เด็กก้าวร้าวขึ้น ครูก็มีส่วนด้วย

ห่วงสถานการณ์ ‘บูลลี่’ ในโรงเรียนพุ่ง กรมสุขภาพจิตชี้เหตุจากความก้าวร้าวรุนแรงที่มีมากขึ้น ขาดความยืดหยุ่น อยู่กันด้วยมิตรและเปิดใจต่อกันน้อยลง ชี้สาเหตุก้าวร้าว มาจากการเลี้ยงดูในครอบครัว พฤติกรรมเลียนแบบ ขาดการประนี ประนอม เด็กตกเป็นเหยื่อจึงออกมาระบายแก้แค้น แนะสอนเด็กมีทักษะทางสังคม สร้างมิตร ลดขัดแย้ง เตือนครูระวังร่วมบูลลี่เด็กโดยไม่รู้ตัว

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การบูลลี่ในโรงเรียนว่า หากติดตามจากข่าวจะพบว่าสถานการณ์มีมากขึ้นพอสมควร เรื่องนี้หากมองด้วยใจเป็นกลางมี 2 ประเด็น คือ พบความก้าวร้าวรุนแรงมากขึ้น อีกมุมคือความยืดหยุ่นระหว่างกัน การอยู่กันด้วยมิตรน้อยลง เมื่อก่อนการผลักอกเพื่อนมองว่าก็เพื่อนกันหรือแค่โกรธกันเล็กน้อย จะเปิดกว้างมากกว่า แต่เดี๋ยวนี้บ่อยครั้งพบพฤติกรรมดังกล่าวคือการบูลลี่แล้ว หากต่างฝ่ายต่างไม่ยืดหยุ่น ไม่เปิดใจ มองว่าเป็นการบูลลี่ พฤติกรรมการบูลลี่ก็จะเยอะมากขึ้น ยิ่งมีความเกรี้ยวกราดก้าวร้าวอยู่ในใจ บูลลี่จะยิ่งเพิ่มดีกรีมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงปัจจัยจากสภาพแวดล้อมและครอบครัวมีส่วนด้วยหรือไม่ พญ.อัมพรกล่าวว่า หากเด็กได้รับการเลี้ยงดูด้วยความเกรี้ยวกราดก้าวร้าวจะรับความก้าวร้าวนั้นมาแสดงออกด้วยการเลียนแบบ หรือบางครั้งตัวเองเป็นเหยื่อความก้าวร้าวนั้นก็ออกมาระบาย มาแก้แค้นคนอื่นบ้าง กลไกความก้าวร้าวที่ส่งต่อมีได้ทั้งการเลียนแบบและการระบาย ในสิ่งแวดล้อมนั้นถ้าเด็กคนเดิมมาจากครอบครัวที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่มีการประนีประนอมใดๆ นอกจากจะกระทำคนอื่นด้วยความรุนแรงแล้ว อาจจ้องมองว่าใครสร้างความรุนแรงกับตัวเอง มีแต่มองเห็นสิ่งนั้นในแง่มุมลบ ก็จะเกิดความขัดแย้ง การกระทบกระทั่งที่เล็กก็จะนำไปสู่การเติบโตบานปลาย

“หลายเหตุของการบูลลี่อาจเกิดจาก ตะกอนเล็กๆ ที่ไม่ได้สื่อสารทำความเข้าใจกันตั้งแต่แรก ข้อมูลที่เราได้รับรายงานพบเด็กบางคนถูกบูลลี่มีความเปราะบางทางจิตใจมาก ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากการถูก บูลลี่เล็กๆ น้อยๆ หรือปรับแก้สถานการณ์ บูลลี่เล็กๆ น้อยๆ ให้คืนตัวได้ เด็กบางคนจึงต้องการความช่วยเหลือ เช่น เจอเพื่อนเหน็บแนมก็รู้สึกแย่ พอเพื่อนเห็นใจน้อยลงยิ่งเหน็บแนมหนักก็เพิ่มความแย่มากขึ้น เป็นตัวอย่างของเด็กที่มีจุดอ่อนในตัวเอง ต้องเข้าช่วยเหลือ” พญ.อัมพรกล่าว

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า อีกกลุ่มพอถูกเหน็บแนมนิดหน่อยก็มองว่าเขาไม่ชอบอะไรฉัน พยายามใช้ทักษะทางสังคมสื่อว่าจะปรับความเข้าใจกันได้อย่างไร สร้างมิตรภาพขึ้นมาใหม่จากความขัดแย้งเดิม กลุ่มนี้ทำให้จุดเริ่มต้นของตะกอนการบูลลี่เล็กน้อยกลายเป็นมิตรภาพที่สวยงามได้ หากเราไม่สามารถทำให้เด็กมีทักษะทางสังคมเหล่านี้ได้ เราอาจจะเห็นแต่คู่ความ ขัดแย้งตามวัยที่เติบโต เป็นเรื่องที่ไม่ควรสนับสนุนให้เกิดขึ้น

พญ.อัมพรกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทุกโรงเรียนตื่นตัวพยายามคลี่คลายแก้ปัญหาบูลลี่ สถานการณ์ร้ายๆ มักถูกปรากฏเป็นข่าว บางทีกลายเป็นต้นแบบของวงอื่นๆ ไปด้วย การที่สื่อมวลชนนำเสนอวิธีคลี่คลายปัญหาไปด้วยจะเป็นอีกช่องทางช่วยแก้ปัญหาหรือเป็นครูของสังคม

ต่อข้อถามถึงพฤติกรรมครูบางคนที่อาจร่วมวงบูลลี่เด็กด้วย อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า บางครั้งครูอาจไม่รู้เท่าทันว่าการแสดงอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ อาจมีผลกระทบกับเด็กมากมาย เพราะเด็กมีความหลากหลาย บางครั้งครูเองก็เครียด มีความทุกข์บางอย่างที่อาจปรับตัวจัดการกับตัวเองไม่เท่าทันแล้วหลุดออก ทำให้เด็กๆ เกิดปัญหาได้ เพราะครูก็เป็นมนุษย์ธรรมดา แม้แต่คุณหมอเองก็เจอสถานการณ์เช่นนี้ได้ แต่เราคาดหวังว่าการสร้างบรรยากาศที่เป็นกัลยาณมิตรต่อกันในการทำงานจะทำให้คนที่อยู่ในความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นครู นักเรียน หมอ หรือใครที่จัดการอารมณ์ ตัวเองได้ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างกันได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน