เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน โดยสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุและสื่อออนไลน์ ได้ลงนามส่งจดหมายเปิดผนึกผ่านสื่อมวลชนถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในโอกาสที่รัฐบาลแถลงนโยบายในการบริหารประเทศต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอความคิดเห็นให้รัฐบาลนำไปประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมนโยบายด้านสังคมและผลกระทบทางสุขภาพ
โดยเครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืนได้จัดประชุมเรื่อง “สื่อมวลชนพบพรรคการเมือง : ถามหานโยบายสร้างเสริมสุขภาพคนไทย” เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้องฟอร์จูน ชั้น 3 โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน กรุงเทพฯ มีตัวแทนพรรคการเมืองซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้คือ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมนำเสนอนโยบายด้วย
ยื่นนายกฯ – เครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน โดยสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุและสื่อออนไลน์ ลงนามส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เสนอความคิดเห็นให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มเติมนโยบายด้านสังคมและผลกระทบทางสุขภาพ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.
ซึ่งทางเครือข่ายฯ จึงมีมติร่วมกันยื่นข้อเสนอเพื่อนำไปเพิ่มเติมในการปรับปรุงการจัดทำนโยบายด้านสังคมและผลกระทบทางสุขภาพ ด้านการศึกษา รัฐบาลควรจะเพิ่มเติมในเรื่องโอกาสทางการศึกษาของเด็กในครอบครัวยากจนให้ได้รับการศึกษาทั่วถึง แก้ปัญหาการถดถอยทางการเรียนรู้ของเด็กไทยจากสถานการณ์โควิด-19
ด้านยาเสพติดรัฐบาลควรเพิ่มมาตรการเชิงป้องกันให้มากขึ้นทั้งการรณรงค์ สื่อสาร ให้ความรู้กับประชาชน ไม่ให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ายาเสพติด และควรจะมีนโยบายที่ชัดเจนในการทำลายยาเสพติดของกลางโดยเร็วเพื่อป้องกันการยักยอกหรือการเล็ดลอดของยาเสพติดนำกลับมาขายใหม่
ด้านนโยบายเกี่ยวกับกัญชา ควรให้ความรู้รณรงค์ ป้องกันและปราบปรามการนำกัญชาไปใช้เพื่อสันทนาการ ด้านนโยบายเกี่ยวกับสุขภาพจิต ควรจะเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลในการให้ความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชน เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาความเครียด ซึมเศร้า ด้านนโยบายเกี่ยวกับการบริโภคยาสูบ รัฐบาลควรมีจุดยืนที่มั่นคงว่าบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย บังคับใช้กฎหมายจับกุมอย่างจริงจัง
นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และการหลอกลวงออนไลน์ ขณะนี้เรื่องดังกล่าวสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบทางสังคมกับประชาชน เด็กและเยาวชนอย่างมาก ควรจะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านนโยบายผู้สูงอายุ ขอให้รัฐบาลบรรจุเรื่องการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงเข้าไปอยู่ในแผนงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และด้านนโยบายสุขภาพมีการยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค รัฐบาลควรบรรจุเรื่องการส่งเสริมและพัฒนาการใช้สมุนไพรการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น
