สั่งจับ‘ช้าง’พังสวน

ศาลปค.ให้กรมอุทยาน ส่งคืนป่าภายใน15วัน

ศาลปกครองสั่งให้กรมอุทยานฯ จับ ‘พลายไข่นุ้ย’ ช้างป่าที่ออกมาทำลายสวนทุเรียน พังยับ ส่งย้ายไปอยู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง สุราษฎร์ธานี หลังชาวบ้านกรุงชิง-นบพิตำ นครศรีธรรมราช ยื่นฟ้อง ปล่อยหลุดจากอุทยานฯ ใต้ร่มเย็น บุกทำลายสวนทุเรียนชาวบ้านเสียหายนานกว่า 2 ปี ทั้งที่มีคำสั่งศาลให้ดำเนินการตั้งแต่พ.ย.ปีที่แล้ว แต่ยังเมินเฉย ศาลมีคำสั่งให้กรมอุทยานฯ เร่งจับแล้วย้ายช้างให้ได้ภายใน 15 วัน ให้รายงานศาลทุก 5 วัน พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการเสนอด้วย

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองนครศรีธรรมราช มีคำสั่งเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2566 กำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยสั่งให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปฏิบัติหน้าที่ในการจับและเคลื่อนย้ายนำช้างป่าพลายเจ้างาไปไว้ในที่เหมาะสม ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และให้รายงานต่อศาลทุก 5 วัน โดยจัดทำแผนปฏิบัติการเสนอต่อศาลก่อน ภายใน 5 วัน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

คดีนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ โอยสวัสดิ์ ยื่นฟ้อง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หลังเห็นว่ามาตรการในการแก้ไขป้องกันไม่ให้ช้างป่าพลายเจ้างา หรือพลายไข่นุ้ย ซึ่งออกมาจากพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น จ.สุราษฎร์ธานี มาตั้งแต่เดือนม.ค.2565 และเข้ามาหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านในเขต ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช มีประสิทธิภาพเกิดผลในทางปฏิบัติ แม้ปัจจุบันจะยังไม่พบว่าช้างพลายเจ้างา ทำร้ายชาวบ้านแต่พฤติกรรมการออกหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านก็ทำให้พืชผลผลิตการเกษตรเสียหาย เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินจึงยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชขอให้สั่งกรมอุทยานฯ จับและเคลื่อนย้ายช้างพลายเจ้างาเพื่อนำไปปล่อยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น หรือพื้นที่อื่นที่เหมาะสม

ฟ้องช้าง – ชาวบ้านกรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ยื่นฟ้องศาลปกครองให้กรมอุทยานฯ เร่งจับ‘พลายไข่นุ้ย’ ช้างป่าที่ออกมาทำลายสวนทุเรียน โดยศาลมีคำสั่งให้จับส่งไปอยู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง สุราษฎร์ธานี ภายใน 15 วัน เมื่อวันที่ 21 ก.ค.

ส่วนเหตุที่ศาลปกครองนครศรีธรรมราช มีคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนว่า การย้ายช้างไปยังเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าคลองงาที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นนั้น มีประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย และพื้นที่ดังกล่าวติดอยู่กับพื้นที่พิพาท หากนำช้างพลายเจ้างากลับไปยังพื้นที่อุทยานใต้ร่มเย็น ซึ่งเป็นถิ่นเดิมก็เดินกลับมายังพื้นที่พิพาทได้อีก โดยใช้เวลาเดินทาง 3-5 วันเท่านั้น

เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าคณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้างในการประชุมครั้งที่ 2/2566 วันที่ 5 เม.ย.2566 ได้กำหนดจุดรองรับช้างป่าที่มีปัญหา คือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ซึ่งในคดีที่พิพาทนี้ได้กำหนดให้กลุ่มป่าคลองแสง-เขาสกพื้นที่รองรับช้างป่าที่มีปัญหา โดยมติดังกล่าวผ่านการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และเสนอโดยอธิบดีกรมอุทยานฯ และเห็นควรนำช้างตัวดังกล่าวไปอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง อีกทั้งหลังเกิดเหตุพิพาทกรมอุทยานฯ เคยสั่งให้คณะเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ดำเนินการจับหรือเคลื่อนย้ายพลายเจ้างาเพื่อนำไปปล่อยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เพียงแต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการตามคำสั่ง

ขณะเดียวกัน กรมอุทยานฯ ให้ถ้อยคำว่าไม่มีเหตุขัดข้องเรื่องงบประมาณและเจ้าหน้าที่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญพร้อมปฏิบัติ อยู่แล้ว หากศาลกำหนดมาตรการโดยให้จับพลายเจ้างาและเคลื่อนย้ายยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของกรมอุทยานฯ ก็ไม่อุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ และหากต้องใช้พื้นที่ของนายศักดิ์สิทธิ์และราษฎรพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 10 และหมู่ 11 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ เพื่อจับและเคลื่อนย้ายพลายเจ้างา เจ้าของพื้นที่ก็ไม่ขัดข้อง ศาลจึงมี คำสั่งดังกล่าว

ด้านชาวบ้านในพื้นที่ต.กรุงชิงอ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้ลงชื่อรวม 104 คน เข้ายื่นจี้คดีกับศาลปกครองนครศรีธรรมราช ในคดีดังกล่าว โดยนายเชาวฤทธิ์ สิทธิฤทธิ์ ตัวแทนชาวบ้านและเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ความเดือดร้อนจากพลายไข่นุ้ย กล่าวว่า ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แล้วก็ตาม ซึ่งแม้กรมอุทยานฯจะมีคำสั่งให้จับเคลื่อนย้ายช้างป่าตัวนี้คืนถิ่นเดิมเมื่อ 30 พ.ย.2565 แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ จนสร้างความเสียหายอย่างหนักมาโดยตลอด ที่ผ่านมาชาวบ้านยืนยันว่ากรอบกฎหมาย เจ้าหน้าที่แก้ไขปัญหาได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมกระทำ จนเป็นที่มาที่ชาวบ้านต้องมาพึ่งต่อศาลปกครอง

สำหรับพลายไข่นุ้ย เป็นช้างป่าที่มีพฤติกรรมแปลกกว่าช้างป่าทั่วไป ชอบเข้ามาอาศัยในชุมชนเกษตรกรรม สร้างความเสียหายให้กับพืชผลในช่วงกลางคืน และจะหลบเข้าไปพักในป่าในช่วงกลางวัน ระยะนี้เป็นช่วงตัดเก็บเกี่ยวทุเรียนทวาย โดยสร้างความเสียหายให้กับทุเรียนที่รอเก็บเกี่ยวต่อต้นอายุต้นประมาณ 5 ปี จะสร้างความเสียหายสูงมูลค่าถึงต้นละประมาณ 1 แสนบาท นอกจากนั้นเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมายังลงมาทำร้ายพลายเงิน ช้างเลี้ยงของชาวบ้านที่ล่ามให้กินอาหารที่ท้ายหมู่บ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่ควาญได้เข้าไปช่วยเหลือรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด