ฝากเลี้ยงดูแลไม่ดี โมโหแทงดับสยอง

ไก่หายถึงตาย พ่อเลี้ยงแทงหนุ่มลูกเลี้ยง ดับคากระท่อมเถียงนา ฉุนซื้อไก่ชน 4 ตัว ไปให้ผู้ตายเลี้ยงแต่ไก่หายไป 2 ตัว จึงขึ้นไปถาม แต่ผู้ตายกระโดดใส่ก่อน จึงถูกมีดที่ถืออยู่แทงเสียชีวิต หลังเกิดเหตุติดต่อเข้ามอบตัว ตร.อุดรฯ คุมตัวทำแผนฯ อ้างไม่ได้ตั้งใจ ด้านแม่รับศพลูก พร้อมนำไก่ชนตัวโปรดกลับบ้านที่ร้อยเอ็ด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. พล.ต.ต.อพิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท. รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ควบคุมตัวนายสงวนชัย ศรีสิงห์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านโพนเลา ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาใช้มีดแทงนายหนูไกร สาแก้ว หรือลอย อายุ 33 ปี ชาวอ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ลูกเลี้ยงเสียชีวิตที่เถียงนาท้ายบ้านถ่อนใหญ่ หมู่ 7 ต.นาข่า อ.เมือง อุดรธานี ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ เหตุเกิดคืนวันที่ 13 มิ.ย. เบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่าซื้อไก่ชน 4 ตัวไปให้ผู้ตายเลี้ยง แต่ไก่หาย 2 ตัว จึงขึ้นไปถาม แต่ผู้ตายกระโดดใส่ตนก่อน จึงถูกมีดที่ถืออยู่แทงเสียชีวิต เดินทางไปที่กระท่อมนาหรือเถียงนาที่เกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุยังมีคราบเลือดกระเด็นไปทั่วห้องนอน นายสงวนชัยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมากินข้าวเย็นที่บ้านนางอุดม โสดสิงห์ อายุ 60 ปี ภรรยาคนที่ 2 ที่บ้านถ่อน ใหญ่ เสร็จแล้วได้ชักชวนนางอุดมขับรถไปที่เถียงนาเพื่อมาดูไก่ชน 4 ตัวที่ฝากนายหนูไกร ลูกติดเมียคนแรก ให้ช่วยเลี้ยงไว้ โดยได้พกมีดแหลมไปด้วยเพราะไปที่นาในเวลากลางคืน แต่เมื่อไปถึงพบว่าไก่หายไป 2 ตัว จึงเดินขึ้นเถียงนาเคาะประตูเรียกผู้ตาย เมื่อผู้ตายเปิดประตูออกมาอย่างแรง และกระโดดใส่ตน ทำให้ตนตกใจจึงใช้มีดที่ถืออยู่ในมือแทงเข้าไปที่ชายโครงด้านขวาผู้ตาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาทำแผนนาน 20 นาทีจึงควบคุมตัวกลับ

“ผมไม่ได้ตั้งใจฆ่าลูกเลี้ยง ตอนเกิดเหตุตั้งใจไปให้อาหารไก่ที่ฝากลูกเลี้ยงไว้ที่เถียงนา จึงถามหาไก่ว่าหายไปไหน ไก่ที่หายไปก็เป็นไก่บ้านธรรมดา ซื้อมา 4 ตัว แต่ว่าหายไป 2 ตัว พอลูกเลี้ยงเปิดประตูแรงเลยตกใจผงะ มือที่ถือมีดอยู่จึงชี้ขึ้นมา ลูกเลี้ยงเลยคว้าคอตน สำหรับมีดที่พกอยู่ก็พกไปเป็นประจำเวลาไปที่นา ลูกเลี้ยงไม่ทำร้ายคืนแค่กอดรัดฟัดเหวี่ยงเท่านั้น” นายสงวนชัยกล่าว

ขณะที่นางรำไพ ดิษฐ์เจริญ อายุ 53 แม่นายหนูไกร ผู้ตาย และเป็นภรรยานายสงวนชัย ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเป็นแม่ม่ายลูกติด 2 คน ได้อยู่กินกับนายสงวนชัย มา 10 กว่าปี ตนเปิดร้านขายส้มตำอยู่ที่ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ส่วนนายสงวนชัยจะทำงานรับเหมาก่อสร้าง เช่าบ้านอยู่ด้วยกันในเมืองอุดรธานี ซึ่งนายสงวนชัยมีภรรยาอีกคนชื่อนางอุดม อยู่บ้านถ่อนใหญ่ ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งพวกตนก็ไม่มีปัญหาเพราะต่างคนต่างทำมาหากิน

เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมานายหนูไกรอยู่กับภรรยาที่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี 3-4 ปีแล้ว ต่อมาได้แยกทางกัน นายสงวนชัยเลยให้ นายหนูไกรไปอยู่ที่กระท่อมนาหรือเถียงนาของนางอุดมเมียคนที่สอง เพื่อไปช่วยเลี้ยงไก่ ซึ่งตนให้ลูกไปอยู่ชั่วคราวเท่านั้น คิดไว้ว่าจะพากันกลับบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด แต่ยังไม่ทันได้กลับก็มาถูกพ่อเลี้ยงแทงตายเสียก่อน ตนเสียใจมาก สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องไก่หาย จึงได้แทงกัน ไปถามตอนกลางคืนก็อาจจะ ไม่เห็น อาจหลบอยู่แถวนั้น พ่อเลี้ยงคงจะไปถามเซ้าซี้ว่าไก่อยู่ไหน ซึ่งเคยบอกนายสงวนชัยว่าอย่าไปพูดร่ำไรกับลูก เพราะเขาเป็น วัยรุ่น ส่วนพ่อเลี้ยงจะเป็นคนใจร้อน

“ก็รู้สึกโกรธที่พ่อเลี้ยงฆ่าลูก แค่ไก่หาย ไม่เท่าคนตาย ไก่ตัวละ 500 บาท พ่อเลี้ยงและลูกเลี้ยงเคยมีปากเสียงทะเลาะกันมาก่อน 1 ครั้งเรื่องไก่ ซึ่งนายสงวนชัยเป็นคนใจร้อน ส่วนลูกตนก็อยู่เงียบๆ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับลูกบอกว่าจะกลับร้อยเอ็ด โดยจะเอาไก่ไปด้วยประมาณ 50 ตัว ซึ่งตนจะเหมารถให้ลูกพาไก่กลับบ้าน ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนมีลางสังหรณ์หนังตากระตุกตั้งแต่เช้า คิดว่าจะมีเรื่อง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลูกถูกแทงตาย” นางรำไพกล่าว








Advertisement

หลังจากนั้น นางรำไพ น.ส.พิศมัย และน.ส.หญิง ได้นำไก่ชนชื่อ “ไอ้แดงหล่อ” ซึ่งเป็นไก่ชนตัวโปรดของนายหนูไกรผู้ตาย นำไปให้ญาติเลี้ยงต่อ รวมทั้งสิ่งของจำเป็นของผู้ตายและไก่ชนตัวอื่นขึ้นรถไปรับศพ นายหนูไกรที่ห้องดับจิต ร.พ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่ จ.ร้อยเอ็ด บ้านเกิด

ฆ่าลูกเพราะไก่ชน – พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังควบคุมตัวนายสงวนชัย ศรีสิงห์ ไปทำแผนฯ ใช้มีดแทงนายหนูไกร สาแก้ว ลูกเลี้ยงจนเสียชีวิตคากระท่อมปลายนาบ้านดงยวด ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี เหตุโมโหทำไก่ชนหาย 2 ตัว เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายังให้การวกวน แต่ให้การว่าทะเลาะกับผู้ตายจริง ผู้ตายกระโดดเข้าหาจึงถูกมีดแทงบริเวณชายโครง เนื่องจากอาวุธมีดขนาดใหญ่ทำให้เสียชีวิต ส่วนแรงจูงใจ ในการก่อเหตุ ยังตรวจไม่พบ แต่ยอมรับว่าแทงจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจ ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”

ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี เดินทางมาพบ นางรำไพ ดิษฐ์เจริญ แม่นายหนูไกร สาแก้ว ผู้เสียชีวิต เพื่อแนะนำให้ดำเนินการ เรื่องจ่ายค่าชดเชยเหยื่ออาชญากรรม 1.1 แสนบาท

ทั้งนี้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 13 มิ.ย. พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงเสียชีวิต ที่กระท่อมนาท้ายบ้านดงยวด หมู่ 9 ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มหาปัญญาวงศ์ รองผกก.สืบสวน ภ.จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าสภ.นาข่า พ.ต.ท.พิเชฐ ปักเคธาติ สว.สส.สภ.นาข่า แพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมนา เป็นไม้ยกพื้นสูง ด้านล่างมีสุ่มไก่ชนจำนวนมาก ภายในกระท่อมพบร่างของนายหนูไกร สาแก้ว อายุ 33 ปีชาว อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ ถูกแทงด้วยของมีคมนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดบนที่นอน พบว่าในห้องมีข้าวของกระจัดกระจาย มีเลือดกระเซ็นไปทั่วห้อง แพทย์ชันสูตรพลิกศพ พบถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณไหล่ขวา 1 แผล ส่วนมือมีดคือนายสงวนชัย ศรีสิงห์ อายุ 56 ปี เป็น ชาวบ้านโพนเลา ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของนายหนูไกร หลังก่อเหตุ ขับรถปิกอัพหลบหนีไป

จากการสอบสวนอดีตภรรยานายหนูไกร ให้การว่า ตนกับผู้ตายเคยอยู่กินฉันสามีภรรยามาประมาณ 3-4 ปี แล้วเลิกรากันไป และ ผู้ตายมาอยู่ที่กระท่อมนาของนางอุดม โสดสิงห์ อายุ 60 ปี ภรรยาอีกคนของนายสงวนชัย ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง และถึงแม้ว่าตนและผู้ตายจะแยกทางกันไปแล้ว ตนก็ยังรู้สึกเป็นห่วง ผู้ตาย จะขับรถมาหาและซื้ออาหารมาให้ ผู้ตายเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 18.00 น.หลังเลิกงาน ตนขับรถมาหาผู้ตายที่กระท่อมนา แล้วไปตลาดซื้อกับข้าวมากินด้วยกัน กระทั่งเวลา 20.00 น.ขณะผู้ตายนอนอยู่บนห้อง นายสงวนชัย พ่อเลี้ยงของผู้ตาย ขับรถมากับนางอุดม ภรรยาคนที่ 2 แต่ นางอุดมไม่ได้ลงจากรถ ตนจึงเดินมาพูดคุยกับนางอุดม

นายสงวนชัยลงมาดูไก่ชนที่ฝากผู้ตายเลี้ยงไว้ 4 ตัว โดยผู้ตายบอกพ่อเลี้ยงว่าไก่หาย 2 ตัว ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกัน ตนได้ยินเสียงตึงตังอยู่บนบ้าน ประมาณ 5 นาที นายสงวนชัยก็เดินลงมาบอกว่าเดี๋ยวตำรวจจะมาจัดการเอง แล้วขับรถออกไป ตนจึงเดินขึ้นไปบนบ้านเห็นคนตายถูกแทงเลือดอาบ จึงรีบโทร.แจ้ง 1669

ต่อมาเวลา 22.30 น.วันเดียวกัน นายสงวนชัยติดต่อขอมอบตัวกับตำรวจ โดยพ.ต.ท. พิเชษฐ์ ปักเคธาติ สว.สส.สภ.นาข่า เดินทางมารับมอบตัวที่บ้านของนางอุดม ใน ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ห่างจากจุดเกิดเหตุ 4 ก.ม. พร้อมของกลางมีดแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต ที่ใช้แทงนายหนูไกร จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” นายสงวนชัยควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน