ปิกอัพพุ่งข้ามเลนขยี้จยย.ขี่ซ้อนกันมา-จะกลับบ้าน

สุดสลด 3 ศพ ปิกอัพพุ่งข้ามเลนประสานงาจักรยานยนต์ไฟลุกท่วม ลากจยย.ติดใต้ท้องรถ มีด.ญ. 4 ขวบด้วย เผยก่อนเกิดเหตุ หนุ่มขี่จยย.พร้อมภรรยาและลูกเลี้ยงไปหาหมอที่อ.นางรอง ระหว่างกลับบ้านขี่สวนปิกอัพข้ามเลนไปชน ด้านคนขับปิกอัพตรวจไม่พบดื่มแอลกอฮอล์ อ้างจยย.แซงปิกอัพอีกคันไม่พ้น จนทำให้ตนเสียหลักไปชน ตร.ลุยเก็บหลักฐาน ด้านครอบครัว ผู้สูญเสียสุดเศร้า เผยกำลังจะเปิดร้านตัดผม สร้างอนาคตกับครอบครัว ไม่คิดว่าจะมาด่วนสูญเสียเช่นนี้ วอนจนท.ให้ความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ร.ต.อ.อนันท์ ศรีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนประสานงารถจักรยานยนต์ บนถนนสายสระประดู่-ทุ่งแสงทอง ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง แล้วเกิดไฟลุกไหม้รถทั้ง 2 คัน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนางรอง, หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์, หน่วยกู้ภัยสยามฯ และกู้ชีพ ร่วมตรวจสอบระงับเพลิงไหม้ และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเร่งด่วน

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ หมายเลขทะเบียน กข-3590 บุรีรัมย์ จอดอยู่ไหล่ทาง ในสภาพไฟลุกไหม้เกือบทั้งคัน ใต้รถกระบะด้านหน้า ยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันด้วย หน่วยกู้ภัยจึงได้เร่งช่วยกันดับไฟ

ชน3ศพ – รถกระบะวีโก้ พุ่งข้ามเลนชนรถ จยย. จนไฟลุกท่วม เป็นเหตุให้นายอานนท์ และน.ส.ประภาพร กับลูกสาววัย 4 ขวบ เสียชีวิตรวม 3 ศพ บริเวณถนนสายสระประดู่-ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.

จากการตรวจสอบพบท้ายรถกระบะคันที่ถูกไฟไหม้ มีศพเด็กเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือด.ญ.กัญญาพร วงศ์งาม หรือน้องเฟย่า วัย 4 ขวบ ห่างจากรถกระบะประมาณ 10 เมตร พบร่างน.ส.ประภาพร ศรีสุรินทร์ หรือฟ้า อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่รพ.สต. ในอ.นางรอง และห่างออกไปอีกราว 20 เมตร พบร่างนายอานนท์ ทองจันทร์ อายุ 25 ปี จากการสอบถามทราบว่าทั้ง 3 คนที่เสียชีวิตผู้ชายเป็นพ่อเลี้ยงหรือสามีใหม่ ส่วนผู้หญิงกับเด็กเป็นแม่ลูกกัน

ส่วนคนขับรถกระบะ ทราบชื่อด.ต. ขวัญชัย ปัดใจ อดีตตำรวจนางรอง ที่เกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ได้ถูกนำตัวส่งร.พ.นางรองแล้ว

หลังจากทราบข่าวนายบุญส่ง ศรีสุรินทร์ อายุ 62 ปี พ่อ น.ส.ประภาพร เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นร่างลูกสาว ลูกเขย และหลานสาวที่เสียชีวิตคาที่ทั้ง 3 ศพก็ถึงกับเข่าทรุดร้องไห้ข้างศพ ญาติและลูกหลานต้องช่วยกันปลอบใจ พร้อมให้ข้อมูลว่า สามีใหม่ของลูกสาวไม่สบาย จึงพากันไปหาหมอในตัวอำเภอนางรอง ด้วยกันทั้ง 3 คน คาดว่าพอหาหมอเสร็จคงจะพากันกลับบ้าน แต่มาถูกรถกระบะชนเสียชีวิตก่อน เสียใจมากไม่คิดจะสูญเสียพร้อมกันถึง 3 คน








Advertisement

น.ส.ธัญญารัตน์ ขานเพราะ อายุ 24 ปี เพื่อนร่วมงานกับ น.ส.ประภาพร กล่าวว่า ตนกับน.ส.ประภาพร ทำงานอยู่ที่ รพ.สต.ทุ่งแสงทอง แต่ไม่ทราบว่าวันนี้ผู้ตายเดินทางมาจากไหน แค่ทราบว่าเกิดอุบัติเหตุและเพื่อนเสียชีวิต จึงเดินทางมาดูพอมาเห็นเพื่อนก็ตกใจ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าฝั่งรถกระบะขับมาจากทางตำบลทุ่งแสงทอง มุ่งหน้าจะเข้าตัวอำเภอนางรอง ส่วนรถจักรยานยนต์เพิ่งกลับจากหาหมอในตัวอำเภอนางรองกำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้านในพื้นที่ตำบลแสงทอง ส่วนสาเหตุที่รถชนประสานงากันจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

ต่อมาวันที่ 24 ก.ย. ญาติผู้เสียชีวิตนำพระสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของทั้ง 3 กลับบ้านตามประเพณี บริเวณที่เกิดเหตุที่ถนนสายสระประดู่-ทุ่งแสงทอง ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลดใจของญาติผู้เสียชีวิต โดยมีนางสุมาลี ไสยรินทร์ อายุ 52 ปี ลูกสาวด.ต.ขวัญชัย ปัดใจ อดีตตำรวจ สภ.นางรอง ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ ตามมาขอโทษและแสดงความเสียใจอยู่ตลอดเวลา

นางอุสา ศรีสุรินทร์ อายุ 58 ปี แม่น.ส.ประภาพร กล่าวว่า น้องเฟย่า หลานสาว 4 ขวบที่เสียชีวิตเป็นเด็กน่ารัก ก่อนเกิดเหตุ ทั้งสามคนคือแฟนลูกสาว ลูกสาวและหลาน จะออกไปตัวอำเภอนางรอง ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 15 ก.ม. ตนพยายามบอกให้เอารถกระบะไป แต่ลูกสาวบอกว่าจะเอารถจักรยานยนต์ไป จากนั้นลูกสาวมาบอกกับตนว่ามีหมวกกันน็อก ไม่อันตรายหรอกซึ่งคาดว่าลูกสาวอาจจะอยากขี่รถคันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาได้ 9 วัน สุดท้ายได้ข่าวร้าย

นางอุสากล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 วัน ลูกสาวมาถามตนว่า “ก่อนหนูจะตายแม่อยากให้หนูทำอะไร” เป็นคำถามที่ไม่เคยถามมาก่อน จึงตอบลูกไปว่าขอให้ทำความดี เป็นคนดี แต่ไม่คิดว่าคำถามนั้นจะเป็นจริง

“เมื่อเย็นวาน ลูกสาว พร้อมหลานสาว และสามีใหม่ของลูก พากันขี่ จยย.ไปหาหมอในตัว อ.นางรอง และขากลับลูกสาวบอกว่าจะแวะซื้อกับข้าวมาให้แม่กินด้วย เพราะป่วย กินอะไรไม่ค่อยได้มาหลายวันแล้ว ลูกสาวยังบอกด้วยว่าให้แม่รอกินข้าวเย็นพร้อมกัน ก็รอกินข้าวพร้อมลูก แต่สักพักด้วยความเป็นห่วงก็โทร.ถามว่าลูกมาถึงไหนแล้ว แต่ลูกไม่รับสาย ที่ผ่านมาเวลาโทร.ไปลูกจะรับสายตลอด ก็ใจคอไม่ดีกระทั่งมีคนในหมู่บ้านมาบอกว่า ลูกเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกันทั้ง 3 ศพแล้วตอนนั้นแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก”

น.ส.นิสา ทองแม้น อายุ 40 ปี แม่ของ นายอานนท์กล่าวว่า ลูกชายเพิ่งมาคบหาอยู่กินกับฝ่ายหญิงยังไม่นาน แต่มีความมุ่งมั่นหวังจะสร้างอนาคต ทั้งสองคนได้เตรียมแผนชีวิตเอาไว้แล้ว โดยลูกชายได้เซ้งร้านตัดผมในตัวอำเภอบ้านกรวด ราคา 40,000 บาท แต่ยังไม่ได้เปิดร้านเพราะไม่สบาย สุดท้ายมาเสียชีวิตก่อน รู้สึกสงสารลูกชายที่รักผู้หญิงคนนี้และตั้งเป้าหมายชีวิตแล้ว

นางสุมาลี ไสยรินทร์ อายุ 52 ปี ลูกสาวคนขับกระบะ กล่าวว่า หลังทราบข่าว รีบเดินทางมาจากจ.อุบลราชธานี มาหาพ่อ เบื้องต้นพ่อบาดเจ็บปากแตกและเจ็บตามขา แต่ปลอดภัยดี หลังจากนั้นได้เดินทางมาขอขมาญาติผู้เสียชีวิต รู้สึกเห็นใจและเสียใจแทนผู้สูญเสียโดยเฉพาะน้องเฟย่าที่เพิ่งอายุได้เพียง 4 ขวบ ต้องมา จบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุแบบนี้ และพร้อมจะเยียวยาทุกอย่างตามกฎหมายระบุ

ต่อมา ร.ต.อ.อนันท์ ศรีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยพบรอยล้อรถกระบะในลักษณะข้ามเลนไปอีกฝั่ง จึงคาดว่ารถกระบะน่าจะข้ามเลนไปชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่สวนทางมา จนทั้ง 3 คนที่นั่งมาในรถ จยย.กระเด็นตกจากรถ ก่อนที่จะลากซาก จยย.ติดไปกับใต้รถกระบะด้วย จากร่องรอยคาดว่าน่าจะลากไกลกว่า 60 เมตร จนทำให้เกิดไฟลุกท่วม ขณะที่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งก็สอดคล้องกับผลตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ก็ไม่พบแต่อย่างใด

ทั้งนี้จากการไปสอบสวนด.ต.ขวัญชัย ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุกลับจากทำไร่ กำลังจะขับกระบะกลับบ้าน แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุ เหมือนว่าเห็น จยย.จะแซงกระบะอีกคันแต่แซงไม่พ้น แล้วตนก็เสียหลักไปชน จยย.จนเกิดไฟลุกไหม้รถ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่า จยย.ติดอยู่ใต้รถด้านหน้า และไม่รู้ว่าเด็กกระเด็นมาเสียชีวิตอยู่ท้ายกระบะ เพราะตอนนั้นค่อนข้างมืด เนื่องจากจุดเกิดเหตุไม่มีไฟส่องสว่าง กระทั่งมีคนพาไปส่ง ร.พ. เบื้องต้นให้ลูกไปแสดงความเสียใจกับครอบครัวช่วยงานศพแล้ว ส่วนจะดูแลเยียวยาอะไรก็ต้องพูดคุยกันอีกที

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปวัดบ้านชุมแสง ตำบลทุ่งแสงทอง อำเภอนางรอง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพแม่และลูกสาว 4 ขวบ ส่วนสามีญาติรับกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่ อ.บ้านกรวด ซึ่งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ เพราะต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวไปถึง 3 คนพร้อมกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน