ดีเอสไอลุย3สนง.ทนาย
พนง.ถือหุ้นแทนต่างด้าว

‘ดีเอสไอ’ลุยภูเก็ต ปูพรมตรวจค้นทลาย 3 สำนักงานกฎหมายเครือข่ายนอมินี รับจดทะเบียน บริษัทให้คนต่างด้าวเกือบ 70 บริษัท ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยว บริการอื่นๆ เผยให้พนักงานบริษัทถือหุ้นแทน ชาวต่างชาติ เบื้องต้นทำรัฐสูญเสียรายได้กว่า 200 ล้าน

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคงผู้อำนวยการส่วนกองคดีความมั่นคง คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 295/2565 สนธิกำลังร่วมกับจ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย บริษัทสำนักกฎหมายรับทำบัญชีที่มีพฤติการณ์รับจดทะเบียนให้บริษัทต่างชาติ เพื่อประกอบธุรกิจอันผิดกฎหมาย นอมินี จำนวน 3 จุด ที่มีพฤติการณ์รับจ้างจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดให้แก่คนต่างด้าว โดยใช้ชื่อของลูกจ้างในสำนักงานถือหุ้นแทนคนต่างด้าวจำนวนเกือบ 70 บริษัท อันเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้ แต่คาดว่าบริษัทนอมินีดังกล่าว อาจจะไปประกอบธุรกิจต้องห้ามทำให้เกิดความเสียหายในระบบเศรษฐกิจได้เป็นจำนวนมาก

ผลการตรวจค้นพบว่า มีการจัดให้ เจ้าหน้าที่ของบริษัทเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในลักษณะนอมินีของชาวต่างชาติ และจากข้อมูลการตรวจค้นครั้งนี้ พบบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 44 บริษัท การท่องเที่ยว 8 บริษัท และการบริการอื่นอีก 14 บริษัท โดยบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 44 บริษัท มีมูลค่าการถือครองอสังหาริมทรัพย์ 10-20 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 440 ล้านบาท ในการทำธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนผู้ถือหุ้นที่มิได้มีการโอนขายเปลี่ยนแปลงทางสำนักงานที่ดิน ทำให้รัฐสูญเสียภาษีและค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเหล่านี้ ประมาณ 8% ในแต่ละครั้ง รัฐต้องสูญเสียการทำรายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 35 ล้านบาท กรณีนี้จะตรวจสอบข้อมูล เชิงลึกต่อไปว่ามีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อ ผู้ถือหุ้น ลักษณะเป็นการขายอสังหา ริมทรัพย์แทนกี่ครั้ง หากยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงการทำธุรกรรมกับกรมที่ดินหลายครั้ง เบื้องต้นทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

ล้างนอมินี – เจ้าหน้าที่ดีเอสไอปูพรมค้นหาหลักฐานและดำเนินคดีสำนักงานกฎหมายและบัญชี 3 แห่งในจ.ภูเก็ต รับจดทะเบียนให้บริษัทต่างชาติ เพื่อประกอบธุรกิจอันผิดกฎหมายนอมินี เกือบ 70 บริษัท ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการบูรณาการและได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่จ.ภูเก็ต หลายภาคส่วน ทั้งจากจ.ภูเก็ต โดยนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ ภูเก็ต ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษมีนโยบายให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดปราบปรามให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เนื่องจากกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง เป็นการตัดโอกาสในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการสัญชาติไทย ทำให้ไม่สามารถแข่งขันในทางธุรกิจได้อย่างเป็นธรรม

ต่อมาพ.ต.ต.สุริยา พร้อมนายทวีวัฒน์ ประชุมหาร่วมกับนายอำนวย โดยมีแนวทางจะพิจารณาร่วมกันหามาตรการและแนวทางทั้งในเชิงป้องกันและปราบปรามเพื่อลดความเสียหายเชิงเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในการทำธุรกิจของบริษัทต่างด้าวในรูปแบบนอมินี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน