ตร.แจ้งข้อหาคดีดญ.12 หลักฐานภาพวงจรปิด ผัวเครียดนอนห้องขังผวาถูกตื้บ-ไม่ไปทำแผน

ตร.จ่อดำเนินคดี ‘มิ้นต์’ เมีย ‘แจ๊บ’ ข้อหาร่วมอำพรางศพคดีฆ่าโบกปูน ด.ญ. 12 หลังพบหลักฐานภาพวงจรปิดชัดเจน ขณะที่ ‘แจ๊บ’ นอนห้องขังคืนแรกมีอาการเครียด จนท.เฝ้าระวังใกล้ชิดหวั่นผูกคอฆ่าตัวตาย ผู้ต้องหาสารภาพ พร้อมขอโทษพ่อแม่เด็ก ซัด ‘มิ้นต์’ รู้เรื่องตั้งแต่แรก เผยไม่ยอมไปทำแผน หวั่นไม่ปลอดภัย เตรียมนำตัวฝากขังต่อศาลในวันนี้

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.2 และฝ่ายสืบสวนสน.บางเขน จับกุมนายยุทธนา หรือ แจ๊บ มาดี อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาใช้ไม้เบสบอลฟาดทำร้าย “น้องใหม่” ด.ญ.อริศสา ถิราวัฒน์ อายุ 12 ปี ซึ่งขอรับมาอุปการะเลี้ยงดูจนเสียชีวิต ก่อนนำศพยัดใส่ถังน้ำแข็งโบกปูนถมดินทับอำพรางไว้ที่บ้านภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยพหลโยธิน 48 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เบื้องต้นนายยุทธนาให้การรับสารภาพเป็นผู้ลงมือทำร้ายเด็กจนเสียชีวิต จากนั้นนำตัวเข้าห้องควบคุมขังพบว่านายยุทธนามีอาการเครียด เดินวนไปมาหลายรอบ ก่อนจะล้มตัวนอนเอามือก่ายหน้าผาก โดยมีเจ้าหน้าที่สิบเวรเฝ้าดูกล้องวงจรปิดอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวนายยุทธนาคิดฆ่าตัวตายระหว่างถูกคุมตัวที่โรงพัก เนื่องจากก่อนถูกตำรวจจับกุมได้โทรศัพท์บอกน้องชายว่า “พี่จะไม่อยู่ จะผูกคอ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาออกจากห้องสืบสวนไปเข้าห้องขังนั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายแจ๊บ กล่าวยอมรับว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบเนื่องจากโมโหและทะเลาะกับเด็กอายุ 12 ปีก่อน เพราะเด็กขโมยของที่นำมาขายบ่อยและมีขโมยเงินด้วย ส่วนที่นำไม้เบสบอลไปตีเด็กเพราะอยู่ใกล้มือ

พร้อมบอกด้วยว่าน.ส.นิรมลทำร้ายเด็กก่อนจนหมดสติ แล้วตนจึงเข้าไปตีซ้ำ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว ก่อนลงมือตนเสพยาไอซ์ ส่วนสาเหตุที่อำพรางศพเพราะรู้สึกกลัว ทีแรกตั้งใจจะหั่นศพ แต่เปลี่ยนใจ พาแฟนสาวไปซื้อถังน้ำแข็งและดินที่ตลาดไทเพื่อมาอำพรางศพ จากนั้นหลบหนีไปอยู่กับเพื่อนและสั่งให้แฟนสาวลบคลิปวงจรปิด พร้อมขอโทษครอบครัวน้องอายุ 12 ปีที่ตนก่อเหตุครั้งนี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจะมาตรวจร่างกายและเก็บดีเอ็นเอผู้ต้องหาเพื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ

ต่อมาเวลา 10.30 น. พนักงานสอบสวนนำเอกสารเข้าไปให้นายแจ๊บเซ็น และเตรียมคุมตัวออกจากห้องคุมขังเพื่อมาพิมพ์ลายนิ้วมือ และจะนำไปสอบปากคำเพิ่มเติมโดยละเอียดอีกครั้งก่อนที่พนักงานสอบสวนจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุดเกิดเหตุในช่วงบ่าย

ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 กล่าวถึงน.ส.นิรมล หรือ มิ้นต์แฟนสาวของนายยุทธนาว่า ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร ได้กันตัวไว้เป็นพยาน แต่หากมีหลักฐานเชื่อมโยงในการร่วมกระทำความผิดก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง ส่วนผลการสอบสวนของนายแจ๊บเบื้องต้นให้การรับสารภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจ หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดหลังน้องใหม่เสียชีวิต ปรากฏภาพระบุเวลา 08.30 น. วันที่ 2 ก.ค. นายยุทธนากำลังขนอุปกรณ์เพื่อใช้อำพรางศพ โดยมีน.ส.นิรมลนั่งสูบบุหรี่รออยู่ที่บ้าน ต่อมาเห็นนายแจ๊บยกถังน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้ามาในบ้านและเดินตรงเข้าไปในห้องครัว จากนั้นน.ส.นิรมลพูดคุยอะไรบางอย่างกับนายยุทธนาก่อนจะเดินมาช่วยยกถุงสีขาว คาดว่าเป็นถุงบรรจุดินปลูกต้นไม้ เดินตามนายยุทธนาเข้าไปในห้องครัว และเห็นภาพนายยุทธนากำลังปูผ้า พร้อมกับลากสายยางฉีดน้ำเดินวนเวียนอยู่ในห้องครัว ขณะที่น.ส.นิรมลยกถุงสีขาวเข้าไปหลังบ้านหลายครั้ง เช่นเดียวกับสามีก็เดินออกมาช่วยยกถุงสีขาวเข้าไปครัว ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะเดินออกมาพูดคุยเหมือนปรึกษาอะไรกันบางอย่าง

จากภาพวงจรปิดจะเห็นว่าน.ส.นิรมลไม่มีท่าทีหวาดกลัวหรือไม่ได้ถูกสามีข่มขู่ ก่อนจะนั่งสูบบุหรี่ นำกรรไกรช่วยตัดเชือกถุงสีขาวลักษณะคล้ายถุงปูนสำเร็จที่วางอยู่บนพื้น ก่อนจะยกถุงเดินเข้าไปในห้องครัว จากนั้นน.ส.นิรมลกลับมานั่งบริเวณจุดแพ็กสินค้าออนไลน์และนายยุทธนาเดินออกมาหา นั่งปรึกษาอะไรกันบางอย่างกันอีกรอบ โดยนายยุทธนาหยิบน้ำกระท่อมขึ้นมาดื่มไปพลางๆ แล้วก็เดินกลับเข้าไป ในห้องครัวหลังบ้านอีกรอบ จากนั้น น.ส.นิรมลเดินตามเข้าไปเช่นกัน ก่อนที่ ผู้ต้องหาจะหยิบกะละมังสีชมพูใบใหญ่ให้กับภรรยาถือและวางลงกับพื้น คาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ผสมปูนในการโบกทับที่ศพ ซึ่งทั้งสองคนช่วยกันผสมปูน

นอกจากนี้ ยังปรากฏภาพวงจรปิดที่ร้านขายถังน้ำแข็งที่ตลาดไทในจ.ปทุมธานี ช่วงเวลา 07.19 น. วันที่ 2 ก.ค. จะเห็นรถเก๋ง สีบรอนซ์ทองขับเข้ามาจอดที่ลานจอด จากนั้นนายแจ๊บเปิดประตูลงมาแล้วเลือกดูถังที่วางอยู่หน้าร้าน ก่อนเดินไปคุยกับคนขายอยู่สักครู่ จากนั้นเดินมาหาน.ส.นิรมลที่นั่งอยู่ในรถแล้วพูดคุยกัน ก่อนจะเดินออกมาเลือกดูถังหน้าร้านอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปในร้าน

ส่วนมุมกล้องในร้านจะเห็นว่าพอนายแจ๊บเดินเข้ามาภายในร้าน และเดินเลือกดูถังใส่น้ำแข็งที่วางอยู่เรียงราย โดยมีคนขายแนะนำ จากนั้นน.ส.นิรมลเดินตามเข้ามาสมทบ โดยใช้เวลาเลือกซื้อถังน้ำแข็งประมาณ 3 นาทีแล้วเดินไปบริเวณหลังร้านซึ่งไม่มีวงจรปิด

จากนั้นวงจรปิดหน้าร้านเวลา 07.24 น. จะเห็นน.ส.นิรมลเดินออกมาก่อน แล้วนายแจ๊บก็แบกถังน้ำแข็งขนาด 120 ลิตรออกมาจากร้านเดินไปข้างรถแล้ววางถังลง เปิดประตูฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง ยกถังน้ำแข็งใส่รถปิดประตู ส่วนน.ส.นิรมลก็ขึ้นไปนั่งในรถ จากนั้นนายแจ๊บขึ้นรถขับออกไป

จากการสอบถามคนขายถังบอกว่า นายยุทธนากับน.ส.นิรมลไม่มีท่าทีพิรุธอะไร โดยบอกเพียงว่ามาติดต่อขอซื้อถัง ปกติร้านของตนจะเปิดเวลา 08.00 น. แต่ในวันที่นายแจ๊บมาซื้อถังมีวินมอเตอร์ไซค์ที่รู้จักโทร.มาบอกว่าให้รีบมาเปิดร้านเพราะมีคนต้องการซื้อถังน้ำแข็งและเดินทางมาไกล ต้องรีบกลับ จึงมาเปิดร้านก่อนเวลาให้

ทั้งนี้ จากหลักฐานกล้องวงจรปิด ดังกล่าวตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมแจ้งข้อหากับน.ส.นิรมล ฐานร่วมกันปิดบังซ่อนเร้น และไม่ให้การช่วยเหลือ ผู้อื่นที่ตกอยู่ในภัยอันตราย

ไม่ทำแผนฯ – นายยุทธนา หรือ แจ๊บ มาดี พ่อเลี้ยงโหดไม้เบสบอลตีด.ญ. 12 ปี นำศพยัดถังโบกปูน ปฏิเสธ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่ตร.แจ้งข้อหาน.ส.นิรมล หรือ มิ้นต์ พรหมคุณ (ภาพเล็ก) ร่วมกับสามีอำพรางศพ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.

