เมื่อวันที่ 27 ส.ค. เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงการกำหนดปริมาณสารไมทราไจนีนในพืชกระท่อม ว่า พืชกระท่อมถูกปลดล็อกจากการเป็นยาเสพติดแล้ว ดังนั้น การขออนุญาตจึงใช้หลักเกณฑ์เดียวกับพืชสมุนไพรชนิดอื่นๆ ทั่วไป แต่เนื่องจากปัจจุบันพืชกระท่อมยังไม่มีหลักฐานการวิจัยในมนุษย์ถึงประสิทธิภาพและปลอดภัยที่ชัดเจน อย.จึงได้จัดทำ คำแนะนำการพัฒนาและขออนุญาต “ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพน้ำใบกระท่อม” โดยกำหนดให้มีปริมาณ “สารไมทราไจนีน” ที่ได้รับไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งการกำหนดตัวเลขดังกล่าวนี้ ได้มาจากการศึกษาความเป็นพิษเรื้อรังในสัตว์ทดลอง และนำมาคำนวณจนได้ขนาดสูงสุดที่สามารถบริโภคได้ในแต่ละวัน โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายของคนปกติทั่วไป อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการสามารถขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกระท่อมที่นอกเหนือจากที่กำหนดในคำแนะนำ “ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำใบกระท่อม” โดยจะพิจารณาอนุญาตจากเอกสารหลักฐานด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ยื่นมา

“กรณีการใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารอนุญาตให้ใช้สารไมทราไจนีน ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเท่านั้น อนุญาตไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากเป็นปริมาณที่ ผู้บริโภคสามารถรับประทานได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่หากผู้ผลิตอาหารต้องการเพิ่มปริมาณเกินกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อวัน ต้องประเมินความปลอดภัยของอาหารก่อน โดยยื่นคำขอประเมินความปลอดภัยกับหน่วยประเมินที่ อย.ให้การยอมรับ ได้แก่ หน่วยประเมินความปลอดภัยอาหาร สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม และศูนย์ประเมินความเสี่ยงประเทศไทย สถาบันโภชนาการ” รองเลขาฯ อย. กล่าว

เภสัชกรเลิศชายกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารที่มี ส่วนผสมของพืชกระท่อม ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน และไม่ควรรับประทานติดต่อกันเกิน 7 วัน ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องจาก อย. โดยสังเกตฉลากต้องแสดงเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือเลขสารบบอาหาร รวมทั้งอย่าหลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอวดอ้างสรรพคุณ คุณประโยชน์ ต่อสุขภาพในทางบำบัดรักษาเป็นเท็จเกินจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน