ล่าสุด2หนุ่มอินเดียสังเวย ภูเก็ตเอาผิด2เรือลุยคลื่น เตรียมเรียกมาชี้แจงด่วน พายุซัดร้อยเอ็ดพัง20หลัง อุตุฯเตือน36จว.ฝนถล่ม

นักท่องเที่ยวฝ่าฝืนธงแดงลงเล่นน้ำทะเลภูเก็ตโดนกลืนดับสลด 4 ศพ ใน 5 วัน ล่าสุด 2 หนุ่มอินเดียเซ่นทะเลกะรน อุทยานฯพีพีเตือนงดออกทะเลจนถึง 3 ส.ค. ‘เจ้าท่าภูเก็ต’เอาผิดเรือท่องเที่ยว 2 ลำฝ่าฝืนคำสั่งเดินเรือฝ่าคลื่นสูง 3 เมตรจากกระบี่มาภูเก็ต หลังมีคลิปแชร์ว่อนโซเชี่ยล ร้อยเอ็ดฝนตกหนัก ซัดบ้านพัง 20 หลัง ส่วนที่หนองคายก็ตกหนัก 3 วัน 3 คืน ‘น้ำตกธารทอง’ เฝ้าระวังน้ำป่า อุตุฯ เตือน 36 จว.ระวังฝนถล่มหนัก

ฝ่าธงแดงเล่นน้ำทะเล-2 อินเดียดับ
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ชมภูนุช อนันตญากุล สว. (สอบสวน) สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.ป่าตอง ว่ามีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตที่ร.พ.ป่าตอง สาเหตุจมน้ำบริเวณหาดกะรน ต.กะรน อ.กะรน จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 20.14 น. วันที่ 1 ส.ค. จึงรุดไปที่ตรวจสอบ ที่ร.พ.ป่าตอง

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเวอร์ม่า ฮาชิต อายุ 26 ปี ชาวอินเดีย สอบสวนทราบว่าเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 1 ส.ค. ผู้ตายกับเพื่อนรวม 3 คนลงไปเล่นน้ำทะเลที่หาดกะรน บริเวณใกล้รูปปั้นพญานาค ต่อมามีคลื่นขนาดใหญ่ดูดเอาร่างของผู้ตายและนายซาเจอ จักถะวัด เพื่อนของผู้ตายลงไปในทะเล ต่อมาเพื่อนช่วยกันนำทั้งสองคนขึ้นมาจากน้ำและปั๊มหัวใจ แต่ทั้งสองไม่มีสัญญาณชีพ เมื่อรถพยาบาลมาถึงจึงนำนายเวอร์ม่า ฮาชิต ส่งร.พ.ป่าตอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมาเวลา 21.00 น. ร.ต.อ.อรรถ พยายาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากร.พ.ฉลอง ว่ามีเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจมน้ำมาจากหาดกะรน บริเวณใกล้รูปปั้นพญานาค เจ้าหน้าที่กู้ชีพ เทศบาลกะรน นำส่งร.พ.ฉลองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อนายซาเจอ จักถะวัด

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายซาเจอลงเล่นน้ำทะเลในช่วงเย็นโดยมีธงแดงเตือนภัยปักตลอดแนวบริเวณหน้าหาด กะรนขณะคลื่นลมแรง พร้อมเพื่อนอีก 2 คน จากนั้นโดนคลื่นซัดจมทะเล อาการสาหัส 2 ราย เจ้าหน้าที่นำส่งร.พ.ฉลอง 1 ราย และร.พ. ป่าตอง 1 ราย ซึ่งเสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่วนอีก 1 รายปลอดภัย

เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิต จากหัวใจหยุดเต้น จนท.จึงบันทึกไว้เป็น หลักฐาน ก่อนประสานสถานทูตมารับศพไปดำเนินการตามวิธีทางศาสนาต่อไป

5วันสังเวยแล้ว 4 ศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากการฝ่าฝืนสัญญาณธงแดงลงเล่นน้ำทะเลภูเก็ต และเสียชีวิตรวม 4 ศพ

ด้านนายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตเปิดเผยว่า ตั้งแต่เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเดือนพ.ค.66 จ.ภูเก็ตยกระดับมาตรการการดูแลความปลอดภัยและแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว โดยเมื่อวันที่ 25 พ.ค.66 ได้แจ้งคณะกรรมการอำนวยความปลอดภัยทางทะเลเพื่อดูแลและเข้มงวดความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว จากนั้นเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ได้แจ้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 15 แห่งที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลให้ดำเนินการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเล กำชับให้มีการติดตั้งธงแดง พร้อมกำชับให้ไลฟ์การ์ด เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลนักท่องเที่ยว ริมชายฝั่งทะเล และวันที่ 27 มิ.ย.กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดแจ้งหนังสือกำชับ

ล่าสุดวันเดียวกันนี้ ผู้ว่าฯ ภูเก็ตสั่งการให้ทุกอำเภอและทุกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเสริมกำลังอปพร.และเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในทุกจุด ส่วนการดำเนินการกับนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนธงแดง หรือป้ายเตือนได้กำชับให้ตำรวจท้องที่และตำรวจท่องเที่ยว เสริมกำลังเข้าไปดูแลอีกทางหนึ่ง ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามการแจ้งเตือนของทางราชการ โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ที่มีคลื่นลมแรง

เอาผิดเรือท่องเที่ยวฝืนฝ่าคลื่นสูง
ส่วนกรณีปรากฏภาพข่าวออกสื่อโทรศัพท์และสื่อออนไลน์และมีการตั้งข้อสังเกตและความห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบริการใช้เรือสปีดโบ๊ตขณะฝ่าคลื่นลมแรงระหว่างกลับจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อมายังท่าเทียบเรือในจ.ภูเก็ต โดยมีภาพเรือสปีดโบ๊ตชื่อณัฐทิชา 555 กำลังฝ่าสู้คลื่นลม โดยมีเรือสปีดโบ๊ตอีกลำบันทึกภาพเคลื่อนไหวและพบว่ามีนักท่องเที่ยวที่มากับเรือบางส่วนไม่สวมเสื้อชูชีพเมื่อวันที่ 1 ส.ค.นั้น

นายณชพงศ ประนิตย์ ผอ.สำนักงาน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า ตนมอบหมายให้นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือและเจ้าหน้าที่ จภ.5 (ภก.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบเบื้องต้นเรือที่กำลังฝ่าคลื่นลมในภาพข่าวชื่อเรือ ณัฐทิชา 555 หมายเลขทะเบียน 615101134 ขนาด 12.89 ตันกรอส ประเภทเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้บรรทุกคนโดยสาร (เรือเร็ว) ใบอนุญาตใช้เรือมีอายุถึงวันที่ 20 ต.ค.2566 ได้ผจญคลื่นลมแรงในระหว่างทางกลับจากเกาะพีพี จ.กระบี่ มายัง ท่าเทียบเรือวานิช ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในวันที่ 1 ส.ค. 2566 เวลา 14.30 น. ขณะให้บริการเรือเช่าลำ โดยมีผู้โดยสาร 8 คน และคนประจำเรือ 2 คน รวมคนบนเรือ 10 ราย ผู้ควบคุมเรือชื่อนายจิรทีปต์ ประโมงกิจ อายุ 25 ปี ถือประกาศนียบัตรนายท้ายเรือกลเดินทะเลชั้นหนึ่ง หมดอายุวันที่ 10 เม.ย. 2571 ผู้ควบคุมเครื่องจักรชื่อ นายพิเชษฐ์ ประโมงกิจ อายุ 32 ปี ถือประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่ง หมดอายุวันที่ 16 ม.ค. 2571

