ทุบรถยับตื้บเมีย โดนแจ้ง‘2ข้อหา’ ปฏิเสธ-ไม่ให้การ
ด.ต.หึงโหดมอบตัวแล้ว คดีทำร้ายเมีย-ค้อนทุบ โดนแจ้ง 2 ข้อหา ทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ เจ้าตัวปิดปากเงียบ ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่งฝากขังศาลนาทวี ไม่ให้ประกันตัว ถูกคุมเข้าเรือนจำ ล่าสุดโดนให้ออกจากราชการไว้ก่อน
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีด.ต.พงศักดิ์ รจนัย อายุ 51 ปี ผบ.หมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาจนหัวแตกและแน่นิ่งกับพื้นถนน ก่อนจะใช้ค้อนทุบรถเก๋งจนพังเละทั้งคัน และยังกระชากสร้อยคอไปด้วย จากความหึงหวงที่ภรรยาออกไปเที่ยวงานวันเกิดของเพื่อนที่ผับ แห่งหนึ่งที่บ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 มิ.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดยเมื่อเวลา 09.30 น. ผู้บังคับบัญชาของ สภ.เมืองสตูล ได้นำตัวด.ต.พงศักดิ์ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา แล้ว หลังจากที่เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับด.ต.พงศักดิ์ใน 2 ข้อหา คือ “ชิงทรัพย์ และใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ”
หลังรับมอบตัวพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาตามหมายจับ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้การในชั้นพนักงานสอบสวน โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ทางพนักงานสอบสวนจึงคุมตัวด.ต.พงศักดิ์เข้าห้องขัง สภ.สะเดา เพื่อรอส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวีพร้อมคัดค้านการประกันตัวต่อไป ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทางผู้บังคับบัญชาอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่อีกด้วย
ดต.นอนคุก – ด.ต.พงศักดิ์ รจนัย ตำรวจสังกัดสภ.เมืองสตูล เข้ามอบตัวที่สภ.สะเดา จ.สงขลา คดีซ้อมเมียและทุบรถเก๋งพังยับ เหตุจากเรื่องหึงหวง โดนตั้ง 2 ข้อหาชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ก่อนส่งฟ้องศาลจังหวัดนาทวี และ ไม่ได้ประกันตัว เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอเป็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งถูกทำร้ายนอนกองอยู่บนพื้นถนนข้างรถเก๋งในสภาพที่เสื้อผ้าถูกฉีกจนเปลือยหน้าอกและพยายามยกมือขึ้นเพื่อช่วยเหลือตัวเอง และมีชายคนหนึ่งถือค้อนดูเหมือนมากระชากสร้อยที่คอของฝ่ายหญิงอย่างไม่ไยดีหรือคิดจะช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพเหตุการณ์ชายฉกรรจ์รายหนึ่งกำลังทำร้ายร่างกายผู้หญิงกลางถนน โดยใช้หมวกกันน็อกทุบพร้อมทั้งกระชากสร้อยของเธอ ก่อนใช้ค้อนทุบรถเก๋งของฝ่ายหญิงจนเสียหาย ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่าคล้ายเหตุชิงทรัพย์ โดยได้เขียนแคปชั่นโพสต์ว่า ร้านปิด ตั้งใจออกไปซื้อของกินขับหาที่จอดรถ สรุปเจอแบบนี้ทำเอาตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกเลย !!! รีบโทรแจ้ง 191 ตำรวจมาช้า ขับรถเวียนเพื่อหาตำรวจ ไปยันด่านมาเลเซีย แต่ด่านปิด สรุปเวียนจนตำรวจมาทัน #ขอให้ผู้หญิงคนในคลิปปลอดภัย (ผู้หญิงคนนี้โดนทุบด้วยหมวกกันน็อค และใช้ฆ้อนทุบหัว โดนกระชากสร้อย) ขอให้ปลอดภัยนะคะ ใครมาทำงานด่านนอกระวังตัวด้วยนะคะ #เหตุเกิดที่ด่านนอก ปรากฏว่าหลังจากที่คลิปนี้ได้ถูกแชร์ออกไปในโซเชี่ยลผู้คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากในทำนองว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและเลวร้ายมากทำกับผู้หญิงได้อย่างไร
ขณะที่กล้องวงจรปิดอีกมุมบันทึกเหตุการณ์ขณะทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะกัน เป็นภาพคนก่อนก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามรถเก๋งของหญิงรายดังกล่าวออกจากผับแห่งหนึ่งแล้วมาจอดเคลียร์กันตรงจุดเกิดเหตุ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน โดยชายคนก่อเหตุได้ฉุดกระชากตัวผู้หญิงลงจากรถและทำร้ายร่างกายใช้หัวโขกกับพื้น รวมทั้งใช้ค้อนทุบรถเก๋งจนเละทั้งคัน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจะอยู่ในระยะไกลแต่ก็มองเห็นพฤติกรรม ขณะทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างชัดเจนและนานเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งขณะเกิดเหตุก็มีผู้คนขับรถผ่านไปมาแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและกลัวอันตรายว่าฝ่ายชายอาจมีปืน ก่อนที่ตำรวจและรถหน่วยกู้ชีพจะมาถึง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อมูลก่อนพบว่าเป็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างผัวเมีย ซึ่งฝ่ายชายเป็นตำรวจ โดยหลังจากที่ตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา ได้รับแจ้งเหตุรีบลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุทันทีพร้อมหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลสำนักขาม และได้ช่วยเหลือผู้หญิงอายุ 45 ปี นำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดา พบว่าได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะถูกโขกกับพื้นอยู่ในอาการมึนงง
จากการสอบถามผู้หญิงบอกว่าคนที่ทำร้ายเธอเป็นสามีคือ ด.ต.พงศักดิ์ รจนัย อายุ 51 ปี ผบ.หมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล สาเหตุมาจากความหึงหวงที่เธอไปร่วมงานวันเกิดเพื่อน และฝ่ายชายตามมาอาละวาดทำลายรถและใช้มือโขกศีรษะลงกับพื้น ไม่ได้ใช้หมวกกันน็อกหรือใช้ค้อนทุบหัวแต่อย่างใด แต่ใช้ค้อนทุบรถเก๋งมาสด้า สีเงิน ทะเบียน 7 กฐ 2786 กรุงเทพฯ จนพังยับทั้งคัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับด.ต.พงศักดิ์จากศาลจังหวัดนาทวีในข้อหา “ชิงทรัพย์ และข้อใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ” พร้อมประสานไปยังผู้บังคับบัญชา กระทั่งพาด.ต.พงศักดิ์มามอบตัวดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนนำตัว ด.ต.พงศักดิ์ ส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวี ล่าสุดศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งเข้าเรือนจำ ขณะที่ทางด้านผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ด.ต.พงศักดิ์ ออกจากราชการไว้ก่อนอีกด้วย
