บินไปเที่ยวญี่ปุ่น-ยุโรป ในแพ็กเกจไม่ถึง2หมื่น อ้างททท.สนับสนุนงบ
ตำรวจสุราษฎร์ฯ-ท่องเที่ยว แถลงจับบริษัททัวร์ทิพย์ตุ๋นขายแพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศ รวบ 6 ผู้ต้องหา ตั้งบริษัทหลอกขายแพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศ รวบ 6 ผู้ต้องหา ตั้งบริษัทหลอกขายแพ็กเกจทัวร์ราคาสุดถูก โปรแกรมฮิตทัวร์ญี่ปุ่น5 วัน11,000 บาท ทัวร์ยุโรป 8 วัน 5 ประเทศ แค่ 17,999 บาท อ้างราคาถูกเพราะรับเงินสนับสนุนจากททท. เหยื่อหลงเชื่อนับร้อยราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย-ข้าราชการบำนาญ พบความเสียหายแล้วกว่า 27 ล้านบาท สอบบริษัทเหลือเงินในบัญชีแค่ 44 บาท ตร.ยันข้อเท็จจริงเป็นราคาไม่สามารถทำได้ ปัจจุบันต้นทุนตั๋วเครื่องบินหรือที่พัก ราคาปรับขึ้นมา ไม่น้อยกว่า 50% เตือนหากพบทัวร์น่าสงสัยรีบแจ้งตำรวจทันที
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 มิ.ย. นายบันดาล สถิรชวาล รองผวจ.สุราษฎร์ธานี, พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3, น.ส.นันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผอ.ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี และนายสมชาย เสมมณี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงจับกุมบริษัทฉ้อโกงหลอกลวงขายแพ็กเกจทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศ มีผู้ต้องหา 6 คน คือ นายสุมนตรี สอนนอง, น.ส.ภานุดา เทพชุม, นายกอบศักดิ์ เพ็ญสวัสดิ์, นางวงจันทร์ เพ็ญสวัสดิ์ และนางศรีประภา คงพยัคฆ์ กับนายธนากร คงพยัคฆ์ นายหน้าหาลูกค้า ทั้งหมดถูกจับในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนโดยเป็นการกระทำต่อประชาชน
พล.ต.ต.ศรัญญู เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และสภ.กาญจนดิษฐ์ รวมทั้งสิ้น 27 ราย รวมความเสียหายประมาณ 27 ล้านบาท ทั้งหมดซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวต่างประเทศกับบริษัทพีที อินฟินิตี้ ทัวร์ จำกัด (PT INFINITY TOUR) ตั้งอยู่เลขที่ 7/4 หมู่ที่ 5 ต.บางมะเดื่อ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี อ้างว่าให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยผู้เสียหายบางส่วนก็ถูกชักชวนจากคนรู้จัก และติดตามจากหน้าเพจของบริษัท ซึ่งระบุว่า บริษัทสามารถจัดแพ็กเกจไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โซนต่างๆ หลายประเทศราคาถูก อ้างว่าที่ราคาถูก เพราะว่าได้รับการสนับสนุนเงินบางส่วนจากททท. ผู้เสียหายหลงเชื่อตัดสินใจซื้อแพ็กเกจทัวร์ ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดก็ไม่สามารถเดินทางไปได้
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่แจ้งความตำรวจอีกหลายท้องที่ รวมถึง ผู้ที่เคยซื้อทัวร์ไว้แต่ยังไม่ถึงกำหนด เดินทาง หลังทราบข่าวจึงจะไปขอเงินคืน หลังจากรับแจ้งความแล้วเจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าว เพื่อเก็บหลักฐาน เส้นทางการเงิน ตลอดจนตรวจสอบจำนวนผู้เสียหายที่แท้จริง ขณะนี้กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี และติดตามเงินคืนผู้เสียหายให้มากที่สุด
ด้านพล.ต.ต.กฤษณ์กล่าวว่า บริษัท แห่งนี้จดทะเบียนและมีใบอนุญาตถูกต้อง ความผิดที่พบมีเพียงเรื่องไม่ติดแสดงใบอนุญาตให้เห็นชัดเจนเท่านั้น ส่วนข้อหาฉ้อโกงฯ นั้นอยู่ในขั้นตอนของการร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินคดี หากประชาชนท่านใดที่สงสัยว่าจะตกเป็นเหยื่อ ก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หรือสถานีตำรวจในพื้นที่และตำรวจท่องเที่ยวได้ทันที กรณีนี้มีข้อสังเกตที่สำคัญคือ ทางบริษัทออกแพ็กเกจทัวร์ในราคาที่ถูกกว่าราคาท้องตลาด เมื่อเทียบเท่าช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 เพราะข้อเท็จจริงแล้วเป็นราคาที่ไม่สามารถทำได้ ปัจจุบันต้นทุนทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ราคาปรับขึ้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 50% จึงฝากถึงประชาชนที่พบเห็นบริษัททัวร์หรือการโฆษณาขายทัวร์ลักษณะที่ต้องสงสัย ก็ขอให้รีบแจ้งตำรวจตรวจสอบได้ทันที
ส่วน นายบันดาลกล่าวว่า เรื่องนี้นาย วิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ฯ มีความห่วงใย จึงกำชับให้ทุกฝ่ายเร่งสอบสวนและตรวจสอบบริษัทลักษณะเดียวกันนี้ว่ายังมีอีกหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้มี ผู้เสียหายเพิ่มมากกว่านี้ เพราะจะส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ปัจจุบันมิจฉาชีพและอาชญากรรมออนไลน์มีความรุนแรง รูปแบบการหลอกลวงที่ซับซ้อนมากขึ้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งแก้ปัญหา สิ่งสำคัญคือการสร้างการรับรู้ถึงรูปแบบวิธีการ การป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หากท่านใดได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งมิจฉาชีพ หรือถูกหลอกลวงออนไลน์ต่างๆ ก็สามารถแจ้งเบาะแสได้ทางสายด่วนโทร. 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับพฤติการณ์ ของกลุ่มผู้ต้องหาได้เปิดเป็นบริษัทนำเที่ยวและจดทะเบียนบริษัทเมื่อเดือนม.ค. 2565 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ทุนประกัน 6 หมื่นบาท พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเงินในบัญชีแค่ 44 บาท ส่วนโปรแกรมทัวร์ที่ประกาศขายทัวร์ยอดฮิต ได้แก่ ทัวร์ประเทศญี่ปุ่น 5 วัน 11,000 บาท และทัวร์ยุโรป 8 วัน 5 ประเทศ (ออสเตรีย, เช็ก, สโลวะเกีย, เยอรมนีและฮังการี) ราคา 17,999 บาท ที่เสนอขายแพ็กเกจทางเฟซบุ๊กในราคาถูกกว่าปกติ อ้างว่าได้รับการสนับสนุนเงินบางส่วนจากททท. ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและข้าราชการบำนาญที่หลงเชื่อตัดสินใจซื้อแพ็กเกจทัวร์พร้อมโอนเงินให้บริษัท ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดก็ไม่สามารถเดินทางได้แต่อย่างใด จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีและจับกุมดังกล่าว