เมื่อเวลา 11.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายยุทธนาไปสอบปากคำ เพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ารู้สึกผิดหรือไม่ นายยุทธนาพยักหน้า จากนั้นตำรวจก็คุมตัวไปยังห้องสอบปากคำ

พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขนเปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหานายยุทธนา 2 ข้อหาคือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบ คำรับสารภาพเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ส่วนน.ส.นิรมล หรือ มิ้นต์ พนักงานสอบสวนกำลังเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย” ส่วนประเด็นที่ว่า น.ส.มิ้นต์ทำร้ายผู้ตายจริงหรือไม่ จากการไล่กล้องวงจรปิดเราดูเฉพาะวันเกิดเหตุ และการมาให้ปากคำของน.ส.มิ้นต์ในช่วงที่ผ่านมาเป็นการให้ปากคำในฐานะพยาน แต่หลังจากแจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.มิ้นต์ ตำรวจต้องไปไล่ดูกล้องวงจรปิดทั้งหมดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ตายติดการพนันและขโมยเงินไปเล่นการพนันนั้นต้องรอการสอบสวนก่อน ซึ่งผู้ต้องหาให้การแต่เพียงว่าผู้ตายมักจะขโมยเงิน และสินค้าบ่อยครั้ง ทำให้น.ส.มิ้นต์ต้องรับผิดชอบลูกค้าในฐานะที่เป็นบริษัทแพ็กของส่ง ซึ่งในครั้งนี้มีการขโมยเงินจำนวนมากถึงหลักหมื่น

พ.ต.อ.อนันต์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 6 ก.ค. พนักงานสอบสวน สน.บางเขน จะนำตัว ผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ส่วนจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ให้อยู่ในดุลพินิจของพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายจ๊อบ น้องชายของแจ๊บเดินทางมาเยี่ยม พี่ชายที่ห้องขัง

โดยนายจ๊อบ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุประมาณช่วงตี 3 พี่ชายโทร.มาหาตน ขอให้มาหาที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีน้ำเสียงสั่นเครือ เหมือนคนร้องไห้ เมื่อตนไปถึง น.ส.มิ้นต์ไม่ให้เข้าบ้าน อ้างว่าบ้านรก ตนจึงกลับที่พัก โดยที่พี่ชายยังไม่ทันได้เล่าเรื่องอะไรให้ฟัง จนกระทั่งเมื่อวาน พี่ชายทักแช็ตมาบอกว่ามาเช่าห้องพักย่านอินทมาระ อยากให้ตนไปหา ตนจึงไปหาพี่ชายที่ห้องพักดังกล่าว และพี่ชายยอมเล่าว่าได้ทำอะไรกับผู้ตายไปบ้าง โดยพี่ชายเล่าว่า ก่อนจะใช้ไม้เบสบอลตีผู้ตาย น.ส.มิ้นต์ซึ่งเป็นภรรยามีปากเสียงกับผู้ตายก่อน และใช้ไม้เบสบอลตีผู้ตายจนล้มลงกับพื้น และด้วยความที่โมโห จากการทะเลาะกับน.ส.มิ้นต์ เกิดบันดาลโทสะ จึงหยิบไม้เบสบอลฟาด ผู้ตายซ้ำจนเสียชีวิต

“พี่ชายบอกว่าน.ส.มิ้นต์เป็นคนชักชวนให้อำพรางศพ โดยบอกให้พี่ชายไปยืมเลื่อยจากบ้านนายแบงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ พี่ชาย แต่พี่ชายไม่กล้าลงมือทำ จึงใช้วิธีใส่ถังและโบกปูนทับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พี่ชายมักจะมาเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับผู้ตายและน.ส.มิ้นต์บ่อยครั้ง ในเรื่องเล่นพนันออนไลน์ รวมถึงผู้ตายชอบขโมยเงินไปปั่นสล็อต อ้างว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ส่วนน.ส.มิ้นต์ติดการพนันมาก จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกันบ่อย ซึ่งที่บ้านของทั้งสองก็ทราบดีว่าทั้งคู่ติดการพนัน ยืนยันว่าสิ่งที่พูดคือความจริง ที่ผมได้ยินมาจาก พี่ชาย ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือพี่ชาย หรือใส่ร้ายน.ส.มิ้นต์และผู้ตาย” นายจ๊อบ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน