รีดเงินโรงแรมส่งนาย จนมุม-ยังให้การปฏิเสธ

อ้างค่าดูแลนาย! ปลัดอำเภอสาวรีดเงินแลกต่อใบอนุญาตโรงแรมที่อ่าวนาง ตำรวจ ปปป.ร่วมป.ป.ท. ซ้อนแผนจับคาร้านกาแฟที่กระบี่ยังให้การปฏิเสธ อีกคดีแถลงผลร่วมกับผอ.ฝ่ายสืบสวนแบงก์กรุงไทย กวาดล้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินอปท. 5 แห่ง ใน 5 จังหวัด ยักยอกเงินหลวงรวมกันกว่า 84 ล้านบาท พบส่วนใหญ่ติดพนันออนไลน์งอมแงม

วันที่ 14 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. นายกฤษณ์ กระแสเวส รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามทุจริตในภาครัฐภูมิ 2 ป.ป.ท. ร่วมกันแถลงจับกุมน.ส.ฐิฌาพร คงเหมือน อายุ 42 ปี ปลัดอําเภอเมืองกระบี่ ผู้ต้องหาคดี เป็น เจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดฯ และเป็น เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ภายหลังถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่

พ.ต.อ.ประสงค์เผยว่า เมื่อเดือนส.ค. 2565 ผู้เสียหายเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ มอบหมายให้ผู้จัดการไปยื่นคําร้องขอต่อใบอนุญาตธุรกิจโรงแรม และขออนุญาตเพิ่ม จํานวนห้องพักโรงแรมต่อเจ้าหน้าที่อําเภอเมืองกระบี่ ปรากฏว่าขณะนั้นผู้ต้องหาปฏิบัติราชการแทนนายอําเภอเมืองกระบี่ เป็นผู้มีอํานาจลงนามในหนังสือรับรองการยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาตฯ หลังยื่นคําร้องผ่านไปหลายเดือนแล้วทางโรงแรมยังไม่ได้รับเอกสารการต่ออายุใบอนุญาตแต่อย่างใด

กระทั่งเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาแจ้งมาว่าการต่อใบอนุญาตนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 1 แสนบาท โดยให้ผู้เสียหายนํามามอบให้อ้างว่าจะนำไปใช้ดูแลเจ้านายระดับสูง หากไม่ได้จะไม่ให้ส่งเรื่องขึ้นไป ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดต่อกฎหมายจึงเข้ามาร้องทุกข์ที่บก.ปปป. เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุม โดยนัดหมายให้ผู้ต้องหามารับเงินของกลางที่ร้านกาแฟในพื้นที่ เมื่อถึงกำหนดนัดหมายผู้ต้องหาเดินทางมารับเงินของกลาง ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว

สอบสวน น.ส.ฐิฌาพรยังให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่งสภ.เมืองกระบี่ เพื่อลงประจําวัน ก่อนมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. ดําเนินคดีต่อไป

วันเดียวกัน นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.กระบี่ เผยว่า ทำรายงานเข้าไปยังกรมการปกครอง และสั่งการด่วนให้ปลัดคน ดังกล่าวเข้ามาช่วยราชการที่ทำการปกครอง จ.กระบี่ พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยควบคู่ไป ส่วนทางอาญาเป็นหน้าที่ทางตำรวจดำเนินการไป หลังจากนี้ผลสอบจะได้ข้อสรุปอย่างไร จะรายงานให้กระทรวงทราบอีกครั้ง

“ยืนยันว่าเรื่องการทุจริตในพื้นที่จ.กระบี่ ผมสั่งการเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว หากมีการตรวจสอบพบ ไม่ว่าเจ้าตัวจะปฏิเสธหรือไม่ก็ตาม เราจะต้องดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสที่สุด จะไม่มีการปกป้องข้าราชการที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะมาจากสังกัดใดก็ตาม” ผวจ.กระบี่ กล่าว

จับปลัดสาว – ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนจับน.ส.ฐิฌาพร คงเหมือน ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ เรียกรับเงินค่าใบอนุญาตโรงแรมจำนวน 1 แสนบาท ที่ร้านกาแฟใน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ เมื่อ วันที่ 14 มิ.ย.

วันเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ พร้อมพ.ต.อ.ประสงค์, นายกฤษณ์ และพ.ต.ท. สิริพงษ์ ยังร่วมกับพ.ต.ต.พิษณุ เอี่ยมสวัสดิ์ ผอ.ฝ่ายสืบสวน ธนาคารกรุงไทย แถลงผลเปิดปฏิบัติการ ‘Stop Cyber Corruptions’ จับกุมเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 5 แห่ง ที่ทุจริตยักยอกเงินหลวงที่มีการเบิกจ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เบื้องต้นพบความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.รับแจ้งประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ที่ตรวจสอบพบความผิดปกติการเบิกจ่ายเงินของอปท.ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ที่มีการโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชียักยอกเงินงบประมาณของทางราชการไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยใช้อำนาจหน้าที่ที่สามารถเข้าถึงรหัสการเบิกถอนเงินจากธนาคารได้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีของเทศบาลตำบลลาดยาว จ.นครสวรรค์ ที่ยักยอกเงินหลวงไปถึง 215 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท และเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีของ อบต.วังโพรง จ.พิษณุโลก ที่ยักยอกเงินไป 132 ครั้ง เป็นเงินกว่า 44 ล้านบาท

ล่าสุดเปิดปฏิบัติการเพิ่มเติมอีกใน 5 จังหวัด ที่พบความผิดในลักษณะเดียวกัน คือเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญการ อบต.นิลเพชร จ.นครปฐม ยักยอกเงิน 23 ครั้ง เป็นเงินกว่า 8 ล้าน 3 แสนบาท, ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบต.หนองหัวโพ จ.สระบุรี ยักยอกเงิน 84 ครั้ง เป็นเงินกว่า 4 ล้าน 9 แสนบาท, ผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชน ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบต.ห้วยยายจิ๋ว จ.ชัยภูมิ ยักยอกเงิน 60 ครั้ง เสียหายกว่า 5 ล้าน 8 แสนบาท,

นักวิชาการเงินและบัญชี อบต.โคกหล่าม จ.ศรีสะเกษ ยักยอกเงินไป 8 ครั้ง เป็นเงินกว่า 5 แสน 4 หมื่นบาท และผู้อำนวยการกองคลัง อบต.นาเขลียง จ.นครศรีธรรมราช ยักยอกเงิน 59 ครั้ง เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท ที่พบว่าโอนเงินไปให้กับภรรยาและลูกจ้าง ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีในฐานะผู้สนับสนุนการ กระทำความผิดนี้ด้วย

“สำหรับการตรวจจับครั้งนี้ เบื้องต้นพบความเสียหายกว่า 84 ล้านบาท เชื่อว่ายังมีหน่วยงานอีกหลายแห่งที่ยังลักลอบก่อเหตุแบบนี้อยู่ หลังจากนี้จะร่วมสืบสวนกับ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการสืบสวนจับกุมต่อไป โดยได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย ฐานะเจ้าของบัญชีที่ใช้เบิกจ่ายเงินของทางราชการ จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว” ผบช.ก.กล่าว

จับจนท. – ตำรวจบช.ก.พร้อมด้วยจนท.ป.ป.ช.และป.ป.ท. ปฏิบัติการบุกจับเจ้าหน้าที่การเงินองค์กรส่วนท้องถิ่น 5 แห่ง ใน 5 จังหวัด ทุจริตเบิกเงินหลวงผ่านบัญชีธนาคาร มูลค่าความเสียหายกว่า 84 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.

ด้านพ.ต.ท.สิริพงษ์เผยว่า จากการตรวจสอบประวัติการใช้เงินของผู้ต้องหา พบด้วยว่าส่วนใหญ่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์ทั้งหมด หลังจากตรวจสอบย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งตรวจสอบบัญชีเงินเดือนของผู้ต้องหา พบว่าไม่มีความสอดคล้องกับจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอีกด้วย จากการสอบสวนผู้ต้องหา พบเมื่อได้รหัสผ่านการควบคุมบัญชีมาแล้วจะปิดการแจ้งเตือนการตัดเงินออก ทำให้ผู้ที่ดูแลตรวจสอบในระดับที่สูงกว่าไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามีเงินไหลออกจากบัญชี และบางคนมอบรหัสผ่านให้กับคนที่ดูแลบัญชีด้วยความไว้ใจ บางคนเป็นญาติกันเอง และไม่ยอมทำตามระบบที่วางไว้ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมากแบบนี้

ด้านนายกฤษณ์เปิดเผยว่า การตรวจจับครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดปกติในระบบการเบิกจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งระบบการเบิกจ่ายของอบต.แต่ละแห่งต้องมี ผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน และต้องรายงานบัญชีที่โอนเงินไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่พบคือผู้ที่จะต้องร่วมตรวจสอบการโอนเงินจะ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวสามารถทำธุรกรรมได้ทั้งหมด จนกลายเป็นช่องว่างเกิดการทุจริตในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน