บุกพังบ้านเพื่อน ‘ค้อน’ไล่ฟาดตร.

หนุ่มเบญจเพสทาสยาเสพติดคลั่งบุกไปอาละวาดที่บ้านเพื่อนรัก ทำอีกฝ่ายผวาไม่กล้าเปิดประตู รับโทร.แจ้งตำรวจบ้านดุง-อุดรธานีไประงับเหตุ แต่ไอ้คลั่งกลับควงค้อนเข้าใส่ตำรวจ สายตรวจยิงขึ้นฟ้าขู่ติดต่อกันถึง 7 นัด ยังไม่เลิกบ้า ฟาดค้อนทุบหัวนายดาบตำรวจ เลยโดนยิงส่วนไป 2 นัด เจาะอกสิ้นใจคาที่ ตำรวจโทร.แจ้งข่าวร้ายกับแม่ไอ้คลั่ง แต่ไร้คนรับสายเลยรุดไปตรวจสอบ พบเหตุสลดซ้ำเพราะกลายเป็นศพถูกไอ้คลั่งลูกในไส้ใช้ไม้หน้าสามทุบดับสยอง

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. พ.ต.อ.วิทยากรณ์ ษมากรวิทิต ผกก.สภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุตำรวจสายตรวจวิสามัญฆาตกรรม (จับตาย) หนุ่มคลั่งอาละวาดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 19 ม.12 บ้านหนองหว้า ต.บ้านม่วง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.ท.จำลอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. และแพทย์ร.พ.บ้านดุง

ที่เกิดเหตุพบศพนายสมจิตร หรือนิทาน วันทา อายุ 25 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 55 ม.12 บ้านหนองหว้า นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้าใต้ราวนมขวา ทะลุหลัง รวม 2 นัด ใกล้กันพบ ด.ต.สุริยัน พระภิเดช เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ดงเย็น ผู้วิสามัญฯ ผู้ตาย ยืนรออยู่ในจุดเกิดเหตุ

ด.ต.สุริยันให้การว่า เมื่อเวลา 03.30 น. ก่อนเกิดเหตุ รับแจ้งจากนายชัยมงคล หรือ โบ้ ศิสะตา อายุ 26 ปี เจ้าของบ้าน ว่า นายสมจิตรที่เป็นเพื่อนกันมีอาการมึนเมาคลุ้มคลั่งมาอาละวาดที่หน้าบ้านพักจึงรุดไปตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบผู้ตายกำลังอาละวาดทุบประตูบ้านอย่างคลุ้มคลั่งจึงตะโกนห้ามให้หยุด แต่เมื่อนายสมจิตรเห็นตำรวจแทนที่จะหยุดพฤติกรรม กลับถือค้อนวิ่งเข้าใส่ลักษณะมุ่งทำร้าย จึงยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ไปถึง 7 นัด แต่ไม่ทำให้นายสมจิตรหยุดอาการคลั่งได้ ยังเข้าประชิดตัวฟาดค้อนใส่หวังทุบศีรษะ จึงเบี่ยงหลบทำให้ค้อนเฉียดศีรษะไปเพียงนิดเดียว จึงตัดสินใจยิงสวนกลับไป 2 นัด กระสุนเข้าเป้า ทำให้ผู้ตายล้มลงสิ้นใจตายคาที่

ด้านนายชัยมงคล เจ้าของบ้านให้การว่า เป็นเพื่อนกับนายสมจิตรผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุนายสมจิตรมาเคาะประตูบ้านเสียงดังในลักษณะคลุ้มคลั่งทำให้เกิดความกลัวไม่กล้าเปิดประตูให้ พยายามบอกให้กลับบ้านไป แต่อีกฝ่ายไม่ยอมพยายามพังประตูเข้าไป จึงโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาระงับเหตุ กระทั่งเกิดเหตุวิสามัญฯ ดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่โทรศัพท์หานางแดง มังสาอุดม อายุ 64 ปี มารดาของนายสมจิตร เพื่อแจ้งเหตุร้ายแต่ไม่มีใครรับสาย จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านพัก ทำให้พบศพนางแดงนอนอยู่กลางบ้าน สภาพถูกปิดทับด้วยไม้กระดานขนาดใหญ่ มีบาดแผลถูกทุบตีจนขาดใจตายคาที่ ใกล้กันพบไม้หน้าสามที่คาดว่าเป็นอาวุธสังหารตกอยู่ ขณะที่เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวไปมุงดูเหตุการณ์ พร้อมให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่า นายสมจิตรมีอาการติดยาเสพติดอย่างหนัก ระยะหลังเกิดอาการหลอนจำผู้คนไม่ได้เป็นประจำ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ส่งศพ 2 แม่ลูกให้แพทย์นิติเวชผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่า นายสมจิตรเกิดอาการคลุ้มคลั่งจากยาเสพติดก่อเหตุมาตุฆาตก่อน จากนั้นหลบหนีไปหานายชัยมงคลเพื่อนสนิท แต่ด้วยลักษณะที่ยังคลุ้มคลั่งอยู่ทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าเปิดประตูรับ และโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ กระทั่งเกิดเหตุจับตายดังกล่าว เนื่องจากตำรวจต้องป้องกันตัวเอง เพราะผู้ก่อเหตุมุ่งทำร้ายร่างกาย แต่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุวิสามัญฆาตกรรมตามขั้นตอนของกฎหมาย








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน