คลิปชัดถูกทำร้ายก่อน ตอบโต้ปกป้องเพื่อนหญิง

สส.ต้นกล้า ‘จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์’ ก้าวไกล กทม. ชี้แจงปมทะเลาะวิวาทในผับย่านเอกมัย ยืนยันทำไปเพื่อปกป้องน้องทีมงานผู้หญิงพ้นภัยที่ถูกชายในร้านคุกคาม พอเข้าไปห้ามปรามกลับถูกรุมทำร้ายก่อน จึงตอบโต้ตามสัญชาตญาณ ยันไม่ได้เมาแล้วกร่าง ขณะที่พรรคก้าวไกลแถลงแจงปมเหตุที่เกิดขึ้น ยันทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาความ ด้านผกก.สน.คลองตัน พร้อมดำเนินคดีหากคู่กรณีแจ้งความ ยืนยันช่วงเกิดเหตุร้านปิดแล้ว ไม่ได้ปล่อยให้เปิดเกินเวลา มีภาพวงจรปิดยืนยันได้

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ทวีตชี้แจงกรณี นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ หรือต้นกล้า สส.กทม. เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีเหตุวิวาทในร้านอาหารย่านเอกมัย 12 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. มีคลิปว่อน โซเชี่ยล ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กัน นอกจากนี้ในโต๊ะร่วมวงยังมีคนหน้าคล้ายนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อยู่ในเหตุการณ์ด้วยว่า นายจรยุทธได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับทีมงานพรรคและทีมงานตนเองเป็นปกติ เมื่อถึงเวลาปิดร้านไม่ได้มีการข่มขู่ให้ร้านเปิดเกินเวลา แต่ขณะที่รอให้พนักงานเข้ามาเก็บโต๊ะมีชายคู่กรณีเดินเข้ามาเพื่อขอถ่ายรูป และเมื่อเดินออกไปได้ถีบเก้าอี้จนล้ม เหมือนคนเมาขาดสติ นายจรยุทธเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามานั่งข้างน้องทีมงานของพรรค จากนั้นบุคคลดังกล่าวได้เดินกลับมายืนด้านหลังน้องทีมงาน และตั้งใจเอาเข่ากระแทกด้านหลังอย่างแรงจนเกือบตกเก้าอี้ เอามือมาบีบจากด้านหลัง นายจรยุทธจึงเอามือไปจับที่แขนของชายคนดังกล่าวขอให้ปล่อยมือ แต่ชายคนดังกล่าวกลับหันมา ตบหน้าทำให้ทั้ง 2 คนลุกขึ้นยืนมองหน้ากัน

จากนั้นชายคนดังกล่าวอาศัยตอนเดินกลับต่อยที่หน้าของนายจรยุทธแบบไม่มีสาเหตุ และลื่นล้มลงไปเอง ทำให้นายจรยุทธและคนที่มาด้วยกันใช้เท้าถีบเพื่อตอบโต้จากการที่ถูกทำร้ายร่างกาย จากนั้นการ์ดของทางร้านได้มาแยกทั้งคู่ออกจากกัน และได้มีการนำทั้งคู่ออกมาพูดคุยกันนอกร้าน แต่ด้วยอารมณ์ที่ผ่านการถูกทำร้ายร่างกายมาทั้ง 2 ฝ่าย จึงได้มีการใช้กำลังกันด้านนอกร้านอีกครั้ง ดังนั้นร้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุและไกล่เกลี่ย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายไม่ติดใจเอาความกันและกัน

นายกรุณพลกล่าวว่า พรรคก้าวไกลตระหนักถึงการเป็นตัวแทนและแบบอย่างของประชาชนทุกคน ดังนั้นรู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางพรรคและนายจรยุทธขอน้อมรับคำตำหนิจากสังคม และพร้อมที่จะเข้ารับการสอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมายและกรรมการวินัยของพรรคด้วยความเต็มใจ นอกจากนี้ ฝากถึงกรณีสำนักข่าวใดๆ ที่เสนอข่าวเกินจริง พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้ ผู้บริหารสำนักข่าว ช่วยอบรมและมีบทลงโทษกับการสร้างความเข้าใจผิด และโปรดเคารพในจรรยาวิชาชีพสื่อของสื่อสารมวลชนที่มีจริยธรรม

คลิปหลักฐาน – ภาพวงจรปิดนาทีชุลมุนในร้านอาหารย่านเอกมัย 12 เขตวัฒนา กทม. ที่มีนายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล (ภาพเล็ก) อยู่ในเหตุการณ์ ต่อมาได้ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 12 ส.ค.

ต่อมา นายจรยุทธ หรือต้นกล้า ทวีตแจงว่า “ขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนให้ทุกคนได้ฟังนะครับ ผมได้ไปดื่มกินที่ร้านอาหารที่ซอยเอกมัยซึ่งเป็นร้านที่ไปเป็นประจำ โดยในคืนนั้นมีเพื่อนๆ หลายคนไปร่วมด้วย หลังจากร้านปิดระหว่างรอทุกคนออกจากร้าน มีชายคนนึงได้เข้ามานั่งคุยที่โต๊ะพวกเรา หลังจากนั้นได้ลุกขึ้นและถีบเก้าอี้ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะ หลังจากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวได้เดินกลับมาที่โต๊ะและเริ่มมีท่าทีคุกคามใส่น้องผู้หญิง จนตัวผมเองที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ยกมือขึ้นเพื่อตักเตือนแต่ถูกสวนกลับด้วยการตบที่หน้าอย่างแรง พอผมลุกขึ้นยืนชายคนดังกล่าวได้ต่อยเข้าที่หน้าผมอีกทีหนึ่ง หลังจากนั้นผมเลยได้ตอบโต้ตามสัญชาตญาณของวิญญูชนคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายร่างกาย เรื่องราวทั้งหมดจบลงกันในคืนนั้น ไม่มีการดำเนินคดีจากทั้งสองฝ่าย

ผมต้องยอมรับว่าการกระทำของผมนั้น ไม่ถูกต้อง ไม่ควรที่จะตอบโต้กลับไป ไม่ควรใช้ความรุนแรง ในกรณีนี้ผมยอมรับผิดครับ ผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจและเลือกผมเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร บทเรียนครั้งนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญมากครับ แต่สิ่งที่สร้างความเข้าใจผิด กรณีสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ที่ลงข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยที่ไม่ได้ติดต่อมาสอบถามผมเลย ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดไปมาก ผมขอให้ทางสำนักข่าวเผยแพร่ข้อเท็จจริงที่ผมชี้แจงใหม่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักที่ติดต่อเข้ามา ผมขอชี้แจงครั้งเดียวในโพสต์นี้และจะไม่ขอให้สัมภาษณ์เพื่อขยายความอีกครับ เรื่องนี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนเข้าใจจุดประสงค์ของผมและนำเสนองานของผมที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในอนาคต สุดท้ายนี้ผมขอโทษทุกท่านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนี้ไปผมจะดำรงตนให้เหมาะสมต่อการเป็นผู้แทนราษฎร”

ด้าน “รุ้ง” สาวเสื้อฟ้าในคลิปที่คล้ายกับว่าอาจถูกชายเสื้อดำคู่กรณี เข้ามาคุกคาม โพสต์ข้อความเล่าเรื่องโดยละเอียดว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นพาดหัวของสื่อ…ว่า “สส.รุ่นใหม่โชว์กร่าง” จึงอยากเล่าข้อเท็จจริงฝั่งเราว่า เราได้ไปกินข้าวตามปกติที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทุกอย่างปกติดี จนถึงร้านปิดและกำลังจะกลับ มีชายคนหนึ่งมีอาการเมามาก ก่อนหน้านั้นเดินมาที่โต๊ะ มาป่วนตลอดทางเราก็หลบเลี่ยง เราไม่ได้รู้จักกัน และช่วงเวลาที่อยู่ที่ร้านเราไม่เคยสนทนากับชายคน ดังกล่าวเลย

รุ้งกล่าวต่อว่า ช่วงแรกเขายืนชนที่โต๊ะก่อนจนโต๊ะเซ เราก็ว่าเขาคงเมาแล้วเดินไปเตะเก้าอี้ เหมือนมาหาเรื่องก่อน จากนั้นก็เดินออกไปแล้วกลับเดินเข้ามาหลังชนเรา บีบและกดคอเราอีก 2-3 ครั้ง จนเริ่มผิดสังเกต และเริ่มรู้สึกไม่ดีว่าเขาอาจจะทั้งคุกคามทางเพศและทำร้ายร่างกายเราด้วยหรือไม่ จึงหันไปหาคุณต้นกล้าที่มาด้วยกัน แล้วคุณต้นกล้าก็หันมาถามว่า รู้จักชายเสื้อดำไหม เราตอบว่าไม่ได้รู้จักเลย คุณต้นกล้าพยายามสะกิดเขาเพื่อให้เอามือออกจากคอเรา เสี้ยววินาทีเขาก็ลงมือทำร้ายร่างกายคุณต้นกล้า จนเกิดการชุลมุนในร้านและการ์ดของทางร้านเข้ามาห้ามและดึงเขาออกจากร้าน “ภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ชัดว่าทางเราไม่ได้ไปหาเรื่องเขาก่อนเลย สุดท้ายก็ออกไปเคลียร์กันจบข้างนอก ชายเสื้อดำขอโทษ จนตำรวจมา และไม่เอาความ เรากับคุณต้นกล้ารู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เราทำงานในส่วนของสภา และงานแคมเปญเลือกตั้ง เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ไม่ใช่การหมั่นไส้เล็งหญิงคนเดียวกัน อะไรทั้งนั้น เนื้อหาตามข่าวบางสำนักจึงไม่เป็นเรื่องจริง ขอขอบคุณคุณต้นกล้าจากใจจริงที่ปกป้องเราจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะ ถ้าตอนเกิดเหตุ คุณต้นกล้าเห็นทุกอย่างว่าคนคนนั้นเขาทำอะไรบ้าง แต่ไม่กล้าออกมาปกป้องเรา เราคงจะเสียใจมากจริงๆ” รุ้งกล่าว

จากนั้น เวลา 12.30 น. พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่ร้านอาหารโฮม เอกมัยซอยเอกมัย 12 โดยพนักงานของร้านโทร.มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไประงับเหตุทะเลาะวิวาท เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรุดไปตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่าคู่กรณีได้ขอโทษ และปรับความเข้าใจกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรุนแรง และไม่ประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี ก่อนแยกย้ายกันไป

พ.ต.อ.วชิรากรณ์กล่าวต่อว่า ตำรวจเตรียมข้อมูลเบื้องต้นไว้แล้ว หากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ประสงค์แจ้งความ ตำรวจพร้อมดำเนินคดี ส่วนกรณีที่หลายคนสงสัยว่าทำไมร้านถึงเปิดให้ลูกค้านั่งกินได้เกินเวลาที่กำหนด ตนยืนยันว่าร้านปิดให้บริการแล้ว จะเห็นได้ว่าภายในร้านเก้าอี้ถูกยกขึ้นบนโต๊ะพร้อมปิดไฟ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวตามภาพกล้องวงจรปิดจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน