ปฏิเสธไม่เกี่ยว โดน3ข้อหาหนัก ค้นรังเสี่ยบอย เผ่นนอกแล้ว! ชลบุรีเดือดอีก อดีตผบก.แจ้งจับ
พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้การชลบุรีโผล่รับทราบข้อหารีดเงินแก๊งเว็บพนัน140 ล้าน ปฏิเสธไม่เป็นความจริง โต้พูดวลี ‘เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา’ โดนแจ้งข้อหาหนัก ละเว้น-ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ- เรียกรับทรัพย์สิน-ข่มขืนใจ-ขู่เอาทรัพย์สิน ศาลออกหมายจับ 3 พลเรือนผู้ต้องหา ตร.บุกค้นบ้านเสี่ยบอย พบว่าหนีออกนอกประเทศแล้ว ยึดซิม-เมมการ์ดมือถือสอบ เร่งประสานจับตัวส่งกลับ รองผบช.ภาค 2 นำค้นห้องทำงานผู้การชลฯ ยึดเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด พบหลักฐานตรงกับที่ ‘เป้’ อ้างถึง ‘วิโรจน์-ก้าวไกล’ จี้สอบผู้การไปรักใครต่อ พัวพันกลุ่มจีนเทาด้วยหรือไม่
รองผบก.-สว.สอท.มอบตัว
จากกรณี ผู้เสียหาย 6 ราย ซึ่งเป็นเครือข่าย เว็บพนันออนไลน์ “Foxbet 168” แจ้งความที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เมื่อคืนวันที่ 17 มิ.ย. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมตำรวจและพวกรวม 10 คน โดยอ้างว่าถูกเรียกรับเงินรวม 140 ล้านบาท ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.กัมพล กับพวกที่เป็นตำรวจรวม 8 นาย มาที่ ศปก.ตร. นอกจากนี้ และออกหมายจับพลเรือนร่วมอีก 3 คน คือ นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี, นายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ และภรรยานายบอย โดยคดีนี้สร้างความฮือฮาให้กับสังคม เมื่อมีการเปิดเผยวลีเด็ด จากการต่อรองราคาค่าสินบนว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่…เป้เขียนมา” ตามข่าวที่เสนอมานั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (รองผบก.สอท.2) และ พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี 2 สอท.2 ซึ่งเป็น 2 ใน 8 ตำรวจ ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันตบทรัพย์ 140 ล้านบาทด้วย เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต โดยมีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้ารับมอบตัว โดยมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความ เดินทางมาด้วย
โดยทั้งสองคนมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ได้มีความเครียดหรือกังวลอะไร พร้อมกล่าวทักทายผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนนี้นอนหลับดี และขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีการตบทรัพย์ผู้เสียหาย เนื่องจากได้ไปทำหน้าที่เก็บหลักฐานที่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ ในบ้านที่เกิดเหตุ เพราะได้รับการประสานจากชุดตรวจค้นในบ้านที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์กล่าวว่า รู้ข้อมูลตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน วันนี้จึงเดินทางเข้ามาเพื่อดูข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน ซึ่งยังไม่รู้ว่าถูกกล่าวหาอะไรบ้าง ยืนยันว่าทำหน้าที่ถูกต้องตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ยอมรับว่าได้เจอกับนายเป้ ผู้เสียหายในวันตรวจค้นจริง
ด้านพ.ต.ท.ปฐมพงศ์กล่าวว่า ไม่มีความกังวลหรือหนักใจอะไร เพราะทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และวันดังกล่าวเดินทางไปพร้อมกับรองผบก.สอท.2 ซึ่งเป็นการไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ขณะที่นายอัจฉริยะกล่าวว่า ได้นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอขณะที่ตำรวจทั้งสองนายปฏิบัติหน้าที่มาเป็นหลักฐาน ซึ่งจะนำมาเปิดเผยแก่สื่อมวลชนด้วยแน่นอน
ภายหลังเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แล้ว นายอัจฉริยะ พร้อมทนายความ ได้พา พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ และพ.ต.ท.ปฐมพงศ์มาที่สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน ในข้อหา แจ้งความเท็จกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา และบุคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ และถ้าหากพบว่ามีใครที่ร่วมกันแจ้งความก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดีกับคนอื่นเพิ่มเติมอีก
พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งความนายเป้คนเดียวก่อน แต่ถ้าหาพบว่ามีบุคคลอื่นที่เข้ามาให้การเท็จยืนยันเป็นพยาน หรือแม้แต่กล่าวหาว่าพวกตนร่วมด้วยก็จะมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม
มอบตัว – พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ. จ.ชลบุรี เข้ารับข้อหา ขณะที่ พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รองผบก.สอท.2 และพ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.บก.สอท. (ภาพเล็ก) ปฏิเสธไม่ได้กระทำผิด ที่สโมสรตำรวจ กทม. เมื่อ 18 มิ.ย.
ผบก.ชลฯโต้วลีเด็ดไม่จริง
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม ไปยัง 3 นายตำรวจที่ถูกกล่าวหากคดีนี้ โดย พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากชุดคลี่คลายของรองผบ.ตร. ในคดีดังกล่าว จึงยังไม่ได้เข้าพบในวันนี้
เมื่อถามว่าได้พูด วลีเด็ดที่เป็นข่าวว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่…เป้เขียนมา” หรือไม่ พล.ต.ต.กัมพลปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง เมื่อถามว่า หลังเกิดเรื่องทั้งหมดขึ้นมีความเครียดหรือไม่ พล.ต.ต.กัมพลก็ตอบสั้นๆ ว่า “ครับ” ก่อนจะตัดสายไป
ด้านพ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี ระบุว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากชุดคณะทำงาน เมื่อถามว่า มีรายชื่อปรากฏเป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหา พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำ แค่คิดยังไม่กล้าคิดเลย หลังจากนี้จะทำรายงานชี้แจง และเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา จากนั้นก็วางสายไป
ขณะที่ พ.ต.ท.รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี ยอมรับว่า เป็นหนึ่งในชุดที่เข้าไปจับกุมวันดังกล่าวจริง แต่ยืนยันไม่ได้ตบทรัพย์ผู้ต้องหาตามที่เป็นข่าว และปฏิเสธว่าไม่ได้รู้จักกัน แต่รายละเอียดยังไม่ขอชี้แจง รอให้เข้าสู่กระบวน การก่อน แต่พร้อมให้ตรวจสอบ โดยยัง ไม่ได้รับการประสานจากชุดของรอง ผบ.ตร. ให้เข้าไปชี้แจงแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่ได้รับเอกสารในการเข้าไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร. ในวันที่ 19 มิ.ย. โดยยอมรับว่าจากข่าวที่เกิดขึ้น ตอนนี้เครียดมาก
2 ตร.สอท.โดน 4 ข้อหา
จากนั้น เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวภายหลังประชุมความคืบหน้าทางคดีภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงว่า ล่าสุดได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 2 ให้พาตำรวจที่ถูกกล่าวหาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้แล้ว ส่วนผู้ที่เกี่ยว ข้องในคดีจะทยอยเรียกมาในสัปดาห์หน้า
ในส่วนของพลเรือน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเข้าค้นบ้าน ซึ่งบ้านของนายวีระได้ขนของย้ายออกหมดแล้ว แต่ยังมีทรัพย์สินบางส่วนอยู่ พร้อมมั่นใจว่าจะไล่ล่าตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ แม้นายวีระจะหนีไปแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับพลเรือนที่เกี่ยวข้องแล้ว 3 คน คือ นายต้น นายบอย และภรรยาของนายบอย ใน 2 ข้อหา คือร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน และร่วมกันในการ กระทำการเอาทรัพย์ผู้อื่นไป โดยนายต้นและนายบอยหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งได้ออกนอกประเทศอย่างถูกต้อง คาดว่ามีสายที่เป็นตำรวจรายงานให้รู้ตัว แต่จะประสานประเทศปลายทางนำตัวกลับมาดำเนินคดี ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้อง มีประมาณ 11-12 คน ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงไม่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ แต่จะประสานผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทยอยพามามอบตัวตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. โดยหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์ อยู่ในระหว่างการรวบรวม และตรวจสอบเส้นทางการเงินกับธนาคาร และข้อมูลทางโทรศัพท์ ซึ่งจะไล่ทั้งหมด และตรวจสอบย้อนหลังด้วยว่ามีความเชื่อมโยงกับตำรวจกลุ่มไหนอีกบ้าง
‘โจ๊ก’แนะผู้การพูดความจริง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตำรวจทั้ง 2 นายที่มาพบพนักงานสอบสวนวันนี้ จะแจ้ง 4 ข้อหาเลย ได้แก่ เรียกรับผลประโยชน์, ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, ข่มขืนใจผู้อื่นให้ได้ทรัพย์สิน, กักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาสามารถใช้ตำแหน่งในการประกันตัวได้ โดยต้องให้ความเป็นธรรม ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษา ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ส่วนการดำเนินการทางวินัย จะพิจารณาจากพยานหลักฐาน ซึ่งขึ้น อยู่กับผบ.ตร.จะพิจารณาว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน
“เมื่อวานนี้ผมเพิ่งเจอ พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ในงานศพพ่อของ ผบ.ตร. และได้พูดคุยกัน เพราะส่วนตัวก็เคยทำงานร่วมกัน เคยสนิทสนมกันมาก่อน โดยผมก็แนะนำไปว่า อะไรเป็นความจริงก็ต้องว่ากันตามความจริง พร้อมบอกว่า ส่วนตัวไม่ได้บาดหมางหรือเป็นศัตรูต่อกัน แต่ทำตามหน้าที่ ขอให้ผู้การเตรียมข้อมูลและหลักฐานมาให้ข้อเท็จจริง ซึ่ง ผู้การไม่ได้ตอบอะไรกลับมา” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าว
เมื่อถามถึงฐานที่ตั้งของเว็บพนันที่ตำรวจกลุ่มนี้เข้าไปจับกุม อยู่ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 1 หรือไม่ เหตุใดจึงเป็นชุดของตำรวจภูธรภาค 2 เข้าไปจับกุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 2 มีการสืบสวนขยายผลจนมาเจอเครือข่ายนี้ โดยเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าว เป็นเว็บใหญ่ ทุนหมุนเวียนนับ 100 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีตำรวจเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มเว็บพนันที่เข้ามาแจ้งความหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างสืบสวน หากพบความผิดก็จะดำเนินคดี แต่ตอนนี้ขอดำเนินการส่วนของกลุ่มไปรีดทรัพย์ก่อน โดยจะเรียกนายเป้มาสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายอีกครั้ง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นคดีแรกในไทยที่จะใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เนื่องจากตามแนวทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่จะต้องมีการบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรก แต่ครั้งนี้ไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว มีเพียงการเข้ามาทำบันทึกจับกุมตามขั้นตอนเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งพนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่ที่ควบคุมตัวทราบ
ผู้การชลโร่พบบิ๊กโจ๊ก
จากนั้น เวลา 16.30 น. ที่สมาคมพนักงานสอบสวนสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และร.ต.อ.สมบุญ บุดดาเลิศ รอง สว.สส.สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ รองผบ.ตร. รับทราบข้อกล่าวหาในคดีรีดทรัพย์เว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท โดยพล.ต.ต.กัมพลปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์
ต่อมา เวลา 19.20 น. พล.ต.ต.กัมพลได้เดินออกมาจากห้องประชุมสโมสรตำรวจ แล้วรีบขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเดินทางออกไปในทันที โดยไม่ยอมตอบ คำถามใดๆ
มีรายงานว่า พล.ต.ต.กัมพลถูกแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 157 ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ, มาตรา 149 เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือ ผู้อื่นโดยไม่ชอบ, มาตรา 309 ข่มขืนใจ ผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืน
รายงานข่าวระบุว่า คดีนี้มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 5 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ รองผบก. สอท.2, พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2, พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ. วังจันทร์ จ.ระยอง และร.ต.อ.สมบุญ รอง สว.สส.สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี
ตรวจห้องผู้การชลฯ
ด้านพล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภาค 2 ร่วมกับ พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี, สว.สส.สภ.คูคต ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. ให้ไปตรวจสอบภายในห้องทำงาน พล.ต.ต.กัมพล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมทั้งยึดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในห้องควบคุมระบบ ของอาคารสำนักงาน บก.ภ.จว.ชลบุรี เมื่อค่ำวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อส่งตรวจพิสูจน์
เบื้องต้นรายงานข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าในสำนักงานบก.ภ.จว.ชลบุรี เมื่อวันที่ 23 พ.ค. เวลา 20.00 น. พบหลักฐานที่สอดคล้องกับคำให้การของ นายธนินวัฒน์ อุดมเชาวเศรษฐ์ หรือเป้ ผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกนำตัวไปพบผบก.ภ.จว.ชลบุรี จริง แต่รายละเอียดไม่ขอเปิดเผย
ค้นบ้าน – พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 นำกำลังกว่า 30 นาย พร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านนายวีระ หรือ บอย นาทรัพย์ แก๊งร่วมรีดเงินจากกลุ่มผู้เสียหายเว็บพนันออนไลน์ ที่บ้าน ม.6 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.
ค้นบ้านบอย‘เนียนกริ๊บ’
ก่อนหน้านี้เวลา 12.30 น. พล.ต.ต. ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง.ผบก.สส.ภาค 4 พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด บูรพา 491 และกำลังตำรวจสืบสวนภาค 2 กว่า 30 นาย นำหมายค้น ศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 109/2566 เข้าค้นบ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 6 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายวีระ หรือบอย ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมรีดเงินจากกลุ่มผู้เสียหาย เว็บพนันออนไลน์ “Foxbet 168” โดยนาย บอยถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของคำพูดว่า “มึงอยู่เฉยๆ เนียนกริ๊บ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว มึงจ่ายที่ไอ้ต้นเลย”
โดยบ้านหลังดังกล่าว มีเนื้อที่กว่า 5 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น อยู่ในเนื้อที่ 1-2 ไร่ มีโรงจอดรถขนาดใหญ่ มีรั้วล้อมรอบขอบชิด รอบตัวบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกมุม ส่วนที่ 2 กว้าง 3 ไร่เป็นพื้นที่จอดเรือสปีดโบ๊ต และโรงซ่อมบำรุงเครื่อง ยนต์เรือ ซึ่งระหว่างการเข้ามีเพียง น.ส.นุ้ย รับเป็นคนดูแลบ้าน ออกมาเปิดประตูให้กับตำรวจ พร้อมทั้งแจ้งว่า นายบอยหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. พร้อมกับภรรยา
สำหรับการตรวจค้นในครั้งนี้ เพื่อหาหลักฐานสำคัญ ในการเชื่อมโยงในคดีรีดไถเงิน 140 ล้านบาท เบื้องต้นตำรวจพบเงินสดถูกบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส 2 กล่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และแฟลชไดรฟ์บันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์ อยู่ในบ้าน จึงประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เขต 2 ชลบุรี เข้ามาตรวจหาลายนิ้วมือแฝง และตรวจหาดีเอ็นเอ ส่วนเงินสดที่พบภายในบ้าน ตำรวจได้ตรวจสอบแล้ว และไม่ได้ยึดไป เนื่องพบว่าเป็นเงินจากธุรกิจเรือสปีดโบ๊ต โดยมีบิลเงินสดแสดงเป็นหลักฐานชัดเจน
ยึด‘ซิม-เมมการ์ด’สอบ
ต่อมา พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 เปิดเผยว่า การตรวจค้นบ้านนายบอย เพื่อหาจุดเชื่อมโยงของคดีนี้ ส่วนข้อมูลยังเปิดเผยไม่ได้เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี ส่วนตัวนายบอยเจ้าของบ้าน พบว่าหายออกจากบ้านไปได้ 5 วัน โดยคนที่มาแสดงตัวกับตำรวจเป็นเพียงคนดูแลบ้าน ส่วนสิ่งของที่ยึดได้ เบื้องต้น มีแฟลชไดรฟ์ ซิมโทรศัพท์มือถือ เมมโมรี่การด์ และแหวนทอง จึงนำไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.บางละมุง จากนั้นจะเข้าสู่ขบวนตรวจสอบต่อไป
สำหรับ นายวีระ หรือเสี่ยบอย เป็น นักธุรกิจ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นคนประสานบริษัททัวร์จีน และไกด์ทัวร์นำเที่ยวชาวจีน โดยเสี่ยบอย สามารถพูดภาษาจีนได้ ค่อนข้างกว้างขวางในหมู่ธุรกิจนำเที่ยวชาวจีน ก่อนจะมาตกเป็นบุคคลสำคัญในคดีนี้
วันเดียวกัน ที่พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงคดีนี้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนสอบสวนต่อ ปล่อยให้เงียบไม่ได้ เนื่องจากเงินที่เรียกรับจำนวนสูงถึง 140 ล้านบาท ซึ่งต้องสอบสวนให้ชัดว่าการเรียกรับจริงหรือไม่ และถ้าจริงต้องถามว่า “เป้รักผู้การมากี่ครั้งแล้ว” และ “มีคนอื่นที่รักผู้การด้วยหรือไม่” รวมทั้ง “ผู้การคือรักสุดท้ายของเป้หรือไม่” หรือ “ผู้การไปรักคนอื่นต่อหรือเปล่า”
จี้สอบผู้การไปรักใครต่อ
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ ก็พบมีตำรวจในระดับบังคับบัญชา มีภาพปรากฏหิ้วกระเช้าไปอวยพรแสดงความยินดี จึงต้องขยายผลต่อไปว่า เป้รักผู้การ แล้วผู้การไปรักใครต่อหรือต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่า หนักมาก เข้าข่ายผิดกฎหมายการเรียกรับสิน มาตรา 143 และมาตรา 149 รวมทั้งมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และเสนอให้สอบสวนขยายผลว่า พัวพันกับมาเฟียในท้องถิ่น และมาเฟียกลุ่มจีนสีเทา รวมทั้งมาเฟียต่างชาติหรือไม่ เนื่องจากเว็บพนัน การค้ามนุษย์ และยาเสพติดนั้นพัวพันกับขบวนการมาเฟียต่างชาติ
อดีตผู้การชลฯแจ้งจับ13ตร.กลั่นแกล้ง
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการประจำ บช.ส. ในฐานะอดีตผบก.ภ.จว.ชลบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจยศพล.ต.ต.-พ.ต.ท.รวม 13 นาย ในความผิดฐานนำข้อความอันเป็นเท็จแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ, เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
เจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต นำเอาข้อความอันเป็นเท็จแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เจ้าพนักงานตำแหน่งพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการ ให้เป็นไปตามกฎหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบเพื่อกลั่นแกล้ง ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 เวลาประมาณ 08.19 น. มีเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ร่วมกันทำร้ายร่างกายกลุ่มนักท่องเที่ยวหลายรายได้รับบาดเจ็บ โดยมีและใช้อาวุธปืน มีการใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่บริเวณพูลวิลล่า อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในท้องที่สภ.เมืองพัทยา
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ในฐานะผบก.จว.ชลบุรี ในช่วงเวลานั้นมีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ต.ค.65 ผบช.ภ.2 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐานและขยายผลในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และผู้ต้องหาที่ 2 เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ผู้ต้องหาที่ 6 เป็นเลขานุการ ผู้ต้องหาที่ 3 ถึงผู้ต้องหาที่ 8 กับพวกรวม 12 นายเป็นพนักงานสอบสวน ทั้งยังแต่งตั้งพนักงานสืบสวนอีก 17 นาย ตามคำสั่ง ภ.2 ที่ 276/2565
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผบ.ตร. ลงมากำกับดูแลการสอบสวน สืบสวนและติดตามคดีด้วยตนเอง แต่ผบ.ตร.ไม่ได้ให้อำนาจพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้มีอำนาจมอบหมายสั่งการ หรือแต่งตั้งให้เจ้าพนักงานตำรวจอื่นเข้าทำการสืบสวนสอบสวนหรือติดตามคดีแทนได้ แต่ผู้ต้องหาที่ 12 และผู้ต้องหาที่ 13 กลับแอบอ้างว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์มอบหมายให้เข้าร่วมสืบสวนสอบสวน แล้ว ผู้ต้องหาที่ 12 และ 13 ร่วมกับผู้ต้องหาที่ 10 และผู้ต้องหาที่ 11 กระทำผิดด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำโดยมิชอบ
กล่าวคือเมื่อระหว่างวันที่ 19 ต.ค.65 เป็นต้นมา วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ผู้ต้องหาที่ 12 และ 13 แสดงตนเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้งที่ไม่มีอำนาจหน้าที่นั้น โดยกระทำการสอบปากคำพยานบุคคล ซึ่งเป็นตำรวจยศพ.ต.ต.-ด.ต. รวม 6 นาย และสืบสวนสอบสวนปากคำ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยาในคดีดังกล่าวข้างต้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เสร็จแล้วให้ผู้ต้องหาที่ 10 และ 11 เป็นผู้ลงชื่อแทนหรือร่วมลงชื่อด้วย ในฐานะผู้สอบปากคำทั้งที่ตนเองมิได้เป็นผู้ทำการสืบสวนสอบสวน หรือร่วมอยู่ในการสืบสวนสอบสวนจริง โดยมีเจตนากลั่นแกล้งเพื่อให้ผู้เสียหายต้องถูกดำเนินคดี และให้ได้รับโทษทางอาญาและทางวินัย ต่อจากนั้นผู้ต้องหาที่ 10-13 ร่วมกันจดแจ้งความเท็จด้วยการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบสวนสืบสวนอันไม่ชอบนั้นใช้เป็นพยานหลักฐานในการกล่าวหาดำเนินคดีอาญาต่อผู้เสียหาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนข้างต้น พร้อมชายอีก 2 คน เข้ามาพบหัวหน้าพนักงานสืบสวนในคดีตามคำสั่ง ภ.จว.ชลบุรี ที่ 448/2565 ดังกล่าว ที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยผู้ต้องหาคนหนึ่งเข้ามามอบตัวตามหมายจับ ส่วนอีก 2 คนอ้างเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย จากนั้นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนรายงานให้พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศทราบ และพล.ต.ต.กิตติ์ธเนศได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
ต่อมาในฐานะผู้บังคับบัญชาได้เข้ากำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยสืบสวนสอบสวนเป็นคณะทำงาน มีเจ้าพนักงานตำรวจหลายนายจากหลายหน่วยงาน ทั้งเข้าร่วมสืบสวนสอบสวน และเข้าร่วมสังเกตการณ์ ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาที่ 12 กับพวกที่อ้างว่าเป็นชุดคลี่คลายคดีสำคัญ โดยรับคำสั่งจากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์รวมอยู่ด้วย ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนมีการตั้งข้อสังเกตจาก ผู้ร่วมปฏิบัติหลายนายว่าผู้ที่มารับสมอ้างเป็นผู้ต้องหา 2 คนนั้น มีลักษณะหรืออัตลักษณ์เฉพาะตนไม่ตรงกับบุคคลในภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของบก.ภ.จว.ชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้มาร่วมในการตรวจพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล ระหว่างนั้นในช่วงเวลาบ่ายของวันเดียวกันนั้นมีบุคคลเดินทางเข้ามอบตัวเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 5 คน
หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จึงส่งตัวผู้ต้องหารวม 4 คนไปให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หาใช่เป็นการดำเนินการของผู้ต้องหาที่ 12 กับพวก ตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของ บช.ภ.2 กล่าวอ้างและใช้เป็นพยานหลักฐานในการกล่าวหาและดำเนินคดีอาญาต่อผู้เสียหาย ดังที่ปรากฏในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 14 พ.ย.65 และตามที่ผู้ต้องหาที่ 6 นำข้อความอันเป็นเท็จจดแจ้งในประจำวันข้อ 5. เวลา 13.45 น. วันที่ 18 พ.ย.2565 ของสภ.เมืองชลบุรี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายไว้ โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงและส่งพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาต่อไป
