เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสัตว์น้ำจำนวนมากลอยตายในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำโจน ความจุ 4 แสนลูกบาศก์เมตร ที่หมู่ 6 บ้านหุบไผ่ ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำหรับพื้นที่ดังกล่าวใกล้อยู่ในจุดแคบสุดในประเทศไทย ใกล้กับเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนไทย-พม่า ตรวจสอบพบว่ามีปลาหลายสายพันธุ์ลอยน้ำตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

นางอำไพ บุตรดี อายุ 68 ปี ประธานกลุ่มแม่บ้านหุบไผ่ กล่าวว่า พบปลาลอยน้ำตาย ต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ มีทั้งปลาบู่ ปลานิล ปลาตะเพียน แต่ละวันมีไม่ต่ำกว่า 400-500 กิโลกรัม ชาวบ้านในพื้นที่ต้องช่วยกันเดินรอบอ่างเก็บซากปลาใส่ถุงปุ๋ยเพื่อนำซากไปฝัง บางรายทำปุ๋ยในสวนมะพร้าว ไม่เช่นนั้นซากปลาจะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ช่วงแรกที่ปลาตาย ชาวบ้านคิดว่ามีการวางยา หรือเป็นโรค แต่จากการนำซากปลาไปตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีสารเคมีปนเปื้อน ขณะที่การตรวจสอบตัวอย่างน้ำไม่มีปัญหาน้ำเน่าเสีย

ปลาตาย – ปลาลอยตายเกลื่อนอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำโจน ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวนมากที่สุดในรอบ 30 ปี สาเหตุคาดว่ามาจากสภาพอากาศร้อนจัดจนทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.

เนื่องจากปัจจุบัน ชาวบ้านมากกว่า 100 หลังคาเรือนใช้น้ำในอ่างผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคและน้ำ เพื่อการเกษตรในการเลี้ยงโคนม จึงต้องเร่งเก็บซากปลา เพื่อให้การผลิตน้ำประปาไม่มีผลกระทบจากกลิ่นเหม็นและชาวบ้านสามารถใช้น้ำตามปกติ

“ยอมรับว่าในรอบ 30 ปี ตั้งแต่มีการสร้างอ่างเก็บน้ำไม่เคยพบปลาตายในลักษณะนี้ มาก่อน บางปีเจอภัยแล้งนานหลายเดือน น้ำในอ่างลดลงมากแต่ไม่พบว่ามีปลาลอยน้ำตาย สำหรับปีนี้คาดว่าปลาตายทั้งอ่าง มีสาเหตุจากสภาพอากาศร้อนจัดนานผิดปกติ เนื่องจาก ฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน และหลังจากนี้ชาวบ้านก็ต้องช่วยกันหาพันธุ์ปลาไปปล่อยในอ่างเพื่อทดแทนปลาที่ตายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด” นางอำไพกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน