ทะเลาะก่อนดับ คดีสยองชุมพร
ตร.หลังสวน แจ้งข้อหา- คุมส่งฝากขัง ลูกสาวโหด ยิงพ่อแท้ๆ ตายคาสวนทุเรียน เหตุเกิดเย็นวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังพบศพตร.รุดสอบ พบปมขัดแย้งลูกชอบทำตัวไฮโซ เช่ารถ BMW Z4 วันละหมื่นมาขับ แต่มาขอเงินที่บ้านไปจ่ายค่าเช่า จนทะเลาะกันประจำ ก่อนเกิดเหตุขับรถมาหาพ่อที่สวน ก่อนที่พ่อกลายเป็นศพถูกยิง 4 นัด ด้านเจ้าตัวปิดปากเงียบขอให้การชั้นศาลเท่านั้น ตร.คาดทะเลาะแล้วแย่งปืนกันก่อนลั่นไกโหด
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน จ.ชุมพร พ.ต.ท.ธีรนันท์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สส.สภ.หลังสวน นำกำลังควบคุมตัว น.ส.จุฑาพร ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 35 ปี ขณะพักผ่อนอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ ในย่านหรูกลางตัวเมืองชุมพร โดยแจ้งข้อหา “กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” พร้อมรถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i ภายหลังมีพยานหลักฐานว่าเจ้าตัวขับรถคันดังกล่าวไปหา นายประสิทธิ์ ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 63 ปี พ่อแท้ๆ ที่ ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่เย็นวันเดียวกันจะมีผู้พบศพนายประสิทธิ์ถูกยิงเสียชีวิต เบื้องต้นจากการสอบปากคำน.ส.จุฑาพร โดยมี นางชลิตา ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่มาร่วมอยู่เป็นเพื่อนด้วย ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนกระทั่งเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน เจ้าตัวไม่ยอมปริปากพูดใดๆ ทั้งสิ้น อ้างเพียงว่าจะไปให้การในชั้นศาลอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 23 ก.ค. พ.ต.ต.มาโนช ปลอดขันเงิน สว.(สอบสวน)สภ.หลังสวน รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในสวนทุเรียน หลังบ้านเลขที่ 222 หมู่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน พ.ต.ท.ธีรนันท์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สส. ตำรวจสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ชุมพร และหน่วยกู้ชีพกู้ภัย สมาคมพุทธประทีป อ.หลังสวน จ.ชุมพร
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างถนนสายเอเชีย 41 เข้าไปในถนนสายรองบ้านหนองโพธิ์ ประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตสวมเสื้อเชิ้ตลายสีชมพู กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ที่บริเวณเอวคาดผ้าขาวม้าสีส้มตัดแดง ทราบชื่อภายหลังคือ นายประสิทธิ์ ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ที่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร สภาพถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณหน้าอก หน้าท้องและขา จำนวน 4 นัด นอนหงายอยู่กลางสวนทุเรียนหลังบ้านของผู้ตาย ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ในพงหญ้า จำนวน 1 กระบอก และยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ห่างศพ จำนวน 4 ปลอก และพบกระสุนชนิดเดียวกันที่ยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัด ตกอยู่ใต้โคนต้นทุเรียน จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน
จากการสอบถาม นางชลิตา ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 58 ปี ภรรยาของผู้ตาย ให้การว่าตนทำงานอยู่ภายในบ้าน ส่วนนายประสิทธิ์ผู้ตายเข้าไปในสวนหลังบ้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 ไร่ เป็นสวนยาง สวนปาล์ม และสวนทุเรียน 10 ไร่ โดยสามีชอบพกอาวุธปืนสั้นเข้าไปในสวนเป็นประจำ และวันเกิดเหตุสามีก็พกอาวุธปืนเข้าไปในสวน ตนเองได้ยินเสียงก็ไม่ได้แปลกใจอะไรถือเป็นปกติเพราะสามีมักจะชอบยิงปืนบ่อยครั้ง จนกระทั่งช่วงเย็นได้เดินเข้าไปตามเพราะเห็นสามีหายไปนานเกิน ก็พบนายประสิทธิ์สามีถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่กลางสวนทุเรียนแล้ว จึงได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ขณะเดียวกันทางตำรวจได้สอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่าผู้ตายมักมีปากเสียงทะเลาะกับน.ส.จุฑาพร ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 35 ปี ลูกสาวชนิดเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด และช่วงเกิดเหตุลูกสาวมาหาผู้ตายแล้วหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า น.ส.จุฑาพร เป็นคนไม่พูดและไม่สุงสิงกับใคร ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้อยู่บ้านเนื่องจากไปประกอบธุรกิจทำร้านอาหารอยู่ใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องปิดกิจการไป โดยเช่าอพาร์ตเมนต์หรูอยู่ในย่านกลางเมืองชุมพร
ตำรวจได้ข้อมูลอีกว่าน.ส.จุฑาพร ชอบทำตัวเป็นไฮโซ และเช่ารถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i มาใช้ เสียค่าเช่าวันละ 1 หมื่นบาท จ่ายเป็นรายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 7 หมื่นบาท โดยเช่ามานานหลายเดือนแล้ว ที่ผ่านมาชอบไปขอเงินจากแม่มาใช้เป็นประจำ และมักจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อบ่อยครั้งที่ลูกสาวมาขอเงิน จนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดที่ลูกสาวกลับบ้าน กระทั่งวันเกิดเหตุ น.ส.จุฑาพร ขับรถเก๋งกลับมาที่บ้านช่วงบ่าย พอตกเย็นก็พบศพนายประสิทธิ์ ถูกยิงตายอยู่ในสวนทุเรียนหลังบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนดำเนินการควบคุมตัวมาสอบสวนดังกล่าว
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน (24 ก.ค.) ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ชุมพร ได้เดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝงภายในรถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i ที่ตำรวจตรวจยึดไว้ที่ สภ.หลังสวน เพื่อประกอบสำนวนคดี ขณะเดียวกันได้มีพนักงานบริษัทเช่ารถเดินทางมาที่ สภ.หลังสวน เพื่อมาติดตามขอรับคืนรถ BMW ที่ น.ส.จุฑาพร ได้เช่ามาใช้ เนื่องจากครบกำหนดเป็นวันสุดท้ายของการเช่าในวันนี้ โดยพนักงานให้ข้อมูลว่า ผู้เช่าได้เช่ารถมานานแล้ว และจะเช่าเป็นรายสัปดาห์ โดยลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้าชั้นดี ไม่ติดค้างเงินค่าเช่าเลย จะจ่ายเป็นรอบ รอบละ 7 หมื่นบาทต่อสัปดาห์ และลูกค้ารายนี้เช่าคันนี้มาอย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ทางบริษัทจึงเดินทางมาชี้แจงและจะขอนำรถกลับต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน เปิดเผยว่าเบื้องต้นแม้ผู้ต้องสงสัยจะไม่พูดอะไร จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า น.ส.จุฑาพรขับรถออกมาจากอพาร์ตเมนต์ในตัวเมืองชุมพร กลับมาที่บ้านใน อ.หลังสวน เพียงคนเดียว จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นเชื่อว่า น.ส.จุฑาพรน่าจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อ แล้วเกิดแย่งปืนกันขึ้น พนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดเสื้อผ้า น.ส.จุฑาพร และของผู้ตาย รวมทั้งอาวุธปืน ส่งไปกองพิสูจน์หลักฐานภาค 8 เพื่อตรวจเก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝง ซึ่งจะรู้ผลเร็วๆ นี้ ส่วนข้อหาเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.จุฑาพร ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาอื่นหากพบพยานหลักฐานเพิ่มก็สามารถแจ้งเพิ่มในภายหลังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 15.00 น. ภายหลังสอบปากคำเสร็จตำรวจได้คุมตัว น.ส.จุฑาพร ไปขออำนาจศาลจังหวัดหลังสวน ฝากขังต่อไป ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.จุฑาพร ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ น.ส.จุฑาพร ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีว่า จากการชันสูตรบาดแผลของผู้ตายพบว่ามีบาดแผลอีก 3 แห่งบริเวณกลางหลัง ซึ่งจากสภาพบาดแผลน่าจะเป็นรูกระสุนที่ยิงเข้าด้านหลังและไปทะลุออกที่หน้าอกด้านหน้า โดยจากการประมวลเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่านายประสิทธิ์กับน.ส.จุฑาพร เรื่องที่เจ้าตัวมาขอเงินไปจ่ายค่าเช่ารถ BMW แต่น่าจะทะเลาะกันรุนแรงและเกิดการยื้อแย่งปืนกัน สุดท้ายน.ส.จุฑาพร แย่งปืนมาได้แล้วยิงใส่นายประสิทธิ์ที่ขาหรือจังหวะนั้นเกิดปืนลั่นใส่ขานายประสิทธิ์
พอถูกยิงนายประสิทธิ์จึงพยายามหันหลังวิ่งหนี แต่น.ส.จุฑาพร ตามมายิงผู้เป็นพ่อซ้ำจากด้านหลังอีก 3 นัดจนเสียชีวิตคาที่ก่อนจะขับรถ BMW หลบหนีกลับมาที่พักจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบและตามไปจับกุมตัวได้ไม่ทันพ้น 24 ช.ม.