ปีติ‘ในหลวง-ราชินี’ พร้อมด้วย2เจ้าฟ้าฯ เสด็จฯพิธี-วันเฉลิมสมเด็จพระพันปีหลวง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2566 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยครม ผู้แทนพรรคการเมือง ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน และพสกนิกรทั่วไทยร่วมพิธีทำบุญตักบาตร จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้อง ทหาร 3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติแม่แห่งแผ่นดิน ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจจัดงานวันแม่อบอุ่นทั้งแผ่นดิน

สำนักพระราชวัง เผยแพร่พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จออกในโอกาสที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา ณ ห้องรับรอง ชั้น 29 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง วันที่ 12 สิงหาคม 2566

เสด็จราชพิธีวันเฉลิมพระพันปีหลวง
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. เวลา 17.47 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้า ลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมาง กูร สิริวิบูลยราชกุมาร ไปในการ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พุทธศักราช 2566 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับการถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ของบรรพชิตญวนและจีน แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา และธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่หน้าธรรมาสน์ศิลา แล้วทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์ จากนั้น พระราชทานเงินแก่ข้าราชการผู้ทำหน้าที่โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่ง อมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาสน์ และด้านพระบรมวงศ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบแล้ว พระสงฆ์ 92 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งอุบาเก็ง ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่ประธานสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระราชา คณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 92 รูป เสร็จแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

โปรดเกล้าฯปล่อยโค นก ปลา
เวลา 07.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลปล่อยโค นก และปลา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ท่าว่าสุกรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ประธานองคมนตรี ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่โคและปล่อยโค จำนวน 1 คู่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่ครอบครัวเกษตรกรนายประไพร ร่วมจิตร บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 6 ตำบลสนม อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์เพิ่มผลผลิต กับประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่กรงนก ปล่อยนกเขาชวา จำนวน 92 ตัว กลับคืนสู่ธรรมชาติ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่ตู้ปลา ปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด จำนวน 1,000,000 ตัว ซึ่งกรมประมงน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลายี่สกไทย ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อยขาว ปลากระแห ปลาโพง ปลาเทโพ และปลาชะโอน ลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เจริญเติบโตรักษาความสมดุลตามระบบนิเวศ และเพาะขยายพันธุ์ตามธรรมชาติต่อไป

ถวายพระพร – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา นำรองนายกรัฐมนตรีและภริยา ร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ที่ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 12 ส.ค.

นายกฯ-ครม.ร่วมทำบุญตักบาตร
เมื่อเวลา 07.30 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภริยา เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 192 รูป ถวายพระราชกุศล โดยมีองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการอิสระ ร่วมในพิธี

จากนั้นเวลา 08.30 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง

จุดเทียนชัย – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา 12 สิงหาคม 2566 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ส.ค.

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล
เวลา 19.19 น. นายกรัฐมนตรีและภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ร่วมกับข้าราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่าพร้อมกันทั่วประเทศและทั่วโลก

นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำผู้เข้าร่วมพิธี ความว่า ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานหลายทศวรรษ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่ปวงประชา และสร้างความมั่นคงแก่ประเทศ ทรงค้นคิดและพัฒนาโครงการต่างๆ นับเป็นอเนกประการ ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาทั่วทุกด้าน ทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมอนุรักษ์ฟื้นฟูงานศิลปะพื้นบ้าน และงานหัตถศิลป์อันงดงามหลากหลายสาขา ล้วนก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่ออาณาราษฎรและประเทศชาติ พระปรีชาสามารถและน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นด้วย พระเมตตาอาทร ทั้งพระราชจริยวัตรอันงดงามยิ่งนี้ ประทับแนบแน่นอยู่ในดวงใจของพสกนิกรไทยโดยถ้วนทั่ว

“วันแม่แห่งชาติ” 12 สิงหาคม จึงสำคัญยิ่งต่อชาวไทยทุกคนที่จะได้ร่วมกันแสดงออกถึงพลังแห่งความจงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่ทรงเป็นประดุจแม่แห่งแผ่นดิน และเป็นศูนย์รวมดวงใจของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล และพระสยามเทวาธิราช โปรดดลบันดาลประทานพรให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระสุขภาพพลานามัยแข็งแรง ปราศจากโรคาพาธและภัยพาลทั้งปวง สถิตเป็นมิ่งขวัญ ร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเหล่าพสกนิกรตราบกาลนานเทอญ

จบแล้วดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายกรัฐมนตรีและภริยารับมอบโคมเทียน ผู้ร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล นายกรัฐมนตรีนำร้องเพลงสดุดีพระแม่ไทย จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวนำ “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี

‘วันแม่’อบอุ่นทั่วทั้งแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนในต่างจังหวัดร่วมจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวาย พระราชกุศล พร้อมร่วมถวายพระพรชัยมงคล และจัดงานวันแม่ในบรรยากาศอบอุ่นทั่ว ทั้งแผ่นดิน

3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวง 21 นัด
เวลา 12.00 น. กองบัญชาการทหาร 3 เหล่าทัพ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ กองทัพบกโดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุต ณ บริเวณท้องสนามหลวง กองทัพอากาศโดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ยิงสลุตหลวง ณ ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช กองทัพเรือโดยกองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ยิงสลุตหลวง ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

‘ป้อม’นำมูลนิธิป่ารอยต่อถวายพระพร
ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นำคณะกรรมการพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางพานพุ่มเฉลิมพระเกียรติ ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคล โดยพล.อ.ประวิตรกล่าวถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงว่า ทรงรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า แหล่งต้นน้ำลำธาร นำมาซึ่งความผาสุกร่มเย็นโดยถ้วนหน้า ทรงเป็นพระแม่แห่งแผ่นดินที่สถิตสถาพรอยู่กลางใจพสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน

ถวายพระพร – นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรค เพื่อไทยนำคณะเข้าถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาสหทัยสมาคม

เศรษฐา-รทสช.ร่วมถวายพระพร
วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พร้อมแกนนำพรรค สส. และสมาชิกพรรค ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพร ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรค นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ รองเลขาธิการพรรค และนายเกรียงยศ สุดลาภา กรรมการบริหารพรรค ร่วมลงนามถวายพระพร ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง

พบไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่น้อย
นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากรายงานการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในไทย ปี 2565 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือนแรกเพียงร้อยละ 28.6 และลดลงเมื่อครบกำหนดลาคลอด 3 เดือน ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 50 ขึ้นไป ที่น่าเป็นห่วงคือ มีการให้นมร่วมกับการให้น้ำกับทารก สะท้อนการขาดความรู้ที่ถูกต้อง เนื่องจากนมแม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบและมีสารอาหารสำคัญในการสร้างการเจริญเติบโตที่รวดเร็วของสมองและร่างกายเด็ก ภายหลังทารกอายุ 6 เดือน แม่สามารถให้อาหารตามวัยคู่ขนานกับนมแม่จนถึงอายุ 2 ขวบหรือต่อไปได้ ทั้งนี้ สภาพเศรษฐกิจและสังคมทำให้แม่ต้องทำงานนอกบ้านมากขึ้น ปัจจุบันกฎหมายให้แม่ลาคลอดได้ 90 วัน โอกาสที่แม่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนตามข้อแนะนำจึงค่อนข้างยาก หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้แม่ให้นมลูกได้นานขึ้นแม้ต้องไปทำงาน คือการจัดให้มี “มุมนมแม่” และให้เวลาพนักงานปั๊มเก็บนมแม่

คลอดฉุกเฉิน – แพทย์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันทำคลอดฉุกเฉินแม่ท้องแก่ถุงน้ำคร่ำแตกขณะรอรถโดยสารกลับบ้าน จนคลอดสำเร็จ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก ที่สถานีขนส่งอาเขต จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.

‘วันแม่’หญิงคลอดลูกกลางขนส่ง
วันเดียวกัน เวลา 08.49 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจและกู้ภัยศูนย์เวียงพิงค์เชียงใหม่ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ขนส่งอาเขตจังหวัดเชียงใหม่ว่า มีหญิงท้องแก่นั่งรอรถโดยสารเพื่อกลับบ้าน เกิดน้ำคร่ำแตกและกำลังจะคลอดลูก จึงรุดไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณจุดรอผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่เข้าช่วยทำคลอดเร่งด่วนเนื่องจากน้ำคร่ำแตกและศีรษะเด็กเริ่มโผล่แล้ว ใช้เวลาไม่นานเด็กคลอดออกมาอย่างง่ายดาย เป็นเพศชาย สภาพแข็งแรง ก่อนนำตัวแม่และเด็กไปยังโรงพยาบาลโดยด่วน แม่ลูกปลอดภัย ชาวบ้านในละแวกต่างเห็นว่าเด็กน้อยเกิดใน วันแม่พอดี เป็นนิมิตหมายที่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน