จากกรณีศาลอาญาออกหมายจับ 3 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานความผิดข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและใช้เอกสารปลอม และข้อหาผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (ม.157) จากคดีการเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย ในพื้นที่สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 ก่อนปรากฏข่าวมีการเรียกรับผลประโยชน์ชาวจีนผิดกฎหมายภายในบ้านหลังดังกล่าว รวมเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมดจนหลบหนีออกนอกประเทศไปได้ อีกทั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นัดหมายให้ทั้งหมดเข้ามอบตัวในวันที่ 23 พ.ค. ที่สโมสรตำรวจ ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ค. นายตฤณ พิชิตกุญชร อดีต ผอ.ส่วนกลั่นกรองและการข่าวคดีพิเศษภาคกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค และนายอนัน สีลาโคตร อดีตเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เดินทางเข้ามอบตัวที่สโมสรตำรวจ ส่วนนายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ หรือ ผอ.ท็อป อดีตผอ.กองพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ และเคยเป็นหน้าห้องอดีตอธิบดีดีเอสไอเดินทางเข้ามอบตัวที่สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
บิ๊กดีเอสไอ – นายตฤณ พิชิตกุญชร และนายอนัน สีลาโคตร อดีตจนท.ดีเอสไอ เข้ามอบตัวคดีตบทรัพย์แก๊งจีนเทา ที่สโมสรตำรวจ ก่อนถูกนำตัวไปสอบสวนที่สน.ทุ่งสองห้อง วันเดียวกันนายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ หรือผอ.ท็อป ผู้ต้องหาอีกคน ก็ย่องเข้ามอบตัว โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ทั้งหมดเดินทางเข้ามอบตัวแล้วและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และได้ให้ประกันตัวไปตามสิทธิ์ จากนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดไปดูอีกว่ายังมีบุคคลใดเกี่ยวข้องและเข้าข่ายความผิดอีกบ้าง หากครบถ้วนจะแถลงปิดคดีอีกครั้งให้สังคมรับทราบ ส่วนเจ้าหน้าที่สถานทูตกงสุลใหญ่นาอูรู 1 รายที่เกี่ยวข้องถูกแจ้งดำเนินคดีเช่นเดียวกัน สำหรับเงิน 10 ล้านบาทที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันเรียกรับนั้น ทุกวันนี้ยังหาไม่เจอ แต่เชื่อว่าแบ่งกันเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีผู้ต้องหารายใดยอมเปิดเผย แต่จะอาศัยพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เชื่อมโยง
