ลวงถอยป้ายแดง-ชิ่งหนี หลอกร้านออนไลน์ด้วย
จับคากำไล ‘อีเอ็ม’ สาวแสบ ‘หมวย บุษราคัม’ หว่านเสน่ห์ตีสนิทหนุ่มตามแอพหาคู่ ก่อนลวงให้ดาวน์รถป้ายแดงพอสำเร็จตามประสงค์ ก็ชิ่งหนีเลิกติดต่อทันที หนุ่มๆ หลงมนต์ต้องนั่งผ่อนลมกันอื้อ เหยื่ออีกกลุ่มเป็นบรรดาสาวๆ นับ 100 ราย ในกลุ่มขายเครื่องสำอาง-อาหารเสริม เหมาสินค้าจ่ายมัดจำแค่ 10% ก่อนเอาไปขายเลหลังลดครึ่งราคาให้ร้านค้าส่ง มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้าน พบมีคดีฉ้อโกงติดตัวยาวเป็นหางว่าว
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภาค 2 พร้อม พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.บช.ภาค 2 ร่วมกันจับกุม น.ส.บุษราคัม หรือหมวย เสาร์ทอง ผู้ต้องหาก่อเหตุหลอกดาวน์รถยนต์และ หลอกขายอาหารเสริม โดยจับกุมได้ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ขณะเจ้าตัวยังสวมใส่กำไลอีเอ็มไว้ที่ข้อเท้า
จับคากำไล – พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 แถลงจับน.ส.บุษราคัม เสาร์ทอง ใช้แอพหาคู่ลวงชายหนุ่มดาวน์รถยนต์ให้ และ หลอกขายอาหารเสริมมีเหยื่อนับร้อยคน โดยผู้ต้องหา ยังสวมกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ดาวน์รถยนต์และถูกหลอกซื้ออาหารเสริมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ร้องเรียนและนำหลักฐานมายื่นให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โดยตัวแทนผู้เสียหายระบุว่า ผู้ต้องหามาตีสนิทผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่หลอกว่าจะคบหากัน
จากนั้นผู้ต้องหาออกอุบายว่า เคยมีแฟนแต่เลิกไปแล้ว อยากจะสร้างครอบครัวร่วมกัน ก่อนให้ไปดาวน์รถยนต์ป้ายแดงตามโชว์รูมในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยใช้เอกสารส่วนตัวของฝ่ายชายทั้งหมด เมื่อออกรถมาได้แล้วก็จะนำรถไปและก็เลิกติดต่อกับฝ่ายชายทันที โดย ผู้เสียหายหลายรายถูกหลอกให้ไปดาวน์รถ ทำให้ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าผ่อนรถยนต์ด้วยตัวเอง
ขณะที่ผู้เสียหายอีกกลุ่มเป็นผู้หญิงใน จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาหลอกมาตีสนิท โดยจะไปหาเหยื่อตามกลุ่มรถซิ่งและกลุ่มขายเครื่องสำอาง จากนั้นจะชวนพูดคุยกันจนสนิท แต่จะใช้เวลานานกว่ากลุ่มแรกประมาณ 2 ปี อ้างอยากช่วยขายอาหารเสริม ขอเหมา เครื่องสำอาง หรืออาหารเสริมไปขายต่อ โดยมัดจำเพียงร้อยละ 10 ของราคาสินค้า จากนั้นนำไปขายต่อครึ่งราคาของสินค้าผ่านร้านค้าส่ง เพื่อให้ได้เงินเร็ว แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงิน ผู้เสียหายกลับติดต่อไม่ได้ มีผู้เสียหายถูกหลอกลักษณะนี้กว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท เบื้องต้นตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบมีคดีฉ้อโกงติดตัวอีกถึง 11 คดี