ขณะเรืออีกลำชื่อเรือที เอส เค 6 หมายเลขทะเบียน 605100673 ขนาด 18.37 ตันกรอส ประเภทเรือเดินกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้ บรรทุกคนโดยสาร (เรือเร็ว) ใบอนุญาตใช้เรือมีอายุถึงวันที่ 30 พ.ค. 2567 ได้ผจญคลื่นลมแรง คลื่นมีความสูงประมาณ 3 เมตร ในวันที่ 1 ส.ค. เวลาประมาณ 14.30 น. ระหว่างเดินทางกลับจากเกาะพีพีมายังท่าเทียบเรือ AA แหลมหงา เกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขณะนั้นมีผู้โดยสาร 44 ท่าน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยว 42 ราย ไกด์ 2 ราย และคนประจำเรือ 3 นาย รวม 47 ราย โดยมีผู้ควบคุมเรือชื่อนายเรวุฒิ พุทธวงศ์ อายุ 31 ปี ถือประกาศนียบัตร นายท้ายเรือกลเดินทะเล ชั้นหนึ่ง หมดอายุวันที่ 3 ธ.ค. 2567 มี ผู้ควบคุมเครื่องจักรชื่อ นายขวัญชัย ประโมงกิจ อายุ 48 ปี ถือประกาศนียบัตร คนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่งพิเศษ ชำนาญงาน หมดอายุวันที่ 12 พ.ย. 2567

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว พบว่าตัวและเครื่องจักรยนต์มีสภาพพร้อมใช้งานตามที่ระบุในใบอนุญาตใช้เรือ มีอุปกรณ์เดินเรือ สัญญาณไฟเดินเรือ อุปกรณ์ดับเพลิง และเสื้อชูชีพครบตามจำนวนที่ได้รับอนุญาต

พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่สอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและได้แจ้งลักษณะการกระทำ ความผิดของผู้ควบคุมเรือ เข้าข่ายตามมาตรา 291 วรรคแรก มีสาระสำคัญว่าผู้นำร่อง นายเรือ ต้นหน สรั่ง ไต้ก๋ง นายท้าย คนถือท้าย ต้นกล หรือคนใช้เครื่องที่ได้รับประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตผู้ใดหย่อนความสามารถ หรือประพฤติไม่สมควรแก่หน้าที่ ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับเกี่ยวแก่การเดินเรือหรือหน้าที่ของตน ให้เจ้าท่ามีอำนาจที่จะสั่งงดไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตมีกำหนดไม่เกินสองปี แต่ไม่เป็นการลบล้างโทษอย่างอื่นซึ่งผู้นั้นจะพึงได้รับ โดย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งนัดหมายเชิญผู้ควบคุมเรือและผู้เกี่ยวข้องเข้าไปให้ถ้อยคำและชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

อุทยานฯพีพีเตือนงดออกทะเล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่จ.กระบี่ยังคงปกคลุมไปด้วยเมฆฝน ส่วนในทะเลยังคงมีคลื่นลมแรงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ต.อ่าวนาง และต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เช้านี้มีฝนตกสลับหยุด ส่วนคลื่นในทะเลมีกำลังแรง พบว่าเรือนำเที่ยวและเรือประมงจอดทอดสมอหลบคลื่นลมตามลำคลองและในอ่าว ไม่ได้ออกทะเล หลังจากเมื่อวานนี้คลื่นลมแรงจัดและมีคลิปที่มีเรือนำเที่ยวฝ่าคลื่นสร้างความหวาดเสียวแก่ผู้ได้ชม แม้ทั้งหมดจะปลอดภัยก็ตาม

นางรักชนก แพน้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ออกประกาศแจ้งเตือนให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 3 ส.ค. 2566

เตือน 4 จว.ใต้บนระวังน้ำป่า
ด้านนายกมล พรหมสาขา ณ สกลนคร ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกฉบับที่ 5 ซึ่งเป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์ เรื่องคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีผลกระทบจนถึงวันที่ 3 ส.ค.2566 ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่งโดยเฉพาะพื้นที่ด้านฝั่งตะวันตกของ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง

คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 3 ส.ค.2566

ฝนถล่มร้อยเอ็ดบ้านพัง 20 หลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ร้อยเอ็ดเกิดฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรงตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนของประชาชน ในพื้นที่ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับความเสียหายกว่า 20 หลัง

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตนสั่งการให้หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด บูรณาการกับฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหายและเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน หลังได้รับรายงานจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ดว่าเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ของจ.ร้อยเอ็ด โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางสำนักงาน ปภ.ลงพื้นที่ติดตามช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในตำบลหนองแวงแล้ว นอกจากนี้ยังสั่งการให้ทุกอำเภอเตรียมความพร้อมและติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่อาจก่อให้เกิดพายุฤดูร้อนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจตราอาคารสถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง รวมถึงไม้ยืนต้นตามสถานที่สาธารณะที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง ให้ท้องถิ่นเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ ทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที

อุดรฯนาข้าวจม 500 ไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรพงษ์ แสนคำ สจ.เขต 3 อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พร้อมด้วยนายยุรนันทร์ แก้ววิเชียร นายกอบต.บ้านยา ลงพื้นที่ดูสภาพน้ำท่วมพื้นที่ไร่นาของชาวบ้านในพื้นที่ต.บ้านยาและต.หนองสระปลา เกือบ 500 ไร่ หลังถูกน้ำท่วมมานานกว่า 10 วัน จมมิดจนไม่เห็นต้นข้าว เกิดน้ำท่วมเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำซากหลายสิบปี ทุกๆ ฤดูฝน หากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มวลน้ำที่ไหลมาตามลำห้วยกีบกลิ้ง ลำห้วยหนองแก ลำห้วยสงครามไหลผ่านตรงพื้นที่แห่งนี้ เนื่องจากไม่มีคลองระบายน้ำ ทำให้เกิดน้ำขังพื้นที่การเกษตรของประชาชนซ้ำซาก

นายจักรพงษ์กล่าวว่า ช่วงนี้มีมรสุมเข้ามาในพื้นที่ทำให้ฝนตกหนักและต่อเนื่องหลายวัน ประชาชนที่ปลูกข้าวทำนาในต.บ้านยาและต.หนองสระปลา อ.หนองหาน เดือดร้อน ข้าวในนาเกือบ 500 ไร่ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 10 วันแล้ว หากมีน้ำท่วมขังต่อไป รับรองข้าวตายแน่นอน

เฝ้าระวัง‘น้ำตกธารทอง’
ส่วนที่จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ทุกอำเภอมีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวันทั้งคืนช่วง 3 วันที่ผ่านมา บางพื้นที่มีลมแรง ท้องฟ้าปิด เมฆฝนปกคลุมทั่วบริเวณ โดยที่สวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งมีน้ำตกธารทอง ธารน้ำไหลจากภูเขาสูงลงสู่แม่น้ำโขง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของอ.สังคม ขณะนี้ปริมาณน้ำฝนมาก ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

ด้านนางจิรายุ ทองรา เจ้าหน้าที่สวนรุกขชาติ นำเจ้าหน้าที่สวนรุกขชาติเฝ้าระวังปริมาณน้ำ น้ำป่าไหลหลาก และดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด โดยจะมีการสังเกตสีน้ำตก ถ้าน้ำตกเปลี่ยนสีในระยะ 5 นาที จะเตือนนักท่องเที่ยวให้รีบขึ้นจากน้ำตก เพราะเกรงว่าจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก อีกทั้งจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ผลัดละ 3 นาย เดินตรวจสภาพน้ำทุกชั่วโมง ขณะนี้ปริมาณน้ำที่น้ำตกธารทองยังเป็นปกติ แต่อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง หากประชาชนจะเข้ามาท่องเที่ยวน้ำตกยังสามารถมาได้ แต่ขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และรับฟังคำเตือนจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดด้วย

อุตุฯเตือนฝนถล่ม 36 จว.
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 9 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 3 ส.ค. 2566) ว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 2 ส.ค. ภาคเหนือ-จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-จ.หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก-จ.ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคใต้-จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

วันที่ 3 ส.ค. ภาคเหนือ-จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-จ.หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง-จ.อุทัยธานี และกาญจนบุรี ภาคตะวันออก-จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคใต้-จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 3 ส.ค.2566

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน