายเรื่องพร้อมกัน กระทรวงพาณิชย์เอาสินค้าเกษตรไปขายต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับ ยุคสมัย กระทรวงอุตสาหกรรมสร้างอุตสาหกรรม เทคโนโลยีใหม่ให้ลูกหลานมีงานที่ดี กระทรวง กลาโหมไปปฏิรูปกองทัพไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีกในอนาคต ทำหลายเรื่องพร้อมกันได้ ไม่ต้องทำทีละเรื่อง นี่คือข้อเสนอที่เราวางอยู่บนโต๊ะให้ทุกคน” นายธนาธรกล่าว
ที่จ.สมุทรปราการ พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัยใหญ่สมุทรปราการ มีประชาชนมาฟังจำนวนมาก โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค กล่าวว่า คราวที่แล้วสมุทรปราการ มาเป็นที่สอง มาครั้งนี้จะเป็นที่หนึ่งให้ได้ยกจังหวัดทั้ง 8 เขต ตนขออนุญาตเปลี่ยนชื่อถนนบางนาตราดของสมุทรปราการเป็นถนนแห่งประชาธิปไตย นอกจากนี้จะต้องก้าวไกล ทั้งแผ่นดิน ตนเป็นนายกฯเมื่อไหร่ พี่น้อง ชาวสมุทรปราการ ได้เลือกตั้งผู้ว่าฯแน่นอน อีก 9 วัน ก.ก.จะไม่แผ่ว มีแต่เร่งๆ สู่อนาคตของพวกเรา
เสียงอีสาน – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ตระเวน หาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส.ในภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางชาวบ้านให้การต้อนรับ อย่างอบอุ่น ที่จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.
‘เจ๊หน่อย’ลุยอีสานต่อเนื่อง
วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) เดินสายเปิดปราศรัย ในภาคอีสานเป็นวันที่ 5 ที่ต.โนนศิลาเลิง ต.เหล่ากลาง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ผู้สมัครส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตนทราบดีว่า พี่น้องชาวอีสาน รวมถึงพี่น้องกาฬสินธุ์ รอคอยความหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความเบื่อหน่ายจากปัญหาการเมือง 2 ขั้ว ที่สร้างความขัดแย้ง แตกแยกให้กับประเทศ ทำให้ประเทศไทยไม่เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา จึงเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น และในอนาคตเห็นว่าหากพี่น้องยังเลือกคู่การเมืองเดิม พรรคการเมืองเดิม ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง 2 ขั้ว จะรุนแรงและใหญ่กว่าเดิมไม่มีทางจบสิ้นได้ ท้ายที่สุดจะเปิดช่องให้เกิดการรัฐประหารทำประเทศถดถอยอีกครั้ง
ดังนั้นหากพี่น้องชาวอีสาน พี่น้องกาฬสินธุ์ เบื่อลุง เบื่อความขัดแย้ง เบื่อความวุ่นวาย โปรดเลือกทสท.ทั้งสองใบ ขอให้คำมั่นว่า แม้เราจะเป็นพรรคใหม่ แต่เราทำงานอย่างจริงจัง จริงใจ โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์เป็นแม่ทัพ และมีประสบการณ์ทำงานยากๆ สำเร็จมาแล้ว เช่น นโยบายบำนาญ 3,000 บาท ที่เป็นอีกหนึ่งความหวังของพี่น้องประชาชน ซึ่งจะสร้างความมั่นคงให้กับผู้สูงวัย ทำให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาระลูกหลาน และช่วยฟื้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ซึ่งทสท.ได้เสนอกฎหมายนี้เข้าสู่สภาแล้ว รอเพียงพี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจ เลือกตัวแทนจากทสท.เข้าไปสนับสนุนกฎหมาย ก็จะสำเร็จเป็นรูปธรรม
หลังจากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์เปิดเวทีปราศรัยที่จ.นครพนม
เช็กชื่อ – ผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคก้าวไกลทั้ง 33 เขต เริ่มแคมเปญ ‘ถนนทุกสายมุ่งสู่ทำเนียบ ฟาดเรียบทุกสี่แยก’ ปราศรัยบริเวณสี่แยกสำคัญในกทม.ช่วงเวลา 07.00 น. โดยพร้อมเพรียงกันทุกเขต พร้อมกับเชิญชวนประชาชนตรวจสอบหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลทั่วประเทศ จากน.ส.พ.ข่าวสดและมติชน ฉบับวันที่ 5 พ.ค.
กกต.พร้อมเลือกตั้งล่วงหน้า 7 พ.ค.
วันเดียวกัน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ลงพื้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม. ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ในวันที่ 7 พ.ค. และให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับหีบบัตร อุปกรณ์เลือกตั้ง แต่ละจังหวัดมารับไปแล้ว และเก็บไว้ในที่ปลอดภัย โดยกระจายลงหน่วย เลือกตั้งนอกเขตในวันที่ 6 พ.ค. ขอให้ประชาชน สบายใจ เรามีระบบความปลอดภัย ต้องมีการลงทะเบียน การเบิกอย่างชัดเจน
ส่วนหลังเลือกตั้งเสร็จจะคัดแยกที่สำนักงาน ไปรษณีย์ด้วยลักษณะวิธีการแบบเดียวกัน กับการคัดแยกบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร คือ มีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย จากกกต. สถานกงสุล และไปรษณีย์ ที่ต้องถือเอกสารตรวจสอบคนละใบ ตรวจสอบจำแนกบัตรแล้วจะต้องเซ็นกำกับ ก่อนส่งต่อไปนับที่เขตเลือกตั้งของประชาชนผู้มีสิทธิ์พร้อมกันในวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งขณะนี้บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรส่งกลับมาถึงประเทศไทยแล้วกว่า 2 ใน 3 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมด ที่เหลืออยู่ระหว่างทางส่งถึงไทย ขณะนี้สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่ลักษณะบัตรดี บัตรเสียออกมาแล้ว เพราะหวังว่าจะลดจำนวนบัตรเสียให้ไม่เกิน 2% จากครั้งที่แล้วมีบัตรเสีย 5%
สถานการณ์ภาพรวมการบริหารจัดการเลือกตั้งปีนี้ไม่ถือว่าเร็วไป การหาเสียงเกือบ 50 วันพรรคการเมืองหาเสียง อาจมีกระทบกันบ้าง มีการร้องเรียนเราบ้าง แต่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่มุ่งไปสู่การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. และเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ ตอนนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 87 เรื่อง ส่วนใหญ่ เป็นการซื้อเสียง หลอกลวง การกระทำของเจ้าหน้าที่ พื้นที่ที่แข่งขันเข้มข้น ซึ่งส่วนหนึ่งตรวจสอบแล้วไม่มีมูล
ส่วนกรณีที่นายปกรณ์ มหรรณพ กกต.ระบุถึงข่าวใหญ่ที่จะเกิดขึ้นใน 1-2 วันข้างหน้า ซึ่งจากวันที่แถลงข่าวถึงวันนี้ครบกำหนดเวลาแล้ว นายแสวงกล่าวว่า ยังไม่อยากชี้แจงเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวอยากรักษาบรรยากาศในการเลือกตั้ง และจัดเตรียมการเลือกตั้งให้มีความเรียบร้อยก่อน ย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มีเหตุอะไร แม้จะมี ผู้สื่อข่าวถามว่าเกี่ยวข้องกับนักการเมือง หรือพรรคการเมืองหรือไม่
