เมื่อเวลา 08.21 น. วันที่ 26 ก.ย. ร.ต.อ.ไกรสร บุญประสพ รองสว. (สอบสวน) สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งนางจงจิต จิตมุ่ง อายุ 62 ปี ว่าพบศพพ่อ-แม่สามี เป็นชาวเบลเยียมเสียชีวิตภายในห้องนอน ในบ้านเลขที่ 54/7 ซอย 1/1 หมู่บ้านพร้อมภัณธ์ หมู่ 1 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วย หลังรับแจ้ง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศิษฐ์ ชื่นเพ็ชร ผกก.สภ.ถลาง พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ถลาง พ.ต.ท.กฤษณะ จันทร์นิตย์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.ถลาง พร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านแฝดหรู มีสระน้ำภายในบ้าน ตรวจสอบภายในห้องนอน โดนล็อกจากภายใน ส่วนด้านหลังห้องนอน เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเป็นกระจกบานเลื่อน ไม่ได้ล็อกไว้ เปิดเข้าไปพบนางมาเรีย อัลฟอนไซน์ คอร์แมนส์ (Mrs.Maria Alphonsine Coremans) อายุ 84 ปี สัญชาติเบลเยียม สวมชุดกระโปรงสีส้มลายดอกไม้สีขาว ใส่กางเกงชั้นในสีเนื้อ ชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างเตียงนอน ร่างคลุมด้วยผ้าห่ม ส่วนภายในห้องน้ำ พบศพนายฟลอรองต์ ลีออน เอมเมอร์ชท์ส (Mr.Florent Leon Emmerchts) อายุ 83 ปี สัญชาติเบลเยียม สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ บริเวณลำคอ ผูกด้วยเชือกสีขาวโยงมาจากลูกบิด ด้านหน้าศพของผู้ตายพบเก้าอี้ไม้วางอยู่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงเช่นกัน
ดับปริศนา – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุนางมาเรีย อัลฟอนไซน์ คอร์แมนส์ อายุ 84 ปี และนายฟลอรองต์ ลีออน เอมเมอร์ชท์ส อายุ 83 ปี สามีภรรยาชาวเบลเยียมเสียชีวิตปริศนาในบ้านพักหมู่บ้านดัง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 26 ก.ย.
จากการสอบสวน นางจงจิตรซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของผู้ตาย ให้การว่า บ้านหลังดังกล่าว ซื้อราคา 6.5 ล้านบาท เพิ่งจะเข้ามาอยู่ได้ 5 เดือน ซึ่งได้พักกันอยู่เพียง 4 คน มีสามีของตน และพ่อแม่ ของสามีซึ่งเป็นชาวเบลเยียม ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามีชื่อ นายแพทริค โจเอนเนส ดี เอมเมอร์ชท์ส (Mr.Patrick Joennes D Emmerechts) อายุ 64 ปี ไปร่วมศพพ่อของตนที่จ.พังงา และกลับมาเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา เมื่อถึงก็คิดว่าพ่อและแม่ของสามีคงหลับแล้ว และในช่วงเช้าได้ออกไป จับจ่าย ซื้อของและอาหารเช้า เพื่อมาร่วมกันรับประทาน โดยจัดอาหารไว้บริเวณโต๊ะหลังบ้าน แต่ก็เอะใจ สายแล้ว ทำไมพ่อแม่ของสามียังไม่ตื่น จึงได้เคาะประตูเรียก แต่ก็ไม่ได้มีเสียงตอบรับ จึงได้เปิดประตูบานเลื่อนหลังบ้านและเข้าไปดู จึงพบว่าพ่อแม่ของสามีเสียชีวิตอยู่ในสภาพดังกล่าว และพบจดหมายที่พ่อสามีเขียนไว้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ โดยข้อความในจดหมายสั่งเสียข้อความเป็นภาษาเบลเยียม
หลังทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตรวจดีเอ็นเอของผู้ตายทั้ง 2 ราย และได้นำศพไปชันสูตรที่นิติเวชร.พ.วชิระภูเก็ต เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง เบื้องต้น ตั้งประเด็นไว้ 3 อย่าง คือสามีของผู้ตายลงมือฆ่าภรรยา โดยการใช้ผ้าปิดปากจมูกจนขาดอากาศ หายใจ หลังจากฆ่าภรรยาแล้ว จึงผูกคอตายในห้องน้ำ ประเด็นที่ 2 สามีของผู้ตาย มาพบว่าภรรยา ของตนเสียชีวิต ด้วยความรักมาก ทำใจไม่ได้จึงได้ผูกคอตายเอง ส่วนประเด็นที่ 3 อาจจะมีคนร้าย เข้ามาฆ่า ภรรยาของผู้ตาย จากนั้นจึงนำศพไปแขวนคอไว้ในห้องน้ำอำพรางคดี
