ทั้งที่ส่งเสีย-เคลียร์หนี้ให้ ‘ไอ้ไข่’รับสิ้นหลังถูกจับ

จับแล้วมือฆ่ารัดคอสาวใหญ่หมกบังกะโล สารภาพแค้นเลี้ยงไม่เชื่อง ทั้งที่ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนร่วม 2 ปี เคลียร์ปัญหาหนี้สินให้จนหมด กลับมาบอกเลิก ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เลยก่อเหตุ ทีแรกจะหาไม้มาตีให้ตาย แต่ไม่เจอ พบเชือกเลยนำมาใช้ก่อเหตุ หลังอีกฝ่ายเสียชีวิตก็สำนึกผิด นั่งลูบหัวศพนานร่วม 1 ช.ม.ก่อนหนี จนโดน ตร.ตามรวบตัว

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยความคืบหน้าคดีฆ่ารัดคอ น.ส.เกสร หญิงวัย 45 ปี ในบังกะโล แห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัวนายเสรี บุญปราบ หรือ ‘ไอ้ไข่’ อายุ 57 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในข้อหาฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา ฯลฯ โดยจับกุมตัวได้ในพื้นที่ ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 30 ก.ค. ทั้งนี้ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนมีพยาน หลักฐานที่แน่ชัดว่าคนร้ายที่ฆ่ารัดคอ คือนายเสรีที่นัดหมายพบกับผู้ตาย ก่อนจะก่อเหตุแล้วหลบหนีไป จึงได้นำหลักฐานไปขอหมายศาลออกหมายจับและสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

พ.ต.อ.โชคดีได้คุมตัวนายเสรีเข้าทำการสอบปากคำและแสดงหมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดย ย้ำถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่าได้จับกุม ตามหมายศาลจังหวัดในข้อหาดังกล่าว ในขณะที่นายเสรียอมรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหาและให้ความร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ที่ยอมรับสารภาพ ถึงสาเหตุของการเกิดเหตุทั้งหมด

ฆ่าแม่ม่าย – ตำรวจสภ.เมืองนครศรีธรรมราช คุมตัวนายเสรี บุญปราบ หนุ่มใหญ่ฆ่ารัดคอม่ายสาวใหญ่หมกบังกะโล สอบเค้นจนรับสารภาพแค้นถูกผู้ตายบอกเลิก ทั้งที่เคลียร์หนี้สินและส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนกว่า 2 ปี เมื่อวันที่ 30 ก.ค.

นายเสรีให้การอ้างว่าสาเหตุเกิดจากแค้นที่เลี้ยงไม่เชื่อง โดยวันเกิดเหตุผู้ตาย ได้โทรศัพท์ชวนให้ไปบังกะโล จึงขับรถ จยย.ไปเปิดห้องก่อน ส่วน น.ส.เกสรขับรถจยย.ไปหา จากนั้นมีความสัมพันธ์กัน 1 ครั้ง หลังเสร็จกิจ น.ส.เกสรได้บอกเลิก โดยบอกว่าตอนนี้มีสามีใหม่แล้ว ทำให้ตนเองโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ส่งเสียให้เดือนละ 1 หมื่นบาท เอาที่ดินไปจำนำ 5 หมื่นบาทให้ไปใช้หนี้ และยังเสียค่าแชร์อีก 3 หมื่นเพื่อให้เคลียร์ปัญหาทางการเงินให้ น.ส.เกสร

นายเสรีให้การอีกว่า ด้วยอารมณ์ชั่ววูบได้เดินออกจากห้องไปหาไม้ตั้งใจจะตีให้ตายแต่ไม่มี พอดีเห็นเชือกอยู่ที่หน้ารถ จยย.จึงหยิบเชือกไปก่อเหตุรัดคอ น.ส.เกสรจนสิ้นใจตายคามือ แต่หลังจาก น.ส.เกสรตายแล้วจึงสำนึกผิด แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร และได้นั่งลูบหัว น.ส.เกสรนานเกือบ 1 ช.ม.ก่อนจะหลบหนี โดยเปลี่ยนเสื้อผ้าในป่าสวนยางข้างทาง นำเสื้อผ้าและซิมโทรศัพท์ไปทิ้ง ก่อน จะไปกบดานที่บ้านแม่ อ.ฉวาง กระทั่งโดนจับ

พ.ต.อ.โชคดีกล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้สอบสวนอย่างต่อเนื่อง นำเอาเทคโนโลยีมาตรวจสอบทั้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือ นำหมายเลขที่ผู้ตายติดต่อช่วงก่อนเกิดเหตุ เชิญตัวมาสอบปากคำทุกราย กระทั่งได้หลักฐานเข้าจับกุมตัวนายเสรีมาสอบจนรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่ารัดคอ น.ส.เกสร

สำหรับน.ส.เกสร เป็นแม่ม่ายเลิกรากับสามีมานานแล้ว ก่อนจะมามีสัมพันธ์กับผู้ก่อเหตุ โดยพยานสำคัญในคดีนี้ คือผู้ดูแลบังกะโลที่เกิดเหตุเล่าว่า เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 26 ก.ค. มีชายอายุประมาณ 50 กว่าปี มาขอเปิดห้อง แต่ไม่ได้นำบัตรประชาชนมาแสดง ต่อมาเวลา 20.00 น. ฝ่ายหญิงขี่รถจยย.มาหาที่ห้องพัก ต่อมาเวลาประมาณ เที่ยงคืนฝ่ายชายขี่รถจยย.ออกไป กระทั่งเที่ยงวันที่ 27 ก.ค.จึงไปเคาะห้องจนพบผู้เสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน