จ่อทำเอ็มโอยู 6พรรค ไม่จำเป็นดึง‘ภท.’ร่วม สว.ตั้งแง่โหวตนายกฯ ธนกรแย้ม‘ตู่’พอแล้ว
‘พิธา’ ต่อสาย ‘อุ๊งอิ๊ง’ จับมือตั้งรัฐบาล 6 พรรค 310 เสียง ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ควบรมว.กลาโหมถ้าจำเป็น เตรียมทำเอ็มโอยูกำหนดเรื่องด่วนต้องทำ ใน 100 วัน, 1 ปี แกนนำเพื่อไทยเปิดแถลงหนุนพิธา-ก้าวไกล ยืนยันไม่มีแนวคิดตั้งรัฐบาลแข่ง โหวตนายกฯ เคารพเสียงประชาชน ส่วนเงื่อนไขการจับมือขอคุยในพรรคก่อน ‘ตู่’ บอกตั้งรัฐบาลให้เป็นไปตามกลไก ‘ธนกร’ แย้ม ‘ประยุทธ์’ คงพอแล้ว ‘อนุทิน’ ปัดขอร่วมรัฐบาล ‘วราวุธ’ พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ส.ว.ยังตั้งแง่โหวตนายกฯ ‘เฉลิมชัย’ ย้ำรวมเสียงส.ส.ไม่ถึง 376 อย่าหวังพึ่ง ส.ว. ‘กิตติศักดิ์’ บอกไม่มีธง แต่ต้องเป็นคนจงรักภักดี ‘วันชัย’ เย้ยตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน
ตั้งรัฐบาล – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงตั้งรัฐบาล 6 พรรค 310 เสียง ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พร้อมสนับสนุนก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 พ.ค.
พิธาคุย5พรรคตั้งรัฐบาล309เสียง
เวลา 12.00 น. วันที่ 15 พ.ค. ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค แถลงหลังผลเลือกตั้ง ก.ก. ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ว่า ในฐานะว่าที่นายกฯ ประเทศ ไทย ขณะนี้เป็นที่ประจักษ์ ก.ก.ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล น้อมรับฉันทามติของประชาชนพลิกขั้วจากฝ่ายค้านมาจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน รับฟังความเห็นแตกต่าง คืนศรัทธาให้ระบบประชาธิปไตยและรัฐสภา สร้างความโปร่งใสให้การเมืองไทย
ได้โทร.ไปหาแกนนำ 5 พรรค ได้โทร.หา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อแสดงความยินที่มีความมุ่งมั่นหาเสียง พร้อมเชิญชวนร่วมตั้งรัฐบาล ก.ก.-พท. ทั้งนี้ 5 พรรคที่พูดถึงมี ก.ก., พท., พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคเสรีรวมไทย (สร.) รวมกัน 308 เสียง และกำลังติดต่อไปยังพรรคเป็นธรรม ที่เห็นความตั้งใจทำงานเรื่องสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมแล้วเป็น 309 เสียง เพียงพอตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ปิดประตูตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ทั้งนี้ต่อมากกต.เผยแพร่ผลคะแนนส.ส. เขตพบพรรคก.ก.ได้เพิ่มเป็น 113 เขต ทำให้รวมเสียง 6 พรรค เป็น 310 เสียง
เดินหน้าทำเอ็มโอยู 100 วัน – 1 ปี
โดย 5 พรรคพร้อมพูดคุยรายละเอียดทั้งเรื่องคน นโยบาย แผนการทำงาน และจำเป็นต้องทำเอ็มโอยูเหมือนกับสากล ให้ประชาชนเห็นได้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย 100 วันและ 1 ปี จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ระหว่างนี้จะจัดตั้งทีมงานเจรจาจัดตั้งรัฐบาล นำโรดแม็ปที่สัญญากับประชาชนมาปฏิบัติ ทำประชามติให้มีส.ส.ร.แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลและเกิด การเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และจะเดินสายพบประชาชน ข้าราชการ ภาคธุรกิจ จะดำเนินการหลังจากนี้ พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจกับคนที่เห็นต่างกับ ก.ก.
จะตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ไม่ให้มีสุญญากาศการเมือง เศรษฐกิจ ขอให้มั่นใจการทำงานของก.ก. จะทำงานอย่างละเอียด รวดเร็ว ในส่วนการตั้งคณะทำงานจัดตั้งรัฐบาลได้คุยกับ น.ส.แพทองธารแล้ว โดยน.ส.แพทองธารแสดงความยินดีกับพรรค ประชาชนและฝ่ายประชาธิปไตย บอกว่าพร้อมทำงานร่วมกันในอนาคต
แจงแก้ม.112-นิรโทษ
เมื่อถามว่ากังวลเสียง ส.ว.จะไม่โหวตสนับสนุนให้ครบ 376 เสียงหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่กังวลเสียงส.ว. เพราะเป็นฉันทามติประชาชน การฝืนประชามติประชาชนไม่มีประโยชน์กับฝ่ายใด รวมถึงส.ว. ท่าที ส.ว.แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เมื่อฉันทามติประชาชนมาแล้วทุกฝ่ายต้องน้อมรับ
เมื่อถามว่า จำนวนส.ส.พท. และก.ก.ใกล้เคียงกัน ตำแหน่งรมว.กลาโหมจะเป็นของใคร นายพิธากล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ไม่ได้อยู่ที่กระทรวง จะใช้เรื่องนี้เป็นตัวเจรจา ตนพร้อมนั่งเป็นนายกฯ หรือถ้าจำเป็นนั่งควบในกระทรวงต่างๆ ก็พร้อม แต่ถ้ามีคนเหมาะสม เชี่ยวชาญปฏิรูปกองทัพได้ดีกว่าก็ไม่มีปัญหา
นายพิธากล่าวว่า ส่วนจุดยืนเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 นั้นทุกเรื่องยังไม่คุยในรายละเอียดกับแต่ละพรรค แต่การแก้ไขมาตรา 112 สามารถทำได้ในสภา ตอนนี้ ก.ก.มี 151 เสียง เสียงเกินที่สามารถเสนอได้ โดยใช้สภาเป็นตัวแก้ไข แต่ที่มากกว่าการแก้ไขคือทบทวนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีการเมืองทั้งหมด และโอกาสนิรโทษกรรม เพราะเป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่กับสถาบัน ถ้าไม่รีบพูดคุย อาจเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ของการเมืองไทยที่ตนไม่อยากเห็น
ย้ำอีก-ไม่กังวลคดีหุ้นสื่อ
เมื่อถามว่ากังวลเรื่องคดีการถือหุ้นสื่อที่อยู่ในกกต.หรือไม่ นายพิธาตอบว่า ไม่กังวล พร้อมชี้แจงต่อกกต.ขอเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
เมื่อถามว่าเหตุใดไม่นำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อความเด็ดขาดในการปิดสวิตช์ส.ว. นายพิธากล่าวว่า ไม่จำเป็น การที่ขั้วฝ่ายค้านตั้งรัฐบาล 300 กว่าเสียงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่มีใครกล้าฝืนฉันทามติประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้า ภท. ก็ไม่ได้โทร.มาหา
หนุน‘พิธา’ – นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ และแกนนำพรรค แถลงข่าวสนับสนุนพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 พ.ค.
พท.หนุนก้าวไกลตั้งรัฐบาล
เวลา 13.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำ และ กก.บห.พรรค พท.ประกอบด้วย นายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงภายหลังการประชุม กก.บห. เพื่อกำหนดท่าทีการร่วมจับขั้วรัฐบาลหลัง พท.ได้ ส.ส.มาเป็นอันดับ 2
นพ.ชลน่านอ่านคำแถลงพรรค เรื่อง ผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลระบุ ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการปรากฏแล้วว่า ก.ก.เป็นพรรคอันดับหนึ่ง พท.เป็นพรรคอันดับสอง พท.ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเและเลือกพท.และฝ่ายประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น แสดงถึงความต้องการปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตย พท.ขอแสดงความยินดีกับ ก.ก.ที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง โดยกติกาประชาธิปไตยและสัญญาประชาคมที่พท.เคยแถลงไว้ พท.ขอแสดงความยินดีและยอมรับที่ ก.ก.เสนอตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเห็นด้วยที่ ก.ก.จะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลตามที่หัวหน้า ก.ก.แถลง พท.ยืนยันไม่มีแนวความคิดจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับ ก.ก. และการหารือและกระบวนการต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของก.ก. ดำเนินการ
อิ๊งยันโหวตดัน‘พิธา’นายกฯ
ด้าน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้ฟังคำแถลงจากนายพิธาและคุยโทรศัพท์เมื่อเช้า ยังไม่ได้คุยรายละเอียดใดๆ แค่แสดงความยินดีต่อกัน ซึ่งตนสนับสนุน ก.ก.ที่ได้เสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล เราเคยทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน ส่วนในเชิงรายละเอียด นโยบายและข้อตกลงต่างๆ จะส่งตัวแทนไปร่วมพูดคุยผ่าน กก.บห.พิจารณา
เมื่อถามว่า พท.จะโหวตเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เมื่อก.ก.ได้คะแนนอันดับ 1 เราเคารพเสียงของประชาชน เมื่อถามถึงท่าทีต่อมาตรา 112 น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เรามีจุดยืนที่มั่นคงว่าไม่สนับสนุนให้ยกเลิก แต่พูดคุยในสภาได้ เรื่องกฎหมายต่างๆ ที่มีน้องๆ ติดคุก เราพร้อมพูดคุย ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่ได้พูดคุยอะไร เป็นการคุยแบบเช็กมู้ด (mood) กันเท่านั้น ส่วนรายละเอียดหรือเงื่อนไขการเข้าร่วมมีในใจบ้าง ต้องขอคุยกันในพรรคก่อนเพื่อให้เป็นเมสเสจ (message) เดียวกัน “เมื่อเช้าเราพูดคุยกัน 3-4 นาที คุณพิธาเป็นคนโทร.มา เราต่างแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน ส่วนรายละเอียดต่างๆ ในการเข้าร่วมรัฐบาลจะพูดคุยกันอีกครั้ง”
รับผิดหวังแต่เชียร์ก.ก.เพื่อปชต.
เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยังกลับไทย ก.ค.หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อย่างที่ได้เคยเรียนชัดเจนไปตั้งแต่แรก ว่าการกลับมาของนายทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับพท. ถ้านายทักษิณยังไม่ประกาศเลื่อนวันก็ยังคงเป็นวันเดิม คือ ก.ค. แต่จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนอย่างไร ถ้านายทักษิณได้ออกมาพูดก็ตามนั้น
เมื่อถามว่าจากผลเลือกตั้งครั้งนี้ พท.จะปรับตัวอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า นโยบายเราค่อนข้างตอบโจทย์ของประเทศชาติ แต่เข้าใจว่าสิ่งที่ต้องการการเปลี่ยน แปลงของ ก.ก.เป็นจุดแข็ง การเลือกตั้งก็เหมือนกีฬา มีผู้แพ้ ผู้ชนะ และผู้ที่แพ้หรืออันดับ 2 ก็ต้องผิดหวังบ้าง ซึ่งคิดไว้ว่าจะเป็นอันดับ 1 แต่ก็ยอมรับเพราะเป็นน้ำใจนักกีฬา เมื่อ ก.ก.ได้อันดับ 1 เราแสดงความยินดีด้วยแล้วก็เชียร์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อประเทศชาติที่จะไปต่อได้ ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องของการเมือง ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
รัฐบาล 309 เสียงถือว่าเข้มแข็ง
นพ.ชลน่านเสริมถึงเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลว่า เรายินดีและพร้อมเป็นฝ่ายสนับสนุน ส่วนกระบวนการพูดคุยจะเป็นหน้าที่ของ กก.บห. ส่วนภท.จะเป็นอีกหนึ่งพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ เรา ไม่ก้าวล่วง
เมื่อถามว่า 309 เสียงสามารถโหวตนายกฯ ได้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า จำนวน 309 เสียงถือว่าเข้มแข็ง แต่การจะโหวตนายกฯ ได้หรือไม่นั้นต้องเป็นไปตามกฎหมาย คือต้องไปเลือกในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ได้ 376 เสียงขึ้นไป
เมื่อถามถึงเงื่อนไขของ พท.ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับ ก.ก. นพ.ชลน่านกล่าวว่า กระบวน การเพิ่งเริ่มก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เรายังไม่สรุปจบว่าต้องใช้เวลาเท่าไร ในส่วน พท.ต้องฟังแกนนำว่าจะกำหนดประเด็นข้อหารืออย่างไร ขณะนี้ ยังไม่มีใครได้เห็นเอ็มโอยูของ ก.ก.
หนุนตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
เมื่อถามว่าที่สุดแล้วดีลระหว่าง ก.ก.และพท.จะจบลงด้วยดีหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า หวังว่าจบลงด้วยดี ราบรื่น เป็นไปตามที่พี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยชนะอย่างท่วมท้น เมื่อถามว่ามีเงื่อนใดที่ไม่สามารถเข้าร่วมกับ ก.ก.ได้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอรอดูประเด็นที่ ก.ก.เสนอมาก่อน
เมื่อถามว่าหาก ก.ก.ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ มีโอกาสถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า อย่าไปคาดการณ์อย่างนั้น ภารกิจขนาดนี้ถ้าเรายินดีจะช่วยเขาหรือสนับสนุน เขาต้องทำภาระหน้าที่ให้ถึงที่สุด ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นไม่ควรไปคิดตรงนั้น ต้องทำภารกิจเบื้องต้นให้สำเร็จให้ได้
เศรษฐายินดีพิธา-ยอมรับกติกา
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พท. และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับนายพิธา ที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 สะท้อนฝั่งประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะ ต้องเป็นหน้าที่ของ ก.ก.จัดตั้งรัฐบาล เราทำตามฉันทามติประชาชน ขอวิงวอนและแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ส.ว.ควรโหวตตามความต้องการของประชาชน ซึ่งตนชัดเจนในเรื่องนี้มาตลอด เมื่อถามว่าผลออกมาว่าคะแนนส.ส.ไม่เป็นไปตามเป้ารู้สึกอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า พรรคยังไม่ได้วิเคราะห์อะไร แต่เข้าใจว่าประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง ยืนยันพท.ทุกคนทำงานเต็มที่ ต้องมาพูดคุยกันว่าสาเหตุที่ไม่ได้ส.ส.ตามเป้ามาจากอะไร
นายเศรษฐายังกล่าวถึงจุดยืนตนเองว่า ได้ก้าวเข้ามาจากภาคธุรกิจมาฝ่ายการเมือง จุดประสงค์อยากช่วยเหลือประเทศชาติจึง ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ ส.ส.หรือตำแหน่งสำคัญอะไร เพราะยังมีอีกหลายอาชีพที่สามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ ย้ำว่าต้องยอมรับกติกาและเสียงของประชาชน ขณะนี้ส่วนตัวก็สบายใจขึ้นและดีใจ
อนุทินปัดขอร่วมรัฐบาลก้าวไกล
ส่วนบรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตั้งแต่ช่วงเช้ามีผู้สื่อข่าวหลายสำนักมาติดตามสถานการณ์ เพื่อทราบท่าทีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภายหลังมีกระแสข่าวว่า ภท.แสดงเจตจำนงจับมือกับ ก.ก. และพท. เพื่อตั้งรัฐบาลพร้อมกับยอมปรับนโยบายตามเสียงของประชาชน แต่ปรากฏว่ายังไม่มีวี่แววว่านายอนุทินและแกนนำคนอื่นๆ จะเดินทางเข้าพรรค
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อเพื่อสอบถามไปยังนายอนุทิน ว่าจะไปร่วมงานกับเขาแล้วใช่ หรือไม่ ซึ่งนายอนุทินตอบกลับมาว่า “ไม่รู้แกนนำคนไหน เท่าที่ตรวจสอบ ไม่มีใคร ให้ข่าว”
ชทพ.พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ผลเลือกตั้งสะท้อนถึงความต้องการประชาชน จ.สุพรรณ บุรี ทั้ง 5 เขตแม้ ชทพ.ชนะเลือกตั้งยกจังหวัด แต่เมื่อดูคะแนนแล้วเกือบไปเช่นกัน ขณะที่คะแนนบัญชีรายชื่อ ชทพ.ยังได้คะแนนน้อยกว่า ก.ก.เช่นกัน จากนี้พรรคต้องถอดบทเรียนและปรับตัวให้ทันกับยุคที่เปลี่ยนไป รวมถึงพื้นที่ จ.นครปฐม ต้องถอดบทเรียนและปรับตัวเช่นกัน คะแนนที่ออกมาพบว่าต่อให้ ส.ส.ลงพื้นที่อย่างหนัก แต่ยังสู้กระแสไม่ได้ ที่เคยคิดว่าบุคคลจะหิ้วพรรคแต่พบว่าพรรคมีส่วนสำคัญเช่นกัน
เมื่อถามถึงกรณีแกนนำ ก.ก.ระบุการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะรวมเสียงแค่พรรคฝ่ายค้านเดิม จะเกิดเดดล็อกหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า หาก ก.ก.จะรวมแค่เสียงพรรคฝ่ายค้านเดิมทำได้ ก.ก.รวมกับ พท. ได้.เกือบ 300 เสียงแล้ว ซึ่งตนยืนยันมาตลอดพรรคไม่ได้จ้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น หากจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านสามารถทำได้ และไม่มองว่าจะเกิดเดดล็อกการเมือง และยังไม่มีพรรคใดติดต่อมา
ตู่ยังเข้าทำเนียบ
ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดต นายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้น ในเวลา 09.35 น. พล.อ.ประยุทธ์สวมชุดข้าราชการการเมืองสีกากี เข้าปฏิบัติภารกิจ ที่ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 13.30 น. นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้า รทสช. ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า พูดคุยกันนานกว่า 30 นาที พล.อ. ประยุทธ์ อารมณ์ดี ไม่ได้แสดงสีหน้าเคร่งเครียดอะไร พร้อมให้กำลังใจนายธนกร ในการทำงาน ช่วงหนึ่งของการพูดคุย พล.อ. ประยุทธ์ พูดถึงผลการเลือกตั้ง โดยขอให้ ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกการเลือกตั้งในการจัดตั้งรัฐบาล
รทสช.ให้พรรคอันดับที่ 1 ตั้งรัฐบาล
นายธนกร ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ รทสช.หรือไม่ จะเดินหน้าพรรคอย่างไรต่อว่า เมื่อคืน 14 พ.ค.ได้คุยกันแต่ยังไม่เป็นทางการ เวลานี้เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลต้องให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล และเราก็รอดูอยู่ นายกฯ ก็บอกช่วงรักษาการขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ ดูไทม์ไลน์แล้วอีก 3 เดือน “ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร การเมืองเราอยู่กันมาพอสมควรมีแพ้มีชนะ ต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทย และอีกหลายๆ พรรค อยู่ที่แต่ละพรรคจะมีวิธีการจัดตั้งรัฐบาลกันอย่างไรเราก็รอดู”
ธนกรบอก‘ตู่’ต้องพอแล้ว
เมื่อถามว่าจะไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า เราคาดเดาไม่ได้ แต่พวกเรามีสปิริตทางการเมือง ให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล ถ้าไม่ได้ก็เป็นพรรคอันดับ 2 สำหรับตนถ้าไปเป็นฝ่ายค้านก็พร้อมอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร ส่วน รทสช.มีโอกาสถูกจีบไปอยู่ซีกรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่การเมืองคิดว่าเป็นไปได้หลายหน้า
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เปรยหรือไม่หาก รทสช.ไม่ได้เป็นรัฐบาลยังทำงานการเมืองต่อ นายธนกรกล่าวว่า “ไม่ได้เปรย แต่คิดว่าท่านอาจต้องพอแล้วมั้งครับ ท่านก็ทำเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิตแล้ว และเชื่อว่าอย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์หรือลุงตู่ยังอยู่ในใจคนไทยไปอีกยาวนาน ฉะนั้นวันนี้ให้กำลังใจท่านดีกว่า ไม่ได้รู้สึกว่าเราพ่ายแพ้แล้วจะเป็นอะไร การเมืองก็เป็นอย่างนี้
ส่วนบรรยากาศที่ทำการ รทสช. ยังคงเงียบเหงา ไม่มีการแจ้งกำหนดการความเคลื่อนไหวของแกนนำ และตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่มีแกนนำรายใดเดินทางเข้ายังที่ทำการพรรค
พปชร.ชี้ไม่เร็วไปกก.ตั้งรัฐบาล
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวราเทพ รัตนากร กรรมการยุทธศาสตร์พรรค ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมผลเลือกตั้ง ว่า พรรคได้มาอันดับ 4 ผลคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก คงต้องรอผลการรับรองจาก กกต.อย่างเป็นทางการก่อน พรรคยังไม่มีการหารือกันทุกคนเหนื่อยจากการหาเสียง 16 พ.ค.นี้น่าจะได้หารือกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค ยังไม่ได้ให้แนวทางอะไร คงให้เวลาแต่ละคนไปวิเคราะห์ในพื้นที่ตัวเอง
เมื่อถามว่าเร็วเกินไปหรือไม่ที่ ก.ก.ออกมาแถลงจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านเดิม นายวราเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติหลังผลคะแนนออกต้องมีท่าทีของพรรคแกนหลักที่มี ส.ส. มากที่สุด ไม่ถือว่าเร็วเกินไป แต่ด้วยกติกาที่เป็นการเลือกนายกฯ รูปแบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ตรงนี้มีสัดส่วนของ ส.ว.ด้วย เมื่อถามว่าพปชร.ได้พูดคุยกับ พท. ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 หรือไม่ นายวราเทพกล่าวว่า เท่าที่รู้ไม่มี
ป้อมนัดถกทิศทางพรรค
เมื่อถามว่า พปชร. กับ พท.สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายวราเทพกล่าวว่า คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ ต้องให้พรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 เป็นคนพูด ขอให้รอนิดนึง พึ่งเลือกตั้งเสร็จ 1 วัน เข้าใจว่าคนอยากเห็นรัฐบาลเร็วๆ จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคที่ได้รับคะแนนสูงสุดที่จะดำเนินการ ขั้นตอนมีอยู่แล้วถ้าเขาพูดคุยกันได้ก็ชัดเจน แต่ถ้ายังไม่ได้ก็มีเวลาอยู่ เพราะกฎหมายให้เวลา 60 วัน เมื่อถามว่าส.ส.บัญชีรายชื่อพปชร. ได้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 จะเป็นเองหรือเสียสละให้ลำดับต่อไป นายวราเทพกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอจนกว่าสภาเปิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พปชร.นัดประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน 16 พ.ค. เวลา 15.00 น. ที่ทำการพรรค พปชร. เพื่อสรุปภาพรวมผลการ เลือกตั้ง และทิศทางของพรรค
ปชป.เลือกกก.บห.ชุดใหม่ใน60วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า จากกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค แจ้งลาออกเมื่อกลางดึกวันที่ 14 พ.ค. เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งนั้น วันที่ 15 พ.ค. ยังเป็นวันครบวาระการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนาย จุรินทร์ และการลาออกของนายจุริทร์ ส่งผล กก.บห.พรรคทั้งชุดต้องพ้นหน้าที่ โดยต้องเลือกตั้งกันภายใน 60 วัน
รายงานข่าวจาก ปชป.แจ้งว่า ขั้นตอนเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห.ชุดใหม่ ตามข้อบังคับพรรคต้องเรียกประชุมวิสามัญเพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ภายใน 60 วัน ซึ่งมีข้อกังวลเพราะระยะเวลาเท่ากับ 60 วันที่ กกต.รับรองส.ส.ใหม่ การนัดประชุมต้องดูว่ากกต.จะรับรองส.ส.ใหม่เร็วหรือไม่ เพราะส.ส.ต้องเป็นองค์ประชุมสำคัญถึง 70 เปอร์เซนต์ แต่ข้อบังคับพรรคระบุหากไม่มีส.ส.ก็ให้ใช้ อดีตส.ส.เป็นองค์ประชุม แต่กังวลว่ากกต.จะรับรองส.ส.ในช่วงกำหนดวันประชุมวิสามัญ และหากรับรองมาเพียง 2 คน อดีตส.ส.ก็จะไม่ได้เป็นองค์ประชุมก็จะเป็นปัญหาอีก ดังนั้น รักษาการ กก.บห.ต้องพิจารณาแนวทางก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
รายงานข่าวแจงด้วยว่า เมื่อผลเลือกตั้งออกมาอย่างนี้คาด นายจุรินทร์ไม่น่าที่จะกลับมาชิงหัวหน้าพรรคอีก อาจเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค หรือถ้าไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ ก็ต้องหาคนรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น
เฉลิมชัยชี้อย่าหวังพึ่งส.ว.
นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว. กล่าวถึงจุดยืน ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ หลัง ก.ก ประกาศรวมเสียงกับ พท.และฝ่ายค้านเดิม แต่ระบุจะให้เสียง ส.ว. ลงคะแนนให้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า ตนเป็น ส.ว.มา 4 ปีมองว่าเป็นไปไม่ได้ พรรคที่จะเป็นรัฐบาลต้องไปหาเสียงให้ได้ 376 เสียงเองก่อน อย่ามาหวังพึ่งเสียง ส.ว. ไปเอา ภท.มาร่วมก็ได้แล้ว จะได้ปิดสวิตช์ ส.ว.ไปเลย เพราะถ้ามี ส.ว.งดออกเสียงก็จะทำให้เสียงไม่ถึง 376 อยู่แล้ว
ยอมรับว่าปัจจัยการเลือกของส.ว.ไม่ใช่เรื่องเสียงที่ได้รับจากประชาชนหรือเสียงข้างมากอย่างเดียว ต้องดูว่าใครตั้ง ส.ว.ชุดนี้ และมีที่มาอย่างไร ส.ว.มีเสียงแบ่งเป็นกลุ่มๆ มีส.ว.อิสระไม่ถึง 20 คน เวลาลงมติจริงก็ไม่รู้จะอิสระหรือไม่ ยกตัวอย่างข้อเสนอให้ตัดอำนาจส.ว. มี 23 ส.ว. เห็นด้วย แต่กลุ่มนี้อาจงดออกเสียงในการลงมติเลือกนายกฯ และจะยึด ส.ว. 23 คนมา บอกว่าโหวตตามเสียงข้างมากไม่ได้
“ดังนั้น ต้องรวมเสียงให้ได้ 376 เสียง ไม่เช่นนั้นก็ผ่านไม่ได้ และถ้ารัฐสภาเลือกนายกฯ ครั้งแรกไม่ได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องไปหาพรรคอื่นมารวมให้ได้ 376 เสียงเพื่อเลือกครั้งที่ 2 อีกครั้ง ซึ่งส.ว.ทุกคนมีอิสระ” นายเฉลิมชัยกล่าวและว่า ส่วนตัวมีจุดยืนชัดเจนฝ่ายใดรวบรวมเสียงข้างมากได้เกิน 250 เสียง จะโหวตให้ฝ่ายนั้นเป็นนายกฯ แม้จะเป็นคนของพท. หรือ ก.ก.ก็พร้อมโหวตให้ แต่ส.ว.คนอื่นๆ ไม่กล้าการันตีจะคิดแบบเดียวกันหรือไม่
กิตติศักดิ์ยันไม่มีธงเลือกนายกฯ
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวว่า ขอรอดูให้ตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนของวุฒิสภา และส่วนตัวมองว่าเมื่อมาถึงขั้นตอนเลือกนายกฯ ตามมาตรา 272 ส.ว.จะพิจารณาคุณสมบัติผู้จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ถ้าใครมีคุณสมบัติตรงนี้ส.ว.จะพิจารณา
และถ้าได้รัฐบาล ก.ก. กับ พท.และขั้วฝ่ายค้านเดิมก็ขอให้รอถึงวันนั้น เป็นไปได้หมด ถ้าเลือกรอบแรกแล้วไม่ผ่าน เช่น คุณสมบัติไม่ผ่านก็อาจมีการงดออกเสียง ตัวอย่างว่า กกต.กำลังพิจารณาเรื่องร้องเรียนนายพิธา ซึ่งต้องรอดูผลเป็นองค์ประกอบ และดูหลายๆ ปัจจัยด้วย
“ยืนยัน ส.ว.ไม่มีธง แต่เรามองไปไกลว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร เลือกใครมีปัญหาหรือไม่ ถ้าเป็นการชักศึกเข้าบ้าน มีความขัดแย้งหรือทำให้มีการเดินลงถนนเต็มถนนอีกหรือไม่ ต้องมองหลายมิติ” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
วันชัยจับตาตั้งรบ.ให้ได้ก่อน
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวถึงการร่วมเลือกนายกฯ ของวุฒิสภาว่า ต้องติดตามว่า ก.ก.มีเสียงมาอันดับ 1 แต่ไม่ได้หมายความว่ามีเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภา เป็นภารกิจของ ก.ก.รวมพรรคให้ได้เกิน 251 เสียง จนถึง 376 หรือไม่ ตนไม่แน่ใจพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 ต้องเป็นรัฐบาลเสมอไป ครั้งที่แล้ว พท.ก็มีเสียงอันดับ 1 ก็เป็นฝ่ายค้าน ครั้งนี้ก.ก.ได้เสียงอันดับ 1 แต่ไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเกินกว่า 251 เสียงถ้าประสาน พท.ได้ก็มีสิทธิ์ได้เกิน 300 เสียง ต้องดูว่าตกลงกันได้หรือเปล่าว่าใครเป็นนายกฯ และการทำนโยบายต่างๆ รวมกันได้หรือเปล่า และถ้ารวม ภท.และ ชทพ.ด้วย ก็ขาดลอยแทบไม่ต้องใช้เสียงส.ว.เลย
เท่าที่ดู ส.ว.หลายคนประกาศชัดเจน ไม่ได้หมายความว่าเสียงข้างมากอันดับ 1 เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูแคนดิเดตนายกฯ ดูนโยบายพรรค ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาเลือกนายกฯ ด้วย และเชื่อว่า พท.และพรรคอื่นคงไม่ดูแค่เสียงมาอันดับ 1 แต่คงดูนโยบายเข้ากันได้หรือไม่และต้องเสนอใครเป็นนายกฯ จึงอย่าเพิ่งมาตั้งเป้าหรือเล็งมาที่ส.ว.โดยตรง
เสรีปัดตอบโหวตหนุนพิธา
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ให้สัมภาษณ์กรณีผลการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ฝั่งประชาธิปไตยชนะเลือกตั้ง ว่า สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนต้องการเปลี่ยน หลังจากที่ขั้วรัฐบาลเดิมทำงานมานานย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกจับตาจับผิดได้มากกว่า เป็นธรรมดาของการเมือง เมื่อถามถึงการสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ก.ก. นายเสรีปฏิเสธให้ความเห็น ระบุเพียงว่ารอดูความชัดเจนของการจับมือตั้งรัฐบาลก่อน
กกต.อนุมัติ 1 หมื่นล.ช่วยค่าไฟแพง
วันเดียวกัน กกต.ได้ประชุมพิจารณา ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือ ขอความเห็นชอบกรณีใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมาตรา 169 (3) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ของกระทรวงพลังงาน เพื่อให้ดำเนินการเป็นไปตามมาตรา 168(3) นั้น
กกต.มีมติเห็นชอบให้ใช้งบ 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายฯ เป็นค่าใช้จ่ายบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน จากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ในลักษณะการให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟที เดือนพ.ค.-ส.ค. 66 ภายในกรอบวงเงิน 10,464,000,000 บาท ตามที่ครม.เสนอ
