แห่เลือกล่วงหน้า กกต.เละ ล้านคนฮือถอดถอน

จี้รับผิดชอบ-ผิดพลาดซ้ำซาก เศรษฐาประกาศกลางวงแท็กซี่ ยันพท.ไม่ยก‘คมนาคม’ให้ใคร ตู่ปลุกใต้กา‘รทสช.’ถล่มทลาย

เลือกตั้งล่วงหน้าคึกคักทั่วประเทศ แต่ ‘กกต.’ โดนถล่มยับบกพร่องผิดซ้ำซาก ประชาชนล่าชื่อถอดถอนได้เกินล้านคนแล้ว บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิ์คาดถึง 70% ‘บิ๊กตู่’ ยกทัพรทสช. ล่องใต้ อ้อนเลือกรทสช.ให้ถล่มทลาย ลั่นเป็นทหารเสือ พร้อมตายตลอดเวลา แต่ไม่เคยโกหก ฉะพวกขี้โม้จะทำได้เสร็จในวันเดียว คนแห่ดูคลิปรทสช. ที่ถามคนไทย อยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม จริงหรือ ‘จุรินทร์’ เมินผลโพล ชี้ 14 พ.ค.คือของจริง ‘เศรษฐา’ พาครอบครัวเดินตลาดนัดจตุจักร-อ.ต.ก. ย้ำเลือกเพื่อไทยเปลี่ยนประเทศทันที ประกาศกลางวงผู้ให้บริการแท็กซี่ ไม่ยกกระทรวงคมนาคมให้พรรคใด ‘เจ๊หน่อย’ แฉภาคอีสาน พรรคใหญ่ซื้อเสียงดุ

รทสช.ปล่อยคลิปถามคนไทย
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เผยแพร่ คลิป “ประเทศไทย ไม่เหมือนเดิม” โดยเป็นเชิงตั้งคำถาม พรรครวมไทยสร้างชาติ ถามคนไทย “คุณอยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม จริงหรือ” ผ่านคลิป “ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” ความยาว 2.46 นาที หลายๆ ฉากในคลิป เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว หลายๆ ฉาก เป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นจริง

บางส่วนเป็นเนื้อหาบอกเล่าถึงประเด็นการหาเลี้ยงชีพของข้าราชการเกษียณ โดยมีภาพเป็นคนขอทาน เขียนป้ายขอทำทาน ให้ข้าราชการเกษียณ, ความเท่าเทียมเข้าถึงระดับครัวเรือน ที่ให้โหวตเมนูอาหารในมื้อหนึ่งของครอบครัวหนึ่ง, การยกเลิกเกณฑ์ทหาร, สิทธิเสรีภาพในร่างกายในการประกอบอาชีพ และภาพสุดท้ายเป็นภาพหญิงชรา ยกมือไหว้พร้อมสวดมนต์หิ้งพระที่ว่างเปล่า

การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะชี้ขาดว่า ประเทศไทยจะไปต่อ เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เป็นปึกแผ่น อย่างที่เป็นมาในช่วง 8 ปี หรือจะถูกฉุดให้ถอยหลังตกลงไปในหลุมดำแห่งความขัดแย้ง การ โค่นล้ม ฝ่ายที่คิดต่าง ขุดรากถอนโคน วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมอันดีงามของสังคม เป็นประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

หลังจากเผยแพร่ไปกว่า 3 ชั่วโมง มีคนสนใจเข้าไปคลิกดูจำนวนมาก พร้อมแสดงความเห็นในเชิงการเมืองเปรียบเทียบกับนโยบายของพรรคการเมืองหนึ่งที่ชูนโยบาย ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร, แก้ไขมาตรา 112 และแก้ไขประเด็นบำนาญของข้าราชการ

‘บิ๊กตู่’ล่องใต้ 3 จังหวัด
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯ รทสช. พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรค ลงพื้นที่หาเสียง 3 จังหวัด คือ กระบี่ พังงา ภูเก็ต

จุดแรก เวลา 10.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ขึ้นรถแห่หาเสียงที่ตลาดเหนือคลอง อ.เหนือคลอง เพื่อช่วยหาเสียงให้ 3 ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ นายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ เขต 1 นายสุชีน เอ่งฉ้วน เขต 2 และนายภูเบท บุตรสมัน เขต 3 มีประชาชนนำดอกไม้ มาต้อนรับและเซลฟี่อย่างคึกคัก

พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า วันนี้มาพบด้วยความคิดถึง มาเพื่อให้พวกเรารวมพลังทำ เพื่อประเทศที่เรารักยิ่งของเรา มาเห็นรอยยิ้มแล้วชื่นใจ อยู่ท่ามกลางคนที่รักประเทศชาติ เราต้องรักประเทศของเรา ทุกคนต้องช่วยรักษาสิ่งที่อยู่แล้ว รัฐบาลกำลังทำหลายๆ อย่างไปข้างหน้า แผนงานในอนาคตเรามีตรึม ที่ผ่านมาพยายามแก้ไขปัญหาอุปสรรค ถนนหนทาง และเล็กๆ ไม่ทำ แต่ใหญ่ๆ ลุงตู่ทำอีก ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำให้ถึงชาวกระบี่ เราจะรื้อเริ่มต้นทำใหม่ไหม หลายอย่างทำมาอยู่แล้วต้องทำให้ดีขึ้น ตนดูแลให้หมด

จากนั้น ชาวบ้านขอให้พล.อ.ประยุทธ์ทักทายด้วยภาษาใต้ โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนมาด้วยความคิดถึงจังฮู้ รักแรง กินข้าว หรอยแรง สงสัยต้องหาแฟนใต้สักคน บังเอิญที่บ้านไม่ยอม แต่ทั้งหมดอยู่ในหัวใจของตนอยู่แล้ว เพราะตนคือนายกฯ ของประเทศไทย

อ้อนเลือกรทสช.-ฉะพวกขี้โม้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนต้องดูแลคนทุกจังหวัดให้ได้ เรามีคน 70 ล้านคน มีเนื้อที่ประเทศไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ใจเราใหญ่ใช่ไหม ใจเราเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เราต้องเดินหน้าไปด้วยกันทุกคนทุกช่วงวัย เราดูแลหมด ตนหาเงินเพิ่มให้ได้ รัฐบาลพยายามหาเงินจากภายนอกเข้ามา ไม่ใช่หาเงินจากพวกเราและทุกบัตรทำต่อ จะเพิ่มให้ก็ต้องไปดูอีกที เพราะต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลก่อน พูดตอนนี้เดี๋ยวโดนเขาฟ้องตกเก้าอี้ไปอีก พูดส่งเดชไม่ได้ ต้องมีที่มา ตนเตรียมไว้หมดแล้วที่มาทั้งหมด

ทุกอย่างเริ่มมาสู่ความก้าวหน้า อย่าทะเลาะกัน อย่าไปเชื่อคำสัญญาที่เป็นไป ไม่ได้ ตนไม่ได้ไปก้าวล่วงใคร พ่อแม่ทุกคนรักลูก รักพี่รักน้องไหม แล้วมีใครทำให้เรา ไม่รักกันมีไหม แล้วจะร่วมมือกับเขาไหม วันนี้ขอโทษหน้าตาดีกว่าโทรทัศน์หน่อยหนึ่ง ความจริงพอใช้ได้ ไม่แก่มากนัก รักทุกคน รักจากหัวใจ รักจากใจของตน ฝากดูแล ผู้สมัครส.ส.เขตและฝากเลือกเบอร์ 22 ไปให้ทุกบ้าน ทุกครัวเรือน เลือกทุกจังหวัด ทุกเขต ทุกอำเภอ เลือกรทสช. เลือกให้ถล่มทลายไปเลย และอย่าให้ใครเก็บบัตรประชาชนไปก่อน อย่าไปเลือกคนซื้อเสียง

ระหว่างนั้นมีชาวบ้านตะโกน อย่ายกเลิกมาตรา 112 ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครเห็นด้วย เขาฝากอย่ายกเลิกมาตรา 112 ขอ ให้ยกมือ ขอช่วยกันรักษา อะไรดีต้องรักษา วัฒนธรรม ประเพณี ขอบคุณมากๆ ขอบคุณหลายๆ ลุงตู่อยู่ต่อ อยู่ทำต่อให้เสร็จ เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบปลอดภัย ไม่มีอะไรทำได้ วันเดียว ไอ้ที่บอกทำวันเดียวมันขี้โม้

มีสติ-แข็งแรง-ซื่อสัตย์เพื่อทำต่อ
เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาลานปูดำ อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อช่วยนาย สรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ผู้สมัครส.ส.กระบี่ เขต 1 หาเสียง และเวลา 13.35 น. เดินทางมาที่ศาลาประชาคม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พบปะประชาชนชาวอ่าวลึก หาเสียงให้นายสุชีน เอ่งฉ้วน ผู้สมัครส.ส.กระบี่ เขต 2

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปราศรัยว่า วันนี้ต้องการยกระดับคนมีรายได้น้อยให้มีรายได้สูงขึ้น เพื่อความเป็นธรรม เท่าเทียมทางโอกาส และเท่าเทียมอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน เพราะกฎหมายคือกฎหมาย อย่าไปยุ่งกับกฎหมายมากนัก ถ้าเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับ ข้างบนๆ อย่าไปยุ่ง กฎหมายข้างล่างเราจะ รื้อ ลด ปลด สร้างกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคให้กับประชาชน เราจะดูแลทุกคน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ที่เรียกว่าฐานรากของประเทศ

ตนไม่เคยทำอะไรเพื่อประโยชน์ของตัวเองสักบาทเดียว จำคำพูดตนไว้ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมา 8 ปีเต็มๆ ถ้าทุจริตอยู่ไม่ได้ถึง 8 ปี ขอให้เชื่อมั่นด้วย และตนไม่เคยทำให้ประเทศชาติเสียหาย มีแต่ทำให้ประเทศชาติสงบปลอดภัย ถ้าไม่สงบปลอดภัยจะหากิน ได้หรือไม่ ทำจากสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ทำต่อ ให้ตนมีโอกาสทำต่อให้ท่าน ยืนยันเราจะทำให้ดีที่สุด ให้เราเข้าสภาให้มากที่สุด จะได้มีโอกาสเป็น ครม. ผลักดันนโยบายมากที่สุด

เวลาฟังใครพูดใครจาอะไร กรุณาใคร่ครวญให้ดีด้วย ดูจากผลงานที่เกิดขึ้น ถ้าดูจากสิ่งที่มีปัญหา ใครเป็นก็มีปัญหาทั้งนั้น แล้วทำไม ไม่ให้คนทำอยู่แล้วมาแก้ไข ไม่มีอะไรสำเร็จได้ด้วยปากอย่างเดียว ตนชัดเจนทุกอย่าง ทั้งสติปัญญา และจิตใจในการทำงาน หลายคนอาจจะมองตนแก่ขึ้นๆ แต่แข็งแรงอยู่ พร้อมยืนยันจะแก้ปัญหาให้ทุกเรื่องทั้ง ราคาปาล์ม ยาง ถนน รถไฟ

คนภูเก็ตแห่รับเนืองแน่น
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปบ้านเลขที่ 3/1 ม.5 บ้านท่าซอ ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อเคารพศพนายวีระ ลักษณวิศิษฏ์ บิดานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)

เวลา 17.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.ภูเก็ต ก่อนสักการะท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ที่ อ.ถลาง และพบปะประชาชนที่มาต้อนรับ โดยประชาชนมอบดอกไม้และขอถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก และมีเด็กๆ มาร้องเพลงลุงตู่อยู่ไหน เป็นการให้กำลังใจด้วย พล.อ. ประยุทธ์ ยังเดินข้ามถนนมาทักทายประชาชนที่ยืนรอให้กำลังใจอยู่บริเวณฟุตบาทอีกด้านหนึ่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างตะโกน ลุงตู่สู้ๆ รักลุงตู่ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ชูมือ 2 นิ้ว ทั้งสองข้าง เป็นสัญลักษณ์เบอร์ 22 อยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีประชาชนมาต้อนรับจำนวนมาก ทำให้ใช้เวลาพบปะนาน จึงต้องตัดโปรแกรมเดินตลาดเมืองเก่า ภูเก็ต “ถนนคนเดินหลาดใหญ่ภูเก็ต” ออกไป เพื่อขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ในช่วงค่ำ ที่ลานเวทีกลางสะพานหิน และเดินทางกลับกทม.คืนวันเดียว

ลั่นพร้อมตายตลอดเวลา
พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า อย่าไปเชื่อที่เขาบอกว่าตนอยู่พรรคอื่น ตนอยู่พรรคเดียวคือรทสช. ชื่อพรรคเป็นชื่อที่ดี รวบรวมคนไทยมาสร้างประเทศชาติ เอาคนข้างล่างมาร่วมสร้างประเทศ สร้างเศรษฐกิจประเทศ ทุกคนที่นี่จะเลือกตนหรือไม่ ต้องเลือกให้หมด ขยายตัวไปเรื่อยๆ บอกทุกๆ คนบอกเพื่อนพี่น้อง ตอนนี้เพลงลุงตู่อยู่ไหน อยู่ในหูทั้งวัน พี่ตู่อยู่ในตัวทุกคน เพราะเราอยู่ในประเทศไทย ที่มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ต้องซื่อสัตย์สุจริตและให้กำลังใจกับข้าราชการที่ดีๆ ด้วย อย่าให้เขาเป็นช้างป่วย ระบบราชการถ้าใครผิดก็ลงโทษ อย่าไปเหมาว่าช้างป่วย

“แผ่นดินผืนนี้เป็นของคนไทย ใครจะมาทำร้ายไม่ได้ ขอให้ไปอ่านหนังสือชื่อผู้นำ ใครไปอ่านก็จะได้รู้ว่าประเทศไทยเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ผมทำอะไรไปบ้าง ถ้าดูด้วยตา เปิดหูฟัง ด้วยใจ และตัดสินใจด้วยหัวใจของชาวภูเก็ต ในวันที่ 14 พ.ค. อย่างนี้ได้หรือไม่ หัวใจผมเป็นสีม่วง เป็นสีทหารเสือ มีสัญลักษณ์เป็นรูปหัวใจสีม่วง เป็นหัวใจของคนใกล้ตาย พร้อมตายตลอดเวลา ไม่โกหก แต่บางคนจะตายมันยังโกหกเลย บางคนยังไม่ตายก็โกหก โกหกกลับไปกลับมา ถอยหน้าถอยหลัง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สำหรับวันที่ 8 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่หาเสียงที่จ.นราธิวาส วันที่ 10 พ.ค. ที่ จ.ชุมพร วันที่ 11 พ.ค.ที่จ.นครศรีธรรมราช และวันที่ 12 พ.ค. จัดเวทีปราศรัยใหญ่ปิดท้ายที่กทม.

บุกเมืองคอน – นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี หัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ ขอคะแนนสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ให้กับ ทนายแชมป์-นายโอฬาร สุตตะนาคา เขต 1 เบอร์ 7 และนายหัวสิทธิ์ สิทธิรัก ทิพย์อักษร เขต 4 เบอร์ 9 ที่สถานีรถไฟชะอวด จ.นครศรีธรรมราช

‘จุรินทร์’เมินโพล-ของจริง 14 พ.ค.
เวลา 12.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าปชป. ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ที่หน่วยเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง เขตที่ 1 อาคารกีฬาคุณธรรม โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา จากนั้นได้พา นายราเมศ รัตนะเชวง ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 เบอร์ 5 เดินขอคะแนนเสียงจากพี่น้องในตลาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง

นายจุรินทร์กล่าวถึงความมั่นใจในการหาเสียงโค้งสุดท้าย ว่า จากการลงพื้นที่ทั่วประเทศในทุกภาค มั่นใจว่าเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนดีขึ้น และได้รับกำลังใจมากขึ้น รวมทั้งพลังเงียบที่เราได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง และจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศด้วย ล้วนแล้วแต่ให้กำลังใจว่ายังคงยืนหยัดมั่นคงอยู่กับพรรค สิ่งนี้ทำให้ตนต้องถือโอกาสขอบคุณทุกคนที่จะมาช่วยกันสนับสนุนพรรค นอกจากนี้ จากการที่ตนขึ้นเวทีปราศรัยที่นครศรีธรรมราช มีพี่น้องประชาชนเข้าฟังการปราศรัยหลายหมื่นคน จึงได้ส่งสัญญาณไปอย่างชัดเจนว่า ขอให้พลังปชป.ซึ่งเป็นกำลังหลักของพรรคทั้งหมด “กลับบ้านเรา” เพื่อมาช่วยกันสร้างบ้านหลังนี้ให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่แข็งแรง ยั่งยืน มั่นคง และเป็นที่พึ่งของคนไทยทั้งประเทศอย่างมีความ รับผิดชอบ และพาประเทศรอดได้ในอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามถึงผลโพลที่ผ่านมาส่งผลต่อกำลังใจอย่างไรหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า โพลก็คือโพล แต่ละพรรคมีทั้งดีและไม่ดี เป็นเรื่องธรรมดาที่โพลจะสำรวจเวลาไหนอย่างไร แต่ของจริงคือวันที่ 14 พ.ค.นี้ นั่นคือเสียงจากประชาชนที่แท้จริง สำหรับในภาคใต้ ตนได้คุยกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ยืนยันมั่นใจว่าเสียงตอบรับ ดีมากในทุกจังหวัด ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน คนไทยทั้งประเทศ ไปใช้สิทธิ์ เลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. เพื่อให้เสียงของเรา เป็นเสียงสวรรค์ที่จะชี้อนาคตให้กับประเทศ ไทยของเราต่อไป และฝากปชป. เบอร์ 26 รวมทั้งผู้สมัครเขต ทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ

‘องอาจ’มั่นใจกทม.คัมแบ๊ก
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าปชป.ดูแลกทม. ให้สัมภาษณ์ถึงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. กทม. ในช่วงโค้งสุดท้ายว่า ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของปชป. ทั้ง 33 คน ลงพื้นที่หนักมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด พร้อมกับนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์สำหรับชาว กทม. สามารถตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งในระดับชุมชน และในระดับทั่วทั้ง กทม. เสนอแนวทางการพัฒนา กทม. ให้ เป็นเมืองที่น่าอยู่น่าอาศัยเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันเร่งรุกหนักสื่อสารทางออนไลน์ผ่านโซเชี่ยลหลากหลายรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงผู้คนในชุมชนออนไลน์ต่างๆ

จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย พบว่าประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ต่างยืนยันว่าจะสนับสนุนผู้สมัครของปชป.ทั้ง ส.ส.เขต และส.ส.แบบบัญชี รายชื่อ และพบว่าผู้สนับสนุนเลือกปชป.มาโดยตลอด แต่ตัดสินใจไปลงคะแนนเลือก ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 จะกลับมาเลือกผู้สมัครของปชป.ในปีนี้จำนวนมาก เพื่อสนับสนุนให้ปชป.ใน กทม. กลับมาทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนเหมือนที่เคยทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องยาวนาน การเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ครั้งนี้ เรา มั่นใจว่าปชป.จะคัมแบ๊กมี ส.ส.ใน กทม. อย่างแน่นอน

‘เสี่ยนิด’ชี้เลือกพท.เปลี่ยนปท.ทันที
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านโซเชี่ยลมีเดียว่า ในการจัดงาน ‘เลือก เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที’ ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยาม พารากอน เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พบกับคนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนรุ่นใหม่ถูกคาดหวังว่าจะต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ ต้องฝันไกล โดยความ “คาดหวัง” เป็นโจทย์ใหญ่ของตนในฐานะแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30

นายเศรษฐายังพูดถึงนโยบายของพรรคในหลายด้านไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท การยกระดับรายได้เกษตรกร การดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ การเจรจาเพื่อพี่น้องชาวประมง และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนการเลือกตั้งปี 2562 ประชาชนแพ้ ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้ พวกเรารวมเสียงได้ รวมเป็น 234/500 ที่นั่ง โดยพท.ได้ที่นั่งมากที่สุดถึง 137 ที่นั่ง หากวันนั้นเรารวมใจ ประชาชนคนไทยให้พท.อีก 17 ที่นั่ง เยาวชนไทย ประเทศไทย คงไม่เผชิญปัญหาหลากหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา

วันที่ 14 พ.ค.นี้ โอกาสที่จะโค่นอำนาจเผด็จการมาถึงอีกครั้ง ขอให้ประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหน คนกรุงเทพฯ คนต่างจังหวัด คนอนุรักษนิยม คนเสรีนิยม ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ขอให้รวมใจโหวตให้พท. โหวตให้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ไปเปลี่ยนประเทศ “ทันที”

เดินตลาด – นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ถ่ายภาพกับครอบครัวพินทองทา ชินวัตร ระหว่างพาครอบครัวทวีสินหาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส. ที่ ตลาดนัดจตุจักรและตลาดอ.ต.ก. เขตจตุจักร กทม. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.

ยกทีมลุยจตุจักร-แม่ค้ากรี๊ด
เวลา 13.00 น. พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภรรยา และน้อบ ณภัทร ทวีสิน บุตรชาย พร้อมด้วย เอม-น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี และลูกสาวฝาแฝด เอมิ-พิณธารา นานิ-พิณนารา นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานรณรงค์หาเสียงพื้นที่กรุงเทพฯ และผู้สมัคร ส.ส.เขตจตุจักร บางเขน หลักสี่ ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร มีประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขอเซลฟี่จำนวนมาก นอกจากนี้ มีตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการภายในตลาดนัดมาเสนอแนะและเรียกร้องว่าหากพท.ได้เป็นรัฐบาลอยากให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องค่าเช่าแผงที่มี ราคาสูง

จากนั้นนายเศรษฐาและคณะเดินชมภาพงานศิลปะ เดินทักทายผู้ที่ผ่านไปมา ชิมโกโก้เย็น กินลูกชิ้นปิ้ง เดินสอบถามพ่อค้าแม่ค้าร้านขายเสื้อผ้า ต้นไม้ อาหาร เครื่องดื่มว่าช่วงนี้ค้าขายเป็นอย่างไรบ้าง โดยส่วนใหญ่สะท้อนว่าค้าขายไม่ค่อยดี ต่อมาเดินไปตลาดสดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) แม่ค้าต่างส่งเสียงกรี๊ดและวิ่งเข้ามาขอเซลฟี่กัน

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจที่ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะตนมาเป็นขาประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มาแค่หาเสียง ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการสะท้อนว่ากระแสเราดีใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ขอบคุณมากครับ” ต่อข้อถามว่าหลังจากนี้จะมีหมัดเด็ดหรือยุทธศาสตร์อะไรมาใช้ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เราก็นำเสนอนโยบายต่อเนื่องไป วันที่ 14 พ.ค.นี้ถือเป็นวันสำคัญ เราบอบช้ำมาเยอะ ไม่มีเวลาลองของใหม่ เราต้องกลับมานั่งคิดว่าพรรคไหนเคยทำให้เราได้ บุคลากรภายในพรรคก็มีเยอะมาก ตรงนี้เรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน

ต่อข้อถามว่าขณะนี้แคนดิเดตนายกฯ หลายคนจากหลายพรรคเริ่มป่วย เริ่มท้อ ส่วนตัวนายเศรษฐาเป็นอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าคงไม่มีใครท้อ แต่ถ้าป่วยตนป่วยมา 10 วันแล้ว แต่ไม่มีใครท้อ พักผ่อนได้หลังวันที่ 14 พ.ค. ตอนนี้มั่นใจได้ว่า เดินหน้าเหยียบคันเร่งเต็มที่

ประกาศไม่ยกคมนาคมให้ใคร
ช่วงเย็น นายเศรษฐาและคณะร่วมพบปะผู้ให้บริการรถแท็กซี่และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รับฟังเสียงสะท้อนประเด็นปัญหาค่ารถแท็กซี่ขั้นต่ำ และระบบการขนส่งสาธารณะ

นายเศรษฐากล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง พท.จะส่งคณะทำงานด้านคมนาคมกลับมารับฟังปัญหาของทางกลุ่มแท็กซี่อีกครั้ง พท.มีข้อเสนอการยกระดับและพัฒนาการบริการดีขึ้น รถสะอาดขึ้น สนับสนุนให้มีการใช้รถ EV เพื่อลดปัญหาทางด้านพลังงาน และข้อจำกัดของการลงทะเบียนของรถแท็กซี่อีกด้วย เราจะพูดคุยกับธนาคารออมสินเรื่องติดบูโร รวมถึงการแก้ไขระบบมิเตอร์ของแท็กซี่ให้มีความเป็นธรรมยิ่งขึ้น อาทิ สวัสดิการ อัตราการเก็บค่าบริการ ซึ่งเชื่อมโยงกับป้ายดำ แอพที่จะเข้ามาต้องเกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน เรื่องคุณภาพ สเป๊กของรถที่จะนำมาใช้เป็น แท็กซี่

ตัวแทนกลุ่มสหรณ์แท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ถามนายเศรษฐาว่า ถ้าพท. ตั้งรัฐบาลจะเอากระทรวงคมนาคมให้พรรคอื่นหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ผมลงพื้นที่หาเสียงมา 60 กว่าวัน เป็นไข้มา 10 กว่าวัน กระทรวงคมนาคมเป็นกระทรวงสำคัญ เรามีนโยบายที่จะผลักดัน ผมพูดตรงๆ เราจะไม่ยกให้ใคร” ทำให้ตัวแทนดังกล่าวปรบมือให้นายเศรษฐาดังลั่นห้อง

ชูเบอร์ 32 – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดต นายกฯ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ขอให้เลือกส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 32 ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังหลายหมื่นคน ที่จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 7 พ.ค.

‘เจ๊หน่อย’แฉพรรคใหญ่ซื้อเสียงดุ
ที่จ.หนองบัวลำภู คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ แคนดิเดตนายกฯพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ลงพื้นที่ อ.โนนสัง อ.นาวัง และอ.นากลาง เปิดเวทีปราศรัย ขอคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.ของทสท. ประกอบด้วย นายสุรชัย ทวีคูณ เขต 1 นายรุ่งเพชร ศรีกาญจนา เขต 2 นาย ณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี เขต 3

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เดินสายปราศรัยในพื้นที่ภาคอีสาน หลายสิบเวทีในหลายจังหวัด มีพี่น้องมาให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีการซื้อเสียงอย่างมโหฬาร พรรคการเมืองใหญ่ได้จดชื่อพี่น้อง เพื่อเตรียมจ่ายเงิน ขณะที่บางพรรคได้จ่ายเงินให้กับพี่น้องเรียบร้อยแล้ว บางพรรค 500 บาท หรือบางพรรค 1,000 บาท แต่ไม่ว่าพรรคไหนจะให้เท่าใด ขอให้ พี่น้องรู้ไว้ว่า เงินเหล่านี้ คือเงินที่ไปทุจริต โกงกินและนำมาให้กับพี่น้อง พี่น้องใช้เพียงไม่กี่วันก็หมด สุดารัตน์จึงมาให้ข้อมูลกับ พี่น้องเพื่อให้พี่น้องรู้เท่าทัน ว่ายุคสมัยนี้เป็นยุคสมัยที่มีการใช้เงินซื้อเสียงมากที่สุด

ทสท. ขอประกาศอย่างตรงไปตรงมา ว่าเราจะไม่ใช้เงิน เพื่อแลกคะแนนเสียง แต่จะสร้างนโยบายที่ทำให้พี่น้องมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี และเราจะดูแลพี่น้อง ตั้งแต่เกิดจนแก่ ในทุกช่วงวัยไปจนตลอดชีวิต เช่น บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ผู้สูงวัย จะได้รับเงินบำนาญ ดังกล่าวไปตลอดชีวิต ซึ่งจะช่วยลดภาระลูกหลาน เป็นกำลังสำคัญในการกลับไปทำงานเพื่อฟื้นเศรษฐกิจให้ประเทศ หรือนโยบายบัตรเครดิตประชาชน พี่น้องจะกู้ได้ ตั้งแต่ 5,000 บาทจนถึง 50,000 บาทโดยไม่ต้องมี หลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ติดเครดิตบูโร ใช้กู้เพื่อนำไปตั้งตัวและปลดหนี้นอกระบบที่สำคัญจะเป็นหลักประกันทางการเงินให้กับ พี่น้องไปตลอดชีวิต

ฝ่าร้อนใช้สิทธิ์ – ประชาชนที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างคับคั่ง ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวแสงแดดแรง ที่หน่วยเลือกตั้งภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ย่านหัวหมาก กทม. เมื่อ 7 พ.ค.

เลือกตั้งล่วงหน้าสุดคึกคัก
วันเดียวกัน มีการเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งล่วงหน้า ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. บรรยากาศที่หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนแห่มาใช้สิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเช้า เช่น ที่หน่วยเลือกตั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหง เขตบางกะปิ กทม. ที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์มากสุด 52,771 คน และรอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน กทม. มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์มากสุดอันดับสอง รวม 40,787 คน อาคารและเต็นท์บริเวณสำนักงานเขตห้วยขวาง กทม. มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์มากสุดอันดับสาม รวม 28,344 คน บริเวณสำนักงานเขตบางเขน กทม. มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์มากสุดอันดับสี่ รวม 26,288 คน ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์มากสุดอันดับห้า รวม 25,534 คน

น้องเทนนิสใช้สิทธิ์ที่บางเขน

มานิตา นางสาวไทย เช็กชื่อ

แอนนา มิสยูนิเวิร์สฯ ใช้สิทธิ์

ปทุมฯ ไชยาและลูกสาวใช้สิทธิ์

นอกจากนี้ ที่สำนักงานเขตหลักสี่ ที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เกือบ 20,000 คน พบว่ามีประชาชนมารอคิวตั้งแต่ก่อนเปิดหีบเลือกตั้ง และยังมีทหารจากกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) กว่า 500 นาย ตบเท้าใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้งนี้ด้วย ขณะที่ต่างจังหวัด มีนักเรียนนายสิบทหารบก รุ่น 27 จำนวน 1,019 นาย ไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งที่ เขต 2 บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และที่ จ.กำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 1 อีกประมาณ 200 นาย จากกรมทหารราบที่ 14

ประจวบฯ ทหารปราณบุรีใช้สิทธิ์

ที่โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬา ทุ่งแจ้ง เขตเทศบาลนครตรัง จ.ตรัง มีคุณยายแหลม ขาวทอง อายุ 93 ปี ชาว จ.สงขลา ให้ลูกหลานพามาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง คุณยายบอกว่า มาเลือกตั้งทุกครั้งไม่เคยขาด เพราะอยากเห็นบ้านเมืองเจริญ

สมุย คนแห่ใช้สิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหตุผู้มาใช้สิทธิ์ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งในคูหา คือที่จ.กาญจนบุรี 2 ราย และที่จ.สุราษฎร์ธานี 1 ราย ซึ่งมีการแจ้งความแล้ว โดยจะถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า “ใช้เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตน ได้ทำการเลือกตั้งแล้ว” มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ร้องเรียนทั่วประเทศ 92 เรื่อง
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหลังสังเกตการณ์เลือกตั้งล่วงหน้าที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ว่า คนที่ลงทะเบียนแล้วพลาดไม่สามารถมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันนี้ ขอความร่วมมือให้แจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้-13 พ.ค.และหลังวันเลือกตั้งคือวันที่ 15-21 พ.ค.ซึ่งแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิ์ได้หลายช่องทาง ง่ายที่สุดคือผ่านแอพ พลิเคชั่นสมาร์ตโหวต เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเมืองบางประการ

กกต.น่วม – นายอิทธิพร บุญประครอง ประธานกกต. เดินทางไปตรวจการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จ.ชลบุรี ท่ามกลางกระแสประชาชน กว่าล้านคนล่าชื่อถอดถอนจากการทำงานผิดซ้ำซาก เมื่อวันที่ 7 พ.ค.

ส่วนเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศตอนนี้มีทั้งหมด 92 เรื่อง ทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลเพียงพอจะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ตามระเบียบการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่า ผู้สมัครบางคนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน นาย อิทธิพรกล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้รับข่าว หากได้รับแจ้งจะต้องตรวจสอบ และถ้าพบว่าเข้า ข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบซึ่งใช้เวลาพอสมควร ตัดสินเร็วก็จะกระทบต่อการดำเนินกระบวน การยุติธรรม

ที่สำนักงานเขตราชเทวี กทม. นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต. กล่าวหลังตรวจดูความเรียบร้อยการเลือกตั้งและใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในเขตนี้ว่า พอใจภาพรวมกับการเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในวันนี้ เป็นไปด้วยดี โดยกำชับการใช้สิทธิ์ในวันนี้เป็นการใช้สิทธิ์โดยตรงและเป็นความลับ

แน่นหน่วย – บรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้า เขตที่ 1 จ.อำนาจเจริญ ที่โรงเรียนอำนาจเจริญ ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเกือบ 5 พันคน มีประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิตั้งแต่เช้าจนแน่นหน่วย เมื่อวันที่ 7 พ.ค.

แห่โทร.ถามสายด่วน 1444
ที่สำนักงานกกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.แถลงว่า ภาพรวมการเปิดให้ลงคะแนนเมื่อเวลา 08.00 น.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต 447 แห่ง ในเขต 422 แห่ง มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ล่วงหน้าทั้งสิ้น 2,235,830 คน แบ่งเป็นนอกเขต 216,950 คน และในเขต 18,880 คน

สำหรับเรื่องร้องเรียน วันนี้มีเข้ามาทั้งหมด 92 เรื่อง จังหวัดที่มีการร้องเรียนมากที่สุด คือ กทม. เพราะเป็นพื้นที่ใหญ่ เรื่องที่ร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นเรื่องการกระทำผิดตามมาตรา 73(1) คือการสัญญาว่าจะให้เงิน หรือทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวงนำสื่อมวลชนนำชมการทำงานภายในสายด่วน กกต.1444 พบว่าตลอดช่วงเช้า มีประชาชนโทร.มา สอบถาม 1,000 กว่าสาย ส่วนใหญ่เป็นการสอบถามถึงรายชื่อในเขตเลือกตั้ง

นอกจากนี้ นายแสวงยังลงพื้นที่สังเกต การณ์การเลือกตั้ง ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และกล่าวว่า การออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าค่อนข้างเรียบร้อย ประชาชนมารอลงคะแนนกันตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบ ถือว่ามีความคึกคักค่อนข้างมาก ซึ่งในช่วงลงคะแนน มีเพียงคนแรกๆ เท่านั้นที่อาจจะใช้นานหน่อยประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นผู้คนรู้ขั้นตอนก็ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีต่อคน

นนทบุรี คนพิการใช้สิทธิ์

ยอมรับกปน.เมืองนนท์พลาด
เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานกกต. นายแสวงแถลงว่า เมื่อเวลาประมาณ 10 โมงกว่าๆ มีการตรวจพบหน่วยเลือกตั้งที่จ.นนทบุรี พบว่ากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) มีการเขียนรหัสเขตเลือกตั้งที่หน้าซองสำหรับใส่บัตรเลือกตั้งผิด โดยเขียนเขตเลือกตั้งจากเขต 2 แต่เจ้าหน้าที่กรอกเป็นเขต 4 และกรอกรหัสไปรษณีย์แทนรหัสจังหวัด ซึ่งพบผิดพลาดประมาณ 100 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบก็มีการเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งใหม่

นอกจากนี้ยังพบว่ามีข้อถกเถียงของประชาชนในโลกโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า กปน.กรอกรหัสจังหวัดผิด ไม่ตรงกับรหัสไปรษณีย์ที่ผู้ใช้สิทธิ์ เลือกตั้งมีภูมิลำเนาอยู่ เรื่องนี้ขอชี้แจงว่า รหัสที่ กปน.จะกรอกเป็น รหัส 2 ตัวแรกคือ รหัสจังหวัด ส่วน 3 ตัวหลังคือรหัสเขตเลือกตั้ง ซึ่งรหัสเขตเลือกตั้งจะเป็นไปตัวเลขคนละตัวกับรหัสไปรษณีย์ เช่น จ.นนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 2 ตัวแรกคือ 12 แต่รหัสเขต เลือกตั้ง 2 ตัวแรก คือ 11

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบหลังเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง มีผู้ใช้สิทธิประมาณกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนหีบบัตร ซึ่งหลังปิดหีบแล้วจะมีการ คัดแยก โดยเจ้าหน้าที่กปน. และไปรษณีย์ ภาพรวมการจ่ายหน้าซองของบัตรไม่กระทบการใช้สิทธิ์ ผู้มีสิทธิลงคะแนนให้พรรค การเมืองไหน ก็จะได้คะแนนตามที่ลงอย่างนั้น ยืนยันว่าสามารถส่งบัตรได้ตรงตามเขตแน่นอน” นายแสวงกล่าว

“เหตุที่เกิดขึ้นนี้ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ของเรา แต่ทุกอย่างปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ความผิดพลาดนี้เราต้องตรวจสอบว่าเป็นความผิดพลาดโดยสุจริตหรือไม่ ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะไม่เกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. เพราะการเลือกตั้งวันนั้นเป็นการเลือกตั้งตามเขตเลือกตั้งไม่มีการใส่ซองส่งไปรษณีย์แล้ว” นายแสวงกล่าว

นราธิวาส ตร.-ทหาร ใช้สิทธิ์

ดราม่าพะเยา-สัตหีบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.พะเยา ก็มีภาพบนสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีการพิมพ์ชื่อใบปะหน้าจ.พะเยา เขียนเป็น พระเยา-พเยาว์ โดยนายกิตติพงษ์ ดรุมาศ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจ.พะเยา กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากเราส่งส.ส 4/14 ประกาศผู้สมัครไปทั่วประเทศและส่งไปในแต่ละเขต ถ้าไม่ทำใบปะหน้าจะโชว์รูปของเบอร์ 1 เบอร์เดียว เป็นการไม่เป็นธรรม จึงใช้วิธีการทำใบปะหน้ามาปิดในแต่ละเขต ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของแต่ละเขตที่จะทำ ทางกกต.พะเยาไม่สามารถรู้ได้ว่ามาจากไหน เพราะคนถ่ายรูปมาแค่ตรงนั้น เราไม่อยากจะสืบด้วย ฝากถึงผู้ที่แสดงความคิดเห็นในสื่อโซเชี่ยลใช้ความคิดด้วย

ส่วนที่จ.ชลบุรี มีผู้โพสต์ข้อความว่า แม่กับตนไปเลือกตั้งล่วงหน้าเขตเลือกตั้งอำเภอสัตหีบ เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่จ.สมุทรปราการ อยู่คนละเขต แต่หน้าซองที่ได้เขียนเขตเดียวกันหมดเลยคือเขต 10 แต่จริงๆ มีแค่ 8 เขต เลือกเสร็จใส่ซอง ใส่กล่องรวมกันหมด แล้วแบบนี้เขาจะแยกยังไง ในเมื่อจังหวัดเดียวกัน แต่เขตกับเลขผู้สมัครส.ส.ไม่เหมือนกัน

นายเพ่ง บัวหอม ประธาน กกต.เขต 10 อ.สัตหีบ กล่าวว่า กกต.ได้ไปตรวจสอบแล้ว ทางกปน.เข้าใจว่าเป็นเขตตัวเองทำงาน แต่จากการตรวจสอบรหัสจังหวัดตรงกันซึ่งสอบถามไปยังไปรษณีย์แล้วว่าสามารถส่งไปปลายทางได้ถูกแน่นอน และไม่มีผลผลต่อคะแนนอย่างแน่นอน ที่เขียนผิดวันนี้คือเขียนเขตเลือกตั้งผิด แต่รหัสเขตถูกต้อง

สมุทรปราการ คึกคักไม่แพ้ที่อื่น

ทัวร์ลงกกต.-ล่าชื่อไล่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกระแสดราม่าการทำงานที่ผิดพลาดทำให้เกิดความ ไม่พอใจต่อการทำงานของ กกต.จนล่าสุด ส่งผลให้แฮชแท็ก กกต.ต้องติดคุก และ กกต.มีไว้ทำไม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการโพสต์ภาพการทำงานที่ ผิดพลาดของ กปน.ในระหว่างการลงคะแนน และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานอย่างหนัก พร้อมเปิดที่มาของ 7 กกต.ชุดปัจจุบัน ผ่านการเห็นชอบโดยใคร และเรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบด้วยการลาออก เนื่องจากการ เลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีการถอดบทเรียนการ เลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังแปลตัวย่อคำว่า กกต.ว่า “โกงการเลือกตั้ง”

นอกจากนี้ยังมีกระแสเรียกร้องให้ร่วมลงชื่อถอดถอน กกต.ออกจากตำแหน่ง ด้วยการแชร์ลิงก์ของเว็บไซต์ Change ซึ่งเป็นแคมเปญเคยลงชื่อถอดถอน กกต.จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีชื่อคนร่วมลงชื่อไม่ถึงเป้า 1,500,000 รายชื่อ โดยมีคนลงชื่อ 849,079 รายชื่อ ทำให้หยุดชะงักไป และเมื่อมาถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ กระแสลงชื่อกลับมาเคลื่อนไหวโดยมีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนการถอดถอน กกต.เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,001,387 รายชื่อ ณ เวลา 16.45 น.วันที่ 7 พ.ค.

แม่ฮ่องสอน แห่ใช้สิทธิ์คึกคัก

เลขาฯแจงยิบ-สบายใจได้
เวลา 18.00 น. ที่สำนักงานกกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. แถลงข่าวสรุปภาพรวมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. ว่า หลังปิดหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไป 1 ชั่วโมงแล้ว อยู่ระหว่างการคำนวณว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์เท่าไหร่ แต่คาดการณ์ด้วยสายตาว่า ไม่น่าจะน้อยกว่า 70% สถานการณ์ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ใช้เวลาเฉลี่ย 3-5 นาที ต่อคน ส่วนปัญหาอุปสรรคมีอยู่ 3 อย่าง 1.อากาศร้อน 2.บางแห่งสถานที่คับแคบเมื่อเทียบสัดส่วนผู้มาลงคะแนน ทำให้รอคิว และแออัดบ้างบางจุด และ 3.สภาพการ จราจร

ส่วนปัญหา อย่างแรกคือการจ่าหน้าซองผิดเขต แต่อยากให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสบายใจว่าบัตรถึงเขตที่ท่านมีชื่อในทะเบียนอย่างถูกต้อง เพราะมีระบบการตรวจสอบ โดยในการจ่ายหน้าซอง จะมีประธานเขต จังหวัดเขตเลือกตั้ง และรหัสเขต สิ่งที่ใช้ตรวจสอบคือรหัสเขตเลือกตั้ง ที่ประชาชนเคยบอกว่าทำไมเราไม่เอารหัสไปรษณีย์ เพราะเราจะตรวจสอบอีกครั้งว่า หากกรอกเขตผิดพลาด เราจะรู้จากรหัสเขตเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ใช่รหัสไปรษณีย์ตั้งแต่ต้น

อุบลฯ หนาแน่นคึกคัก

นอกจากนี้ยังตรวจสอบจากกระดาษจดลำดับที่ ตอนที่เข้าไปที่หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งจะบอกเขตเลือกตั้ง จังหวัด รหัสเขตเลือกตั้ง กปน.ที่จ่ายบัตรที่ระบุเขตคลาดเคลื่อน อาจเกิดจากชุดที่ใช้ลงคะแนน อย่างเช่นเมื่อเช้า ชุดที่ 4 อาจสำคัญผิดว่าเป็นเขตที่ 4 แต่ตัวรหัสกรอกถูกต้อง เพราะกรอกตามกระดาษจดลำดับที่ ซึ่งจะเก็บไว้ทุกแผ่น จึงสามารถตรวจสอบได้ทุกซองที่จะส่งไปที่เขตเลือกตั้ง จึงอยากให้สบายใจ ว่าเราออกแบบมาเพื่อใช้เวลามีปัญหาจากการทำงานของคน แต่ระบบสามารถแก้ไขตรงนี้ได้ แต่อาจต้องใช้เวลา ซึ่งเป็นหน้าที่ของกกต.ที่ต้องทำอยู่แล้ว

สำหรับกรณีหน่วยเลือกตั้งที่จ.นนทบุรีที่เคยให้ข่าวว่ามีการลงรหัสเขตเลือกตั้งผิดกว่า 100 รายนั้น หลังปิดหีบได้ตรวจสอบล่าสุดแล้วพบว่ามีเพียง 48 ราย ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าไม่มีการลงรายละเอียดหน้าซองเลยนั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่าพบปัญหานี้ แต่จะมีการตรวจสอบ

