วันที่ 7 มิ.ย. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ปปง.จัดประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณายึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 262 รายการ 19 รายคดี มูลค่าประมาณ 558 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีความผิดมูลฐานยาเสพติดและฉ้อโกงประชาชน โดยมีรายคดีสำคัญ เช่น บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์กระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว 21 รายการ (ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 221 ล้านบาท

กลุ่มบุคคลที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน ความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) 1 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 176 ล้านบาท, น.ส.พัชรลักษณ์กับพวกซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์กระทำความผิดมูลฐาน ลักทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว 24 รายการ (ทองคำแท่ง ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และสิทธิเรียกร้องฯ) พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 86 ล้านบาท

นายเทพสุกล่าวเพิ่มเติมว่า ปปง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานอีกหลายคดี โดยมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานและตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด ในขณะเดียวกัน ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน สำนักงาน ปปง.ก็จะพิจารณาดำเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายด้วย โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิภายใน 90 วันตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน