เมื่อวันที่ 16 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทย ขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-70 โดยเฉพาะภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักมีดังนี้ ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา และอุบลราชธานี, ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร, ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และภาคใต้ ฝั่งตะวันตก จ.ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ขณะที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ท่วม – ภาพมุมสูงน้ำจากแม่น้ำมูนเอ่อท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำมูน ในเขตอ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากเกิดฝนตกหนักหลายวัน นอกจากนี้ยังเข้าท่วมต้นไทรงามยักษ์อายุกว่า 200 ปีอีกด้วย เมื่อวันที่ 16 ต.ค.

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงวันที่ 26 ก.ย. – 16 ต.ค.ว่า มีน้ำท่วมในพื้นที่ 37 จังหวัด 151 อำเภอ 579 ตำบล 2,936 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 61,692 ครัวเรือน ปัจจุบันในพื้นที่ 6 จังหวัด ยังมีน้ำท่วมขัง ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และนครศรีธรรมราช รวม 21 อำเภอ 88 ตำบล 497 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,054 ครัวเรือน

ที่จ.พะเยา หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากพัดเอาบ้านเรือนและคนเสียชีวิต ที่บ้านห้วยกั้งปลา หมู่ 13 ต.สระ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ทำให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้กับลำห้วยกั้งปลา 2 หลัง ถูกกระแสน้ำพัดหายไป พร้อมชาวบ้าน 5 คนถูกน้ำซัดจมเสียชีวิต วันเดียวกัน นายเทวา ปัญญาบุญ รองผวจ. รักษาการผวจ.พะเยา นำคณะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยและช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือน

ส่วนที่อ.แม่จัน จ.เชียงราย หลังฝนตกลงมาข้ามคืน ส่งผลทำให้น้ำแม่น้ำจันมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีแม่น้ำสาขาไหลมาสมทบโดยกระแสน้ำมีปริมาณมากและไหลเชี่ยว เกิดดินสไลด์และต้นไม้ตามสันเขาถล่มลงมาปิดทับเส้นทางถนนสาย อ.แม่จัน กับ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ที่บ้านเล่าฟู หมู่ 20 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน และน้ำยังเข้าท่วมพื้นที่บ้านถ้ำ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ด้วย

ด้านจ.อุบลราชธานี เฝ้าระวังระดับน้ำเหนือจากเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำปาว ที่ไหลมาสมทบ ชาวบ้านท่าบ้งมั่ง เทศบาลเมืองวารินชำราบ ร้องเรียนปัญหาน้ำท่วมขังนานร่วมเดือนที่เริ่มเน่าเสีย ขอยาแก้น้ำกัดเท้าและยาแก้ปวดไข้หวัด

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่สถานีวัดน้ำ M7 จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำสูง 7.84 เมตร มีน้ำล้นตลิ่งอยู่ 84 ซ.ม. ซึ่งต้องเฝ้าระวังน้ำจากด้านเหนือที่กำลังไหลมาสมทบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน