เมื่อวันที่ 26 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ฉบับที่ 8 ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศลาว ขณะที่ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักมาก และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 26-29 ก.ย. ดังนี้
ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี, ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่างๆ ที่จ.สตูล นายนิมิต บุญจันทร์ ผอ.โครงการชลประทานสตูล เปิดเผยว่า จากฝนตกสะสมตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ระดับน้ำในคลองสายหลักมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยที่คลองท่าแพ อ.ท่าแพ บริเวณ หมู่ 8 ต.ท่าแพ น้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งท่วมสวนยาง และสวนปาล์มแล้ว ขณะที่น้ำในลำคลองฉลุง เจ้าหน้าที่ได้ขึ้นธงแดงแจ้งเตือนภัยแล้ว ให้ประชาชนเตรียมขนย้ายสิ่งของและเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน
ที่จ.ขอนแก่น หลายหน่วยงานเร่งแจกจ่ายกระสอบทรายให้กับชุมชนเพื่อป้องกันน้ำท่วม ติดเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยง และการเร่งจัดระบบการระบายน้ำในเขตเมืองให้ลงสู่แม่น้ำพองและแม่น้ำชีโดยเร็ว
ด้านนายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผวจ.ร้อยเอ็ด ได้แจ้งถึงผู้อำนวยการ 8 อำเภอริมลำน้ำชี ได้แก่ อ.เสลภูมิ อ.พนมไพร อ.ธวัชบุรี อ.อาจสามารถ อ.โพธิ์ชัย อ.จังหาร อ.เชียงขวัญ และ อ.ทุ่งเขาหลวง ให้เฝ้าระวังน้ำชีล้นตลิ่ง หลังจากเขื่อนลำปาว ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำเป็นวันละ 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.