ยโสธร แน่นหน่วยเลือกตั้ง

แก้ไขทุกเหตุเรียบร้อย
อย่างที่ 2 เรื่องความผิดพลาดเรื่องเอกสารว่า มีชื่อพรรคบ้างไม่มีบ้างนั้น จริงบ้างเท็จบ้าง ซึ่งเราได้รับรายงานตั้งแต่เช้า จากผู้อำนวยการกกต.จังหวัดก่อนจะเป็นข่าว และมีการแก้ไขแล้ว บางเรื่องเกิดจากคนไปฉีก ในข่าวบอกว่าเกิดที่จ.สุรินทร์ แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่ใช่ เพราะสุรินทร์ไม่มีโรงเรียนตามที่เป็นข่าว แต่ที่จริงเป็นเหตุเกิดที่จ.ชลบุรี ซึ่งรายงานมาตั้งแต่เช้า จากคนไปฉีก หายไป 3 แผ่นแล้วถ่ายรูปให้เป็นข่าว แต่ก็มีการแก้ไข เช่นเดียวกับในจังหวัดอื่นก็มีการแก้ไข และไม่มีปัญหาอีก มีการแจ้งความแล้ว

สำหรับบัตรเลือกตั้งที่เหลือ เราจะมีการเจาะ และมีการบอกจำนวน โดยกปน.จะประกาศติดที่หน้าหน่วย มีทั้งหมด 3 สำเนา ส่วนการดำเนินการหลังปิดหีบ 17.00 น. ไปรษณีย์ จะมีรถทั้งหมด 475 คัน ไปรับบัตรที่อยู่ในซองลงคะแนนวันนี้ ไปยังที่ลงคะแนนที่เลือกตั้งกลาง 475 แห่ง จากนั้น กปน.จะนับจำนวนบัตร แล้วใส่ถุงใส ส่งให้ไปรษณีย์ ตรวจนับว่าจำนวนตรงกันหรือไม่ รัดถุงใส่ในถึงอีกชั้น ใส่สายรัด เซ็นลงนามรับมอบบัตร จากนั้นจะนำบัตรมาส่งที่ศูนย์ไปรษณีย์ 15 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล และมีจีพีเอสติดตาม เพื่อนำบัตรเข้ามาที่ศูนย์ใหญ่ที่หลัก 4 เพื่อคัดแยก ส่งเก็บที่ที่ปลอดภัยในเขตเลือกตั้งทุกเขต ในวันที่ 11 พ.ค.พร้อมบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

ส่วนกรณีขนคนไปลงคะแนน ได้รับรายงานจากรองเลขาธิการกกต. ที่ลงในพื้นที่ มีชุดเคลื่อนที่เร็ว ผู้ตรวจจุดจากส่วนกลางไปหลายจังหวัดเป้าหมาย ซึ่งมีการรายงานกลับมาแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จึงยังไม่สามารถพูดในที่นี้ได้ แต่ทุกความเคลื่อนไหวเราสามารถดูแลได้ ตั้งแต่ช่วงเช้า ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดที่มีคนไปลงคะแนนเยอะขนคงไปลงคะแนน หรือมีพฤติการณ์ในการลงคะแนนอย่างไรมีรายงานเบื้องต้นมาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าหลังปิดหีบ เจ้าหน้าที่สามารถเทบัตรออกมาทำการแก้ไขข้อมูลการจ่าหน้าซองให้ถูกต้องได้หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะต้องมีกระบวนการนับเพื่อส่งไปรษณีย์ หากไม่มีการลงข้อมูลให้ถูกต้อง ไปรษณีย์จะไม่สามารถส่งไปยังเขตของผู้ใช้สิทธิได้อย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ไปสังเกตการณ์สามารถถ่ายวิดีโอได้

ก.ก.ฮึ่ม 14 พ.ค.พลาดอีกฟ้องแน่
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า ความผิดปกติเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเขตเลือกตั้งที่หน้าซองผิด หรือ ไม่เขียนรหัสเขตที่หน้าซองบัตร เป็นความผิดพลาดที่ผิดปกติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อ กกต.มีงบจัดการเลือกตั้งสูงถึง 5.9 พันล้านบาท เป็นเงินภาษีประชาชน เพื่อทำภารกิจที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา คือจัดการเลือกตั้งที่เป็นธรรม โปร่งใส และยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย แต่กลับปล่อยให้เกิดความผิดพลาดง่ายๆ แบบนี้ ซึ่งหลายความผิดปกติ น่าสงสัยว่าเป็นการจงใจกลั่นแกล้งหรือไม่ เช่น ไม่ยอมแปะประกาศใบแนะนำตัวผู้สมัครที่หน้าหน่วยเลือกตั้งให้ครบบ้าง โดยเฉพาะใบประกาศของผู้สมัครก.ก. ที่หายไปเยอะที่สุดจากหน่วยเลือกตั้ง

กกต.ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ตอบให้ได้ว่าบัตรลงคะแนนที่อาจกลายเป็นบัตร เสียจากความผิดพลาดของกกต. เหล่านี้ กกต.จะรับผิดชอบแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่ถามกลับมา ที่ประชาชนว่ามันผิดไปแล้ว จะให้แก้อย่างไร ที่สำคัญ ขอเตือนกกต. ว่าหากในวันเลือกตั้งใหญ่ เกิดความผิดปกติเช่นนี้ ก.ก.จะร่วม เป็นส่วนหนึ่งดำเนินการทางกฎหมายต่อกกต. ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องคะแนนเสียงของประชาชน

ผบ.ตร.ลงตรวจหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าเชียงใหม่

ตร.กว่า5หมื่นนายคุมเลือกตั้ง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ 31,220 คน จากนั้นไปตรวจการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จุดอาคารสายธารธรรม ม.พายัพ จ.เชียงใหม่ มีประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ 10,915 คน และจ.ลำพูน ที่อาคารหอประชุม อบจ.ลำพูน มีประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ 13,498 คน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ภาพรวมทั่วประเทศ ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่มีการเฝ้าระวังในพื้นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง อาทิ ภาค 2,7,8,9 ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ได้เน้นย้ำให้มีผลการจับกุมเรื่องอาวุธปืนและความผิดต่างๆ จนถึงวันที่ 13 พ.ค. เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี

เชียงใหม่ ใช้สิทธิ์ในห้องแอร์

ส่วนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. ภาพรวมทั่วประเทศใช้กำลังพลกว่า 50,000 นายทั้งการดูแลการเลือกตั้ง ความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะการจัดการจราจรในจุดที่มีประชาชนมาใช้สิทธิ์จำนวนมาก ได้สั่งการเน้นย้ำเป็นพิเศษไปแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาลงตรวจสอบ ควบคุมดูแล หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง หรือต้องการความช่วยเหลืออำนวยความสะดวก สามารถแจ้งตำรวจได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือ โทร.191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้ง สายด่วน กกต. 1444